ตอนที่ 162 อุรังอุตังหนุ่ม
บุรุษร่างใหญ่ประเมินถังเทียนใบหน้าของถังเทียนสวมหน้ากากอุรังอุตังปิดบังใบหน้าไว้ และจากเสียงของเขาเขาสามารถคาดเดาได้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาอายุค่อนข้างน้อยเด็กหนุ่มแพนด้าที่ต่อสู้ก่อนหน้านี้ก็อยู่ในวัยไล่ๆ กัน
บุรุษร่างใหญ่ไม่ได้ดูถูกเพราะพวกเขายังเยาว์วัยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม ความเข้าใจของเขายิ่งหนักแน่นยิ่งขึ้น วิชาหอกของเด็กหนุ่มแพนด้าสร้างความตื่นตะลึงให้กับเขา เนื่องจากความประมาทและความชิงชังของเขาเมื่อยานโดยสารถูกทำลายก่อนหน้านี้จากนั้นเพราะต่อสู้ยันกันไปมาจนถึงบัดนี้ เขาก็ยังไม่อาจพิสูจน์ยืนยันพลังที่แท้จริงของเด็กหนุ่มแพนด้าได้
เขามีประสบการต่อสู้มาอย่างโชกโชนเมื่อเขาเปลี่ยนมือกับเด็กหนุ่มแพนด้าที่ใช้วิชาหอก เขาตระหนักได้ถึงแรงกดดัน พลังตอบสนองที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงใช้พลังมากขึ้นเพื่อกดดันเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มากจนเกินไป ตลอดเวลาฝ่ายตรงข้ามใช้พลังร่างกายและปราณเที่ยงแท้เพิ่มขึ้นมาก
กลยุทธ์ของเขาประสบความสำเร็จดี เด็กหนุ่มแพนด้าแทบจะหมดหวังอยู่แล้ว เขาไม่คิดเลยว่าจะมีการเปลี่ยนตัวเป็นอุรังอุตังหนุ่มกลางครันด้วย เมื่อได้ยินอุรังอุตังหนุ่มตะโกนท้าทายอย่างมั่นใจ เขารู้สึกรำคาญนัก
อะไรคือสาเหตุที่เด็กหนุ่มหน้ากากสัตว์เหล่านี้มาที่นี่?
ทันใดนั้น เขามองเห็นปิงอุ้มเด็กหญิงที่ถูกหวายมัดสีหน้าเขาเปลี่ยนทันที รังสีอำมหิตถูกปล่อยออกมาทันที
“พวกเจ้าสมควรตายทั้งหมด!”
เขาปลดปล่อยพลังที่ขาทันที ร่างของเขาเป็นเหมือนสายฟ้าพุ่งเข้าหาปิง
วูบ
เงาร่างเลือนลางพุ่งเข้ามาพร้อมกับแรงลมที่กล้าแข็งและจู่โจมเข้าที่ด้านหน้าเขาทันที เป็นเด็กหนุ่มอุรังอุตังนั่นเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคาดการเคลื่อนไหวของเจ้าไว้แล้ว!”
เสียงดีใจของอุรังอุตังหนุ่มสร้างความหงุดหงิดให้กับบุรุษตัวใหญ่ รังสีฆ่าฟันปรากฏขึ้นในดวงตาเขา เขาปลดปล่อยปราณทั้งหมดจากร่างกาย ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กล้ามเนื้อของบุรุษร่างใหญ่ขยายขึ้นเหมือนกับจะดันเสื้อผ้าของเขาให้ฉีกขาดมือขวาของเขาดึงรั้งกลับมาเหมือนท่าเหนี่ยวสายธนู รังสีหมัดสีแดงเพลิงครอบคลุมหมัดขวาของเขาก่อรูปเป็นพายุหมุนเพลิง
พายุหมุนเพลิง!
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กล้าแข็งความเร็วที่เร่งสูงขึ้นของรังสีหมัดเพลิงตอนแรกทำให้เกิดความแหลมคมและเสียงที่หนักแน่น พลังของมันน่ากลัวมาก
ในสายตาของเขา เปลวเพลิงขยายขนาดอย่างรวดเร็ว
ตาของถังเทียนเป็นประกายเยือกเย็นเขายกมือทั้งสองขวางอกไว้ มือหนึ่งข้างหน้า มือหนึ่งข้างหลังเลื่อนลงมาในระดับเอวทันที
พายุหมุนเพลิงกระแทกใส่หมัดของถังเทียน
ปัง!
หมัดของฝ่ายตรงข้ามเหมือนสว่านเพลิงร้อนแรงเมื่อสัมผัสกับมือของถังเทียน พลังประหลาดนั้นก็ระเบิดทันที
ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกว่ามือของเขาชา ฝ่ามือของเขาอ่อนลง หัวใจสั่นไหวอกของเขาปลดปล่อยพลังงานออกไป เพื่อป้องกันต่อเนื่องเขาไม่ได้คลายการป้องกันตัว แต่ขาของเขาไม่สามารถรักษาตำแหน่งเดิมอยู่ได้ เขาถูกดันถอยหลัง
ฮ่าห์....
ถังเทียนอยู่ในท่านั่งม้า ขาของเขาเหมือนตุ๊กตาเหล็ก ครูดกับพื้นลากเป็นเส้นยาวเกินกว่าสิบเมตร
ฮ่าห์.. ถังเทียนไม่กล้าคลาดสายตาจากคู่ต่อสู้แม้แต่วินาทีเดียว เขาสลายปราณกดดันบางส่วนออกไปช้าๆหัวใจเขายังคงสั่นไหว พลังแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว หลังจากเพิ่งปะทะกัน แขนทั้งสองของเขาชาไปหมด
ถังเทียนไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ร่างใหญ่ฝ่ายตรงข้ามเขาตกตะลึงยิ่งกว่าเขาเสียอีก เขาไม่อยากเชื่อนัยน์ตาของตนเอง
หมัดโจมตีของบุรุษร่างใหญ่ ใช้พลังทั้งหมดมาจากการยืมแรงเฉื่อยในร่างกายทั้งหมดของเขาโจมตีไปรวดเดียว มันไม่ได้ทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้าม ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือ นี่เป็นไปได้อย่างไร?
นั่นเป็นไปได้อย่างไร!
เจ้าเด็กนี่...
เขาต้องทำการประเมินเด็กหนุ่มอุรังอุตังที่อยู่ข้างหน้าเขาใหม่ ฝ่ายตรงข้ามในตอนนี้ สลัดแขนด้วยแรงทั้งหมดของเขา ตรงนี้ทำให้เขารู้สึกเบาใจได้บ้าง แต่พลังของเจ้าเด็กนี่ ก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดีถ้าเขาคาดเดาไม่ผิด เด็กหนุ่มอุรังอุตังแทบจะแข็งแกร่งพอๆ กับเด็กหนุ่มแพนด้า
บุรุษร่างใหญ่มีลางสังหรณ์อัปมงคล แม้ว่าเขาจะบั่นทอนกำลังเด็กหนุ่มแพนด้าได้ แต่เป็นเพราะพลังร่างกายและปราณเที่ยงแท้ของเขาอยู่ในระดับสูง แต่ทันใดนั้นก็ปรากฏเด็กหนุ่มอุรังอุตังที่มีพลังพอๆกับเด็กหนุ่มแพนด้า...
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?” บุรุษร่างใหญ่ตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ และถาม“เจ้ารู้ไหมว่าเราเป็นใคร...”
เขายังพูดไม่จบประโยค นัยน์ตาเขาพร่าเพราะคู่ต่อสู้วิ่งเข้าหาเขาแล้ว
เขาใจเต้นแรง แต่ชั่วขณะนั้น เขาก็ไม่สนใจอีก เด็กหนุ่มอุรังอุตังรวดเร็วมาก ในพริบตาก็มาอยู่ต่อหน้าเขา
บุรุษร่างใหญ่ตวาดลั่น เขาต้อนรับการเข้ามาหาของถังเทียนและต่อยหมัดออกไป
วูบบ รังสีหมัดสีแดงเต็มไปด้วยพลังน่ากลัวปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน
ถังเทียนคาดการณ์ไว้เช่นนั้น แต่เขาไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด แค่เพียงเหลือบดูดูเหมือนว่าเขากำลังจะชนใส่หมัด แต่ทันใดนั้นเขาย่อตัวเลียดพื้น เหมือนกับปลาที่ลื่น เขาลอดผ่านระหว่างรังสีหมัดกับพื้นผ่านไปได้ หลังจากผ่านไปได้ ถังเทียนตบพื้นยืมพลังเพิ่มความเร็ว เขาเด้งตัวขึ้นอีกครั้งด้วยความเร็วมากขึ้น
รังสีหมัดเองก็บดบังสายตาของบุรุษร่างใหญ่ด้วยเช่นกัน เมื่อถังเทียนปรากฏตัวเหมือนปีศาจผุดจากพื้นและต่อยใส่เขารวดเร็วดุจสายฟ้า สีหน้าของบุรุษร่างยักษ์เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
พลังของเด็กหนุ่มอุรังอุตังไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเด็กหนุ่มแพนด้ามากนัก แต่รูปแบบการต่อสู้ของเขากลมกลืนและคาดไม่ถึง ถ้าให้คะแนนการต่อสู้เต็มสิบ เด็กหนุ่มแพนด้าสามารถได้สิบคะแนนเต็ม แต่ว่าเจ้าเด็กที่อยู่ต่อหน้าเขาสมควรได้ถึงสิบสองคะแนน
ช่วงเวลานั้น บุรุษร่างใหญ่อดถอนหายใจชมเชยไม่ได้ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียด เขาเปลี่ยนหมัดเป็นฝ่ามือและผลักออกไป
กำแพงไร้สภาพขึงปกป้องอยู่ด้านหน้าของเขา
แต่ร่างที่ไวเหมือนสายฟ้าตวาดออกมาอีกครั้งทันที ในกลางอากาศเขาปล่อยหมัดในระดับเอว หมัดของเขาระเบิดออกมาเป็นชั้นผนังบรรยากาศ
หมัดสะท้านฟ้า!
จากตั้งแต่หมัดทลายน้อยจนถึงหมัดสะท้านฟ้า ถังเทียนเข้าใจเรื่องพลังสั่นสะเทือนมากเป็นพิเศษ
หมัดนี้แฝงไปด้วยพลังสั่นสะเทือน
ปราณเที่ยงแท้ที่มีพลังสั่นสะเทือนความถี่สูงปล่อยออกมาจากกำปั้นของเขา แรงสั่นสะเทือนถูกส่งผ่านไปยังมุมทุกมุมของผนังบรรยากาศ ปัง เสียงดังออกมาและกำแพงนั้นถล่มลงมา
บุรุษร่างใหญ่ยังคงรู้ตัวว่ากำแพงนั้นไม่สามารถป้องกันเด็กหนุ่มอุรังอุตังได้เขาปล่อยฝ่ามือในเวลาเดียวกันและถอนถอยออกมา
เขาต้องการจะเพิ่มระยะห่าง แต่เขาเห็นแล้วว่าเด็กหนุ่มอุรังอุตังใช้วิธีสู้ที่แตกต่างจากเด็กหนุ่มแพนด้า เด็กหนุ่มอุรังอุตังผู้นี้เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดมากกว่า
บุรุษหนุ่มร่างใหญ่รู้ว่าหลังจากเขาเห็นคุณหนู สภาพจิตใจของเขาได้รับผลกระทบ และทำให้เลือกใช้วิธีผิดจนเขาแสดงจุดอ่อนออกมา และเพราะเขาได้พบกับคนที่ฉวยโอกาสได้ดี จนเป็นเหตุให้เขาพลาดท่า
เขารู้ว่า เขาต้องอดทนให้มากขึ้น
ถังเทียนไม่คิดมาก ในการต่อสู้ สัญชาตญาณธรรมชาติของร่างกายเขาไวกว่าสมองของเขาเสียอีก ยิ่งเป็นสัญชาตญาณสิบแปดเท่าได้แสดงพลังอย่างสมบูรณ์ในเวลานี้ แค่เมื่อคนร่างใหญ่ขยับตัวเพื่อถอย ถังเทียนคาดการเคลื่อนไหวของเขา และการโจมตีขณะเข้าไปใกล้ เท้าของเขาเตะพื้นอีกครั้ง และในอากาศน่องของเขาปล่อยรังสีดาบออกมาต่อเนื่องถึงเจ็ดดาบ
เท้าดาบถานถุ่ย - ดาบพับน้อย
แคร้ง แคร้ง แคร้ง!
เสียงกระทบต่อเนื่องดังขึ้นเจ็ดครั้งในการกระทบใส่แต่ละครั้ง บุรุษร่างใหญ่ต้องระเบิดปราณออกไป ถังเทียนเริ่มใช้วิชาต่อสู้ในรูปแบบใหม่เรื่อยๆทำให้เขาชำนาญมากขึ้น เขาทำการหลอมรวมวิชาต่อสู้ของเขา ทำให้วิทยายุทธของเขามีพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
รังสีเหล่านั้นดูเหมือนดาบ แต่พลังกลับประหลาดมาก มันรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
พลังของบุรุษร่างใหญ่มิได้อ่อนแอ แต่ภายใต้การโจมตีอย่างเข้มข้นทำให้เขาไม่มีเวลาได้ทันปรับเปลี่ยนตัวเอง ดาบน้อยทั้งเจ็ดทำให้มือของเขามีพลังอ่อนลง
นี่เขาไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างนั้นมานานแค่ไหนแล้ว?
เลือดลมปราณในตัวของเขาปั่นป่วน แต่เขาไม่สามารถคิดอะไรได้มาก อุรังอุตังผู้น่ากลัวฟันใส่หน้าของเขา เขาโจมตีใส่เป็นพายุบุแคม และการรุกไล่เช่นนั้นไม่เปิดโอกาสให้เขาลืมตา
เขาทำให้เพียงตั้งรับ
ผัวะ ผัวะ ผัวะเขาไม่รู้ว่ามือของเขาจะทนได้นานแค่ไหน เขารู้สึกว่ากำลังสู้กับอุรังอุตังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก พลังของมันน่ากลัว ความเคลื่อนไหวของมันคล่องแคล่ว แต่ก็มีสัญชาตญาณป่าอย่างน่าประหลาดใจ
ถังเทียนไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย ประสบการณ์ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้สอนเขาไว้ มีหลายครั้ง ที่ระหว่างชนะกับพ่ายแพ้มีเส้นสายคั่นไว้เพียงเบาบางเท่านั้น ทันทีที่ท่านคว้าโอกาสไว้ได้ ท่านก็ชนะ แต่ถ้าท่านพลาด ท่านอาจพ่ายแพ้
เขาคว้าโอกาสที่จะชนะไว้ เขาจะไม่ยอมให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามหายใจได้
ตราบเท่าที่ฝ่ายตรงข้ามได้โอกาสหายใจ และฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสตั้งหลักได้ จากนั้นความได้เปรียบที่ท่านได้มาทั้งหมดอาจหายไปหมด
การโจมตีอย่างต่อเนื่อง สิ้นเปลืองพลังกายและพลังปราณเที่ยงแท้เป็นอย่างมาก ยิ่งเขาระดมโจมตี ก็ยิ่งสิ้นเปลืองพลังมาก ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งรับป้องกันถือว่าสิ้นเปลืองพลังงานน้อยมาก
ถังเทียนไม่ได้ผ่อนพลังในการบุก ใครจะรู้กันว่าสิ้นเปลืองพลังไปมาก พลังโจมตีของเขาระดมใส่ราวพายุฟ้าคะนอง ทั้งประทับหัตถ์ใหญ่, วังวนกระเรียนขาว,เท้าดาบถานถุ่ย แต่ละวิทยายุทธถูกใช้ออกมาอย่างไม่มีความลังเลเหมือนกับว่ามีพลังให้ใช้ไม่จำกัด
บุรุษร่างใหญ่เหมือนกับว่าเขาอยู่ในฝันร้าย มีหลายครั้งเมื่อเขารู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามจะหมดแรงและเมื่อเขาพยายามตีโต้ เขาก็พบกับการโจมตีที่ดุเดือด ความคิดตอบโต้ของเขาจึงหายไป เวลาผ่านไปช้าๆและในทันใดนั้น เขามีความคิดว่าสิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาคืออุรังอุตังจักรกล มันถึงได้ไม่รู้จักเหนื่อยล้า!
พลังของมันก็ประหลาด การโจมตีของมันร้ายกาจจริงๆ
ทุกวินาทีคือความทรมาน
ถังเทียนก็ทรมานเช่นเดียวกัน เขาอยู่ในสภาพโจมตีเป็นบ้าเป็นหลังมาเกินห้านาทีแล้ว เป็นห้านาทีที่เขาทุ่มเทพลังโจมตีออกไปทั้งหมด ศัตรูก็ยังอยู่นิ่งได้ไม่เป็นไร
เขาใช้ปราณเที่ยงแท้จนแทบเกลี้ยงและรู้สึกอ่อนล้าคอของเขาแห้งผาก เมื่อสูดอากาศก็ไม่รู้สึกว่ามีพลังเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่เขาฝืนตนเองใช้แรงสู้ต่อไป
เขารู้ว่าสถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามก็เกือบแย่พอๆ กับเขา วิชาหมัดของฝ่ายตรงข้ามต้องการพื้นที่ในการลงมือ ดังนั้นการสู้ประชิดติดพันจึงทำให้เขาไม่มีเวลาและพื้นที่ตั้งหลักได้
การป้องกันของเจ้าผู้นี้เหนียวแน่นมาก นับว่าเหนียวแน่นมากที่สุดเท่าที่ถังเทียนเคยพบ บุรุษร่างใหญ่ใช้ปราณเที่ยงแท้บีบอัดชั้นพลังป้องกันไว้หนาแน่นไม่มีช่องว่าง พลังโจมตีของถังเทียนทั้งหมดกระทบใส่โล่ปราณป้องกันของเขา นอกจากการลดลงของปราณเที่ยงแท้ฝ่ายตรงข้ามแล้ว ก็ไม่มีอันตรายอื่นใดที่คู่ต่อสู้ของเขาต้องเผชิญเลย
จะทำลายโล่ป้องกันของคู่ต่อสู้ได้ยังไง?
แนวป้องกันที่บางแต่แน่นนั้น เขาควรใช้วิทยายุทธตั้งรับบางอย่างเพื่อสร้างพื้นที่ป้องกันที่สมบูรณ์แบบ
เดี๋ยวก่อน พื้นที่...
ราวกับว่าถังเทียนคว้าด้ายช่วยชีวิตไว้ในชั่วขณะต่อมา เขาก็คว้าจุดสำคัญนี้ไว้ได้ทันที
ใช่แล้ว นั่นคือพื้นที่ว่าง!
การโจมตีของเขาไม่สามารถผ่านโล่วงกลมที่แน่นหนาไปได้ เป็นเพราะการโจมตีของเขามุ่งเน้นไปที่พื้นที่โค้งส่วนนอก แต่ถ้าเขาโจมตีส่วนในแทนเล่า?
ประกายสว่างฉายผ่านนัยน์ตาเขา ทันใดนั้นเขาแนบร่างชิดกับโล่ปราณป้องกันของคู่ต่อสู้ทันที
หมัดซ้ายของเขาสะสมระลอกคลื่นพลังนับไม่ถ้วนและประทับใส่โล่วงกลมทันที
เป๊าะ!
ระลอกคลื่นพลังของถังเทียนทำได้สำเร็จ มีรอยแตกเล็กๆเกิดขึ้นในแนวป้องกันของคู่ต่อสู้ เหตุนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ดังนั้นบุรุษร่างใหญ่คิดว่าการโจมตีต่อเนื่องในปัจจุบันของถังเทียนจบแล้ว แต่ครั้งนี้มือของขวาของถังเทียนยื่นเข้ามาคว้าหมัดของบุรุษร่างใหญ่ไว้ได้
แววดีใจพาดผ่านนัยน์ตาถังเทียน
สำเร็จ!