ตอนที่ 168 ท้ารบ
โห.....
มีเสียงเบาๆดังมาจากภายในตัวถังเทียน
ไม่มีใครสังเกต เพราะสายตาพวกเขาต่างจับจ้องมองดูการต่อสู้รุนแรงของหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงกันหมด มีเพียงผู้อาวุโสหวีที่สังเกตเห็น คิ้วขาวของเขากระตุกเหมือนกับไม่เชื่อภาพที่เห็น
ทันใดนั้นสำนึกอันตรายผุดขึ้นมาในใจของผู้เฒ่าหวี
ก่อนที่เขาจะลงมือใดๆได้ มีวิวัฒนาการฉับพลัน
เผียะ เผียะ เผียะ!
เสียงระเบิดดังต่อเนื่องอยู่ภายในตัวถังเทียน
ผิวของถังเทียนที่ปล่อยแรงระเบิดออกมาด้านนอกสั่นสะเทือนเหมือนคลื่น เป๊าะ เป๊าะ เป๊าะ, เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นพร้อมกัน ร่างของถังเทียนคล้ายกับจะมีสัตว์ประหลาดออกมา
ฮ่า....
ด้านข้างขาของถังเทียนอากาศเบาบางไหลอย่างเงียบๆ และก่อรูปเป็นวังวนเล็กๆ
นั่นคือ....
ม่านตาของผู้เฒ่าอู๋หดแคบเนื่องจากความรู้สึกกังวลและอันตรายที่เพิ่มมากขึ้นเหมือนจะเป็นรูปธรรมชัดเจน ดวงตาของเขาแสดงให้เห็นอาการตื่นตัว เขาเป็นผู้มีชื่อเสียงมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยเห็นเรื่องแปลกประหลาดแบบนั้นเกิดขึ้น
ถังเทียนหลับตาและกางแขนอยู่ต่อหน้าของเขา ดูเหมือนจะมีความเคลื่อนไหวลึกลับมาก
ผู้เฒ่าหวีไม่เคยชอบล้ำเส้นกับคู่ต่อสู้ที่เขาไม่เข้าใจเพราะนั่นเป็นอันตรายอย่างมาก เขามีชื่อเสียงมาหลายปี และเห็นนักสู้จำนวนมากมายกว่าเขาที่มีฝีมือเหนือกว่าเขาต้องเจ็บตัวด้วยน้ำมือของคู่ต่อสู้ที่ไม่คุ้นเคยและอันตราย ทำให้เขาต้องระมัดระวังอย่างมากในตอนนี้ และเพราะความระมัดระวังของเขานี่เอง ทำให้เขาปกป้องสถานะของเขามาได้นานหลายปี
ฮ่าห์ ฮ่าห์..ฮ่าห์....
กระแสอากาศก่อตัวเป็นจุดๆและพัดผ่านรอบตัว อากาศรอบตัวถังเทียนมีสภาวะไม่แน่นอน
สายตาของผู้เฒ่าหวีจับจ้องอยู่ที่ตัวถังเทียนและลดความตั้งใจโจมตีก่อน เขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับถังเทียนและพัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้น
เขาตัดสินใจรอสังเกตดู
วิ้ววว!กระแสอากาศเริ่มปั่นป่วนเสียงเปลี่ยนจากที่เป็นเสียงลมหายใจเป็นเสียงลมยามพัดธงโบกสะบัด กรวดทราบรอบๆเท้าของถังเทียนถูกกระแสลมดันม้วนตัวออกไปพื้นที่รอบๆ
เศษกรวดหินนับไม่ถ้วนเป็นเหมือนมดที่แตกรังกระจัดกระจายไปทั่วพื้นหิน
ความสับสนวุ่นวายล่าสุดนี้ดึงดูดนักสู้บางส่วนที่กำลังให้ความสนใจการต่อสู้ของหลิงซิ่วกับอู๋เจ๋อสิง
“พระเจ้าช่วย! มันเกิดอะไรขึ้น?”
“มาดูเร็ว!”
เสียงอุทานตื่นเต้นปลุกผู้คนมากมายยิ่งขึ้นและดึงดูดผู้คนให้หันเหความสนใจมาดูถังเทียนในกลางห้องโถง พวกเขาตะลึงอยู่กับฉากภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า
แครก แครก!
อากาศภายในระยะ 1.7เมตรรอบตัวถังเทียนดูเหมือนกำลังถูกต้มกระแสอากาศจำนวนมากกำลังปะทะกันทำให้เกิดแรงเสียดสีกันเสียงระเบิดดังต่อเนื่องไม่หยุด ประกายไฟที่เกิดจากการเสียดสีของอากาศกระพริบ
ร่างของถังเทียนพร่าเลือนเหมือนกับภาพสายน้ำไหลสลายหายไป
นอกจากหลิงซิ่วและอู๋เจ๋อสิงที่ตั้งหน้าตั้งตาต่อสู้อย่างดุเดือดแล้ว สายตาทุกคู่ถูกฉากภาพนี้ดึงดูด ไม่มีใครเคยเห็นภาพที่เหลือเชื่อน่าประทับใจอย่างนี้มาก่อน
ทุกคนตกตะลึงปากอ้าตาค้างจ้องมองถังเทียนที่อยู่ตรงกลางห้องอย่างงงงวย
เหมือนกับพวกเขาคิดว่าพวกเขาได้เห็นพายุที่น่ากลัวกับตาตนเองกำลังก่อตัวอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา คำถามเกิดขึ้นในใจทุกคนโดยไม่อาจควบคุมได้ ภาพอะไรที่รอพวกเขาอยู่ เมื่อพายุนี้ก่อตัวเต็มรูปแบบ
จะปรากฏเป็นภาพแบบไหนกันแน่
ไม่มีผู้ใดรู้!
พวกเขาตาเบิกกว้างผสมกับความกลัวและความอยากรู้อยากเห็น ไม่กล้าเบนความสนใจไปที่อื่น
เสียงระเบิดราวกับประทัดแตกเข้มข้นมากยิ่งขึ้นอากาศรอบตัวของถังเทียนก็ยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นความรู้สึกสงบก่อนพายุจะมาครอบงำความรู้สึกทุกคน
ทันใดนั้นราวกับว่าเวลาหยุดชะงักเสียงแตกระเบิดหายไป และอากาศที่ปั่นป่วนตอนนี้กลับหยุดนิ่ง
ในไม่ช้าเสียงดังบึ้มก็ตามมา อากาศที่ไม่เสถียรรอบตัวถังเทียนระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ทันที!
คลื่นอากาศที่รุนแรงผสมกับพลังที่น่ากลัวกวาดผ่านไปทั่วห้องโถง นักสู้ที่ฝีมือค่อนข้างอ่อนรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายกระแทกใส่ไม่สามารถยืนหยัดได้มั่นคงถูกพลังคลื่นอากาศกวาดกระแทกไปอยู่ที่มุมห้อง
อู๋เจ๋อสิงกำลังตั้งสมาธิกับการต่อสู้ไม่ได้เตรียมพร้อมต้านรับ เมื่อคลื่นอากาศกวาดเข้ามาทางเขาในระยะห่างเก้าเมตรเขาจึงค่อยตระหนักถึงอันตรายที่กำลังจะเกิด ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วมาก ทันทีที่คลื่นอากาศมาถึงตัวเขาเขาได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งแล้วและลอยไปตามคลื่นอากาศเหมือนเศษใบไม้
อู๋เจ๋อเทียนลอยอยู่กลางอากาศถลึงจ้องมองถังเทียนด้วยแววตาเหลือเชื่อ
บรรยากาศเช่นนี้...ช่างโอ่อ่ายิ่งนัก!
หลิงซิ่วก็ยังไม่ได้เตรียมตัวรับพลังคลื่นระเบิดอากาศกะทันหันนี้ เขารีบคว้าหอกมาไว้กับตัวและหลบไปอยู่หลังเสา เขาตกใจมากและเมื่อเขาตระหนักว่าถังเทียนเป็นต้นเหตุวุ่นวายสับสนนี้ เขาถึงกับตกตะลึง
เจ้าหมอนี่, เป็นตัวประหลาดแบบไหนกัน?
แม้แต่ผู้ทรงพลังอย่างผู้เฒ่าหวีก็ไม่อาจรักษาสีหน้าให้สงบได้อีกต่อไปเขาเริ่มระมัดระวังและไม่ประมาทต่อไป
ทรงพลังจริงๆ
เขาเริ่มลังเลหมัดที่ถังเทียนเพิ่งต่อยใส่จี่เทียนเมื่อครู่นี้เขาสามารถบอกได้ว่าถังเทียนอยู่สภาวะคลั่ง ดังนั้นพลังจึงเพิ่มขึ้นมาฉับพลัน แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยแค่คำว่าสภาวะคลั่ง
เจ้าหมอนี่....มีเบื้องหลังเช่นใดกันแน่?
เขาโผล่ออกมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครรู้ เหมือนกับเงาที่ลอยไปลอยมา
อย่างไรก็ตาม ความสนใจของเขาถูกถังเทียนผู้เปิดเผยพลังตนเองอยู่ในห้องโถงหันเหความสนใจอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนกางแขนกว้าง,หลับตาแน่นยังคงยืนอยู่เงียบๆ เหมือนกับหลับลึก
ทันใดนั้นถังเทียนลืมตา
บึ้ม!
คลื่นพลังที่เหมือนเมื่อตอนปล่อยจรวดยานอวกาศท่วมท้นทะลักเหมือนน้ำบ่าถูกปลดปล่อยเหมือนพายุฝนฟ้าคะนอง
ตาของถังเทียนเป็นสีแดงสว่างสดใสแต่เหมือนห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก ท่าทีที่สง่างามทำให้หน้าของนักสู้ทุกคนในห้องโถงเปลี่ยนไปหัวใจของพวกเขาเหมือนกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบคั้นร่างกายของพวกเขาเหมือนควบคุมไม่ได้ พวกเขาไม่อาจขยับได้
ในมุมหนึ่งไม่มีผู้ใดทันสังเกตเยี่ยนเซี่ยและพวกอื่นปะปนอยู่ภายใน หน้าของเยี่ยนเซี่ยเขียวคล้ำ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจนอกจากเขาแล้วอูหนานและคนอื่นก็หน้าถอดสี
“เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่?” เสียงของกงอี้ซิ่วแตกตื่นกระแสพลังที่โอ่อ่านั้นทำให้เขาใจเต้นแทบบ้า
ไม่มีผู้ใดตอบคำถามนี้ได้
เยี่ยนเซี่ยลดเสียลง“เป็นพลังสายเลือด ดูเหมือนเขาจะได้กระตุ้นพลังสายเลือดของเขา”
“กระตุ้นพลังสายเลือดน่ะหรือ?” สั่วกวงที่อยู่ใกล้ๆ อุทานเขาพยายามลดเสียง “กระตุ้นพลังสายเลือดในเวลาเช่นนี้ นี้มันเกิน...”
หน้าของอูหนานมีสีหน้าปั้นยาก“ข้าเกรงว่าเราตอนนี้เราก่อเรื่องใหญ่เข้าให้แล้ว”
ความจริงในใจเยี่ยนเซี่ยเห็นด้วยกับอูหนาน แต่เขาแค่นหัวเราะ “ปัญหาของเราเพียงเล็กน้อย คนที่เจอปัญหาใหญ่ก็คือผู้เฒ่าหวี เราแค่ทำร้ายบริวารของกู้เสวี่ย แต่ผู้เฒ่าหวีต้องการชิงตัวนาง”
ทั้งสามคนถอนหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เมื่อเยี่ยนเซี่ยได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกของทั้งสามคนเขารู้ในใจว่าอูหนานและพวกที่เหลือไม่มีความกล้าต่อสู้กับถังเทียนต่อไป
อย่างไรก็ตามโชคดีที่มีคนที่โง่ยิ่งกว่าคอยช่วยป้องกันเขาไว้
รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยนเซี่ย ครั้งนี้ผู้เฒ่าหวีลำบากแน่
※※※※※
ถังเทียนลดแขนลง ดวงตาแดงสดใสของเขามองผู้เฒ่าหวีอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ
ทันใดนั้นยกแขนขวา นิ้วชี้ที่เหมือนหอกของเขาชี้ไปที่ผู้อาวุโสหวี
การท้าสู้ที่ไม่มีกฎเกณฑ์และยโสลำพองไม่มีทางถอนถอยเป็นที่รับทราบกันทุกคนอย่างไม่มีความผิดพลาด
“เฮ้, ตาเฒ่า,มาจบเรื่องทั้งหมดในวันนี้ด้วยการต่อสู้กันเถอะ!”
เรือนร่างที่ตั้งตรงกำลังชี้นิ้ว ถังเทียนผู้โดดเด่นไม่ค่อยคุ้นเคยนักไม่มีความโกรธ ไม่มีเสียงโห่ร้อง แต่ทุกคนในห้องโถงตอนนี้รวมทั้งอู๋เจ๋อสิงสะดุ้งตกใจเพราะถังเทียนที่ไม่คุ้นเคยอย่างนั้น
เถื่อน แน่วแน่หัวรั้น
แม้ว่าพลังฝึกปรือของผู้เฒ่าหวีจะเหนือกว่าผู้อื่นมากแต่การถูกกระตุ้นท้าทายเช่นนั้นต่อหน้าต่อตาทุกคน ทำให้เขาหน้าร้อนด้วยความโกรธ
ผู้เฒ่าหวีโกรธจนหัวเราะ“อย่างนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้า เจ้าคนอวดดี”
ผู้เฒ่าหวีลุกขึ้นยืน หน้าเขาเขียวคล้ำและเดินช้าๆเข้าหาถังเทียน ความรู้สึกอึดอัดคับข้องถูกปลดปล่อยทันทีแตกต่างจากพลังรุนแรงของถังเทียน แต่เต็มไปด้วยความสูงวัยและชั้นเชิง
นักสู้อื่นตื่นเต้นทันที
ผู้เฒ่าหวีมีชื่อเสียงมานานกว่าสี่สิบปีเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงในดาวไพรมายาและตระกูลหวีเป็นตระกูลที่มีสถานะสูงสุดในดาวไพรมายาด้วยความเป็นผู้นำของเขา เขามีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในชีวิตพ่ายแพ้ให้แก่คนผู้เดียวคือกระบี่ราตรีไซอา ไซอาโดดเด่นขึ้นมาในปีนั้นเข้าร่วมต่อสู้ในทุกประเภทรายการ และไม่เคยประสบความพ่ายแพ้แต่อย่างใดและขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ในที่สุด
ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับของผู้เฒ่าหวีแต่อย่างใด เพราะปีนั้นเป็นปีแห่งความมืด ยอดฝีมือเกือบทุกคนในดาวไพรมายาพ่ายแพ้ในเงื้อมมือไซอา อย่างไรก็ตาม ชีวิตมิอาจคาดคำนวณได้ เนื่องจากสาเหตุที่ไม่ชัดเจน ไซอาพลันเปลี่ยนบุคลิกนิสัยของเขา และมาตรฐานของเขาลดลงฮวบฮาบ เขาตกลงจากอันดับหนึ่งไปอยู่อันดับที่ห้าและกลายเป็นมือสังหารที่มีชื่อมากที่สุดในดาวไพรมายา
ผู้เฒ่าหวีมีระดับคงที่อยู่ระดับที่สิบห้าเสมอ
นี่คืออันดับที่ยังน่ากลัวแต่ก็ยังเป็นอันดับที่น่าอายอยู่ดี
สิบอันดับแรกเป็นเหมือนต้นน้ำ ทุกคนร่ำรวยมีอิทธิพล ขณะที่อันดับสิบถึงยี่สิบจะเป็นพวกกดขี่ใช้อำนาจ แต่ผู้เฒ่าหวีผู้ทะเยอทะยานต้องการเป็นจุดสนใจแค่เป็นผู้ใช้อำนาจไม่ทำให้เขาพอใจได้ อย่างไรก็ตาม อันดับของเขายากที่จะขยับมากไปกว่านี้ ดังนั้นเขาคิดจะใช้ศักดิ์ศรีและความอาวุโสของพวกเขามาทดแทนความสามารถที่ขาดไป
และนี่คือเหตุผลที่เขาถึงได้ทุ่มเทมากมายกับการเป็นวีรบุรุษรับเชิญ
สถานการณ์ดำเนินไปอย่างราบรื่นเกินไปดังนั้นเขาตัดสินใจตามจีบเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลกู้ เหตุผลเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะตระกูลกู้สำคัญมากต่อแผนการของเขาในครั้งนี้เขาจำเป็นต้องยึดตระกูลกู้ให้อยู่ในเงื้อมมือให้ได้ ไม่มีข้ออ้างของตระกูลกู้เขาไม่มีเหตุผลจะเข้าไปแทรกแซง
ถังเทียนและหลิงซิ่วแทบคุกคามเขาได้น้อยมาก สำหรับการจัดอันดับในนักสู้ห้าสิบอันดับแรกอาจดูว่าเป็นนักสู้ธรรมดา แต่สำหรับเขาเทียบได้กับบริวารของเขาอย่างหลี่ซิ่นและจี่เทียน นอกจากนี้เขาเชื่อว่ามียอดฝีมือมากมายจากตระกูลต่างๆจะมีมาในอนาคตไม่มีที่สิ้นสุด นักสู้ผู้มีมาตรฐานเหล่านี้ เขาสามารถรวบรวมได้อย่างน้อยแปดคน
เขามีต้นทุนอยู่ในมือเพียงพอซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้เขา
แต่เขาคำนวณผิด
หลิงซิ่วสามารถสู้กับอู๋เจ๋อสิงได้และถังเทียนพิชิตจี่เทียนในหมัดเดียวฝีมือของเขาไม่ต่ำทรามกว่าอู๋เจ๋อสิง กลิ่นอายของเขาทวีความน่ากลัวมากขึ้น ตั้งแต่แรกเริ่มผู้เฒ่าหวีไม่เคยคิดว่าเขาจะถูกลากลงปลักนี้ไปด้วย
สถานการณ์ของเขาในตอนนี้หมิ่นเหม่มาก
ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนว่าเขากลับไปสู้กับไซอาแม้ว่าการต่อสู้ครั้งนั้นจะไม่ได้ทำให้เขาถูกลดอันดับ แต่ก็มีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีของเขา แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือความมั่นใจของเขาหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น เขาต้องใช้เวลาถึงเจ็ดปี ก่อนที่เขาจะสามารถฟื้นคืนความเชื่อมั่นของเขาให้กลับมาอยู่ในระดับสูงได้
และสถานการณ์ของวันนี้จะน่ากลัวยิ่งกว่า ถ้าเขาล้มเหลว...
ผู้เฒ่าหวีสูดหายใจลึกและผลักความคิดนี้ทิ้งไว้เบื้องหลัง สีหน้าเข้ม เสื้อผ้าพองหนาอัดแน่นไปด้วยพลัง
เขาเดินเข้าหาถังเทียนทีละก้าวๆทั้งผมและเคราของเขาชี้ชัน
สู้ครั้งนี้ไม่เป็นก็ตาย!”