ตอนที่ 155 วังวนกระเรียนขาว
ตาของตุ๊กตาเรืองแสงดูน่าขนลุกแดงเหมือนทับทิม หน้าที่เป็นศิลาดูมีชีวิตยิ่งดูหม่นหมองกว่าเดิม ถังเทียนรู้สึกว่าเขาเหมือนตกเป็นเป้าหมายของอสรพิษ
ปิงและตุ๊กตาหินอีกสองตัวโผล่มาจากด้านหลัง พลังของตุ๊กตาแข็งแกร่งมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้ และวิชาของพวกมันก็แปลกประหลาดสิ้นเชิงเห็นได้ชัดว่าพวกมันได้เปรียบ
สถานการณ์ของพวกมันได้เปรียบแต่ถังเทียนก็มีวิธีของตนเอง
“กรงเล็บภูตพราย!”
แก่นพลังวิญญาณระดับหกจำนวนสิบเม็ดแลกเปลี่ยนเพื่อเรียกกรงเล็บภูตพรายออกรบ กรงเล็บภูตพรายระดับหกก็ยังทรงพลังอยู่ดี กรงเล็บภูตพรายปรากฏตัวข้างๆ ถังเทียนร่างที่งองุ้มของเขาให้ความรู้สึกที่สบายใจสำหรับถังเทียน
ตาของตุ๊กตาตัวหนึ่งกระพริบแสงสีแดงและช่วงเวลาต่อมาก็หายไปในอากาศ ในเวลาเดียวกันกรงเล็บภูตพรายลืมตาทันทีกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนที่จะหายไปเช่นกัน
ปง!
ดาวตกที่แสงวาววับปรากฏอยู่ในท้องฟ้า
นิ้วที่ผอมแห้งปะทะกับโครงสร้างโลหะ ไม่มีฝ่ายใดเคลื่อนไหว
ในสายตาของกรงเล็บภูตพรายความปรารถนาจะต่อสู้กำลังลุกโชน เขาเสียดสีนิ้วทั้งห้ากับสายลมและสร้างรังสีเป็นประกายจับตาและปล่อยรังสีนั้นพุ่งเข้าหาตุ๊กตาหิน
ตาของตุ๊กตาแดงและเหมือนกับมันจะยิ้มให้สหายเก่า ตุ๊กตาหินคว้าอากาศข้างหน้าของมัน
ทั้งสองฝ่ายเร่งความเร็วขึ้นจนอยู่ในระดับสูงสุด
ถังเทียนระบายลมหายใจ ในบรรดาตุ๊กตาหินทั้งห้าตัวตุ๊กตาลายดอกไม้ให้ความรู้สึกอันตรายกับเขามากที่สุด กรงเล็บภูตพรายล่อหลอกมันทำให้ความกดดันของถังเทียนลดลงถึงครึ่งหนึ่ง
แกกแกก แกก, ถุงมือกระเรียนฟ้าเริ่มจัดรูปทรง เหมือนกระเรียนหดคอรอเวลาทะยานตัว
ถังเทียนไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย แม้ว่ามนุษย์หินเหล่านี้จะมีปราณที่น่าขนลุกและชั่วร้าย แต่ถังเทียนก็ยังกล้า เขาไม่ได้รับผลกระทบจากปราณที่แข็งแกร่งนั้น
พลังปราณเป็นระลอก แต่ถังเทียนไม่รอให้มนุษย์ศิลาเคลื่อนไหว เขากลับย่อตัวลงและพุ่งโจมตี
เป้าหมายของเขาก็คือตุ๊กตาหน้าร้องไห้
ตุ๊กตาร้องไห้ดูเหมือนว่ามันเตรียมจะร้องไห้ มันดูกดดัน สิ้นหวังและมืดมน ในดวงตาแดงของมันเหมือนกับมีทะเลเลือดนรกแดง มีรังสีเลือดกระพริบอยู่ตลอด
ถังเทียนรู้ว่าอารมณ์อย่างนี้ชั่วร้ายและไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
เสียงกระหึ่มของวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ตบใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้
ก่อนหน้านี้ท่าเท้ามีดถานถุ่ยไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับตุ๊กตาหินได้ ดังนั้นถังเทียนจึงตัดสินใจใช้พลังประทับหัตถ์ใหญ่
เหมือนกับว่าตุ๊กตาหน้าร้องไห้จะรู้ว่ามันทรงพลังมันถอยหลังอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเลย
ฝ่ามือพลาดประทับลงกับพื้น แต่ถังเทียนไม่หงุดหงิด ประทับหัตถ์ใหญ่สามารถคุกคามตุ๊กตาหินได้ นี่ทำให้ตาของถังเทียนเป็นประกายเสียงหวีดหวิวดังขึ้นทำลายความเงียบ ตุ๊กตาหินหน้าโกรธลอบทำร้ายเขา
ตุ๊กตาหน้าโกรธรวมมือเปลี่ยนเป็นหมัด แต่หมัดของมันดูแปลก นิ้วหัวแม่มือเป็นเหมือนลิ้นที่เกาะอยู่ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วกลาง แสงสีแดงในดวงตาของมันสว่างวาบขึ้นหมัดนั้นมีระลอกแสงสีแดงและเปลี่ยนเป็นหมัดที่มีรังสีแดงหุ้มเหมือนกับว่าเป็นลูกปืนใหญ่กระแทกเข้าใส่หลังของถังเทียน
ถังเทียนมีประสบการณ์กับการรุมโจมตีมาแล้ว เมื่อเขาถูกโจมตีจากข้างหลัง เขาไม่ตื่นเต้น เขารู้ชัดเจนว่าเขาต้องชนะเขาต้องคิดหาวิธีกำจัดความได้เปรียบของฝ่ายตรงข้าม เขาต้องคิดหาวิธีพลิกสถานการณ์ก่อนที่เขาจะสามารถหาโอกาสคว้าชัยชนะ
อย่างรวดเร็วเขาเตะขาออกและในขณะเดียวกัน ก็ใช้ฝ่ามือซ้ายด้วยประทับหัตถ์ใหญ่โจมตีกลับหลัง
ปัง!
ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่ฝ่ามือซ้ายของเขา พลังปราณทำลายชอนไชเข้ามาในเส้นชีพจรมือซ้ายของเขา ถังเทียนประหลาดใจ แต่เขาใช้พลังร่างกระเรียนของเขาสลายปราณเที่ยงแท้ที่ชอนไชเข้ามาในร่างเขาการยืมพลังจากพลังชนิดนี้ ทำให้เขาปลิวกระเด็นเหมือนกับลูกเบสบอลที่ถูกหวดความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตุ๊กตาหน้าร้องไห้เข้าใกล้เขาทันที
ตาแดงของตุ๊กตาหน้าร้องไห้สว่างวาบ มันรวบนิ้วหัวแม่มือนิ้วชี้ นิ้วกลางและรวบเข้าสร้างเป็นกระบี่แล้วตวัดใส่ถังเทียน
ถังเทียนหรี่ตา จุดแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นที่นิ้วกลางของตุ๊กตาหินหน้าร้องไห้
ควับ!
รังสีกระบี่แดงถูกปล่อยออกมาจากนิ้วกลางของตุ๊กตาหน้าร้องไห้พุ่งเข้าหาถังเทียน
แค่ช่วงเวลาก่อนที่รังสีแดงจะสว่างขึ้น ผมของถังเทียนตั้งชัน เขาปล่อยพลังประทับหัตถ์ใหญ่โดยไม่ต้องคิดอะไร
เขาฝึกฝนมาทั้งวันทั้งคืนไม่เคยย่อหย่อนเขาฝึกประทับหัตถ์ใหญ่ได้ในระดับลึกซึ้งแทบจะถึงระดับเคล็ดสังหาร การถูกคุกคามคราวนี้ทำให้เขาตั้งใจมากกว่าที่เคย จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของเขาเป็นเหมือนดอกไม้เพลิง แต่เป็นเพลิงสีเงิน เงียบและเยือกเย็น
คราวนี้เมื่อใช้ฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างต่างออกไป
ฝ่ามือที่เป็นเหมือนแท่งหินหลักหนักแน่น และมั่นคงเหมือนเหล็ก บนผนึกฝ่ามือมีตราประทับสีแดงสองตรา
ศิลา!
ปราณที่หนาแน่นปกคลุมบรรยากาศในเสี้ยววินาที
ติง
รังสีกระบี่แดงแทงผ่านตราประทับได้สามนิ้วก่อนจะหายไป แต่ผนึกฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ยังส่งเสียงหวีดต่ำกระแทกเข้าใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้
แววหวาดกลัวเลือนลางฉายผ่านตาของตุ๊กตาหน้าร้องไห้ อากาศโดยรอบตัวมันเฉื่อยชาทันที ดูเหมือนมันจะรู้ว่าตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ
มันทำท่ามือเหมือนเดิมและประกบมือเข้าด้วยกันหน้าของมันย้อมด้วยปราณสีแดง
วืดดด!
รังสีกระบี่หนาสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากระหว่างฝ่ามือของมันและปะทะกับฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่
รังสีกระบี่สีแดงทรงพลังแทงเข้าไปในประทับหัตถ์ใหญ่ ขณะที่มันจะแทงทะลุ พอตราผนึกคำว่า “หิน”บนประทับหัตถ์ใหญ่เปล่งแสง ก็สามารถต้านทานรังสีกระบี่แดงทันที
ตราผนึกที่มีคำว่า“หิน” และรังสีกระบี่แดงหมองลงทันที
ตราคำว่า“หิน” เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีโปร่งแสง และใกล้จะหายไปรังสีกระบี่ถูกกระแทกใส่สลายเป็นจุดสีแดงนับไม่ถ้วน
ผนึกประทับหัตถ์ใหญ่ประทับใส่ตุ๊กตาหน้าร้องไห้
ปัง!
ตุ๊กตาหน้าร้องไห้ถูกกระแทกป่นเป็นผุยผงทันที
ตุ๊กตาหน้าโกรธดูเหมือนจะยิ่งโกรธมากขึ้น ดวงตาสีแดงดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์ที่เดือดดาล มันปล่อยหมัดใส่ด้านหลังของถังเทียน
ตอนนี้ถังเทียนอยู่ในสถานการณ์ที่แปลก เหมือนกับว่าการต่อสู้ทั้งหมดอยู่ภายในใจของเขา ปิงกำลังต่อสู้กับตุ๊กตาอีกสองตัว และเขาก็ไม่ได้เสียเปรียบด้วยวิธีที่ง่ายและหมดจด ถังเทียนไม่รู้ชื่อวิชานั้น แต่ในเงื้อมมือของปิง วิชานั้นทรงพลังเมื่อเทียบกับดาบกางเขนเขียวแดง ตอนนี้ปิงยังใช้ออกได้หมดจดกว่า
ปิงไม่เคยสอนวิทยายุทธอื่นให้เขา มีแต่จับถังเทียนโยนใส่ในสภาพแวดล้อมต่างๆเพื่อให้ถังเทียนปรับตัว
มีความคิดอยู่หลายเรื่องที่ปรากฏอยู่ในใจของเขา แต่ตอนนี้ หัวใจของถังเทียนสงบผิดธรรมดา
โดยมิต้องหันศีรษะไปมอง เขาสะบัดนิ้วทั้งห้าที่สวมถุงมือกระเรียนฟ้าอยู่ พลังงานกระเรียนโคจรเข้าถุงมือกระเรียนทันทีร่างกระเรียนที่คมชัดกู่ร้องทันที
เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนใช้ถุงมือกระเรียนฟ้าต่อสู้ เขารู้สึกว่ามีความแตกต่างจากเดิม
วังวนวิหคขาว
ฟิ้วฟิ้ว ฟิ้ว วังวนที่คล้ายกับทอร์นาโดสีขาวส่งเสียงหวีดหวิวแล่นเข้าหาหมัดที่มีรัศมีแดงครอบคลุมราวกับมัจฉาคะนอง
หมัดรังสีแดงถูกดูดเข้าหาวังวนสีขาว
ควั่บ
หมัดรังสีแดงกับวังวนปะทะกันทันทีและในทันใดนั้น รังสีหมัดแดงถูกพลังวังวนสีขาวปั่นอย่างรวดเร็ว หมัดถูกปั่นกระเด็นไปข้างๆและวังวนขาวพุ่งเข้าใส่ตุ๊กตาหน้าโกรธอย่างร่าเริง
และถึงเวลานี้วังวนขาวระเบิดพลังและเสียงหวีดหวิวออกมา ภายในวังวนแฝงไว้ด้วยพลังร่างกระเรียนซึ่งระเบิดออกมาฉับพลัน วังวนขาวแต่ละวงเหมือนใบมีดที่หมุนปั่นด้วยความเร็วสูง
ประกายสีขาวแปลบปลาบทั้งหมดมองดูคล้ายกับนก
และพุ่งเข้าหาตุ๊กตาหินทุกทิศทางอย่างกราดเกรี้ยว
ตุ๊กตาหน้าโกรธกรีดเสียงโหยหวนและใช้วิธีของมันป้องกันประกายวิหคขาวที่พุ่งเข้ามาแต่เนื่องจากมีมากเกินไป จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันได้ทั้งหมด ควั่บ! วังวนที่แฝงด้วยพลังร่างกระเรียนกระแทกใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่อง
การกระทบกระแทกในแต่ละครั้งทำให้ร่างของมันสั่น รูหลุมเริ่มเกิดขึ้นบนร่างของมัน
ตุ๊กตาหินหน้าโกรธเหมือนกับที่ร่อนตะแกรง มันสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้และร่างของมันมีหลุมรูมากมาย
ถุงมือกระเรียนฟ้าช่วยเพิ่มพลังร่างกระเรียนมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้ นอกจากนี้วังวนวิหคขาวยังถูกเสริมพลังด้วยพลังร่างกระเรียนทำให้มันทรงพลังมากกว่าที่ถังเทียนคาดไว้
ในช่วงเวลานั้นเอง ถังเทียนก็เข้าใจได้
ในอนาคตจากนี้ไป เขาจะตั้งชื่อมันว่าวังวนกระเรียนขาว
ถังเทียนไม่ยอมให้ตุ๊กตาหน้าโกรธตั้งตัวได้ แค่ขยับตัวครั้งเดียวเขาก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าตุ๊กตาหินหน้าโกรธและปล่อยพลังฝ่ามือออกไป
ประทับหัตถ์ใหญ่
พลังจากฝ่ามือถูกส่งเข้าไปในร่างของมัน
ปัง! ตุ๊กตาหินหน้าโกรธระเบิดเป็นชิ้นๆ
ถังเทียนยืนรำลึกการต่อสู้อยู่ตรงนั้นเอง เขามีความก้าวหน้าอย่างมากมายแน่นอน เขาไม่รู้สึกประหลาดใจที่สามารถเข้าใจเคล็ดสังหารของวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ได้ สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจจริงๆก็คือพลังที่น่ากลัวของวังวนกระเรียนขาวต่างหาก
ก่อนหน้านี้เขาได้ลองรวมพลังร่างกระเรียนให้เป็นวังวนวิหคขาว แต่เมื่อเทียบกับพลังนี้แล้ว ห่างไกลคนละโลก จุดสำคัญตรงนี้ก็คือถุงมือกระเรียนฟ้า พลังกระเรียนฟ้าต้องแข็งแกร่งเพียงพอก่อนจึงจะสามารถใช้วิธีเร่งศักยภาพจนสูงสุด ขอเพียงอาศัยถุงมือกระเรียนฟ้าและพลังกระเรียนฟ้าเพื่อเพิ่มพลังให้เขา สมบัตินี้ย่อมช่วยเขาเป็นอย่างดี
ดูเหมือนเขาจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวให้คุ้นเคยกับการใช้ถุงมือกระเรียนฟ้า
น่าเสียดายที่ถุงมือกระเรียนฟ้าสามารถสวมใส่ได้แค่เพียงมือ
ถ้าสามารถสวมได้ถึงขา อย่างนั้นเมื่อใช้ร่วมกับพลังร่างกระเรียนท่าเท้าถานถุ่ยจะแข็งแกร่งขึ้นมากเพียงไหน
ถังเทียนหัวเราะ เขาก็เป็นคนโลภเหมือนกัน ด้วยวังวนกระเรียนขาว พลังของเขาจะแตกต่างไปจากเดิม วังวนวิหคขาวเดิมใช้ก่อกวนศัตรูเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้มีพลังในการทำลายล้าง
เขาเริ่มกลับมาสู่ความเป็นจริงช้าๆ ถังเทียนตกใจกับเสียงตวาดกึกก้องสองสามครั้งปิงจัดการกับตุ๊กตาหินสองตัวได้สบายๆ ทางด้านกรงเล็บภูตพรายก็ฝังกรงเล็บทั้งห้าเข้าที่อกของตุ๊กตาหินดอกไม้
ถังเทียนตกตะลึง ส่วนอกของตุ๊กตาหินเหล่านี้แข็งแกร่งมากขนาดถังเทียนใช้ดาบเท้าถานถุ่ยก็ยังไม่สามารถทิ้งร่องรอยลงบนตัวตุ๊กตาหินได้ แต่กรงเล็บภูตพรายสามารถเจาะผ่านได้สบายๆ
ช่างเป็นพลังกรงเล็บที่แข็งแกร่งและเกรี้ยวกราดนัก
ทันใดนั้นถังเทียนเหลือบไปเห็นตุ๊กตาหินหน้าร้องไห้ที่โดนประทับหัตถ์ใหญ่เล่นงาน มีทับทิมแดงเม็ดหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขา
เอ๋? อะไรกันนี่?
เขาหยิบทับทิมแดงขึ้นมา มันคือสีเดียวกับตาของตุ๊กตาหิน ถังเทียนตื่นเต้นในใจ เขารีบวิ่งไปที่ตุ๊กตาหน้าโกรธและเริ่มค้นหา เขาพบทับทิมแดงคล้ายๆ กัน
ในไม่ช้าเขาก็พบทับทิมแดงในตุ๊กตาอีกสามตัวทั้งหมด
ทับทิมทั้งห้าเม็ดวางเรียงอยู่ในฝ่ามือของเขา จู่ๆ ทั้งหมดก็เปลี่ยนเป็นเหมือนแอ่งเลือดและรวมตัวเป็นร่างมนุษย์เลือนลางร่างหนึ่ง
หลังจากนั้นชั้นเลือดชั้นนอกเริ่มลอกออก รูปสลักหินขนาดนิ้วชี้ปรากฏอยู่ที่ฝ่ามือของถังเทียนตาของตุ๊กตาแดงก่ำ บนหน้าผากของมันฝ่ามือซ้ายขวามีดวงตาที่แดงฉาน
รูปสลักห้าตาทำให้ถังเทียนถึงกับผมตั้งชัน
กู้เสวี่ยพอรู้ว่าใครชนะในการต่อสู้จึงรีบเข้ามาทันที เมื่อนางเห็นตุ๊กตาในมือของถังเทียน นางถึงกับสีหน้าเปลี่ยน และอุทานออกมา
“เทวรูปห้าตา”