ตอนที่แล้วตอนที่ 158 พลังใจของหลิงซิ่ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 160 สำเร็จ

ตอนที่ 159 วางแผน


เยี่ยนเซี่ยกวาดรายงานออกไป และพูดอย่างเย็นชา “ดูเหมือนสาวน้อยจะฉลาดกว่าที่เราคิดนะ”

รายงานถูกส่งมาโดยคนสองสามคน และหน้าตาของเขาน่าเกลียด

สั่วกวงพึมพำกับตนเอง “ผู้เฒ่าหวีเบื่อหน่ายชีวิตเสียแล้ว เขากล้าเข้ามายุ่มย่ามหลายเรื่อง เขาพยายามจะทำอะไร?”

“เขาไม่เต็มใจจะถูกทอดทิ้ง” กงอี้ซิ่วคำราม “แม้ว่าผู้เฒ่าหวีจะไม่ได้ทรงพลัง แต่เขาเป็นคนเก่าคนแก่  เขามีความอาวุโสและความน่านับถือ  ด้วยพลังของคนพื้นเมืองทั้งหมดในดาวไพรมายาที่มีต่อคณะปกครองสิ่วซื่อของเรา  พวกเขาตั้งใจจะต่อต้านเราแน่แท้  ถ้าเขาสามารถติดต่อกับตระกูลอื่นๆ ในตอนนี้ได้  อย่างนั้นเราได้กินเต่าแน่ ตระกูลใหญ่ๆ ระดับสูงจากดาวไพรมายา  แม่นางคนนี้เข้มแข็งมาก  นางเลือกคนมีชื่อเสียงเหล่านี้  นั่นนับเป็นทางเลือกที่ดีแล้ว”

“อย่างนั้นตอนนี้เราจะทำยังไง?”  อูหนานขมวดคิ้วถาม  “ถ้าเวลาผ่านไปแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่  ต่อให้นายท่านมาเอง  ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยให้สงบลงได้”

เขาเป็นคนพูดหยาบคาย แต่ไม่มีใครพูดอะไรได้

พลังคนพื้นเมืองของคนในดาวไพรมายาแข็งแกร่งกล้าแข็ง  ขอเพียงพวกเขาเข้าใจ พวกเขายอมอยู่ภายใต้การปกครองขององค์การวิญญาณมืด  ดังนั้นเมื่อผ่านไปสองสามปี  ทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างกลมกลืน  แต่ตอนนี้ที่เยี่ยนเซี่ยและพวกกระทำการด่วนได้เกินไปหน่อย  จึงเป็นข้ออ้างของคนพื้นเมืองแต่ถ้าพวกเขายอมวางมือเรื่องอาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้  ทุกคนคงไม่ถูกขับไล่

ทั้งสามคนมองดูเยี่ยนเซี่ย เขาเป็นหัวหน้ากลุ่มเล็กๆ ทุกคนมีความเสียใจ พวกเขาไม่ควรส่งจดหมายไปให้ตระกูลกู้ พวกเขาคิดว่าถ้าพวกเขาใช้ชื่อของคณะปกครองสวี่ซื่อ  ตระกูลกู้คงไม่กล้าตอบโต้ ก็แค่อาวุธจักรกลชิ้นหนึ่ง  แม้ว่าจะเห็นได้ยากก็ตาม แต่เป็นเพราะเรื่องความเกลียดชังที่มีต่อคณะปกครองสวี่ซื่อพวกเขาคงไม่ทำอะไรโง่ๆ เพื่อส่งอาวุธจักรกลให้พวกเขาเป็นแน่

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า กู้เสวี่ยจะโต้ตอบเขาได้ขนาดนี้

แววอำมหิตปรากฏผ่านในดวงตาเยี่ยนเซี่ย “ถ้าเราจัดการเร็วขึ้น และลงมือก่อนผู้อาวุโสหวี่จะมาถึง  ทันทีที่มันตกมาอยู่ในเงื้อมมือเรา  อำนาจในการดำเนินการก่อนจะตกเป็นของเรา  ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรตามมา?”

สั่วกวงกล่าว “ข้ารู้จักเส้นทางที่เราสามารถใช้ได้ แต่ไม่ใช่ทางเดินที่ดีแล้ว อย่างมากเราสามารถประหยัดเวลาไปได้ครึ่งวัน”

“ไป! ออกจากยานกันเถอะ” เยี่ยนเซี่ยสั่งโดยไม่ลังเล เขาหันหน้าไปสั่งการ “ยานขนส่งช้าเกินไป”

พวกเขาสี่คนทะยานออกมาจากยานโดยสาร และลงที่ป่าทึบข้างล่าง

※※※※

เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของสัญชาตญาณหลายเท่าฉับพลันของถังเทียนปิงได้วางแผนการฝึกฝนใหม่ สำหรับการฝึกแผนใหม่นั้นง่ายมาก ปิงเพิ่มความยากของห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง

ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงยังคงได้รับการปรับแต่งอย่างยากลำบาก...

ถังเทียนผู้กำลังจ้องดูอย่างเหลือเชื่อ เขาถูกเตะในห้องที่ปิงเพิ่งปรับระดับความยากใหม่ ดังนั้นจึงเริ่มต้นการฝึกฝนที่ยากลำบากและร้ายกาจครั้งใหม่ต่อไป

ถังเทียนสงสัยว่าเจ้าหุ่นกระป๋องทั้งสิบแปดตัวคงคิดหาทางล้างแค้น  พวกมันไม่มีความสุภาพ มีแต่ใช้แรงลุยอย่างเดียว แม้ว่าสัญชาตญาณของถังเทียนจะเพิ่มขึ้นสูงถึงสิบแปดเท่า  แต่เขาก็ยังถูกกดดันไล่ต้อนจนเขาอึดอัดแทบตาย

แต่เขาต้องบอกไว้ก่อนว่า  วิธีการฝึกฝนของปิงใช้ได้ดี  เจ้าหุ่นกระป๋องทั้งสิบแปดตัวเข้าใจถึงรูปแบบการต่อสู้ของถังเทียนมากยิ่งขึ้นและด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น พวกมันสามารถข่มถังเทียนได้อยู่หมัด

การฝึกฝนเหมือนตกนรกแบบนั้นในเวลาสั้นๆ ทำให้สัญชาตญาณของถังเทียนถูกรีดจนเหือดแห้งในระยะเวลาสั้นๆ

ในที่สุดก็สามารถผ่อนคลายได้ ถังเทียนสามารถออกมาจากการดิ้นรนเหมือนตกนรกมามองดูแสงตะวันได้อีกครั้ง  เมื่อเขาสามารถอาบแสงอาทิตย์ได้ในที่สุด  เขาเกือบจะร้องไห้ด้วยความยินดี  เห็นได้ชัดว่าแค่ประสบการณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถังเทียนรู้สึกว่าเขาต้องใช้ความพยายามเป็นเวลานาน

แสงตะวันทำให้ผู้คนรู้สึกสบายได้จริงๆ

เพื่อฉลองการหลบหนีจากขุมนรกที่ทรมาน ถังเทียนตัดสินใจพักหนึ่งชั่วโมงเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย  เขาเดินไปรอบๆลานบ้านอย่างไม่มีจุดหมาย  หลิงซิ่วอยู่ที่นั่นกำลังฝึกวิชาหอกของเขาอย่างเต็มฝืน ถังเทียนตระหนักได้ว่าวิชาหอกของหลิงซิ่วก้าวหน้าในระดับน่าทึ่ง

ทันใดนั้นเขาคิดถึงเทวรูปห้ามุทราทำให้สัญชาตญาณของเขาก้าวหน้า หลิงซิ่วจะมีความก้าวหน้ามากเพียงไหน?

ถ้าเป็นมุทราสราญรมย์  อย่างนั้นก็ควรเป็นพลังใจ  แต่พลังใจจะทำให้ก้าวหน้าได้อย่างไร?และตั้งแต่วันนั้น มุทราสราญรมย์ส่งผลสะท้อนบางอย่างให้หลิงซิ่ว

สำหรับถังเทียนแล้ว  หลิงซิ่วเป็นคนหัวรุนแรงมาก พอใช้เวลาหน่อยก็ระเบิดอารมณ์เสียแล้ว  แม้ว่าเจ้าหมอนี่จะพูดคุยถึงเรื่องความเป็นธรรมหรือไม่ก็ตาม  แต่ถังเทียนรู้สึกว่าเจ้านั่นเหมาะกับงานโจรปล้นฆ่า และเผามากกว่า

คนแบบนี้กลับสะท้อนผลตอบรับกับมุทราสราญรมย์ที่สง่างามได้  มันแปลกมาก

เว้นเสียแต่พลังใจของเจ้าเด็กผู้นี้แข็งแกร่งมากอย่างนั้นหรือ?

ถังเทียนยอมรับว่าพลังใจของเขาไม่อ่อนแอแน่นอน เพียงแต่ว่าผลสะท้อนของมุทราสราญรมย์ของเขาไม่อาจเทียบได้กับหลิงซิ่ว

ประหลาดมาก...

ถังเทียนคิดอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นก็ตัดสินใจโยนความสงสัยทิ้งไว้เบื้องหลัง เป็นเรื่องยากที่เขาจะหาเวลาพักได้สักชั่วโมงและต้องเสียมันไปกับเรื่องของหลิงซิ่ว ถังเทียนไม่เห็นว่าน่าสนุกเลยแม้แต่น้อย

เจ้างี่เง่านั่นทำเราเสียเวลาไปตั้งสิบนาที!

ถังเทียนสบถในใจขณะที่เขาเดินก้มหน้าออกมา

ขณะที่เขาเดินออกมาจากลานฝึกของหลิงซิ่ว ถังเทียนก็ได้ยินกู้เสวี่ยและเมอเรย์ปรึกษากันอยู่เงียบๆ ทันที  อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณที่เพิ่มขึ้นทักษะการได้ยินของถังเทียนโดดเด่นมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

“คณะปกครองสวี่ซื่ออยู่ห่างจากที่นี่แค่ไหน?”  กู้เสวี่ยถามเมอเรย์

“พวกเขากำลังออกเดินทางมาจากเมืองหมิงหวาง อาจเสียเวลาวันครึ่งกว่าเดินทางมาถึงที่นี่โดยใช้ยานโดยสาร”  น้ำเสียงของเมอเรย์มีแววกังวล  “ผู้เฒ่าหวีและพวกที่เหลือคงจะใช้เวลาสองสามวันกว่าจะเดินทางมาถึง”

กู้เสวี่ยกัดริมฝีปาก  “เราต้องหาทางถ่วงเวลาพวกเขา  วิธีนั้นผู้เฒ่าหวีจะสามารถรับมือพวกเขาได้”

“ขอรับ, เราต้องคิดหาวิธีการ” เมอเรย์เห็นด้วย

พวกเขาคาดไม่ถึงว่าการปรึกษาแผนการของพวกเขาจะได้ยินมาถึงหูของถังเทียน  หลังจากฟังอยู่ชั่วครู่  ถังเทียนก็ตระหนักได้ถึงปัญหา  คนช่วยเหลือกู้เสวี่ยกำลังเดินทางมาต้องใช้เวลาสามวันกว่าจะมาถึง ขณะที่คณะปกครองสวี่ซื่อใช้เวลาวันครึ่งก็จะมาถึง  กู้เสวี่ยพยายามคิดหาวิธีจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง

ถังเทียนถอยออกมาเงียบๆพยายามนึกหาวิธีการที่สวยหรูทันที

“นี่ปิง! ถ้าเราเริ่มต้นลอบโจมตี  ลุงคิดว่าเราจะสามารถถ่วงเวลาคณะปกครองสวี่ซิ่วได้ไหม?”  ถังเทียนถามความเห็นปิง

ปิงเข้าใจทันทีว่าถังเทียนมาจากไหนเขาเริ่มคำนวณและไตร่ตรองด้วยความคิดอย่างมืออาชีพ  “ถ้าเราแค่ต้องการถ่วงเวลาพวกมัน  เราก็ต้องเตรียมตัว  เราสามารถทำได้”

ในฐานะเจ้ากรมศึกษาของกองทัพ  เรื่องหลักสูตรสงครามขนาดเล็ก  เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขา

“เจ้า, ข้า, หลิงซิ่ว, กรงเล็บภูตพราย  เราต้องมีแผนที่และถนนเพียงสายเดียวที่เราสามารถซุ่มโจมตีพวกมันได้  เราจำเป็นต้องปลอมตัว ก่อนอื่นเราจะวางแผนเส้นทางหลบหนีและสถานที่ซ่อนกรงเล็บภูตพรายจะคอยระวังหลัง ถ้าเขาถูกทำลาย เราจะสูญเสียมาก เจ้าจะไม่สามารถใช้แก่นพลังวิญญาณเรียกเขาออกมาได้ตลอดเวลาสิบวัน”

ความคิดของปิงชัดเจนมาก  ละเอียดและจัดการได้ดีทำให้ถังเทียนมั่นใจมากขึ้นทันที เป็นไปตามคาด เขาคือมืออาชีพ!

“ไม่มีปัญหา หลิงซิ่วจะไม่มีปัญหาแน่นอน! ถ้าเขาไม่ช่วย ก็หมายความว่าเขาต่อต้านปณิธานของอาจารย์เขา”  ถังเทียนส่ายหัวเลียนแบบเสียงและท่าทางหลิงซิ่ว  “เพื่อคุณธรรม”

“ข้ารู้ว่าเราจะได้แผนที่มาจากไหน”  ถังเทียนพูดทันที “สัมภาระที่อาเสวี่ยเตรียมไว้ให้เราไปทดสอบที่ประตูดวงดาวมีอยู่”

ถังเทียนพบแผนที่อย่างรวดเร็วตามคาด  แผนการยังรวมถึงอีกคนหนึ่งด้วย หลิงซิ่ว  ถังเทียนมาปรากฏตัวอีกครั้ง เมื่อเขาอ้างวลีว่า“เพื่อคุณธรรม” หลิงซิ่วตอบตกลงทันที

เห็นได้ชัดเจนมาก  หลิงซิ่วมีพลังเพิ่มขึ้นมหาศาลเกี่ยวกับการเข้าสู่สนามต่อสู้ เขายิ่งมีความกระตือรือร้น

“พวกเขากำลังออกมาจากเมืองหมิงหวาง และมาโดยเส้นทางนี้”  ปิงวาดไปตามแผนที่และชี้  “พวกเขาอยู่ในยานโดยสาร ดังนั้นข้าต้องประเมินระดับความสูงของพวกเขา  ตำแหน่งที่เหมาะที่สุดของพวกเราจะอยู่ตรงนี้”

ปิงชี้ไปที่หุบเขาปากกระเรียน

ถังเทียนหัวเราะ  “ข้าชอบชื่อนั้น”  เมื่อได้เห็นตำแหน่งนั้นมีชื่อกระเรียนอยู่ด้วยถังเทียนรู้สึกสนิทสนมมากขึ้น

ปิงไม่สนใจเขาและยังคงพูดต่อ  “หุบเขาปากกระเรียนมีพื้นที่สูงไม่กี่แห่ง  และนอกจากนั้นภายในหุบเขามีบรรยากาศและอากาศไหลถ่ายเทเหมือนกับข้างนอก หุบเขาภายนอกมีพื้นที่ราบสูงและอากาศแปรปรวนวุ่นวายไม่เหมาะให้ยานลงจอด  พวกเขาจะไม่มีการโจมตีแน่นอนและนั่นคือข้อได้เปรียบของเรา”

“แล้วแผนหลบหนีเป็นยังไง?”  หลิงซิ่วถาม

ถังเทียนหัวเราะ  “ซิ่วซิ่วน้อย เจ้ากลัวเกินไปแล้ว เมื่อเราเพิ่งเริ่มคุยกัน ใจของเจ้าก็คิดเรื่องหนีเสียแล้ว”

หลิงซิ่วเสียดสีเขา  “ถ้าเจ้าเข้มแข็ง  เจ้าอย่าหนีก็แล้วกัน”

ถังเทียนหนังหน้าหนากว่าที่หลิงซิ่วคาดไว้  ขณะที่เขาหัวเราะและตอบ  “คอยดูก็แล้วกัน  ข้าจะทุบเจ้าพวกนั้นเหมือนทุบตีสุนัขให้เจ้าดู”

ไม่มีใครสนใจเขา

เยี่ยนเซี่ยเป็นยอดฝีมืออันดับที่ยี่สิบของดวงดาว  ความลึกล้ำและพลังของเขาทุกคนรู้อยู่แก่ใจดี

“หุบเขาปากกระเรียนมีประโยชน์สำหรับเราในเรื่องทำเล  สภาพป่ารอบเมือบเฮยซานก็ซับซ้อนมากเหมาะอย่างยิ่งสำหรับล่อศัตรูให้ไล่ตามพวกเรา  ตราบใดที่ข้าไม่ได้แยกห่างจากถังเทียนร้อยลี้  ข้าสามารถกลับมาหาเขาได้  จุดนี้ เราสามารถใช้ประโยชน์ได้”

ปิงพูดต่อ“เป้าหมายของเราคือ ถ่วงเวลา เรายังไม่สามารถทำให้พวกเขาสูญเสียเป้าหมายหลักของพวกเขาโดยสิ้นเชิง เพื่อที่ว่าพวกเขาจะยังสามารถมายังตระกูลกู้ต่อได้”

หลิงซิ่วเข้าใจเรื่องนั้นและกล่าว  “นั่นหมายความว่า เราต้องหนี  นอกจากนี้ยังหนีเร็วมากไม่ได้”

“ใช่แล้ว!” ปิงพยักหน้า “พลังของเจ้า แม้ยังเทียบไม่ได้กับเยี่ยนเซี่ยก็ตาม  แต่ถ้าพวกเขาต้องการจะฆ่าพวกเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน”

“นั่นทำให้เราต้องปลอมตัว” ปิงลูบคางของเขา  “เป้าหมายของเราไม่ใช่สู้ตายกับพวกเขาแค่เพียงถ่วงเวลาเพื่อให้เขามาปะทะกับผู้อาวุโสหวี  ดังนั้นเราต้องปลอมตัว”

ถังเทียนมองดูมีความสุข  ขณะที่เขาเอื้อมมือไปหยิบหน้ากากสี่สีออกมา

※※※※

หลิงซิ่วยังคงลูบหน้ากากบนหน้าของเขาอย่างตั้งใจ เขารู้สึกว่านี่อาจเป็นวันที่อัปยศที่สุดในชีวิตของเขากว่าที่เคย ใบหน้าของสวมหน้ากากแพนด้าดูน่ารักและเขาทำท่าว่าจะถอดออก

ถังเทียนปรึกษากับพวกเขา  เขาอ้างว่าเป็นหน้ากากที่เหมาะกับหลิวซิ่วแล้ว  เพราะสีขาวกับดำ มันตัดกันดี

ขาวกับดำ  สีตัดกันดี บัดซบเอ๊ย...

หลังจากเขาเห็นหน้ากากอีกสามใบคือ หน้ากากลิงอุรังอุตัง, หน้ากากม้าและหน้ากากแมวแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นจำใจต้องใช้หน้ากากแพนด้า เขาเปลี่ยนมาใช้อาวุธหอกเหล็กกล้าที่ดูธรรมดา

ถังเทียนทำตัวเป็นเด็กทารกหยิบหน้ากากอุรังอุตังมาสวมและร้องแบบลิงอุรังอุตังทันที  หน้าของปิงนั้นไม่ปกติจึงต้องเลือกหน้ากากม้า เพราะมันเหมาะกับหน้าแบบไพ่ของเขา ขุนพลวิญญาณกรงเล็บภูตพรายจึงต้องสวมหน้ากากแมว  เพราะถังเทียนให้เหตุผลว่า ทั้งเขากับแมวต่างก็ใช้กรงเล็บเหมือนกัน

“พวกเจ้า!  จำแผนหลบหนีได้แล้วใช่ไหม?” ปิงใช้ทัศนคติที่หนักแน่นเหมือนกับทหารที่เข้าสู่สนามรบ

ถังเทียนและหลิงซิ่วผงกศีรษะ

ในขณะนั้นยานโดยสารลำหนึ่งปรากฏต่อสายตาทุกคน

“พวกเขากำลังมา!”

สภาพจิตใจทุกคนเตรียมพร้อมสูงสุด  พวกเขาซ่อนตัวและรอคอยโอกาสลอบโจมตี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด