ตอนที่ 169 ชัยชนะ
ร่างของถังเทียนเหมือนกับเติมเต็มไปได้วพลังงานไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อดูผู้เฒ่าหวีที่กำลังเดินเนิบนาบ เขาไม่รู้สึกหวั่นวิตกแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขากลับกระตือรือร้น เขาต้องการเห็นฤทธิ์เดชของเลือดแคระและเลือดเทพที่เขาเพิ่งจะดูดซับไว้ได้
ถ้าเป็นไปตามทฤษฎีของปิง ถังเทียนในตอนนี้ ไม่ควรจะยั่วยุผู้อาวุโสหวี เพราะเขายังต้องจำแนกพลังที่เขาพบใหม่นี่เสียก่อน แต่ถังเทียนไม่สนใจแม้แต่น้อย พลังฤทธิ์เดชที่เขาเพิ่งดูดซับไปพร้อมจะปลดปล่อยศักยภาพของมันแล้ว พวกมันดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความรังเกียจและความเกลียดชังที่ถังเทียนมีต่อผู้เฒ่าหวี
ยิ่งกว่านั้น ตาเฒ่าบัดซบนี่ไม่สมควรให้อภัย
ถังเทียนไม่มีนิสัยที่ยอมให้คนอื่นบุกโจมตีก่อน ดังนั้นเขาจึงเริ่มโจมตี
ถังเทียนหายวับไปตรงจุดที่เขายืน
ไวมาก!
พวกนักสู้ถึงกับเบิกตากว้างเพื่อสังเกตให้ชัด พวกเขารู้สึกว่าสายตาพร่ามัวและจากนั้นภาพถังเทียนก็หายไป มีแต่เพียงเยี่ยนเซี่ย, อูหนานและคนเพียงหยิบมือที่สามารถมองตามถังเทียนได้ทัน เยี่ยนเซี่ยยังดี แต่อูหนานสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วของถังเทียนไวกว่าเขา!
ไวเหมือนสายฟ้า!
ความเร็วของถังเทียนตั้งแต่แรกก็ไม่ช้าอยู่แล้ว และเลือดแคระไม่เพียงแต่เพิ่มพลังให้กับเขาเท่านั้นแต่ยังช่วยเพิ่มความเร็วอีกด้วย ขณะที่เลือดเทพยังกระตุ้นความเร็วของถังเทียนให้เพิ่มมากขึ้นอีก ด้วยการผสานกันของสายเลือดทั้งสอง ความเร็วของถังเทียนในตอนนี้ยังเร็วกว่าหัวหรงในขณะที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดเสียอีก
ผู้เฒ่าหวีในตอนนี้ เข้าสู่สภาวะพร้อมต่อสู้แล้ว ตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียดจริงจัง ในมือของเขาถือพัดสีฟ้า
ควั่บ เมื่อพัดคลี่ออก มีคำเขียนไว้บนพัดว่า “ระลอกคลื่น”
พัดระลอกคลื่นเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ของหมู่ดาวสายน้ำ
ผู้เฒ่าหวีพลิกฝ่ามือโบกพัด วิ้ววว..ทันใดนั้นสระน้ำสีน้ำเงินปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียนเหมือนกับแนวเส้นขอบฟ้า พัดเป็นเหมือนคลื่น ไม่มีความยุ่งเหยิงแค่เหมือนระลอกคลื่นแผ่วพลิ้ว เพราะเป็นเพียงลมพัด ดูเหมือนไม่มีอันตรายแม้แต่น้อย
สัญชาตญาณของถังเทียนบอกให้รู้ว่ามีอันตราย
ดูเหมือนระลอกคลื่นที่สดใสแผ่วพริ้วจะมีอันตรายแฝง
ถังเทียนไม่สงสัยสัญชาตญาณของตัวเขาเอง แม้ว่าความเร็วและพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่ธรรมดาจนเหนือกว่าคนทั่วไปมากมาย แต่พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือสัญชาตญาณ
แทบไม่มีอะไรต้องคิด ถังเทียนชี้ไปที่ส้นเท้าและย่อตัวเล็กน้อยก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านข้างผู้เฒ่าหวี
เสียงอุทานดังขึ้นจากคนรอบด้าน ความเร็วของถังเทียนไวเหลือเกิน เมื่อพวกเขาเห็นถังเทียนปรากฏตัวในอากาศข้างๆ ผู้เฒ่าหวี พวกเขาตกใจกันหมด
ถังเทียนกระดิกนิ้วเล็กน้อย วังวนสีขาวก็ลอยออกมาจากฝ่ามือของเขา
วังวนกระเรียนขาว!
ผู้เฒ่าหวีดูเหมือนจะสงบและนิ่ง เขาพลิกข้อมือและสะบัดพัดที่กลายเป็นเหมือนแปรงใหญ่พิเศษที่จุ่มแช่น้ำทะเลแสงสีฟ้าและโบกแกว่งตามปกติ
ถังเทียนไม่เคยพลาดเป้าหมายของเขา วังวนกระเรียนขาวที่มักทำให้คู่ต่อสู้ตื่นเต้นหายไปเงียบๆต่อหน้าคลื่นแสงของน้ำทะเล
ถังเทียนตกใจทันที
เขาไม่เคยคิดว่าวังวนกระเรียนขาวจะสามารถฆ่าผู้เฒ่าหวีได้ แต่แม้ว่ามันจะทำให้ผู้เฒ่าหวีตื่นเต้นเขาไม่คาดเลยว่าคลื่นโบกของพัดตามปกติของผู้เฒ่าหวีจะสลายกระบวนท่าเขาได้
แม้จะแตกตื่น แต่ฝีเท้าของถังเทียนไม่ได้รับผลอะไรแม้แต่น้อย และเขามีความลื่นไหลเป็นพิเศษ
ความเร็วของเขารวดเร็วเป็นพิเศษ แม้ว่าวังวนกระเรียนขาวแทบจะไม่มีอาการสนองตอบแต่คลื่นพัดของผู้เฒ่าหวีก็ทำอะไรถังเทียนไม่ได้
ถังเทียนพยายามโจมตีจากตำแหน่งต่างๆ แต่ผู้เฒ่าหวีตื่นตัวมากกว่าธรรมดาทำให้ความพยายามของเขาไร้ผล ผู้เฒ่าหวีปรับเปลี่ยนจังหวะฝีก้าว เขารู้ว่าความเร็วของเขายังเป็นรองถังเทียนอยู่มาก ดังนั้นเขาตัดสินใจตั้งรับไม่ทำอะไร อย่างไรก็ตามพัดของเขาน่ากลัวและถังเทียนก็กังวลมาก
ฝีมือลึกล้ำของผู้เฒ่าหวีทำให้ถังเทียนทำอะไรไม่ถูก
ผ่านไปสองสามรอบทั้งสองฝ่ายอยู่ในสภาพยันกัน นักสู้ผู้สังเกตการณ์ก็เข้าใจปัญหาบางอย่าง
“สมกับเป็นผู้เฒ่าหวีจริงๆ อา...วิชาพัดสามทะเลขุนเขาใช้ออกได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีช่องโหว่”
“ใช่แล้ว!แต่ความเร็วของถังเทียนก็น่ากลัว! ถ้าคู่ต่อสู้เป็นคนอื่น ข้าพนันได้ว่าเขาคงพ่ายแพ้ไปนานแล้ว
… …
“หัวหน้า! ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบกันแน่?” สั่วกวงอดถามอย่างช่วยไม่ได้
เยี่ยนเซี่ยนิ่งงัน และลดเสียงลง “ยากที่จะบอกได้ดูจากพลังฝีมือทั้งสองฝ่ายมีทั้งได้เปรียบและเสียเปรียบ ความเร็วและพลังของถังเทียนทำให้เขาได้เปรียบ ขณะที่ผู้เฒ่าหวีมีวิทยายุทธที่เหนือกว่าอีกทั้งปราณแท้ก็แข็งแกร่ง และตอนนี้เขาลดตัวใช้ท่าตั้งรับ ถ้าถังเทียนต้องการชัยชนะ ก็จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากวิชาสามทะเลขุนเขาของผู้เฒ่าหวีสมบูรณ์แบบ ถ้าถังเทียนประมาทใจร้อน ก็จะเป็นอันตรายแน่”
อูหนานถามต่อด้วยความสงสัย “หัวหน้าคิดว่าผู้เฒ่าหวีดีพอไหม?”
“ไม่!” เยี่ยนเซี่ยนสั่นศีรษะอย่างคาดไม่ถึง “ข้ายังคาดหวังว่าถังเทียนมีดีพอ”
ทุกคนตะลึงกับเรื่องที่เยี่ยนเซี่ยเพิ่งพูดผู้เฒ่าหวีควรอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบชัดเจน แต่หัวหน้ากลับพูดว่าถังเทียนมีดีพอ
เยี่ยนเซี่ยมองดูในห้องโถงและรำพึงกับตนเอง “การต่อสู้ครั้งนี้ สำหรับผู้เฒ่าหวีแล้ว ไม่มีเงื่อนไขอื่นให้ได้รับชัยชนะ ดังนั้นเขาจึงเครียดมาก ขณะที่ถังเทียนจะได้รับชัยชนะตราบเท่าที่เขาลากเวลาได้ยาว และถังเทียนมีกำลังใจดีกว่า สำหรับคนในวัยอย่างเขา เขาไม่กลัวแล้วยังกล้าหาญ สิ่งที่สำคัญที่สุดถังเทียนยังไม่คุ้นเคยกับพลังที่เขาเพิ่งได้มาใหม่ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของผู้เฒ่าหวี แต่ผู้เฒ่าหวีระวังตัวเกินไป รอจนถังเทียนค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับพลังใหม่ของเขา ความสมดุลจะเปลี่ยนไป”
กงอี้ซิ่วจู่ๆ ก็เงียบลง “หัวหน้า! ท่านคิดว่าเราจะฉวยโอกาสจากสถานการณ์.....”
เขายกฝ่ามือแล้วทำท่าสับเบาๆ
เยี่ยนเซี่ยส่ายหน้า “อย่าลืมว่ายอดฝีมือจักรกลยังไม่ปรากฏตัว เราประมาทถังเทียนกับหลิงซิ่วไปแล้ว และจะเป็นยังไงถ้าเรายังประมาทเจ้าผู้นั้นอีกด้วย?”
ทุกคนถูกขู่ขวัญ
เยี่ยนเซี่ยลดเสียงของเขา “สำหรับตอนนี้ ความขัดแย้งของเรากับตระกูลกู้ ไม่สิที่ถูกควรเป็นความขัดแย้งของเรากับถังเทียนกับพวกทั้งสามไม่สามารถจะประนีประนอมกันได้แน่นอน ถ้าเรายอมลดความยืนกรานของเรา การขอโทษกู้เสวี่ยจะเป็นเรื่องง่าย ถ้ากู้เสวี่ยไม่ถือสาหาความเราก็จะไม่ขัดแย้งกับพวกเขามากขึ้น แต่ถ้าเราโจมตี อย่างนั้นเราคงหนีไม่รอด”
กงอี้ซิ่วได้แต่เงียบ
เมื่อเยี่ยนเซี่ยเห็นกงอี้ซิ่วไม่ยินยอมพร้อมใจ เขาตบไหล่กงอี้ซิ่วและเตือน“อย่าเพิ่งท้อแท้ รอจนกว่าท่านหัวหน้ากลุ่มจะมาถึง”
กงอี้ซิ่วได้รับการกระตุ้นเตือน เขาเป็นนักวางแผนอยู่แล้วก็ล้างความคิดของเขาทันที ถูกแล้ว เมื่อหัวหน้ากลุ่มมาถึงความสามารถของเขาจะต้องพุ่งทะยาน แผนของผู้เฒ่าหวี หลังจากเหตุวุ่นวายนี้ แผนการของผู้เฒ่าหวีคงสลายหายไป ตระกูลกู้จะขัดแย้งลึกซึ้งกับตระกูลอื่น ดังนั้นจะไม่มีใครยืนหยัดช่วยตระกูลกู้ เมื่อถึงตอนนั้น ทั้งสามคนนี้และกู้เสวี่ยจะกลายเป็นปลาที่อยู่บนเขียง
แต่ในช่วงนี้เอง การต่อสู้ระหว่างหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงก็มาถึงจุดตัดสิน
“หอกพิทักษ์คุณธรรม!”
“กระบี่สายลมไร้เงา!”
แสงรังสีแพรวพราวปรากฏขึ้นฉับพลันเหมือนสายรุ้งและกระแทกใส่ที่ว่าง
ที่ว่างแต่เดิม ปรากฏมีกระบี่เขียวเล่มหนึ่งผุดขึ้นมาทันที
ติง!
ทั้งหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงเหมือนกับถูกสายฟ้าฟาดพร้อมกันทั้งสองคนปลิวกระเด็นออกไป บึ้ม บึ้ม บึ้ม! เสาสองสามต้นแตกหักก่อนที่พวกเขาจะหยุดยั้งตัวเองได้
เสมอกัน!
อู๋เจ๋อสิงรู้สึกย่ำแย่จนแทบเป็นบ้า ความสงบเงียบบนใบหน้าของเขาเมื่อก่อนนั้น ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เขาเป็นเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายจ้องมองหลิงซิ่วอย่างประสงค์ร้าย
ชุดขาวของหลิงซิ่วยับยู่ยี่ นิ้วมือฝ่ามือซ้ายที่เขาซ่อนอยู่ด้านหลังสั่นอย่างต่อเนื่อง แต่สายตาของเขาไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
กระดูกสันหลังของหลิงซิ่วสั่นแทบตรวจไม่พบ ความเจ็บปวดมหาศาลโถมทะลักใส่เขาและแทบจะท่วมทับเขาให้อยู่ในความเจ็บปวด ผ้าพันตัวของเขาเปียกโชกแล้ว หลิงซิ่วหายใจลึก เขาตั้งท่ามุทราสราญรมย์ เมื่อเขาจัดท่ามุทราได้ร่างกายของเขาจะหยุดสั่น
ดวงตาสีแดงเพลิงสงบลงอย่างรวดเร็ว
ความอดกลั้นคือสะพานเชื่อมจากความทุกข์ทรมานสู่พลัง ยิ่งอดทนต่อความทรมานได้มาก ก็ยิ่งได้รับพลังมหาศาล
หัวใจของหลิงซิ่วสงบลงทันที ความเจ็บปวดที่สันหลังของเขาไม่ได้ลดทอน แต่กลับมีพลังร้อนแรงสายหนึ่งผุดออกมาจากความเจ็บปวดลึกๆ ในไขกระดูกสันหลังมันเพิ่มออกมาจากกระดูกสันหลังที่ผิดรูปของเขาและโคจรเข้าแขนและสู่นิ้วมือของเขา
นิ้วมือทั้งสิบที่มีสีเหมือนเหล็กกล้าของเขา ยิ่งดูคล้ำกว่าเดิม
หลิงซิ่ว เจ้าคือบุรุษผู้มีปณิธานกล้าแกร่ง เจ้าทำได้!
หลิงซิ่ว เจ้ากำลังทำสิ่งที่ดี เจ้ากำลังต่อสู้เพื่อคุณธรรม
อาจารย์ นี่คือความหมายที่ท่านบอกใช่ไหม เมื่อท่านพูดว่าเป็นคนดี...?
ความรู้สึกนี้...... ดูเหมือนไม่เลว......
หลิงซิ่ว เจ้าต้องชนะ......
ชัยชนะเท่านั้น จึงคู่ควรกับหอกทะเลจุด!
จู่ๆ สายตาของหลิงซิ่วก็คมและแน่วแน่ เขาไสหอกแทงออกไป
พิทักษ์ความเป็นธรรม!
จุดรังสีเงินระเบิดออก ยังมีความสว่างระยิบระยับมากยิ่งขึ้น
อู๋เจ๋อสิงไม่เคยคิดเลยว่าในเวลานี้หลิงซิ่วยังเหลือพลังโจมตีได้อย่างรุนแรง ดวงตาเขาเป็นประกายเหมือนคนเสียสติ เขาไม่หลบ แต่กลับไสกระบี่โถมเข้าหาทั้งตัว
ติง!
เสียงปะทะที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่าเดิม ทำให้หัวใจของทุกคนเต้นผาง
อู๋เจ๋อสิงกระเด็นถอยหลังด้วยความเร็วที่น่ากลัวและปะทะกับผนัง อิฐปลิวกระเด็น และมีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวผนังพังถล่มไปทั้งแถบและฝังร่างเขาไว้
หลิงซิ่วยืนอยู่กับหอกของเขา หน้าของเขาดูเหมือนจะมีความเจ็บปวดแต่สีหน้าอารมณ์ของเขากลับสงบอย่างประหลาด
อาจารย์ นี่คือสิ่งที่ท่านหมายถึงใช่ไหม ชัยชนะของฝ่ายธรรมะ
※※※※
ความล้มเหลวของอู๋เจ๋อสิงทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสหวีเปลี่ยนไปเล็กน้อย สามารถเอาชนะอู๋เจ๋อสิงได้ก็หมายความว่าฝีมือของหลิงซิ่วเหนือกว่าที่เขาคาดไว้มาก และนี่คือบทสรุปที่แย่ที่สุด
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของผู้อาวุโสหวี เขาย่อขาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าและเปลี่ยนตำแหน่งกระทันหันบุกเข้าหาผู้เฒ่าหวีทันที
ผู้เฒ่าหวีแตกตื่นและตอบโต้ทันที ด้วยรู้สึกที่ไม่ดี
ทั้งสองฝ่ายอยู่ในตำแหน่งที่สมดุล แต่เนื่องจากผู้เฒ่าหวีเปิดช่องโหว่แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นทั้งที่นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดใหญ่หลวง แต่สำหรับการต่อสู้ระดับนั้น รูปแบบในการกำกับดูแลการต่อสู้ อาจเป็นปัจจัยชี้ขาดผลการต่อสู้ได้
ถังเทียนเปลี่ยนวิธีการโจมตีของเขาทันที จากการเคลื่อนที่หาช่องว่าง เขาเปลี่ยนเป็นบุกโจมตีอย่างดุเดือดทันที
ประทับหัตถ์ใหญ่!
ประทับหัตถ์ใหญ่ที่น่ากลัวของเขากระแทกใส่คลื่นทะเลจากพัดทันที พัดของผู้เฒ่าหวีจมลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้เขาตกใจ ช่างเป็นพลังที่ดุร้ายนัก ที่สำคัญคือผู้เฒ่าหวีแก่แล้ว แม้ว่าปราณเที่ยงแท้ของเขาจะลึกซึ้งก็ตาม แต่ความแข็งแกร่งของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่เคยรู้จักประมาณพลังของเขา ดังนั้นพลังจากฝ่ามือถังเทียนเกือบทำให้เขาพังทลาย
พลังที่กร้าวแกร่งนัก
ขณะที่ผู้อาวุโสหวีตกใจระคนอัศจรรย์ใจพลังฝ่ามือที่เหมือนกับแผ่นหินจารึกใหญ่ก็ระเบิดทันที
พลังมังกรฟ้า
ผู้เฒ่าหวีไม่ทันได้ตั้งตัว และส่งเสียงครางทันที ขณะที่เขาเป็นเหมือนกับถูกใครบางคนผลักจนเซถอยหลัง
เยี่ยนเซี่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขายืนขึ้นทันทีและอุทาน “พลังสายเลือดสองชนิด!”
ถังเทียนไม่หยุดแม้สักนิด และเขามาปรากฏข้างหลังผู้อาวุโสหวีเหมือนกับภูตพรายและใช้ประทับหัตถ์ใหญ่หวดใส่อีกครั้งอย่างรุนแรง
พลังที่รุนแรงของประทับหัตถ์ใหญ่ทะลุผ่านคลื่นของพัดระลอกคลื่นและกระแทกใส่หลังที่เปิดโล่งของเขา
ผู้เฒ่าหวีถลาไปข้างหน้าพร้อมกับกระอักเลือด หน้าของเขาปรากฏแววหวาดผวา