ตอนที่แล้วตอนที่ 7-19 กับความอดกลั้นที่ลดลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7-21 ชะตากรรม

ตอนที่ 7-20 เรื่องราวทั้งหมด


ภายในร้านอาหาร

เมื่อเห็นโยคีกลุ่มใหญ่ออกไปจากคฤหาสน์ของเคลย์  ลินลี่ย์ดีใจแทบคลั่งแค่ชำเลืองมองลินลี่ย์สามารถบอกได้เลยว่าโยคีในกลุ่มนี้มีจำนวนเกินกว่าห้าสิบคน สำหรับคนกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นเมื่อจากไปก็มีแนวโน้นว่าพวกเขาอาจจากไปกันทั้งหมด

“เป็นเวลาหกหรือเจ็ดวันได้แล้ว  ตอนนี้มีแนวโน้มแน่นอนว่าชาร์คคงบอกเคลย์เรื่องการพบกันของเราและเป็นไปไปได้ว่าเคลย์คงเดาได้ว่าเราอยู่ใกล้ๆ นี้”

ลินลี่ย์โยนเหรียญทองสองสามเหรียญทิ้งไว้  ทันใดนั้นลมกระโชกรุนแรงเริ่มห้อมล้อมตัวเขาและเคลื่อนที่เหมือนลมพัด  ลินลี่ย์บินออกไปจากร้านอาหารอย่างคล่องแคล่ว

แม้จะแบกดาบหนักไว้บนหลังแต่ด้วยความช่วยเหลือของเวทสายลม เขายังก็เคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย แต่นี่เป็นเพราะลินลี่ย์กลายเป็นจอมเวทระดับเจ็ด ถ้าเป็นจอมเวทระดับสามร่ายเวทนี้ย่อมไม่ได้ผลรับที่ดีเท่าที่ควร  “บีบี, จับตาดูประตูหลังไว้”  ลินลี่ย์สั่งบีบีทางจิต

“รับทราบแล้ว, เจ้านาย”

ขณะที่ลินลี่ย์พุ่งมาถึงด้านนอกกำแพงคฤหาสน์ของเคลย์  เขาเริ่มร่ายเวทวายุตรวจสอบ

“วูบบบ”

โดยที่ตัวของลินลี่ย์เป็นศูนย์กลาง  พลังสายลมกระจายออกไปทุกตำแหน่ง ลินลี่ย์หลับตาก็สามารถรู้สึกได้ถึงทุกสิ่งที่วายุตรวจสอบทำการตรวจเจอ

“หืม? รวมตัวกันอยู่ใกล้ประตูหลังหรือ?”

เวทสายลมตรวจสอบทำได้เพียงตรวจสอบเฉพาะร่างกายกับวัตถุ  ไม่สามารถตรวจหน้าได้ชัดเจน  อย่างไรก็ตาม แม้เพียงด้วยการใช้ลมตรวจสอบลินลี่ย์ก็สามารถพบได้ว่าคนภายในคฤหาสน์นั้นรีบเร่งไปรวมตัวกันที่หลังคฤหาสน์กันหมด  ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาทุกคนเตรียมตัวหนี

“ฮึ่ม...เป็นไปตามที่คาดไว้”  ลินลี่ย์เคลื่อนไหวอย่างเงียบกริบ  ลอยตัวเข้าไปในคฤหาสน์ของเคลย์ มุ่งไปที่ลานด้านหน้าด้วยความเคลื่อนไหวแผ่วเบาดุจสายลม  เขาผ่านเข้าไปอย่างเงียบและรวดเร็วตั้งแต่หน้าคฤหาสน์จนถึงท้ายคฤหาสน์

“เร็วๆ เข้า!”  เคลย์ตะโกนอย่างโกรธเคือง

“รีบออกไปทางประตูหลัง เราจะออกไปกันทันที  เราจะออกไปจากเมืองเฮส”  เคลย์พูดตรงๆ

พระสนมสับสน “ฝ่าบาทเราทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไม...”

“เผียะ!”

เคลย์ตบนางทันที

“พูดเหลวไหลพอแล้ว”  เคลย์แค่นเสียง

“เร็วเข้า ลืมเรื่องม้าไปซะ  พวกเจ้าทั้งสองเจ้ารับผิดชอบคุ้มครององค์หญิงกับพระสนม” เคลย์ออกคำสั่งอัศวินของเขา จากนั้นให้คนที่สามเปิดประตูหลัง

ลินลี่ย์ซ่อนตัวอยู่หลังเนินเขาจำลองมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดขณะที่หัวเราะอย่างเยือกเย็น

“เป็นอย่างที่คิดไม่มีโยคีเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว”  ด้วยการกระโจนเพียงครั้งเดียวลินลี่ย์ก็ถอยหลังเคลื่อนที่ไปอยู่ในจุดที่เคลย์กับไกเซอร์ไม่สามารถมองเห็นเขาได้  จากนั้นเขาแนบตัวกับกำแพงลินลี่ย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปที่ประตูหลัง แต่ขณะที่ลินลี่ย์เลี้ยวที่หัวมุม เขาก็ต้องชะงักทันที

บีบีอยู่ติดกับประตูหลัง

“แอ๊ดดดด” ประตูหลังเริ่มเปิดออก

บีบีวิ่งด้วยความเร็วสูงไปที่พงหญ้าใกล้ๆเนื่องจากบีบียังมีขนาดเท่ากำปั้นจึงใช้พงหญ้าบดบังซ่อนร่างของมันได้

“บีบี, เมื่อเคลย์ออกมาช่วยบอกข้าทันทีด้วย” ลินลี่ย์ซ่อนตัวอยู่หลังมุมและตลอดทั้งร่างของเขาเริ่มปกคลุมด้วยเกล็ดดำ“แครก” หน้าผาก, หลัง, ศอกและเข่าเริ่มมีหนามแหลมงอกออกมา

และหางเหล็กมังกรก็ยืดยาวออกมาด้วยเช่นกัน

ตาดำของลินลี่ย์กลายเป็นสีทองเข้มสีเดียวกับตาของมังกรเกราะหนาม

ร่างมังกรเต็มพิกัด  “เวทสายลม – ความเร็วเสียง”ขณะเดียวกันลินลี่ย์เสริมพลังตนเองด้วยเวทสายลม หลังจากแปลงเป็นร่างมังกรเต็มที่ลินลี่ย์รู้สึกว่าร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังไม่มีขีดจำกัด

ตอนนี้ดาบหนักอาดาเมนเทียมไม่ส่งผลต่อลินลี่ย์แม้แต่น้อย

สำหรับนักรบที่เก่งกาจสามารถยกของหนักเป็นแสนปอนด์ได้ง่ายๆน้ำหนัก 3600 ปอนด์จะนับว่ากระไรได้? เมื่อพูดโดยเปรียบเทียบก็เหมือนกับขอให้คนธรรมดาที่สามารถยกน้ำหนัก 100ปอนด์ได้ ช่วยถือของที่หนักแค่ปอนด์เดียวให้เขา จะส่งผลอะไรกับเขาได้?

เคลย์ยังคงเร่งรัดคนของเขาและอัศวินพายุสายฟ้าคนหนึ่งเริ่มออกมาจากประตูหลัง

เคลย์เดินผ่านประตูโดยมีชาร์คเดินคู่และจากนั้นก็เป็นองค์หญิงและพระสนมภายใต้การคุ้มกันของอัศวินพายุสายฟ้านำหน้าออกมาเช่นกัน  ขณะที่ไกเซอร์คอยรั้งท้าย  ทำหน้าที่ระวังภัยและคุ้มกันด้วย

“เจ้านาย, เคลย์ออกมาแล้ว”

แค่เพียงเคลย์ก้าวเท้าออกมาจากคฤหาสน์  เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์ ดวงตาของลินลี่ย์ซึ่งหลบมุมซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลาพลันเปล่งประกาย

“ควั่บ!”

เขากระโจนไปข้างหน้าสุดกำลังผสานกับพลังลมรอบๆตัวพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง

“ควั่บ”

ในพริบตาร่างเงาเลือนรางขนาดเท่ามนุษย์ตัดผ่านระยะไกลเจ็ดสิบเมตรพุ่งตรงมายังประตูหลังของคฤหาสน์เคลย์  ความรู้สึกว่าบางอย่างไล่ตามทำให้เคลย์หันไปมองเขาเห็นว่าร่างเลือนรางขนาดมนุษย์นี้มาถึงข้างตัวเขาเรียบร้อยแล้ว  ร่างที่คุ้นเคยนั่นทำให้เคลย์เสียขวัญ  ก่อนที่เขาจะมีโอกาสร้องหรือตั้งหลักพลังที่แข็งแกร่งตรึงเขาไว้ทันที

“อย่าขยับ มิฉะนั้น เจ้าตาย”  เสียงของลินลี่ย์ดังเข้าหูของเคลย์โดยตรง

“กรี๊ดดดดด!”พระสนมก้าวเท้าออกมาจากประตู เมื่อเห็นลินลี่ย์ นางกลัวจัดจนกรีดร้องทันที แต่ทันใดนั้นเสียงฉับดังขึ้น  ศีรษะของพระสนมขาดกระเด็น

ลินลี่ย์รั้งกรงเล็บกลับ

ศีรษะพระสนมที่ถูกตัดมีเลือดฉีดกระจายไปทุกที่  ขณะที่ร่างของนางล้มลงกับพื้น

“ปะ...ปีศาจ!”  องค์หญิงกลัวและเดินถอยหลัง

“ปล่อยฝ่าบาท!”  อัศวินพายุสายฟ้าผู้อยู่กับชาร์คพุ่งเข้ามาทันที  แต่ขณะที่เขาทำเช่นนั้นเงาร่างดำเลือนรางพุ่งตรงมาที่พวกเขา หนูเงาน้อยบีบีแปลงร่างจนมีขนาดครึ่งเมตรแล้วกระโดดลงมาที่พื้น  ขณะที่มันลงมาบนพื้น  นักรบที่กำลังจะบุกจู่โจมล้มลงทันที  ที่คอของพวกเขาถูกฟันไปครึ่งหนึ่ง

“พวกเจ้าไม่มีใครต้านทานได้  การต่อต้านเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์”  เสียงเยือกเย็นของลินลี่ย์ดังขึ้น

ขณะเดียวกันไกเซอร์ก็พุ่งตรงเข้ามาเช่นกัน

“ใต้เท้าไกเซอร์  นั่น..สัตว์ประหลาดอะไร?”  องค์หญิงถูกขู่ขวัญหวาดกลัว  แต่ชาร์คได้รับคำอธิบายจากเคลย์ทุกอย่างแล้วรู้ว่าอสุรกายตนนี้ก็คือลินลี่ย์

ใบหน้าที่ไม่ปกตินั้นมีเกล็ดดำครอบคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าและมีหนามแหลมงอกจากหน้าผาก เข่า ศอกและหลัง เกล็ดของมันปกคลุมเท้าและกรงเล็บของมันคมกริบ

ที่ยิ่งกว่านั้นมันมีหางมังกรแส้เหล็ก

ตอนนี้หางมังกรรัดรอบตัวเคลย์ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้แค่หางมังกรของลินลี่ย์เคลื่อนไหวเล็กน้อย ตัวของเคลย์ก็ซวนเซตามไปด้วย

ภาพต่อหน้าครั้งนี้ทำให้ทุกคนตะลึง

“ไกเซอร์ ครั้งนี้ ท่านไม่มีโอกาสแล้ว” เสียงเยือกเย็นของลินลี่ย์ดังขึ้น

แววเจ็บปวดปรากฏบนสีหน้าไกเซอร์  เขารู้ว่าถ้าเขาสู้กันตัวต่อตัวกับลินลี่ย์ชัยชนะยังเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน  ยิ่งกว่านั้นลินลี่ย์ยังมีคู่หูเป็นอสูรเวทที่บ้าคลั่งซึ่งมีพลังระดับเดียวกับเขา

ไกเซอร์ไม่มั่นใจในความสามารถของเขาว่าจะจัดการลินลี่ย์หรืออสูรเวทบีบีได้หรือไม่

และตอนนี้เคลย์ถูกลินลี่ย์จับตัว   ไกเซอร์ไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย

“ลิน...ลินลี่ย์!  ปล่อยพระบิดาข้า!”  ชาร์คตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว

ลินลี่ย์ชำเลืองมองชาร์คด้วยดวงตาสีทองเย็นชา ชาร์คตัวสั่นไม่กล้าพูดอีกต่อไป ตอนนี้ลักษณะของลินลี่ย์ทำให้ทุกคนอับจนปัญญา  พวกอัศวินพายุสายฟ้าที่ติดตามเคลย์และได้รบและถูกลินลี่ย์กับบีบีฆ่าตายที่ผ่านมา พวกเขารู้ว่าลินลี่ย์และอสูรเวทคู่หูของเขาแข็งแกร่งน่ากลัวเพียงไหน

“ลินลี่ย์”ขณะที่เคลย์กำลังจะร้องขอความเมตตา...

“กร๊อบ” “แครก!”

ลินลี่ย์ฉีกนิ้วนางและนิ้วชี้จากนั้นโยนไปที่กลุ่มของเจ้าหญิงและไกเซอร์

“อ๊า....” เคลย์ไม่อาจอดกลั้นได้  เขาส่งเสียงร้องโหยหวนจากการถูกตัดนิ้ว

“เคลย์, ข้าจะบอกเจ้าในตอนนี้เลยก็ได้  เจ้าจะต้องตายแน่นอน”  ลินลี่ย์พูดตามปกติ

เคลย์มีสีหน้าดุร้ายเหมือนเสือขณะจ้องมองลินลี่ย์

แต่สิ่งที่ปรากฏในสายตาเขาก็คือดวงตาสีทองที่ไร้ความรู้สึกของลินลี่ย์

“ตอนนี้เจ้ามีเพียงสองทางเลือก  ประการแรกถูกทรมานจนตาย  ประการที่สอง เล่าเรื่องท่านแม่ให้ข้าฟัง  ใครฆ่านาง และจากนั้นข้าจะยอมให้เจ้าตายสบาย”  ลินลี่ย์พูดอย่างสงบ

ลินลี่ย์รู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดสำหรับใช้จัดการคนอย่างเคลย์ก็คือวางเงื่อนไขที่ชัดเจนกับเขา

มิฉะนั้นเคลย์จะคิดว่ายังมีความหวังจะรอดอยู่ได้ เขาคงจะกัดฟันและปฏิเสธที่จะตอบเพื่อรักษาความหวังนั้นไว้

“ไม่! ถ้าเจ้าไม่ไว้ชีวิตข้า  อ๊า!!!”  ลินลี่ย์ฉีกนิ้วของเคลย์อีกนิ้วหนึ่ง  “เจ้าจะตายแน่ คำถามเพียงอย่างเดียวคือจะบอกความจริงเร็วๆและทำให้ตัวเจ้าไม่ต้องเจ็บปวดทรมานหรือไม่?”

“ฝ่าบาท!”

ไกเซอร์เตรียมวิ่งเข้ามาทันที

“ไกเซอร์!  ท่านต้องการให้ทุกคนตายใช่ไหม?” นัยน์ตาสีทองเข้มของลินลี่ย์จ้องมองไกเซอร์  ไกเซอร์ชะงักทันที เขาเข้าใจว่าลินลี่ย์และบีบีมีพลังมากพอฆ่าทุกคนได้แน่นอน

แม้ว่าเขา,ไกเซอร์จะมีเพียงความสามารถหนีได้ แต่เมื่อเผชิญพลังโจมตีร่วมกันของทั้งลินลี่ย์และบีบี  เขาไม่มีโอกาสชนะแม้แต่น้อย  “อา...” ไกเซอร์ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ

ลินลี่ย์หันกลับไปมองเคลย์

หน้าของเคลย์ซีดขาว  เหงื่อเม็ดโตเท่าเม็ดถั่วผุดขึ้นที่หน้าผาก  ตอนนี้ลินลี่ย์เชี่ยวชาญในการใช้พลังที่หางสูงมาก

“คิดต่อไปเถอะ ยิ่งเจ้าคิดนานขึ้นเท่าใด  ความเจ็บปวดก็จะเพิ่มขึ้น” ลินลี่ย์ยื่นมือที่เต็มไปด้วยเกล็ดคว้าที่หูของเคลย์

เมื่อเดาได้ว่าลินลี่ย์เตรียมจะทำอะไรเคลย์ร้องเสียงหลง  “ไม่!”

“ควาก”

หูซ้ายของเคลย์ถูกลินลี่ย์ฉีกขาดเขาร้องโหยหวนพลางสบถด่า “ลินลี่ย์ เจ้าบัดซบ เจ้ามันเป็นปีศาจร้าย!”

“ถ่วงเวลาต่อไปได้เลย!”  ลินลี่ย์ค่อยๆ ยื่นกรงเล็บไปที่หน้าของเคลย์

“คราวนี้จะเป็นดวงตาเจ้าบ้าง  บอกข้ามา จะให้ข้าควักตาซ้ายหรือตาขวาดี?” หน้าของลินลี่ย์เฉยชา  เมื่อเคลย์มองดูลินลี่ย์ ด้วยความหวังจะค้นหาอะไรบางอย่างจากดวงตาหรือสีหน้าของลินลี่ย์  แต่ทั้งหมดที่เขาเห็นก็คือใบหน้าที่มีเกล็ดปกคลุมไม่หวั่นไหวและเยือกเย็น และดวงตาทองเข้มไร้ปราณี

“ถ้าเจ้าไม่ตัดสินใจ  ข้าจะตัดสินใจให้เจ้าเอง,จากหูซ้ายของเจ้าไปแล้ว ตอนนี้ข้าจะควักตาขวาของเจ้า” ลินลี่ย์ยื่นกรงเล็บเข้ามาใกล้

“ไม่!, ข้าจะบอก,  ข้าจะบอก” เคลย์ร้องโหยหวนสุดเสียง

ลินลี่ย์รั้งกรงเล็บกลับ  “งั้นพูดไป”

“ข้าจะพูด ข้าจะพูด”  เคลย์น้ำตาคลอเบ้าพลังใจของเขาพังทลาย ลินลี่ย์ไม่มีเจตนาจะไว้ชีวิตเขา ไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็ตามเขาจะต้องตาย  ถ้าเขาพูดอย่างน้อยเขาก็ตายสบาย  ถ้าไม่ทำอย่างนั้นเขาจะตายอย่างทุกข์ทรมาน

ไม่มีอัศวินพายุสายฟ้าที่ยืนอยู่ห่างไกลกล้าพูดสักคำ  ลินลี่ย์และบีบี หนึ่งคนหนึ่งอสูรน่ากลัวเกินไป

เคลย์กำลังคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวในใจ  “ศาสนจักรเจิดจรัสครั้งนี้พวกเจ้าไม่ได้ช่วยอะไรข้า กลับทิ้งข้าไว้เบื้องหลัง อย่าตำหนิข้าก็แล้วกันที่สร้างศัตรูซึ่งจะกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวตามจัดการพวกเจ้าในอนาคต!”

“ลินลี่ย์, ข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้,ในแต่ละปีศาสนจักรเจิดจรัสจะต้องบูชายัญเป็นวิญญาณที่บริสุทธิ์มากแก่มหาเทพเจิดจรัส  มหาเทพเจิดจรัสต้องการเพียงสองสิ่งคือศรัทธาของเหล่าสาวกและวิญญาณที่บริสุทธิ์” เคลย์พูดตามตรง

ลินลี่ย์จ้องมองเคลย์ด้วยสายตาเฉยชา  “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรด้วยกับท่านแม่ข้า?”

เคลย์พูดต่อ “ยิ่งบูชายัญด้วยวิญญาณบริสุทธิ์มากแก่มหาเทพเจิดจรัส องค์มหาเทพก็จะประทานของขวัญที่ยิ่งใหญ่แก่ศาสนจักร..แพตเตอร์สันน้องข้าและข้าเพิ่งจะออกมาจากโบสถ์เจิดจรัส พอข้าเห็นมารดาเจ้าข้าตะลึงทันที นางดูบริสุทธิ์สดใส เพียงแค่ชำเลืองดูมารดาเจ้าเพียงวับเดียวข้าก็ตัดสินใจได้ทันที ข้ารู้สึกว่าวิญญาณมารดาเจ้าต้องบริสุทธิ์มาก” หลังจากได้ยินเรื่องนี้ลินลี่ย์สามารถคาดเดาเรื่องที่เหลือได้

“ข้าสามารถบอกได้ว่าบิดาของเจ้าเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา  ดังนั้นข้าจึงสั่งแพตเตอร์สันให้ไปชิงตัวมารดาเจ้า วันต่อมาข้าส่งตัวมารดาเจ้าให้กับศาสนจักรเจิดจรัส”

เคลย์สูดหายใจลึก  “แน่นอนวิญญาณของมารดาเจ้าบริสุทธิ์อย่างเหลือเชื่อ  เมื่อศาสนจักรเจิดจรัสฆ่ามารดาของเจ้าส่งวิญญาณนางเป็นเครื่องบูชายัญให้แก่มหาเทพเจิดจรัส  มหาเทพฯ ได้ประทานพรพร้อมกับของขวัญที่ยิ่งใหญ่กว่าที่พวกเขาเคยได้รับครั้งก่อนๆ”

“และนี่คือสาเหตุที่ทางโบสถ์เจิดจรัสตัดสินใจให้รางวัลข้าด้วยพรของเทพเจ้าอย่างที่พวกเขาไม่เคยให้ผู้ใดมาก่อน  พรที่ช่วยยกระดับข้าจากนักรบระดับเจ็ดขึ้นเป็นนักรบระดับเก้าโดยตรง แม้ว่าจะทำให้ความก้าวหน้าในอนาคตของข้ามิอาจเป็นไปได้อีก  แต่ข้าก็ยังพอใจ  นอกจากนี้วิหารเจิดจรัสยังได้มอบเกราะชะตาระดับเซียนให้กับข้า”

เคลย์มองดูลินลี่ย์  “วิญญาณของมารดาเจ้าโดดเด่นมากจริงๆ โบสถ์เจิดจรัสมอบของขวัญให้ข้ามากมายก็เพราะนาง  จากจุดนี้ เจ้าคงนึกภาพออกว่ามหาเทพเจิดจรัสได้ให้รางวัลพวกเขามากมายเพียงไหน เมื่อพวกเขาบูชายัญด้วยวิญญาณมารดาเจ้าให้กับพระองค์”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด