ตอนที่ 6-32 จนปัญญา
ภายในโรงแรมสุดถนนกรีนลีฟ เยลและพวกกำลังรอคอย
“คุณชาย! ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอสูรร้ายที่คฤหาสน์ของใต้เท้าลินลี่ย์ ตอนนี้ราชองครักษ์และนักรบของตระกูลขุนนางหลายคนไปปกป้องฝ่าบาทกันแล้ว” บุรุษผมทองที่อยู่ต่อหน้าเยลรายงานด้วยความเคารพ
เยลตกใจ
เขารู้ว่าลินลี่ย์ต้องการฆ่าเคลย์และตอนนี้เคลย์ตกเป็นเป้าหมายการลอบสังหาร เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับลินลี่ย์ถึงเก้าในสิบส่วน
“ข้าสงสัยจริงว่าเจ้าอสูรร้ายนี้ความจริงก็คือน้องสาม”เยลเริ่มวิตก
แต่เยลทำได้แต่เพียงรออย่างเงียบๆ เขาไม่มีทางเลือกอื่น หลังจากนั้นไม่นาน รายงานอื่นก็มาถึงอีก “คุณชายเยลอสูรร้ายนั้นเริ่มฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง มีคนตายมากมายเหลือเกิน คฤหาสน์ใต้เท้าลินลี่ย์มีเลือดนองเป็นสายธารและมีซากศพกระจัดกระจาย”
เยลลอบตกใจ
“น้องสามน่ากลัวจริงๆ แต่ข้าไม่รู้ว่าน้องสามจะหลบหนีได้ในท้ายที่สุดหรือไม่”
ยังคงมีรายงานตามมาอย่างต่อเนื่อง
“คุณชายเยล! กระบี่ม่วงของอสูรร้ายนั่นทรงพลังเหลือเกินไม่ว่ากระบี่ม่วงปรากฏวาบในที่ใด ก็จะมีคนตายตามมา ในคฤหาสน์มีคนตายนับไม่ถ้วน พวกราชองครักษ์ ทหารอีกหลายคนรวมทั้งกลุ่มคนอีกมากล้วนถูกกวาดล้าง
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยลยิ่งมั่นใจเพิ่มขึ้น
“กระบี่ม่วง?อาจเป็นได้ว่านั่นคือเทพกระบี่เลือดม่วงกระมัง?” เยล,เรย์โนลด์และจอร์จรู้ดีว่าลินลี่ย์ครอบครองเทพกระบี่เลือดม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจู่ๆเยลก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เกี่ยวกับตระกูลของลินลี่ย์ “ตระกูลบาลุคคือตระกูลของนักรบเลือดมังกรเป็นไปได้ไหมว่าลินลี่ย์แปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกรแล้ว?”
สิ่งที่เรียกกันว่าอสูรร้าย ความจริงก็คือลินลี่ย์หลังจากแปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกรแล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องที่น้องรักร่วมสาบานต้องถูกคนนับพันและอสูรรุมต่อสู้ทำร้ายและยังต้องต่อสู้อย่างดุเดือดอีกด้วย เยลก็ยิ่งห่วงมากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“น้องสาม!”
เยลเดี๋ยวก็กำหมัด เดี๋ยวก็คลายสลับไปมาทุกคนที่อยู่ในที่นั้นสามารถรับรู้ได้ถึงความกระวนกระวายของเขา
“คุณชายเยล,จักรพรรดิ, จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว เขาทำร้ายอสูรร้ายนั่นจนบาดเจ็บสาหัสและมันถูกลากตัวไปยังโบสถ์เจิดจรัสด้วย” รายงานสุดท้ายที่ส่งมาถึงทำให้เยลหน้าซีดไม่มีสีเลือด
เมื่อได้ยินคำพูดว่า “จักรพรรดิ,จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว” หลายอย่างกลับกลายเป็นเลวร้าย
“ชรีค ชรีค!” ทันใดนั้นร่างเงาเลือนลางปรากฏขึ้นในโรงแรม
“บีบี”เมื่อเห็นหนูเงาตัวนี้ เยลวิ่งออกมาหามันทันที
“บีบี!น้องสามอยู่ไหน?” เยลมองดูบีบีทันที และถามอย่างสิ้นหวัง
หนูเงาน้อยบีบี ไม่ได้ร่าเริงเหมือนตามปกติ มันจ้องเยลจากนั้นก้มหน้าส่งเสียงจี๊ดๆเบาๆ เยลสามารถรู้สึกได้ถึงความเศร้าและเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของบีบีแม้ว่าบีบีจะเป็นอสูรเวทตัวหนึ่ง แต่ปัญญาของมันไม่ต่ำทรามกว่ามนุษย์
“ฟุ่บ”ร่างของบีบีเหมือนกับกระพริบและจากนั้นมันหายไปต่อหน้าต่อตาเยลทันที
เยลตกใจ
“คุณชายเยล”บริวารที่อยู่ใกล้พูดเบาๆ
“กลับกันเถอะ ไปพบลุงรองของข้า” เยลลุกขึ้นยืนทันทีและสั่งคนของเขา
ภายในห้องส่วนตัวที่เงียบสงัดบนชั้นเก้าของโบสถ์เจิดจรัส ลินลี่ย์ถูกจับโยนเข้าไปข้างในห้องเหมือนกับสุนัขตายการที่ลินลี่ย์ถูกจองจำอยู่ภายในโบสถ์เจิดจรัสเป็นข้อพิสูจน์ว่า ศาสนจักรเจิดจรัสเห็นคุณค่าความสำคัญลินลี่ย์มากขนาดไหน
โบสถ์เจิดจรัสคือหัวใจของศาสนจักรเจิดจรัส
นี่คือสถานที่ซึ่งแม้แต่นักสู้ระดับเซียนก็ยังไม่กล้าบุกรุกเข้ามา
“อา..”เกล็ดบนตัวของลินลี่ย์ทั้งหมดได้หดกลับเข้าไปในตัวแล้ว สภาพร่างกายปัจจุบันของลินลี่ย์นี้เปรอะไปด้วยเลือด และตามตัวเขามีบาดแผลหนักถึงสิบแห่ง บาดแผลทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์ บาดแผลที่มองเห็นนี้นับว่าสาหัสมาก แต่บาดแผลภายในของเขายังหนักหนาสาหัสมากกว่านั้น
กระดูกแขนขาของเขาหักทั้งหมด ลินลี่ย์ได้แต่กัดฟันพยายามขยับเขยื้อนร่างกาย แต่ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือพิงศีรษะเข้ากับผนัง
“ลินลี่ย์”
เดลิน โคเวิร์ทลอยออกมาจากแหวนมังกรขนด เขามองดูลินลี่ย์ และสายตาเขาเต็มไปด้วยความรักเวทนาแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
“ปู่เดลิน” ลินลี่ย์มองดูเดลิน โคเวิร์ท
เดลิน โคเวิร์ทลอบถอนหายใจตรงมาหาลินลี่ย์ “ลินลี่ย์ เจ้ารู้สึกสำนึกเสียใจบ้างหรือไม่?”
“เสียใจน่ะหรือ?”
ลินลี่ย์ส่ายหัว “ไม่เลยความจริงในชีวิตนี้ข้ามีความปรารถนาอยู่สองอย่าง ประการแรก ฟื้นฟูความรุ่งเรืองของตระกูลข้าให้กลับคืนมา ประการที่สอง เข้าถึงพลังที่สูงสุดและฝึกฝนจนข้าสามารถไปถึงระดับนั้นได้ แต่ถ้าไม่ล้างแค้นเสียก่อนข้าอาจจะหลับตาไม่ลง ข้าคงทรมานไปทั้งชีวิต”
เดลิน โคเวิร์ทพยักหน้า เขาเข้าใจสภาพจิตใจลินลี่ย์เป็นอย่างดี
“ข้าแพ้ หึหึ ข้าแพ้”
ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ เขาเจ็บไปทั้งตัว ในตอนนี้คนส่วนใหญ่สามารถเหยียบย่ำเขาได้อย่างง่ายดาย
เขาแพ้!
เมื่อจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว ลินลี่ย์รู้ตัวทันที
เขาแพ้ และความพ่ายแพ้ก็หมายถึงความตาย
ลินลี่ย์รู้เรื่องนี้มานานแล้ว ในโลกนี้มีคนตายมากมายทุกวัน ลินลี่ย์ไม่เคยเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ตาย
“ลินลี่ย์! เจ้าอาจไม่ตายก็ได้” เดลิน โคเวิร์ทกล่าว
“หือ?”ลินลี่ย์มองดูเดลิน โคเวิร์ทด้วยความสงสัย
เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะอย่างใจเย็น “ถ้าจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ต้องการฆ่าเจ้าก็คงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่เขาต้องลงมือกับเจ้าหลายครั้งคราและยังไว้ชีวิตเจ้าอีกด้วย?... นอกจากนี้ เจ้าไม่ได้ใคร่ครวญถึงความจริงที่ว่าผู้ครองอาณาจักรเกือบทั้งหมดเรียกความสนใจได้น้อยกว่าเจ้า”
ทันใดนั้นลินลี่ย์เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง
“จอมเวทอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนที่สองในประวัติศาสตร์ คนที่มีแนวโน้มจะได้เป็นมหาจอมเวทระดับเซียนได้ และตอนนี้จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ยังพบว่าเจ้าเป็นนักรบเลือดมังกรอีกด้วยก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าเขาคงไม่อาจตัดใจฆ่าเจ้าได้ในตอนนี้ นักรบเลือดมังกรเป็นหนึ่งในสุดยอดนักรบเมื่อย่างเข้าสู่ขอบเขตระดับเซียนเจ้าจะเป็นนักสู้ระดับเซียนที่ทรงพลังที่สุด ว่ากันเฉพาะเรื่องพลังโจมตีแล้วเจ้ามิได้ด้อยไปกว่าตัวจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด!”เดลิน โคเวิร์ทกล่าวด้วยความมั่นใจ
สุดยอดนักรบที่น่ากลัวมาก
ผู้คนส่วนใหญ่เมื่อเข้าสู่ขอบเขตระดับเซียนจะต้องก้าวหน้าผ่านระดับขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง
แต่เมื่อเข้าสู่ขอบเขตระดับเซียน สุดยอดนักสู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในร่างมังกรจะเป็นนักสู้ชั้นเซียนระดับสูงที่กอปรไปด้วยพลังรับและรุกอย่างน่าเหลือเชื่อ แม้แต่ในหมู่นักสู้ระดับเซียนชั้นสูง สุดยอดนักรบอาจทรงพลังที่สุดในหมู่นักสู้เหล่านั้น
“อัจฉริยะอย่างเจ้า ไฮเดนส์จะไม่ยินยอมฆ่าเจ้าเว้นเสียแต่ไม่มีตัวเลือกพร้อมไว้ใช้งาน” หลังจากพูดจบเดลิน โคเวิร์ทก็กลับเข้าไปอยู่ในแหวนมังกรขนด
หัวใจของลินลี่ย์สงบมาก
เป็น หรือตาย?
สิ่งที่ลินลี่ย์กังวลอย่างแท้จริงก็คือการแก้แค้น
“ข้าเกรงว่าแม้เขาจะไว้ชีวิตข้า ไฮเดนส์ก็คงไม่ยอมให้ข้าสังหารเคลย์เป็นแน่” ลินลี่ย์รู้ดีว่าการสังหารเคลย์พลาดในวันนี้ทำให้ในอนาคตคงเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะฆ่าเคลย์ได้ ถ้าลินลี่ย์ไม่สามารถฆ่าเคลย์ได้ใจของลินลี่ย์คงไม่มีวันยอมรับได้
“ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่ข้าจะล้างแค้นได้สำเร็จ”
ลินลี่ย์รู้สึกจนใจ
ในชั้นบนสุดของโบสถ์เจิดจรัสจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์นั่งอยู่บนที่นั่งอย่างสงบ
กิลเยโมจ้องมองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ด้วยความตกใจ “ข้าแต่องค์จักรพรรดิปีศาจนั่นคือลินลี่ย์หรือ? แต่...แต่ว่า...”
ในตอนแรก กิลเยโมไม่รู้ว่าคนผู้นั้นคือลินลี่ย์ แต่หลังจากเกล็ดมังกรหดกลับเข้าไปในตัวกิลเยโมจึงพบสถานะของเขา นั่นจึงทำให้เขาตกตะลึงไปหมด
“นั่นไม่ใช่ปีศาจ นั่นคือนักรบเลือดมังกร!” ไฮเดนส์จ้องมองกิลเยโมอย่างสงบ
กิลเยโมสะดุ้ง แต่จากนั้นก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว “จริงสินะ...ตระกูลบาลุคก็คือตระกูลนักรบเลือดมังกร แต่ว่าเป็นเวลาเกินกว่าพันปีแล้วที่ตระกูลนักรบเลือดมังกรได้สร้างนักรบเลือดมังกรออกมาคิดไม่ถึงเลยว่า ว่า...ว่า ลินลี่ย์... ข้าแต่องค์จักรพรรดิ..นั่นคือนักรบเลือดมังกรจริงๆ หรือ?”
เมื่อนึกถึงว่าลักษณะของลินลี่ย์นั้นน่ากลัวเพียงไหน กิลเยโมรู้สึกว่าใจของเขาสั่นสะท้านเล็กน้อย
“อาจจะเป็นรุ่นกลายพันธุ์ก็ได้ แต่น่าจะเป็นร่างแปลงของนักรบเลือดมังกรแน่นอน ไม่อย่างนั้นระดับพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ยังไง?” ไฮเดนส์พูดอย่างสงบ “ศักยภาพของเจ้าลินลี่ย์นี้ยิ่งใหญ่จริงๆ แม้ในตอนนี้เขาจะมีความผิดขั้นอุกฉกรรจ์ก็ตาม แต่ว่ามีคนภายนอกจำนวนน้อยนักที่รู้ว่าปีศาจนั่นความจริงก็คือลินลี่ย์”
กิลเยโมเข้าใจความหมายของไฮเดนส์ทันที
ศักยภาพของลินลี่ย์ยิ่งใหญ่เกินไป?
กิลเยโมถอนหายใจให้กับตนเอง ศักยภาพของลินลี่ย์น่ากลัวมากไม่เพียงแต่ศักยภาพของเขาในฐานะจอมเวทที่เหลือเชื่อเท่านั้น เขายังเป็นสุดยอดนักรบอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นด้านไหน นับได้ว่าเป็นคนที่น่าหวาดหวั่นมาก ถ้าคนอย่างนั้นรั้งอยู่ในศาสนจักรเจิดจรัสหลายสิบปี ศาสนจักรเจิดจรัสก็แทบจะมั่นใจได้เลยว่าจะได้สุดยอดนักรบเพิ่มมาอีกคน
“ข้าแต่องค์จักรพรรดิผู้ศักดิ์สิทธิ์ คนอื่นๆทุกคน พูดว่ามันเป็นปีศาจ นอกจากพวกมือปราบที่ลากตัวลินลี่ย์กลับมาแล้วไม่มีใครรู้ว่าปีศาจตนนี้คือลินลี่ย์” กิลเยโมรายงานด้วยความเคารพ
“โอว..สี่คนนั้นน่ะหรือจัดการพวกเขาด้วย” ไฮเดนส์พูดเย็นชา
“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”กิลเยโมพูดอย่างนอบน้อม “นับเป็นความโชคดีของพวกเขาได้สามารถกลับสู่อ้อมกอดของพระผู้เป็นเจ้าได้”
จากนั้นกิลเยโมพูดเบาๆ “จริงสิ, ฝ่าบาท ยังมีอีกคนที่รู้ว่าปีศาจนั่นความจริงคือลินลี่ย์”
“เจ้าหมายถึง..เคลย์สินะ?” ไฮเดนส์พูดนุ่มนวล
“พะย่ะค่ะ, ฝ่าบาท”กิลเยโมกล่าวและพูดด้วยความสงสัย “เห็นได้ชัดว่าลินลี่ย์นี้มีความแค้นกับเคลย์อย่างลึกซึ้ง มิฉะนั้นเขาคงไม่ลงมือฆ่าคนขนาดนี้เป็นแน่ ฝ่าบาท!เคลย์เป็นผู้ครองอาณาจักรเฟนไล ถ้าเราต้องการรักษาลินลี่ย์ไว้ เราอาจต้องคุยกับเคลย์ก่อน”
“ถูกแล้ว,เราควรจะได้คุยกันก่อน”
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าของไฮเดนส์ “ข้าสงสัยมากจริงๆ มีความแค้นลึกซึ้งอะไรกันนักหนาถึงได้ทำให้ลินลี่ย์เป็นปฏิปักษ์กับเคลย์?”
ในเวลาเย็น เคลย์เดินทางมาถึงชั้นบนของโบสถ์เจิดจรัส
“ถวายบังคมองค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์” เคลย์ค้อมตัวคำนับ
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์นั่งอยู่บนเก้าอี้อยู่แล้วกำลังเจาะคัมภีร์หนาสองสามเล่ม เขาเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน้ามอง “เคลย์ ในความคิดเห็นของเจ้าใครสำคัญมากต่อสหภาพศักดิ์สิทธิ์มากกว่ากัน ระหว่างเจ้ากับลินลี่ย์?”
หัวใจของเคลย์เต้นแรง
“องค์จักรพรรดิหมายความว่าจะเก็บลินลี่ย์ไว้หรือ?” หัวใจของเคลย์เริ่มเดือดดาล
หลังจากประสบกับเหตุการณ์นี้เขารู้แล้วว่าบิดาและมารดาของลินลี่ย์ถูกฆ่าตาย ซึ่งต้นเหตุก็มาจากเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนลงมือด้วยตนเอง แต่ว่าถึงเรื่องความรับผิดชอบต่อความตายของบิดามารดาของลินลี่ย์บางทีเคลย์อาจต้องรับผิดถึงเก้าในสิบส่วน
ปีนั้นในอดีต ถ้าไม่ใช่เพราะเคลย์ตัดสินใจลักพาตัวมารดาของลินลี่ย์และเสนอนางขึ้นไปแล้วนางจะพบจุดจบถึงตายได้อย่างไร? บิดาของลินลี่ย์จะตายได้อย่างไร?
เคลย์จำได้ชัดเจนว่าท่าทีเกลียดชังปรากฏในดวงตาลินลี่ย์ที่ไม่ลดทอนลงเลย แม้ว่าลินลี่ย์จะถูกลากตัวออกไปหลังจากถูกจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เล่นงานบาดเจ็บหนัก
“ลินลี่ย์นี้จะต้องสู้กับข้าจนกว่าเราจะตายกันไปข้างหนึ่ง เขาจะไม่ยอมให้ข้ามีชีวิตต่อไป”เคลย์รำพึงกับตนเอง
“เคลย์,โลกภายนอกเชื่อกันหมดว่ามันเป็นปีศาจตัวหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่ามันคือลินลี่ย์ใช่ไหม?” ไฮเดนส์มองดูเคลย์
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้เคลย์ยิ่งมั่นใจในความตั้งใจของของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ เขารีบกล่าวว่า “ข้าแต่องค์จักรพรรดิ ลินลี่ย์นั้นมีพรสวรรค์ที่เหลือเชื่ออย่างแท้จริง เป็นไปได้ว่าเขาคืออัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่หลายพันปีจึงจะปรากฏมีครั้งหนึ่ง เป็นทั้งจอมเวทและนักรบทั้งสองอย่าง เขาจึงเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง นับเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ดีว่าพระองค์ปรารถนาจะได้เขาไว้ใช้งานในศาสนจักรเจิดจรัส แต่...เหมือนกับถูกกำหนดไว้แล้วว่าเขาจะไม่ยอมรับใช้ศาสนจักรของเรา”
คำพูดจากปากของเคลย์ทำให้ไฮเดนส์ขมวดคิ้ว เขาจ้องมองเคลย์อย่างเย็นชา
หัวใจเคลย์สะท้านด้วยความกลัว
แต่เขารู้ว่าถ้าลินลี่ย์ไม่ตาย อย่างนั้นเขาคงไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบสุขอีกเลย
“ฝ่าบาท พระองค์ทราบสาเหตุที่ลินลี่ย์ต้องการสังหารข้าพระบาทไหมพระเจ้าค่ะ?” เคลย์รีบกล่าว
“จงสรุปมา”ไฮเดนส์กล่าวเย็นชา
เคลย์พูดทันที “ฝ่าบาทเหตุที่ลินลี่ย์ต้องการสังหารข้าพระบาทเป็นเพราะเรื่องเมื่อสิบสองปีก่อนข้าพระบาทส่งคนไปลักพาตัวมารดาของลินลี่ย์ และจากนั้นบิดาของเขาก็ตามสืบสาวสาเหตุการหายตัวไปของมารดาเขาและถูกฆ่า มารดาและบิดาของเขาตายอาจกล่าวได้ว่าตายเพราะข้าพระบาท”
“ความเกลียดชังที่เกิดขึ้นเพราะความตายของบิดามารดาเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมแน่นอน” ไฮเดนส์พยักหน้า
“แต่ฝ่าบาท! พระองค์จำสตรีเมื่อสิบสองปีก่อนได้ไหม? สตรีผู้นั้นข้าพระบาทส่งมอบให้พระองค์ จริงไหมพระเจ้าค่ะ?” เคลย์มองดูไฮเดนส์
ไฮเดนส์อึ้ง
“เจ้ากำลังบอกว่า...” ท่าทางสีหน้าของไฮเดนส์เปลี่ยนไป
“ถูกแล้ว สตรีผู้นั้นคือมารดาของลินลี่ย์!” เคลย์พูดด้วยเสียงดังก้อง
“ฝ่าบาท ถ้าลินลี่ย์ยังคงอยู่ในศาสนจักรเจิดจรัส อย่างนั้นสถานะของเขาจะสูงส่งยิ่งขึ้น เขาจะเริ่มได้รับรู้ความลับของศาสนจักรเจิดจรัสเขาจะพบเหตุผลว่ามารดาเขาตายยังไง ถึงตอนนั้น ยังเป็นไปได้อีกหรือที่เขาจะยังจงรักภักดีต่อศาสนจักร?” เคลย์ระบายลมหายใจด้วยความสบายใจ
เขาเชื่อว่าเมื่อบ่งบอกสถานการณ์ออกไป ไฮเดนส์จะตัดสินใจดำเนินการอย่างเหมาะสม ใช่แล้ว ลินลี่ย์มีศักยภาพสูง แต่ยิ่งมีพลังมาก ลินลี่ย์จะกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่ต่อศาสนจักรเจิดจรัสเมื่อเขาค้นพบความจริงแล้ว “ถ้าเป็นเช่นนี้ก็..น่าเสียดาย ที่ต้องสูญเสียอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์ไปจนได้”ไฮเดนส์ถอนหายใจคราหนึ่ง