2065 - ไม่พอใจก็เข้ามา
2065 - ไม่พอใจก็เข้ามา
สือฮ่าวหันหลังกลับและไม่สนใจหลัวหลินอีกต่อไป
"ความหมายของสิ่งนี้คืออะไร? ท่านจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ? ท่านไม่คิดจะอวยพรให้อาจารย์ของข้าหรือไร!” หลัวหลินไม่พอใจจึงตะโกนจากด้านหลัง
สือฮ่าวหันกลับมามองนางอย่างเย็นชาและพูดว่า
“ไม่ว่าชิงยี่จะไร้หัวใจแค่ไหนแต่นางก็ไม่มีทางส่งข้อความมาบอกข้าอย่างนี้แน่นอน การที่เจ้าอ้างคำพูดของอาจารย์ไม่กลัวว่าข้าจะสังหารเจ้าหรือ?”
“นางเป็นอาจารย์ของข้าข้าย่อมรู้จักนางดีที่สุด ท่านไม่คิดจะรักษาน้ำใจของสหายเก่าแม้ว่านางกำลังจะแต่งงานแต่ท่านก็ยังไม่มีแม้แต่คำอวยพร” หลัวหลินกล่าว
ใบหน้าของสือฮ่าวมืดครึ้มลงทันที รัศมีสูงสุดไหลเวียนอยู่ในอากาศแม้แต่สวรรค์และปฐพีก็ยังเกิดความสะเทือนครั้งใหญ่
ใบหน้าของหลัวหลินซีดเผือกไร้สีเลือด ร่างกายของนางสั่นสะท้าน รู้สึกเหมือนกับว่าวันโลกาวินาศกำลังคืบคลานเข้ามา แรงกดดันนี้ยากสำหรับนางที่จะแบกรับไหว นางล้มลงกับพื้นไม่สามารถลุกขึ้นได้
“เจ้า…” นางตื่นตระหนกอย่างยิ่งตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกทำให้อับอายถึงขนาดนี้!
ในขณะเดียวกันนานก็ตระหนักได้ว่าฮวงนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน ระดับของเขาต้องอยู่เหนือกว่าผู้สูงสุดทุกคนในอาณาจักรเซียนอย่างแน่นอน
“ข้ากับอาจารย์ของเจ้าเป็นสหายสนิทกันมานาน เจ้าไม่นับถือข้าเป็นผู้อาวุโสและทำตัวหยิ่งจองหองก็ไม่เป็นไร แต่เจ้าพยายามจะหลอกลวงข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าหากไม่ใช่เห็นแก่หน้าอาจารย์เจ้าป่านนี้เจ้าคงตายไปแล้ว” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา
“อาจารย์ของข้าเป็นเทพธิดาหยาดฟ้า เมื่อนางได้เป็นคู่ครองกับราชาอมตะน้อยเจ้าเหตุไฉนไม่ยินดี!” หลัวหลินกัดฟัน “หากข้าเป็นเจ้าจะช่วยส่งเสริมให้กับผู้อื่นมีความสุขไม่เห็นแก่ตัวแบบนี้!”
“สหายเต๋าเจ้ารังแกผู้เยาว์คนหนึ่งไม่รู้สึกละอายใจหรือ?” ในอีกด้านหนึ่งผู้สูงสุดวัยกลางคนห้ามปรามด้วยสีหน้าเย็นชา
“เห็นแก่ความสัมพันธ์กับอาจารย์ของเจ้าข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้าถึงชีวิตก็แล้วกัน” สือฮ่าวยับยั้งรัศมีพลังของตัวเองไว้แล้วหันหลังกลับ
“อาจารย์ เด็กหญิงคนนั้นพูดว่าอะไรนะ?” มังกรแดงถาม
เป็นเพราะทั้งสองคนสื่อสารด้วยประสาทสัมผัสทางวิญญาณ คนอื่นจึงไม่ได้ยิน
“ลูกศิษย์ของสหายเก่า” สือฮ่าวส่ายหัว
“ฮวงเจ้าทำเกินไปแล้ว!” หลัวหลินยืนขึ้นแล้วตะโกนออกมาด้วยความขุ่นเคือง
นางมาจากอาณาจักรเซียนแม้ว่าการฝึกฝนของนางจะสู้เขาไม่ได้ แต่นางก็ไม่ควรถูกทำให้อัปยศอดสูถึงขนาดนี้
“ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของสหายอาจารย์ข้า เหตุไฉนเจ้าจึงไม่เคารพอาจารย์ของข้าในฐานะผู้อาวุโส?” มังกรแดงตะโกน ในอดีตเขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับอาจารย์ราคาถูกคนนี้
แต่เมื่ออยู่ด้วยกันมานานนับพันปีมันได้เห็นความยอดเยี่ยมของเขาด้วยตาของตัวเองมาหลายครั้งทำให้ยอมจำนนในที่สุด
“เจ้าเป็นลูกศิษย์ของฮวง?” หลัวหลินรู้สึกประหลาดใจเมื่อมองไปที่มังกรแดง
“เจ้ากล้า เจ้ายังกล้าแสดงการดูหมิ่นอีกหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองมาจากอาณาจักรเซียนก็กล้าเรียกชื่ออาจารย์ของข้าตรงๆ หรือเจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้!” มังกรแดงเดือดดาล
“ฮึ่ม พวกเราแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรของเจ้าจริงๆ” หลัวหลินกล่าวด้วยความเย่อหยิ่ง
“อาจารย์ของข้าไม่ลดตัวลงไปสั่งสอนเจ้านับเป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่ในฐานะลูกศิษย์ข้าไม่อาจไม่รักษาเกียรติของอาจารย์”
อารมณ์ของมังกรแดงนั้นรุนแรงมากแค่ไหนเป็นที่ทราบกันดี ในอดีตแม้แต่อาจารย์ของมันเองมันก็ยังกล้าทะเลาะด้วยนับประสาอะไรกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
“คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ? เจ้าเป็นลูกศิษย์ของเขาแล้วยังไงวันนี้ข้าจะจัดการเจ้าเอง!” หลัวหลินหัวเราะอย่างเย็นชาและเริ่มโจมตีออกมาทันที
แสงศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ลวดลายสัญลักษณ์เต๋าปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า หลัวหลินพุ่งไปข้างหน้าต่อสู้กับมังกรแดงอย่างยิ่งใหญ่
นั่งนับได้ว่าแข็งแกร่งจริงๆ เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่นางพบกับมังกรแดง หลังจากต่อสู้ไปได้หลายสิบกระบวนท่า ปีกของหงส์เพลิงก็ฟาดนางกระอักเลือดก่อนจะปลิวไปด้านหลัง
“เจ้า…” หลัวหลินตกใจและพบว่าสิ่งนี้ยากที่จะยอมรับ
“เดิมทีด้วยอารมณ์ของเจ้าที่มั่นใจในตัวเองขนาดนี้ข้าก็คิดว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินเจ้าผิดไป” มังกรแดงกล่าวอย่างเย็นชา
ด้านข้างศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์หัวเราะอย่างสนุกสนาน
“สหายเจ้าทำเกินไปแล้ว”
อีกด้านหนึ่งลูกหลานของราชาอมตะเอ๋าเฉิงทั้งหมดยืนขึ้นด้วยความโกรธ พวกเขาหวังว่าจะต่อสู้กับมังกรแดงจนชนะและรักษาหน้าของตัวเองไว้บ้าง
“มา มา มา มีใครในพวกเจ้าจะรับไม่ได้? ท่านปู่คนนี้ยืนอยู่ที่นี่เจ้าเชิญลงมือ!”
บรรดาผู้ที่อยู่ในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองของดินแดงเซียนล้วนมีรูปลักษณ์อ่อนเยาว์ ในครั้งนี้พวกเขาทะยานออกมาข้างหน้าพร้อมกับต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ในครั้งนี้การต่อสู้จบลงภายในกระบวนท่าเดียว ศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์คือสมบัติล้ำค่ามันพุ่งทะลวงม่านป้องกันของเด็กหนุ่มคนหนึ่งและโจมตีเขาจนกระอักเลือด
เป้ง!
มันเปลี่ยนร่างจากร่างมนุษย์กลายเป็นหินก้อนใหญ่พร้อมกับกระแทกหน้าอกของเด็กหนุ่มคนนั้นจนโลหิตทะลักออกปากและจมูกของเขาไม่หยุด
"อ่อนแอเกินไป." หินศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์เปลี่ยนกลับมาเป็นมนุษย์พร้อมกับถมน้ำลายอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“บังอาจ!”
ในกลุ่มนั้นมีคนอื่นที่โดดเด่น หนึ่งในทายาทที่ดีที่สุดของราชาสวรรค์เอ๋าเฉิงบินออกมาข้างหน้า การเคลื่อนไหวของเขานั้นทรงพลังอย่างยิ่ง
“เฮอะเจ้าก็มาเจอกับข้าหน่อยเป็นไร” มู่ชิงเดินออกไป
ฮ่อง!
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ได้ปะทุขึ้น อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดโดยที่ผ่านไปไม่ถึงร้อยกระบวนท่า มู่ชิงก็ใช้สายฟ้าเผาร่างกายของผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นจนเขาเกือบจะเสียชีวิต
ดังนั้นทุกคนที่อยู่อีกฝั่งจึงตกตะลึง พวกเขาทั้งคู่อยู่ในขอบเขตปลดปล่อยตนเอง แต่ผู้คนจากเก้าสวรรค์สิบพิภพกลับองอาจกล้าหาญถึงขนาดนี้?
ต้องเข้าใจว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นทายาทของราชาอมตะผู้ยิ่งใหญ่ แต่ท้ายที่สุดพวกเขายังไม่มีใครต่อสู้ได้ครบร้อยกระบวนท่าด้วยซ้ำ
“ถ้ารับไม่ได้ก็เข้ามาสิ!” สือจงก้าวออกมา
“ข้าจะสู้กับเจ้า!” มีคนตะโกน
ในท้ายที่สุด ผู้ยิ่งใหญ่สามคนก็ลงมือโจมตีพร้อมกันทันที ในเมื่อพวกเขาสู้ตัวต่อตัวไม่ได้พวกเขาจึงใช้คนพวกมากเข้ารุมแทน
ก่อนที่สือจงจะทันได้ลงมือ ผีเสื้อจักรพรรดิก็กระพือปีกและบินออกไปด้านนอก
จากนั้นด้วยการขยับปีกเพียงเล็กน้อยสวรรค์ก็แยกออกและปฐพีก็ถล่มลงมา ร่างกายของผู้เชี่ยวชาญสามคนสั่นสะท้านเลือดทะลักออกมาจากปากของพวกเขาไม่หยุด
“ถ้ารับไม่ได้ก็เข้ามา!” จูหลินก้าวออกไป
ในเวลาเดียวกัน สิงโตทอง วิญญาณสายฟ้าทั้งสาม และสือจงก็ต่อสู้เพื่อเป็นที่หนึ่ง แต่ละคนก็พลุ่งพล่านด้วยจิตวิญญาณแห่งสงครามมากกว่าครั้งก่อน แม้แต่มดเขาสวรรค์ก็ไม่ยอมล้าหลังใคร
ในอีกด้านหนึ่ง ทุกคนต่างพูดไม่ออกและตกตะลึงอย่างแท้จริง ทำไมคนพวกนี้ถึงแข็งแกร่งนัก? ทายาทของราชาอมตะเหล่านี้ล้วนประสบความพ่ายแพ้ ไม่อาจต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามได้แม้แต่น้อย
หลัวหลินตกตะลึงด้วยความไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์
นางดูถูกสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ แต่สิ่งที่นางเห็นและประสบด้วยตัวเองจะเป็นสิ่งที่ไม่เชื่อก็ไม่ได้
แม้ว่านางจะรู้ว่า 'เพื่อนสนิท' ของอาจารย์เป็นร่างที่บิดเบือนสวรรค์ แต่เมื่อนางเห็นความแข็งแกร่งของเขาด้วยตาของตัวเองมันทำให้นางตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง
นางเชื่อว่าผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ล้วนแล้วแต่เป็นลูกศิษย์ของเขา
อย่างไรก็ตามแม้นางจะเชื่ออย่างนั้นก็ไม่ผิดเพราะว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนได้รับการฝึกฝนจากสือฮ่าวทั้งสิ้น
ผู้คนของอาณาจักรเซียนมึนงงเล็กน้อย ทำไมมันดูเหมือนทุกอย่างพลิกกลับด้าน? ในการต่อสู้ครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามล้วนกระตือรือล้นราวกับว่ามองพวกเขาเป็นเหยื่อ
พวกเขาเป็นทายาทของราชาอมตะเอ๋าเฉิงแต่พวกเขากลับถูกดูหมิ่น
ในตอนแรกทุกคนที่นี่เป็นเพียงกองทัพที่ต่ำต้อย จากก้อนหินสู่ผีเสื้อ ต่อด้วยสิงโต กระทั่งมด นี่มันอะไรกันเนี่ย?
ทว่าพวกเขาก็ถูกกดขี่จริงๆอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้ โดยส่งผู้เชี่ยวชาญออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่พวกเขาทั้งหมดก็ถูกโค่นลงและพ่ายแพ้กลับมาทันที