ตอนที่ 160 สำเร็จ
ยานโดยสารกำลังเข้ามาใกล้ทุกที บนยานมีสัญลักษณ์โดดเด่น แต่ถังเทียนและพวกที่เหลือไม่รู้จัก ถ้าตามบรรทัดฐานถือว่าเป็นพวกระดับสูงโอ่อ่าและวิธีที่เดินทางมาก็เหมาะกับเป้าหมายของพวกเขามากที่สุด
โดยไม่มีความลังเลใจ เมื่อยานโดยสารปรากฏ คนแรกที่เปิดฉากก็คือหลิงซิ่ว
เมื่อเผชิญหน้ากับยานโดยสารที่บินต่ำลงมา หลิงซิ่วกำลังตั้งใจจะสู้ให้ถึงที่สุด ตาสีส้มของเขามีประกายไฟลุกโชน ผมสีน้ำเงินของเขาพริ้วไสวอยู่ในสายลม
ทุกคนกระทืบเท้าอย่างรุนแรงและกระโจนขึ้นไปในอากาศ พอถึงช่วงกลางเขาบิดนิ้วของขา และหอกก็บินออกไปทันที นี่คือทักษะของเขาเอง และทักษะเหล่านี้ทั้งหมดจุดประสงค์ก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงร่างกายที่อ่อนแอเปราะบางของเขา
หอกเป็นเหมือนธนูที่หลุดออกจากแล่ง ร่างของเขาเบาเหมือนใบไม้ ขณะที่ตามหอกที่พุ่งออกไป
ร่างของเขาพุ่งตามหอก ขณะที่หอกร่อนไปตามลมอย่างสง่างาม
ในเขตสายตาของพวกเขา ขณะที่ยานขยายใหญ่ขึ้นทุกที ความตั้งใจต่อสู้เผาผลาญจนถึงระดับจะปะทุออกมาเหมือนลาวาร่างสง่างามของเขาในอากาศ เปล่งแสงวาบทันทีเหมือนฟ้าผ่า
“ฆ่า!”
เมื่อเสียงของเขากึกก้อง ทั่วทั้งท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวที่ร่วงลงมาเหมือนสายฝนคลุมไปทั่วทั้งยานโดนสาร
หอกเปล่งเสียงและมีพลังน่ากลัวนัก
“บังอาจนัก!” เสียงที่โมโหโกรธเกรี้ยวดังออกมาจากยานทันที ทันใดนั้นร่างใหญ่มหึมาปรากฏต่อหน้ายานทันที ตลอดท้องฟ้าเต็มไปด้วยรัศมีเยือกเย็นแต่สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปสักนิด
เขารวบหมัดและปล่อยออกด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง หมัดของเขาเคลื่อนไหวตลอดแค่เพียงพริบตาก็มีขนาดเท่าขวด
บุรุษร่างใหญ่ตะโกนและปล่อยหมัดออก
รังสีหมัดขนาดขวดเหล้าสีแดงพุ่งออกมาและพองตัวในกลางอากาศทันทีส่งเสียงหวีดหวิวน่ากลัวพุ่งเข้าใส่หลิงซิ่ว
หลิงซิ่วรู้ว่าเป็นหมัดที่ทรงพลัง พวกเขาแข็งแกร่งเหมือนที่คาดไว้...
แต่....
ชั้นรัศมีบางๆ ลุกพรึ่บอยู่ในดวงตาของหลิงซิ่ว ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง แต่ก็ยังค่อยๆ กระตุ้นความตั้งใจต่อสู้ของเขา ตลอดทั้งร่างของเขาร้อนขึ้น ยกเว้นเหล็กเย็นกับนิ้วมือของเขา
เขาต้องไม่ลืมภารกิจ
เสียงแค่นเยือกเย็นดังออกมาจากปากของเขา นิ้วทั้งห้ากำรอบท้ายหอกแล้วปั่น หอกเหล็กหมุนเป็นวงและรังสีเยือกเย็นที่ล้อมรอบก็หายไป
ปลายหอกจุดประกายด้วยรังสีเยือกเย็น เกิดประกายสว่างกว่าดวงดาวที่สว่างในท้องฟ้ามืดมิดเสียอีก
หอกเล่มเดียวระดมแทงใส่รังสีหมัดขนาดมหึมา!
บุรุษร่างใหญ่หรี่ตา แววประหลาดใจปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา เขาไม่เคยคาดเลยว่าวิชาหอกของฝ่ายตรงกันข้ามจะลึกลับมาก แต่หมัดของเขาก็ไม่ได้พ่ายแพ้
ซู่...
ปลายหอกหายไปทันที แม้ว่ามันจะหายไป แต่ว่าร่างของหลิงซิ่วยังอยู่ตรงนั้น
ไม่ดีแน่
สีหน้าของบุรุษร่างใหญ่เปลี่ยนไป
หลิงซิ่วแทงไปตรงช่องว่างข้างยานโดยสารรังสีหอกเยือกเย็นแหลมคมพุ่งไปเหมือนอัศวินโบราณ
หลิงซิ่วงามสง่ามากยามเคลื่อนไหวในอากาศก่อนนี้ แต่ขณะนี้เขาเป็นเหมือนไฟร้อนแรงที่ถูกลมพัดกระพือแรงกล้าทุกส่วนในร่างกายเขามีเปลวลุกโชน แม้แต่หอกเหล็กดำก็พลอยลุกไหม้ไปด้วยพร้อมปลดปล่อยพลังความร้อนที่น่าทึ่ง
ความก้าวหน้าที่เลิศล้ำนัก
บุรุษร่างใหญ่ไม่รู้ว่าทำไมใจของเขาจู่ๆ ก็ผุดวลีนี้ขึ้นมา
ปัง!
เหมือนกับดาวตกวิ่งกระแทกใส่จุดตาย หอกกระแทกใส่ยานโดยสาร
ชิ้นส่วนยานแตกทันที เป็นปราณที่ทรงพลังเหลือเกิน ที่สำคัญตัวยานโดยสารหนาและแข็ง แต่ก็ยังแตกทำลายได้ เสียงด่าและร้องด้วยความโกรธดังออกมาจากภายในยานโดยสาร เกิดความยุ่งเหยิงขณะที่ยานโดยสารสูญเสียการควบคุมและบินไปอย่างไร้ทิศทางในอากาศ
“โจรร้าย! ตายเสียเถอะ!”
บุรุษร่างใหญ่ตะโกนด้วยความโกรธ เขาตีลังกาและกระโจนเข้าหาหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วไม่สนใจมองดูผลงานของเขา เป็นไปตามแผน เขาไม่ลังเล ขณะที่เขาหมุนตัวรับหอกก็มุ่งหน้าสู่หุบเขา ร่างของเขาแนบติดอยู่หอก
ในชั่วพริบตา เขาบินไปไกลเกินกว่าสามสิบเมตร
บุรุษร่างใหญ่ไม่คิดว่าหลิงซิ่วจะหลบหนีไปอย่างเร่งร้อนทันที เมื่อตั้งหลักได้ ก็ยิ่งโกรธแค้น ไอ้แพนด้าหน้าโง่นั่น วันนี้เจ้าไม่รอดแน่
บุรุษร่างใหญ่คำราม เขากางแขนออกเหมือนอินทรีสยายปีก แล้วพุ่งไปที่หลิงซิ่ว
ทั้งสองยังทอดระยะห่างกัน
ยานโดยสารกำลังจะร่วง
หลังจากนั้นก็มีร่างที่ตระหนกตกใจโดดลงมาจากยาน
“ลุย!”
ถังเทียนและอีกสามคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน
ในท่ามกลางกลุ่มผู้คน มีบางส่วนวิ่งเขามาด้วยความตั้งใจป้องกันตัว
ถังเทียนพิจารณด้วยประสบการณ์ เมื่อเขาเห็นบุรุษที่ขวางหน้าเขามีแววตื่นเต้นอยู่ในดวงตา เขารู้ว่าคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่ง
ถังเทียนยังลอยอยู่ในอากาศ กะระยะแล้วจึงวิ่งเข้าหา
นัยน์ตาฝ่ายตรงข้ามแสดงความสุขใจทันที โอกาสดีอย่างนั้น ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เขาเริ่มลงมือทันที มีดเหล็กกล้าในมือของเขามีประกายรังสีเยือกเย็นฟันใส่ถังเทียน ว่ากันถึงระยะห่างนั้นเขาประเมินผิด จะมีช่วงเวลาที่เข้มงวดเป็นโอกาสดีให้ฉกฉวยเสมอ
รังสีดาบใช้ออกได้อย่างสมบูรณ์ เหมือนกับอสรพิษพ่นพิษ
ขณะนั้น ร่างของถังเทียนขยับหลบดาบเฉียดฉิวเพียงปลายเส้นผม
เขาฉวยโอกาสที่เขาอยู่ด้านหลังมีดเหล็ก ปลดปล่อยพลังร่างกระเรียนของเขา
ปุ
เหมือนกับสายฟ้าฟาด ฝ่ายตรงข้ามแหงนหน้ากระอักโลหิต ถังเทียนประทับฝ่ามือใส่ร่างเขาและฉวยโอกาสลอยตัวเข้าหาแนวป้องกันของคน
ถังเทียนยังนับว่าโชคดี ขณะที่ปิงและกรงเล็บภูตพรายต่อสู้อย่างยากลำบาก
ถังเทียนเพ่งความสนใจภายใน เขาตระหนักได้ถึงเป้าหมายที่มีค่า ในมือของผู้คุ้มกันสตรีกำลังอุ้มเด็กหญิงที่เม้มปากเต็มที่คนหนึ่ง
ในพริบตา ถังเทียนสังเกตได้ว่า เป้าหมายต้องเป็นคนสำคัญ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงนี้เป็นใคร แต่ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย เขายังคงเข้าใจเรื่องนั้น
เมื่อเห็นหญิงผู้คุ้มกันเด็กหญิงน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นตัวประกันสำคัญ ถ้าเขาชิงตัวเธอได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่ากลุ่มนั้นจะไล่ตามพวกเขา
ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น ถังเทียนลงมือทันที เขามาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คุ้มกันหญิง
ผู้คุ้มกันสตรีผู้นี้ร่างสูงใหญ่ ผมทองรวบมัดผมหางม้า ในมือนางถือกระบี่ยาวบ่งบอกถึงพลังของนาง
นางสังเกตถังเทียนที่สวมหน้ากากลิงอุรังอุตังตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ดังนั้นเมื่อเขาปรากฏตัวหน้านาง นางจึงไม่ประหลาดใจ กระบี่ยาวในมือนางสั่นและกลีบดอกไม้สามดอกบานออกพร้อมกับฟันกระบี่ใส่ถังเทียน
บุปผากระบี่สีชมพูดูน่ารักมาก แต่ในช่วงเวลานี้ มันกลับเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เห็นได้ชัดว่าวิชากระบี่ของผู้คุ้มกันหญิงนั้นเคร่งครัดมาก การควบคุมกระบี่ทำเหมือนกับที่ระบุไว้ในตำราทั้งวิธีจู่โจมใส่ถังเทียน จึงยังไม่พอ
หลังจากการต่อสู้ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงมาแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ถังเทียนต่อสู้ เขาจะไม่มีความปราณีแน่นอนและจะใช้ทุกวิธีการในการต่อสู้
มือของถังเทียนสั่น
วังวนกระเรียนขาว!
วังวนกระเรียนขาวที่คมเป็นเหมือนมีดใบพัดที่ปั่นด้วยความเร็วสูง ดูเหมือนวังวนกระเรียนขาวแทบจะบดบังสายตานาง
แววตื่นตระหนกปรากฏอยู่ในดวงตาของผู้คุ้มกันสตรี แต่นางรีบสงบจิตใจอย่างรวดเร็ว ปลายกระบี่ของนางแทงออกอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว
ถังเทียนประหลาดใจ วิชากระบี่ของผู้คุ้มกันสตรีนับได้ว่าแข็งแกร่ง นางยังคงใช้กระบวนท่าอย่างเคร่งครัดเห็นได้ชัดว่านางไม่รู้วิธีต่อสู้ ถังเทียนสังเกตเพิ่มอีกอย่าง ผู้คุ้มกันสตรีปกป้องเด็กหญิงมากกว่าจะปกป้องตัวนางเอง
ถังเทียนน่ากลัวมากในการต่อสู้
คำพูดของปิงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสนุกแน่นอน ถังเทียนที่อยู่ในการต่อสู้มักจะแสดงระดับสติปัญญาในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาออกมา สัญชาตญาณของเขาแหลมคม น่ากลัวมาก รายละเอียดทุกอย่าง เขามักนำมาใช้ได้เสมอ
ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่า เด็กหญิงน้อยสำคัญต่อเยี่ยนเซี่ยมาก
ในพริบตา เขาตัดสินใจลักพาตัวเด็กหญิงตัวน้อย
ไวเท่าความคิด ร่างถังเทียนหายไป เขาซ่อนตัวอยู่หลังวังวนกระเรียนขาวของเขา
สตรีมือคุ้มกันรู้สึกได้ทันทีว่าพลังแล่นมาตามปลายกระบี่ของนาง แต่สายเกินไปพลังระเบิดออกไปจนกระบี่นางเบนออกไป ก่อให้เกิดความผิดพลาดและถังเทียนก็โฉบมาเหมือนสายฟ้า
มือคุ้มกันสตรีแตกตื่น นางปล่อยกระบี่ทันทีและตีศอกใส่ถังเทียน
ถังเทียนประหลาดใจ การใช้ศอกโจมตีไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญแน่น ผู้หญิงคนนี้เรียนรู้การต่อสู้ระยะประชิดมาด้วยแต่ร่างของถังเทียนไวกว่าที่นางคาดและในช่วงเวลานี้เองมือของเขาก็ป้องกันศอกของคู่ต่อสู้ไว้ได้พร้อมกันนั้นเขาปล่อยหมัดขวาใส่อกที่นุ่มของนาง
แม้ว่าจะมีเกราะป้องกัน แต่พลังของถังเทียนก็แข็งแกร่งมากและทำให้นางตัวแข็งเพราะความเจ็บปวด
ถังเทียนฉวยโอกาสชิงตัวเด็กผู้หญิงทันทีทำให้ผู้คุ้มกันหญิงมีสีหน้าแตกตื่น แต่ถังเทียนไม่ให้โอกาสใดๆ แก่นางเขาโดดลงมาโดยไม่ลังเลใจ
ทันทีที่ก้าวลงพื้น เขาตะโกนทันที “หนี!”
ฉัวะ!
ปิงและกรงเล็บภูตพรายถอนกำลังทันที คนหนึ่งไปทางซ้ายคนหนึ่งไปทางขวาแยกย้ายกันหลบหนี
ถังเทียนอุ้มเด็กหญิงน้อยวิ่งเตลิดเข้าป่าเสียงตะโกนและเสียงฝีเท้าดังไล่หลังเขามาตลอด ถังเทียนรีดพลังของเขาออกมาทั้งหมด ภายใต้ภูมิประเทศกันดารซับซ้อนของป่าช่วยเขาได้มากสัญชาตญาณสิบแปดเท่าทำให้เขารู้ตรงไหนมีสิ่งกีดขวาง ตรงไหนมีอันตราย
เขาเป็นเหมือนลิงอุรังอุตังที่คล่องแคล่ววิ่งเข้าไปในป่า ทั้งที่ยังอุ้มเด็กหญิงน้อยที่ยังลืมตากว้างซอกแซกมองหน้ากากลิงอุรังอุตังด้วยความอยากรู้
แต่ทหารที่ไล่หลังตามเขามา ไม่มีทีท่าว่าจะถอดใจเลิกตาม พวกเขาไล่ตามมาอย่างไม่เลิกรา
แผนการสำเร็จ
จิตใจของถังเทียนมีความสุขท่วมท้น ตราบใดที่พวกเขาติดตามเข้าไปในป่าลึก ถ้าพวกเขาต้องการจะออกจากป่า พวกเขาจะต้องเสียเวลามาก หรือบางทีอาจจะออกไปไม่ได้เลย
ถังเทียนตระหนักได้อย่างรวดเร็ว่าพวกเขาไม่มีทางไล่ตามเขาทัน
เพื่อไม่ให้ทิ้งพวกเขาห่างเกินไป บางครั้งถังเทียนก็จงใจหยุดพักผ่อน
หลังจากหนีมาหนึ่งวันเต็ม ก็ตกกลางคืนทั้งป่ากลายเป็นน่ากลัวมากขึ้น ทหารที่คอยติดตามไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้ แต่ความเร็วของพวกเขาช้าลงกว่าแต่ก่อน ทำให้ถังเทียนต้องหยุดพักเป็นเวลานาน
ความมืดไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อถังเทียน เขาไม่ต้องใช้ตาก็สามารถหลบสิ่งกีดขวางและอันตรายได้แต่คนอื่นที่ตกอยู่ในความมืดรู้สึกว่าป่าที่มีความซับซ้อนอยู่แล้วกลายเป็นที่อันตรายมากขึ้นและน่าหงุดหงิดยิ่งขึ้น
การหนีจนถึงเช้าวันต่อไปทำให้เขาเกือบคลาดเคลื่อนไปจากแผน ตามสถานการณ์ปัจจุบันเขาไม่จำเป็นต้องใช้กรงเล็บภูตพรายเพื่อช่วยเขาจัดการทหาร
ถังเทียนมีความสุขเหลือจะกล่าว ความสำเร็จอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว
ทันใดนั้น เด็กหญิงน้อยที่อยู่บนหลังของเขาเริ่มดิ้นรนสุดแรงของเธอ