ตอนที่ 154 รูปสลักหินปีศาจ
ตุ๊กตาหินไร้หัวมีแขนข้างเดียวดูแปลกประหลาดมาก
“เฮ้, ลุง รู้จักหรือเปล่าว่านี่คืออะไร?” ถังเทียนลอบสื่อสารกับปิง
“ไม่รู้”ปิงสั่นศีรษะ แต่เขาประหลาดใจเล็กน้อย “ตุ๊กตาหินนี้ดูเหมือนจะแปลกประหลาด เหมือนกับว่ามีสัญญาณจิตวิญญาณพลังยุทธอยู่ในนี้”
“สัญญาณจิตวิญญาณพลังยุทธ?” ถังเทียนไม่ได้สังเกต เขาสัมผัสตุ๊กตาเห็นด้วยมือเมื่อปิงบอกกับเขาและเขาหลับตาพยายามรู้สึกให้ได้
จิตวิญญาณพลังยุทธอ่อนมาก แต่เป็นจิตวิญญาณพลังยุทธเหมือนพลังปีศาจ... หัวใจถังเทียนเย็นเยือก นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงจิตวิญญาณพลังยุทธที่มืดมนน่าขนลุกและชั่วร้าย จากนั้นเขาจึงรู้ว่าตุ๊กตาหัวขาดแขนเดียวนี้ไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดา
กู้เสวี่ยเพ่งดวงตากลมโตของนางมองดูถังเทียนที่หลับตาอยู่ด้วยความสงสัย นางไม่สามารถบอกได้ว่าตุ๊กตาหินนี้สามารถดึงดูดใจถังเทียนได้อย่างไร
เมื่อนางเห็นถังเทียนลืมตา กู้เสวี่ยถามด้วยความสงสัย“มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับตุ๊กตาหินนี้หรือ?”
“ใช่แล้ว” ใบหน้าของถังเทียนจริงจัง “มันมีจิตวิญญาณพลังยุทธ”
“มีจิตวิญญาณพลังยุทธ?” กู้เสวี่ยตะลึง “ทำไมตุ๊กตาหินถึงมีจิตวิญญาณพลังยุทธได้”
“อืมมมม, เป็นจิตวิญญาณพลังยุทธที่หมองมากน่าขนลุกและชั่วร้าย” ถังเทียนตรวจสอบรอยแผลบนตุ๊กตาหินนี้การกัดกร่อนเสียหายไม่มากเท่าใดนัก มันถูกกัดเซาะมายังไม่นานเกินไปเมื่อคิดถึงคำพูดที่กู้เสวี่ยได้พูดก่อนหน้านั้นที่ว่าสามสิบปีที่แล้วมีคนหลายคนมาที่นี่ ถังเทียนคาดว่าในช่วงเวลานั้นมันคงแตกหักเพราะคนพวกนั้น
ถังเทียนมีความคิดหนึ่งทันที “มาหาดูกันซิว่าจะเจอมือและหัวของมันได้ไหม ตุ๊กตาหินนี้ไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดา”
กู้เสวี่ยสนใจทันที นางพูดโดยไม่ลังเลใจ “อย่างนั้นมาลองหาชิ้นส่วนที่เหลือกันเถอะ ดูที่มือของมันแกะสลักได้สวยมากจริงๆ”
ถังเทียนเหลือบมองและพยักหน้า “จริงด้วย”
แขนที่สมบูรณ์ย่อมสวยงามแน่นอน แม้ว่าถังเทียนจะไม่รู้วิธีชื่นชมงานศิลปะแต่สายตาเขาถูกมือนั้นดึงดูดอย่างช่วยไม่ได้ มันน่าทึ่งจริงๆ
เขายังคงรู้สึกว่าท่าทางของมือพิเศษนี้ไม่ใช่ธรรมดา
เขาไม่อาจระบุได้อย่างแม่นยำแต่สัญชาตญาณที่แข็งแกร่งของเขาเพราะสายตาของเขาก็มองเห็นท่าทางของมือเป็นครั้งแรก ถ้าไม่ใช่เพราะปิงเตือน เขาอาจจะไม่รู้สึกว่ามีกระแสคลื่นของจิตวิญญาณพลังยุทธอ่อนๆอยู่ในตุ๊กตาหินนี้
ถังเทียนและกู้เสวี่ยเริ่มมองหาชิ้นส่วนร่างตุ๊กตาในซากหักพังนั้น
ไม่นานนักกู้เสวี่ยตะโกนอย่างร่าเริงทันที “นี่ไง!”
ถังเทียนมองดูและวิ่งไปทันที เป็นส่วนแขนแน่นอน จากรูปแบบของมัน ดูเหมือนเป็นของตุ๊กตาหินถังเทียนตรวจสอบดู มันเป็นท่าที่แตกต่าง
ทั้งสองวิ่งกลับไปที่ตุ๊กตาหินและพยายามต่อชิ้นส่วนกลับคืน พวกเขาจึงตระหนักได้ว่านั่นเป็นชิ้นส่วนพิเศษ
“ไม่ใช่ของตัวนี้”ถังเทียนยังคงกระตือรือร้น “ดูเหมือนว่ายังมีตุ๊กตาหินเหล่านี้มากกว่าหนึ่งตัว
“เป็นการค้นพบที่น่าทึ่ง” กู้เสวี่ยดีใจ เหมือนกับว่านางได้พบหีบสมบัติใหญ่ หน้าของนางเต็มไปด้วยความยินดีและสงสัย ยิ่งกว่านี้นางพบสมบัตินี้พร้อมกับถังเทียน ไม่มีอะไรอื่นที่ทำให้นางมีความสุขมากแล้ว
“รีบๆ หาดูแถวๆนี้กัน อาจจะมีตุ๊กตาหินอื่นอีก” ถังเทียนมองหาดู ทันใดนั้นเขารู้สึกว่านี่อาจเป็นการค้นพบที่น่าอัศจรรย์
ทั้งสองคนเริ่มหาดูอย่างจริงจัง
“ตรงนี้มีตัวหนึ่ง!”
“ข้าก็พบตรงนี้ตัวหนึ่ง”
…
ทั้งสองคนสุมหัวร่วมมือกันค้นหา เวลาบ่ายผ่านไปทั้งสองคนแทบจะไถพรวนไปรอบๆ พื้นที่ซากหักพังนอกจากส่วนที่ฝังลึกลงไปไม่สามารถเข้าถึงได้ พวกเขาได้ค้นดูในพื้นแทบทุกระดับชั้น
ชิ้นของหักพังที่พวกเขาพบกองเป็นพะเนิน
นอกจากนี้ ทั้งสองคนยังไม่รู้สึกเหนื่อย พวกเขามองดูกองพะเนินนี้เหมือนดูกองสมบัติ ทั้งสองคนเริ่มประกอบชิ้นส่วนด้วยกัน กู้เสวี่ยทำได้ดีกว่าถังเทียนในเรื่องนี้ ด้วยความรวดเร็วถังเทียนมายืนเคียงบ่ามองดู เพราะเขาตระหนักว่า ต่อให้เขาช่วยเขาก็ทำได้ไม่เร็วเท่ากู้เสวี่ย
ตุ๊กตาหินแตกหักทั้งห้าตัวได้รับการซ่อมแซม
แต่เมื่อตุ๊กตาหินทั้งห้าตัวนี้ถูกประกอบเข้าด้วยกัน แม้แต่กู้เสวี่ยก็สามารถบอกอะไรบางอย่างได้ว่าผิดปกติ
“ตุ๊กตาเหล่านี้เป็นของในยุคไหน?” ถังเทียนถามกู้เสวี่ย
“ข้าไม่รู้” กู้เสวี่ยสั่นศีรษะ “มีหลายคนที่แวะมาที่นี่ แต่ไม่มีใครรู้ว่าซากหักพังนี้เป็นของในยุคไหน”
แม้ว่าตุ๊กตาหินทั้งห้าจะหักพังและไม่เป็นระเบียบ แต่เมื่อประกอบเข้าด้วยกันอุณหภูมิโดยรอบตกลงฮวบฮาบ ปราณที่หมองหม่นและน่าขนลุกรายล้อมทั้งสองคนไว้
กู้เสวี่ยหน้าซีดเล็กน้อย
ถังเทียนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เขาผลักกู้เสวี่ยให้มาอยู่ด้านหลังเขา เป็นที่ชัดเจนว่าจิตวิญญาณพลังยุทธในตุ๊กตาเหล่านี้อ่อน แต่เมื่อตุ๊กตาหินทั้งห้าถูกประกอบเข้าด้วยกันปราณของจิตวิญญาณพลังยุทธก็กล้าแข็งทันที
มีบางอย่างผิดปกติ!
ปราณเพิ่มรุนแรงขึ้น ความไม่สบายใจของถังเทียนเพิ่มขึ้นมาก โดยไม่ได้เอาสิ่งอื่นใดเขาคว้าตัวกู้เสวี่ยและเหวี่ยงไปที่ด้านหลังของเขา
เขาคำรามลั่น “ปิง!”
ปิงควบคุมเสือเขี้ยวดาบมาปรากฏตัวด้านข้างถังเทียน กู้เสวี่ยถูกถังเทียนเหวี่ยงลอยจนออกมาอยู่ในระยะห่าง นางรู้ว่าพลังของนางอ่อนและไม่สามารถช่วยอะไรได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องไม่อยู่เกะกะถังเทียน
นางมองด้วยความกังวล
รูปสลักที่หักยังคงแสดงพลังอย่างต่อเนื่อง ปราณหม่นหมองน่าขนลุกและชั่วร้ายยังส่งออกมาเป็นระลอก ถังเทียนมีความรู้สึกว่าตุ๊กตาหินทั้งห้ากำลังจะมีชีวิต
ถังเทียนรู้สึกว่าเหมือนมีบางอย่างกำลังผุดออกมาจากดินร่วนใต้ขาของเขา เขารีบถอยหลังออกไปทันที ควั่บ มีเงาหนึ่งโผล่ออกมาจากดินใต้เท้าและเฉียดเขาไป มันคือหินแตกนั่นเอง
ปัง!
หินแตกหักประกอบเข้ากับตุ๊กตาหิน บังเอิญว่ามันต่อเข้าได้พอดี
ม่านตาถังเทียนหดลีบ แต่เขาไม่มีความกลัว ตรงกันข้าม เขากำลังแผดเผาด้วยความปรารถนา “มองดูตอนนี้ ดูเหมือนเป็นของที่ยากจะจัดการได้”
เสียงของปิงดังออกมาจากเสือเขี้ยวดาบ “ใช้มันฝึกฝีมือ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีอะไรอย่าเรียกข้าออกมาอีก ในฐานะที่เป็นนายทหาร ค่าตัวในการปรากฏตัวของข้าแพงมาก ที่ถูกที่ควรเจ้าควรขอให้กรงเล็บภูตพรายออกมาช่วยสู้แทน”
“ข้าคิดจะประหยัดและค่าใช้จ่ายแก่นพลังวิญญาณให้น้อยลงดีกว่า” ถังเทียนพูดตามตรง “เราจนมาก”
ปิงได้แต่เงียบ
ควั่บ
ชิ้นส่วนที่แตกหักทั้งหมดถูกดูดมารวมกันด้วยแรงดึงดูดที่รุนแรง ราวกับว่าพวกมันพุ่งออกมาจากดินเหมือนพายุฝนและทะลุเข้าไปในตัวตุ๊กตาหินทั้งห้า
รอยแตกและรอยกัดเซาะบนตัวตุ๊กตาหินทั้งห้าหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเศษหินชิ้นสุดท้ายพุ่งเข้ามาประกอบในตุ๊กตาหิน ถังเทียนและปิงเห็นตุ๊กตาหินที่สมบูรณ์ห้าตัวที่ไม่มีตำหนิ
ตุ๊กตาหินทั้งห้าตัวดูเหมือนพวกมันกำลังยิ้มร่างทั้งหมดยืดตัวตรง มือของพวกมันยกขึ้นแบมือออกนิ้วชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า สีหน้าอารมณ์และท่าของมือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
แต่ในพริบตาปราณที่น่าขนลุกมีกลิ่นอายปีศาจจากตุ๊กตาหินทั้งห้าตัวก็ทะลักและระเบิดออกมาเป็นคลื่นปราณทันที
ปราณที่ระเบิดออกมากระแทกใส่ร่างของเขา หัวใจของถังเทียนเต้นแรง ปราณนี้หดหู่และน่าขนลุก เหมือนกับมีหนอนพิษพยายามชอนไชเข้าไปในร่างของถังเทียน
เมื่อเขาใช้ปราณกระแทกออกไป ปราณที่น่าขนลุกก็หายไป วงกลมปราณที่ว่างเปล่าลูกหนึ่งก่อตัวอยู่ใกล้ๆถังเทียน
ตุ๊กตาหินปีศาจทั้งห้าปล่อยกลิ่นอายที่น่ากลัวขนลุกเหมือนกับว่าพวกมันมีชีวิต ถังเทียนอดจับตามองดูพวกมันไม่ได้
ถังเทียนจ้องมองและรู้สึกมึนงง ทันใดนั้นเขาตั้งท่าป้องกันตัวและมีความมุ่งมั่นชัดเจน
หนุ่มน้อยชาวฟ้าหน้าบึ้งและคำรามว่า “พวกแกทั้งห้าเลวมาก บังอาจพยายามสะกดจิตข้า ตายให้หมดซะเถอะ”
ปิงไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนอย่างถังเทียน เหมือนกับว่าเขากำลังเผชิญหน้าศัตรูยิ่งใหญ่ เพียงดูครั้งเดียวเขาก็รู้ว่าตุ๊กตาหินมาจากสถานที่ซึ่งไม่ธรรมดา จิตวิญญาณพลังยุทธในหินแต่ละตัวมีความแตกต่างกันและพวกมันก็ยังมีการเชื่อมโยงอย่างยอดเยี่ยม
ถ้าพลังของเขายังอยู่ในระดับสูงสุด อย่างนั้นก็คงไม่มีอะไรต้องกังวลแต่อย่างใด เขาสามารถทำลายพวกมันทั้งหมดด้วยนิ้วเดียว
แต่พลังของเขาเดี๋ยวนี้....
เขาส่ายหัวเงียบๆ วันนั้น เขาเผลอใช้มีดกางเขนเขียวแดงและจำเป็นต้องใช้เวลาสองสามวันก่อนฟื้นคืนพลังถ้าจะให้ดีเขาควรใช้วิชาที่ทรงพลังอย่างนี้น้อยลง
เขามีประสบการณ์มากมายกว่าถังเทียน ตุ๊กตาห้าตัวเหล่านี้มีอายุย้อนหลังไปไกลแต่ยังสามารถรักษารูปลักษณ์ที่ดูสมบูรณ์ไว้ได้ ตอนนี้พวกมันกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ เรื่องเหล่านี้ไม่ธรรมดาแน่นอน
กลุ่มดาวไหนกันแน่ที่สร้างปราณปีศาจเช่นนั้นออกมาได้?
ปิงไตร่ตรองในใจ จากยุครุ่งเรืองของสามกองทัพจนกระทั่งหายไปหมดในวันนี้ ใจของเขาว่างเปล่า ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของยุคหรือกลุ่มดาวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เขาไม่มีความรู้อยู่เลย
ทันใดนั้น หนึ่งในตุ๊กตาหินลืมตาของมันและยิ้ม หน้าของตุ๊กตาหินคล้ายกับมีผิวของสตรีและมองดูมีชีวิตชีวา
ขณะเดียวกัน ตุ๊กตาหินอีกสี่ตัวก็ลืมตาแต่ละตัวมีสีหน้ายิ้ม, ร้องไห้, หัวเราะ หรือไม่ก็โกรธ
ตุ๊กตาหินกลายเป็นมนุษย์กันทั้งหมด พวกมันผมตั้งชัน
หัวใจของถังเทียนเต้นแรง เขาตะโกนลั่น “เข้ามาเลย!”
“ระวังตัวเองให้ดี!” ปิงตะโกน
วืด!
ถังเทียนผลักฝ่ามือด้วยความแม่นยำ นิ้วเขากางเหมือนกลีบดอกไม้ กลิ่นหอมโชยกระทบจมูกของเขา ถังเทียนรู้สึกว่าเลือดลมพลุกพล่านและขาของเขาอ่อนเหมือนกับว่ากำลังลอยเขาถอยกลับมาสองสามก้าวทันที
จากนั้นตุ๊กตาหินอีกตัวหนึ่งมาปรากฏที่ด้านหลังของเขาโดยไม่มีสัญญาณบอกและชี้มาที่หลังของถังเทียนพร้อมแทงนิ้วออกมาเหมือนกับกระบี่
ถังเทียนรู้สึกแต่เพียงเสียวสันหลังวาบ ผมของเขาตั้งชัน เขาก้มตัวทันทีและรังสีกระบี่สีหม่นพุ่งผ่านหลังเขาไป
ถังเทียนมีปฏิกิริยารวดเร็ว เขาตวัดขาขวาใส่ทันที
เท้าดาบถานถุ่ยพร้อมกับปราณหมอกพุ่งเข้าใส่ศัตรูของเขา
ควั่บ!
ดาบถานถุ่ยกระแทกเข้าใส่ตุ๊กตา แต่คาดไม่ถึงว่าตุ๊กตาหินแค่เพียงขยับเล็กน้อยก็ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด
โธ่เว้ย!
ถังเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าเท้าดาบถานถุ่ยที่คมกล้าของเขาไม่อาจทำร้ายตุ๊กตาหินได้
ควั่บ พลังดรรชนีห้าสายพุ่งเข้าใส่หัวถังเทียน เป็นปราณที่น่าขนลุกจริงๆ นางต้องการจะแทงเข้าไปในสมองของเขา
ถังเทียนสูดลมหายใจลึกและแนบฝ่ามือไว้ที่ท้องน้อยของเขาและลอบสร้างวังวนวิหคขาว
วังวนวิหคขาวนับไม่ถ้วนรายล้อมตัวถังเทียนก่อนที่จะพุ่งออกไปทุกตำแหน่งทันที
ถังเทียนฉวยโอกาสนี้หมอบต่ำหลบพลังดรรชนีของตุ๊กตาหินทันทีที่ล้มสัมผัสพื้น ถังเทียนเด้งกลับขึ้นไปราวกับว่าเป็นธนูที่หลุดจากแล่ง เขาวิ่งออกไป
แต่ ก่อนที่เขาจะยืนหยัดได้มั่นคง ตุ๊กตาเหมือนหินตะปุ่มตะป่ำมีอยู่ทุกที่
ควั่บ!
รังสีดาบขาวสว่างถูกปล่อยออกมาทันที
ปังปัง
ดาบเจ็ดเล่มฟันใส่บนตุ๊กตา ในที่สุดตุ๊กตาหินที่สมบูรณ์ก็มีรอยแผลจนได้
ในที่สุด ถังเทียนฉวยโอกาสนี้สูดลมหายใจและมองดูตุ๊กตาหินนี้อย่างชัดเจน
ม่านตาของเขาถึงกับหดแคบ