Ep.468 - สืบทอดมรดก
1/3
Ep.468 - สืบทอดมรดก
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสันเขามังกร
ณ พื้นที่ห่างไกล
ไดหยุนจง จี้ฉวงและสมาชิกระดับสูงหลายคนล่อมอนสเตอร์ออกมาจากหุบเขา
ศัตรูคือมอนสเตอร์ที่มีลักษณะผสมระหว่างไดโนเสาร์กับค้างคาว ขนาดตัวสมส่วน ทั่วร่างเต็มไปด้วยลวดลายสลับซับซ้อน บนแผ่นหลังมีเนื้องอกออกมาคล้ายปีก แม้ไม่อาจบินสูงเสียดฟ้า แต่ก็ช่วยให้เหาะเหินในระยะทางสั้นๆได้
“วิ่ง!”
“พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”
ปีกอ้วนท้วนของมอนสเตอร์กระพือสร้างใบมีดสายลม สร้างรอยร้าวในอากาศ กวาดตามกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว
มีสองคนหนีไม่ทัน โดนใบมีดสายลมความเร็วสูงเฉือนเข้าเต็มๆ แม้ไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บหนัก แข้งขาหัก ล้มลงกับพื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ใบมีดสายลมสีเขียวก่อตัวอีกครั้งในปากของมอนสเตอร์
การโจมตีด้วยธาตุลมที่ทรงพลังกำลังจะถูกปล่อยออกมา
แต่ในตอนนั้นเอง
แสงสว่างวาบปรากฏขึ้น
ฮังอวี่ใช้หนึ่งกระบี่ล่าแสงฟันเข้าที่กรามของมอนสเตอร์ เบี่ยงทิศทางการโจมตีให้มอนสเตอร์พ่นสกิลพลาดเป้าไปชนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป 200 เมตร
เมื่อสัมผัสเป้า พายุพลันโหมกระหน่ำในรัศมีหลายสิบเมตร ใบมีดสายลมนับร้อยกระจายออกทุกทิศทางด้วยความเร็วสูง ทำลายทุกอย่างในระยะเป็นชิ้นๆ
นี่คือสัตว์ร้ายมังกรวายุคลั่ง มอนสเตอร์เลเวล 16 ระดับทรราชย์ขั้นซิลเวอร์!
หากอยู่ในแคว้นเดียวดาย คงยากที่จะหามอนสเตอร์เลเวลเกิน 15 แต่ในสันเขามังกร มอนสเตอร์เลเวล 16 17 หากตั้งใจดีๆก็หาเจอได้ไม่ยาก!
แน่นอน
มอนสเตอร์ระดับทรราชย์ยังคงเป็นทรัพยากรที่หายาก!
ที่เจอได้เร็วเช่นนี้เพราะฮังอวี่ใช้ประโยชน์จากความทรงจำที่ได้มา หากอาศัยแค่ความสามารถของไดหยุนจกับจี้ฉวง คงแทบไม่มีโอกาสเจอที่นี่
ในเมื่อมาเยือนสันเขามังกรแล้ว ไม่ถือโอกาสนี้ฟาร์มคงเสียเที่ยวแย่ถูกไหม?
ใช้เวลาสองสามวันในการรอคอยให้คุ้มค่าดีกว่า
และโชคของฮังอวี่ไม่เลว มอนสเตอร์ทรราชย์ฟื้นคืนชีพพอดี มันหลับไหลอยู่ในถ้ำ ยังไม่ถูกขุมพลังจากสันเขามังกรล่า
ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยมันไป!
“ร่วมมือกันเร็วเข้า!”
ไดหยุนจงถอนหายใจโล่งอก ทีมของพวกเขา ต่อให้ร่วมมือกันแค่การสู้กับมอนสเตอร์เจ้าถิ่นเลเวล 14 15 คือขีดจำกัด แค่นั้นก็เสี่ยงมากแล้ว และหลังจากเข้ามายังสันเขามังกรเป็นเวลาสามสี่เดือน มอนสเตอร์ระดับทรราชย์ที่เคยเจอสามารถนับได้ด้วยนิ้วมือ
แต่ในเวลาแค่สองวันตั้งแต่รับตัวฮังอวี่ พวกเขากลับได้เจอมอนสเตอร์ทรราชย์มากถึงสี่ตัว!
และนี่คือหนึ่งในสี่!
ตำแหน่งของมอนสเตอร์ทรราชย์แต่ละตัว ไม่ว่าจะในซากปรักหักพังโบราณ หรือซ่อนในที่ลับ ล้วนถูกฮังอวี่หาเจอ!
นี่มันราวกับฝันไปเลย!
ยกตัวอย่างเช่นมอนสเตอร์ทรราชย์เลเวล 16 ตัวนี้ หากมีแค่พวกเขาเจอ คงเรียกได้ว่าหายนะ อย่าแม้จะคิดสู้ ทางเลือกเดียวคือหนี!
ไดหยุนจง จี้ฉวงมีเลเวลแค่ 13 พวกระดับสูงคนอื่นๆในที่นี้ อย่างมากเลเวล 12 เท่านั้น
การต้องสู้กับมอนสเตอร์ทรราชย์เลเวล 16 ไม่มีโอกาสชนะ ต่อให้ยกโขยงกันมากว่า 30 - 50 คน ก็ยังเป็นแค่อาหารมื้อพิเศษของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น
แต่ตอนนี้
เพราะคนตรงหน้าเขาผู้นี้ ทำให้ทุกคนมั่นใจเต็มเปี่ยม และเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ฮังอวี่สั่งให้ไดหยุนจงกับคนอื่น ๆ คอยล่อมอนสเตอร์ไว้ ส่วนตัวเองถือนักฆ่าขุมนรกเข้ากวาดล้างสมุนมอนสเตอร์ในหุบเขา จนขณะนี้เอฟเฟกต์ของสกิลนักฆ่าขุมนรกได้ซ้อนทับกันหลายสิบชั้น ซึ่งหมายความว่าพลังของอาวุธเพิ่มขึ้นหลายสิบเปอร์เซ็นต์
แม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีเลือดข้นและพลังป้องกันสูงก็ตาม แต่ฮังอวี่ก็ยังสามารถสร้างความเสียหายได้มาก
แน่นอน
นี่ไม่เหมือนกับตอนสู้กับมังกรน้ำสีชาด
ครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่แค่ทรราชย์ที่มีเลเวลสูงกว่าฮังอวี่ 1 ขั้น และฮังอวี่ไม่มีอุปกรณ์ที่ช่วยต้านดาเมจธาตุลมติดตัว นอกจากนี้ยังปราศจากไอเท็มพิเศษที่ช่วยลดดาเมจธาตุลม ในกรณีออกล่าเพียงลำพัง จึงมีความเสี่ยงสูงมาก
ไดหยุนจงกับคนอื่นๆแม้ได้กินแค่คำเล็กๆ แต่พวกเขาก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ ผู้ใช้วิญญาณคอยถ่วงเวลาให้ นักบวชสองคนคอยเติมเลือดอย่างต่อเนื่อง
ทำให้สถานการณ์รบมีเสถียรภาพมาก
“จัตุรัสคุกโลหิต!”
“ค่ายกลกระบี่ล่าแสง!”
มังกรวายุคลั่งพยายามกำจัดฮังอวี่ แต่ถูกกักขังรอบด้านด้วยคุกโลหิต ในเวลาเดียวกัน ปราณกระบี่นับร้อยรายล้อมรอบมัน ดาเมจที่เกิดจากค่ายกลสะสมเยอะกว่าพันหน่วย
ขณะเดียวกัน
ฮังอวี่เปิดใช้งานมังกรโลกาวินาศ
มังกรไฟขนาดใหญ่ลอยขึ้นเหนือหัวเขาทันที พ่นการโจมตีอันทรงพลังสามครั้งใส่มังกรวายุคลั่ง ดาเมจแต่ละครั้งสูงถึง 600 - 700 หน่วย ทำดาเมจสะสมเกือบ 2000
ไดหยุนจงและคนอื่นๆ เฝ้ามองด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ!
พวกมันโจมตีทีนึงทำดาเมจหลักเดียวเท่านั้น บางครั้งยังทำลายการป้องกันไม่ได้ด้วยซ้ำ ต่อให้ใช้สกิลโจมตีที่รุนแรงที่สุด ก็ทำดาเมจอย่างมากไม่กี่สิบหน่วย ไม่อาจไล่ตามความเร็วในการฟื้นตัวของมอนสเตอร์ระดับทรราชย์ได้
แต่ฮังอวี่กลับสูบพลังชีวิตนับพันจากมอนสเตอร์ระดับทรราชย์ภายใน 2 3 วินาที!
นี่น่ะหรือคือช่องว่างความแข็งแกร่ง?
“ก้าวล่าแสง!”
“วิถีกระบี่ล่าแสง!”
ฮังอวี่เปิดใช้เทคนิคเสริมร่างกายและเทคนิคกระบี่ของเขาในเวลาเดียวกัน
ก้าวล่าแสงลมกรดได้มาถึงเลเวล 3 แล้ว ส่วนวิถีกระบี่ได้รับการอัพเกรดเป็นเลเวล 2
ซึ่งสำหรับคนธรรมดา มันยากมากๆที่จะสะสมค่าความเชี่ยวชาญของสกิลขั้น 4 จนเต็ม แต่สำหรับฮังอวี่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
ตราบใดที่มีแต้มวิญญาณเหลือเฟือ ก็อัพเลเวลสกิลได้ในไม่กี่วินาที!
สิ่งที่ไดหยุนจง จี้ฉวงได้ห็นต่อจากนี้ คือการต่อสู้ของเทพเจ้าอย่างสิ้นเชิง!
แม้สองวันมานี้จะเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งก็ตาม แต่ก็ยังอดรู้สึกช็อกไม่ได้
ในสายตาของพวกเขา ไม่อาจไล่ตามความเร็วของฮังอวี่ทัน
หลังเปิดใช้งานก้าวล่าแสง ทั้งคนทั้งร่างของฮังอวี่ราวกับเส้นแสง และภายใต้สกิลวิถีกระบี่ทำให้ทุกครั้งที่เหวี่ยงกระบี่ทิ้งภาพติดตาไว้ สามารถฟาดฟันศัตรูได้มากกว่า10 ครั้งในหนึ่งวินาที!
วิถีกระบี่ล่าแสงไม่เพียงเพิ่มความเร็วในการโจมตีได้หลายเท่า แต่ยังช่วยให้สามารถโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า!
ขนาดมองยังยากที่จะเห็น แล้วนับประสาอะไรกับการต่อต้าน!
ซึ่งระหว่างสู้ ฮังอวี่ยังคอยใช้งานสกิลบลิงค์และสังหารลมกรดเป็นระยะๆ นี่ยิ่งทำให้จับตัวเขาได้ยากขึ้น
เมื่อเสริมด้วยเอฟเฟกต์ของชุบโลหิต ปลุกเลือดปีศาจ และคุกโลหิต
ภายใต้สภาวะนี้ มอนสเตอร์ทรราชย์ถูกสะกดอย่างสิ้นเชิง!
หากไม่มีเรื่องผิดพลาดใดๆ สุดท้ายระดับทรราชย์เลเวล 16 ต้องตกตายภายใต้เงื้อมมือฮังอวี่
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ค่าพลังจิตของฮังอวี่ไม่เพียงพอ ดังนั้นการสู้ด้วยวิธีนี้ มันคงอยู่ได้แค่ไม่กี่วินาที เสียค่าพลังจิตเยอะเกินไป!
“จี้ฉวง! ตอนนี้ล่ะ!”
จี้ฉวงคือผู้ใช้วิญญาณในทีม สกิลพรสวรรค์ของเขาคือการแบ่งปันค่าพลังจิต ตรวนสีฟ้าถูกปล่อยออกจากตัวเขา เชื่อมต่อกับทั้งห้าคน หนึ่งในนั้นคือฮังอวี่
จากนั้นพลังจิตของทั้งสี่คน ถูกถ่ายโอนอย่างต่อเนื่อง เข้าเติมเต็มพลังจิตของฮังอวี่
ระหว่างนี้คนอื่นๆดื่มโพชั่นฟื้นฟูพลังจิตเช่นกัน ทำเช่นนี้จะช่วยให้ถ่ายโอนค่าพลังจิตได้สูงขึ้นหลายเท่า! มากพอที่จะรักษาสภาวะนี้ของฮังอวี่ให้นานยิ่งขึ้น!
ด้วยประการฉะนี้ ผลลัพธ์ไม่ต้องสงสัย ความว่องไวของมังกรวายุคลั่งไม่เชื่องช้าก็จริง แต่ทุกครั้งที่คิดใช้สกิลใหญ่ ฮังอวี่กลับตอบสนองอย่างทันท่วงที หลบเลี่ยงด้วยสกิลบลิงค์ ไม่ก็เทคนิคแปลงอากาศธาตุ
แม้ได้รับดาเมจเป็นบางครั้ง แต่ก็มีนักบวชคอยเติมเลือดให้
สัตว์ร้ายมังกรวายุคลั่งล้มลง
ฮังอวี่ได้รับแต้มวิญญาณมากกว่า 10,000 แต้มในคราวเดียว และสะสมแก่นแท้วิญญาณได้ถึงประมาณ 95%!
ฮังอวี่กับพวกไดหยุนจงได้ทำข้อตกลงกันไว้ ว่าขอให้ตัวเขาได้แต้มวิญญาณเยอะ ส่วนไอเท็มส่วนไอเท็มที่ดรอป เขายินดีรับน้อยลง เพราะท้ายที่สุดแล้วสำหรับฮังอวี่ในตอนนี้ แต้มวิญญาณมีค่ามากที่สุด!
ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจทั้งสองฝ่าย!
แม้ว่าไดหยุนจงกับคนอื่น ๆ จะไม่ได้รับแต้มวิญญาณมากนัก แต่สินสงครามจากมอนสเตอร์ทรราชย์ ก็มากพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาตื่นตาตื่นใจ
ด้านฮังอวี่สะสมแต้มวิญญาณได้ถึงจุดที่ต้องการ สามารถอัพเลเวลวิถีกระบี่ขึ้นเลข 3 ได้สำเร็จ
ณ ช่วงเวลานี้
ฮังอวี่รู้สึกได้ ว่าพลังงานอันทรงพลังกำลังไหลเวียนทั่วกายเขา ทั้งคนทั้งร่างเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
“มรดกขั้น 4 เซียนกระบี่ล่าแสงเปิดใช้งานสำเร็จ!”
[เซียนกระบี่ล่าแสง] มรดกขั้น 4 , ว่องไว +24 , พละกำลัง +20 , ร่างกาย +15 , ค่าพลังชีวิต +50 , ค่าพลังจิต +50 , ความเร็วในการเคลื่อนที่ +20 , ได้รับความสามารถ ‘ควบคุมกระบี่แสง’