ตอนที่ 150 แบ่งสมบัติ
“สมบัติดวงดาวน่ะหรือ?” หลิงซิ่วถูกสมบัติสองสามชิ้นที่วางอยู่ข้างหน้าดึงดูดความสนใจ
“อืม..ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าสองคนนี้จะมีสมบัติดวงดาวอยู่ในมือมากเหมือนกัน” ถังเทียนประหลาดใจ แต่ก็ยังหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า โชคของพวกมันร้ายแน่นอน ไม่มีอะไรที่เคยถูกใช้เลย”
หลิงซิ่วมองดูและเห็นด้วย
ถุงมือประหลาดคู่หนึ่ง,ม้าน้อยและขวดแก้วสองใบ
หลิงซิ่วหยิบม้าน้อย ขณะที่ถังเทียนเลือกถุงมือ ตั้งแต่ถุงมือดาวเตาหลอมของเขาถูกทำลายไปเขาไม่เคยพบอาวุธคู่มือที่เหมาะอีกเลย แม้ว่าเกราะนกยูงครามจะช่วยในการป้องกัน แต่ไม่มีผลมากนักต่อการโจมตี
ถุงมือสร้างจากบรอนซ์และมีลักษณะเด่นเฉพาะตัวอย่างมาก มันสร้างเป็นชั้นขนบางๆ ดูหนาเตอะและมั่นคงมาก มันดูมีขนาดใหญ่ไปบ้างเหมือนกับถุงน้ำขนาดใหญ่เมื่อสวมใส่แล้วจะรู้สึกว่าหนัก ถังเทียนเทียนพยายามสวมใส่ดูและพบว่าให้ความรู้สึกสบายเป็นพิเศษเขารู้สึกเหมือนกับว่ามือของเขาถูกแช่อยู่ในสระน้ำ
เขาลองกระตุ้นปราณเที่ยงแท้เข้าไป
เช้ง เช้ง เช้ง!
ขนนกที่หนาลุกชันทันทีราวกับว่าพวกมันเพิ่งตื่นจากการหลับลึกพวกมันเริ่มมีการเคลื่อนไหวเหมือนกับสายน้ำไหล ในพริบตาถุงมือก็เปลี่ยนเป็นอีกรูปลักษณ์หนึ่ง
หวา, น่าสนใจไม่เบา!
ตอนนี้ ถังเทียนกำลังสนใจอยู่ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไรต่อ ร่างกระเรียนของเขาก็เริ่มเคลื่อนไหว
ปราณเที่ยงแท้ไหลเข้าไปในถุงมือ แครกแครก แครก ขนนกเริ่มโยกโคลงและเคลื่อนไหว ถังเทียนรู้สึกคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของขนนกเหล่านั้น
เว้นแต่ว่าเขาเคยเห็นมันมาจากที่ไหนมาก่อน?
ทันใดนั้น นัยน์ตาเขาเป็นประกาย พลังร่างกระเรียน! พลังร่างกระเรียนของเขาก็เป็นอย่างนี้มันจะสะสมพลังปราณเที่ยงแท้เป็นชั้นๆ หรือนี่?
ขณะที่เขาคิดถึงอยู่นั้นร่างกระเรียนในตัวเขาก็เริ่มปั่นป่วนด้วยพลังบางอย่าง เหมือนกับว่าถังเทียนจะได้ยินเสียงร้องของนกกระเรียน!
เช้ง!
ถุงมือหยุดการเปลี่ยนแปลง
ถุงมือที่อยู่ในมือเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คู่ถุงมือที่มีขนาดใหญ่ในตอนแรก เดี๋ยวนี้พอดีกับมือของเขาคล้ายกับชั้นผ้าไหมบางๆ
ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นก็คือที่ด้านข้างถุงมือยังมีปีกคู่หนึ่งคล้ายๆ กับปีกของนกกระเรียน ตอนนี้มันถูกเก็บไว้เป็นอย่างดี
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่านิ้วของเขาพร้อมใช้งานและมีชีวิตชีวามากขึ้น เมื่อเขาสัมผัสพื้นหินปูนเบาๆ เฮ้ย.. เขาไม่รู้สึกอะไรเลย แต่นิ้วมือของเขาแทงลึกลงไปในเนื้อหิน
ถังเทียนมีนัยน์เป็นประกาย
น่าสนใจ
ถังเทียนพยายามกระตุ้นพลังร่างกระเรียนอีกครั้งฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ พลังปราณแหลมคมพุ่งออกมาจากปลายนิ้วและทิ้งรูห้ารอยไว้บนพื้นหินปูน
พลังนี้ทำให้ถังเทียนตื่นเต้นเขาเริ่มต้นสื่อสารกับจิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาไม่ต้องใช้พลังมากมายอะไรก็สามารถติดต่อกับจิตวิญญาณพลังยุทธของถุงมือได้
จิตวิญญาณพลังยุทธของถุงมือก็คือกลุ่มปราณที่กลมมันดูคล้ายร่างกระเรียนอยู่บ้าง แต่จิตวิญญาณพลังยุทธจะไม่แข็งแกร่ง อาจเป็นไปได้ว่ามันไม่ได้รับการบำรุงเลี้ยงมานานแล้ว
เขาไม่แน่ใจว่าพลังร่างกระเรียนได้ยอมรับมันแล้วหรือยังพลังยุทธจะคล้ายกับถังเทียนมาก ถังเทียนยังคงสังเกตว่าปราณของจิตวิญญาณพลังยุทธในถุงมือทำให้เขาสบายยิ่งขึ้น
ดูเหมือนว่าเขาได้อัญมณีมาครอบครองแล้ว หลังจากสื่อสารกับจิตวิญญาณพลังยุทธแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้รู้จักชื่อของถุงมือนี้
ถุงมือกระเรียนฟ้า
แน่นอนว่านี่คือสมบัติจากหมู่ดาวกระเรียนฟ้า!
ถังเทียนรู้สึกสดชื่น นี่คือหนึ่งในสมบัติที่เหมาะกับเขาที่สุดเท่าที่เคยได้มา เขาถึงกับดีใจทันที
ม้าน้อยของหลิงซิ่วเป็นสมบัติจากหมู่ดาวม้าแกลบซึ่งเป็นหมู่ดาวเดียวกับที่ถังเทียนได้รองเท้าม้าบินมาครอบครอง แต่คุณภาพของม้าบรอนซ์นั้นสูงกว่ารองเท้าม้าบินมาก อาจกล่าวได้ว่าม้าบรอนซ์มีความเร็วพอๆกับนกฟลามิงโก้ของถังเทียน นับว่าเป็นสมบัติที่มีประโยชน์มาก
“ถ้าเป็นสมบัติใช้ต่อสู้ได้ ก็คงดีอยู่หรอก” ถังเทียนจ้องดูม้าบรอนซ์
“แค่นี้ก็ดีแล้ว”หลิงซิ่วพอใจ “ข้าฝึกแต่วิชาหอก สำหรับสายเลือดของเรา เราจะไม่ถามหาอาวุธอื่นมาช่วยในการสู้ของเรา ถ้ามีสมบัติที่ใช้ต่อสู้ได้จริงๆข้าก็จะไม่ใช้มัน ของชิ้นน้อยนี้อาจช่วยให้ข้าประหยัดพลังงานไปได้มาก”
ม้าบรรทุกหลิงซิ่วผู้ถือหอกเงิน เขาดูเหมือนชายหนุ่มที่ดูมีเสน่ห์
“ก็ตราบเท่าที่เจ้าชอบมัน” ถังเทียนไม่เห็นด้วย แต่จากเริ่มแรก เขาเข้าใจ ทุกคนมีทางเลือกที่แตกต่างกัน ไม่มีใครบังคับกันได้
สายตาของเขามองดูขวดแก้วสองขวดในแต่ละขวดจะมีเลือดหยดหนึ่งลอยอยู่ ขวดหนึ่งจะมีสีแดงเข้ม อีกขวดหนึ่งจะมีสีเงิน
“อะไรกันนี่?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
“นี่คือเลือดแคระและเลือดเทพ” กู้เสวี่ยพูด นางเพิ่งจะเดินเข้ามาและบังเอิญได้ยินคำถามของถังเทียน ดังนั้นนางจึงอธิบาย“เจ้าไม่รู้เกี่ยวกับของที่รวบรวมไว้นี้ อย่างนั้นข้าจะช่วยเจ้า พวกเขาดูดซับพลังสายเลือดของพวกเขาจากแหล่งภายนอก ทันทีที่พวกเขาตายสายเลือดจะรวมตัวกันโดยอัตโนมัติและจับตัวเป็นหยดเลือด”
“สายเลือดสามารถดูดซับได้ด้วยเหรอ?” ตาของถังเทียนเบิกกว้าง
“อืม...ก็แค่บางชนิด” กู้เสวี่ยอธิบาย “บางชนิดก็ทำไม่ได้ ตัวอย่างเช่นสายเลือดรุ้งหิมะ แต่สายเลือดชนิดอื่นอาจไม่เหมาะกับคนบางคนก็ได้ เจ้าลองดูก็ได้ สำหรับสายเลือดระดับเงิน ทั้งสองนี้ถือว่าคุณภาพดีมาก สายเลือดแคระสามารถเพิ่มพลังและความเร็วให้เจ้า แต่อาจจะเปลี่ยนให้เจ้ามีขนาดเล็กลง สายเลือดเทพสามารถช่วยความเร็วให้เจ้าได้ และสายเลือดทั้งสองนั้นสามารถทำให้ความเคลื่อนไหวของเจ้าคล่องแคล่วและทำได้ดี”
หลิงซิ่วสั่นศีรษะ “ข้าไม่ลอง!”
ถังเทียนเอียงคอถาม “ทำไม?”
“ข้าคิดอย่างถ้วนถี่แล้ว ข้าจะเดินตามเส้นทางของอาจารย์ข้า” ตาของหลิงซิ่วเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ข้าจะทำตามหลักการของอาจารย์ข้า และมุ่งเน้นการฝึกหอก จะไม่ยืมพลังจากสมบัติภายนอกและตอกย้ำถึงความคาดหวังของเขาที่มีต่อข้า นี่คือชะตาของข้า!”
ด้วยคำพูดนั้น หลิงซิ่วเหมือนกับมีร่องรอยนุ่มนวล
กู้เสวี่ยประหลาดใจเล็กน้อย แต่ถังเทียนมีความสุขเพราะหลิงซิ่ว ในที่สุดหลิงซิ่วก็พบเส้นทางของตนเองแล้ว ความก้าวหน้าทั้งหมดในสภาพจิตใจของเขาทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้น หลิงซิ่วพเนจรมาหลายปีแล้วและมีการเตรียมตัวมานาน ขณะที่สภาพจิตใจของเขามีความรุดหน้ามันจะช่วยหล่อเลี้ยงเขาได้อย่างต่อเนื่อง เขาสามารถรู้ได้ว่าหลิงซิ่วยอมรับช่วงเวลาที่มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญ
ถังเทียนเข้าใจพลังได้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเมื่อก่อน
“ยอดเยี่ยมมาก” ถังเทียนหัวเราะคิกคัก “อย่างนั้นข้าจะลองเอง”
ถังเทียนเลือกเลือดแคระ เขาประทับใจลึกๆ ในสายเลือดแคระ ถ้าเขาสามารถดูดซับเลือดแคระ อย่างนั้นพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับทันที
“แล้วจะดูดกลืนพลังได้อย่างไร?” ถังเทียนถามกู้เสวี่ย
“เจ้าก็แค่กลืนลงไป ”กู้เสวี่ยกังวลเล็กน้อย “บางครั้งอาจมีผลสะท้อน นี่ก็หมายความว่าร่างกายของเจ้าจะปรับตัวให้เข้ากับพลังของมัน เจ้าต้องดึงมันออกมา”
ถังเทียนตอบด้วยคำว่า “โอว”และกลืนเลือดแคระลงไป หยดเลือดแคระสีแดงเข้มไม่ได้รู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็นคาวเลย ตรงกันข้าม มันกลับมีกลิ่นหอม ถังเทียนเทดื่มเบาๆ
กู้เสวี่ยมองดูด้วยความกังวล นางมองดูถังเทียนไม่กระพริบตา หน้าของหลิงซิ่วจริงจัง เขาอยู่ในดาวไพรมายามานานมากและเข้าใจเรื่องสายเลือดลึกซึ้งยิ่งกว่าถังเทียน เช่นเขารู้ว่าอันตรายเพียงไหนที่กลืนสายเลือดลงไป
หนึ่งนาทีผ่านไป... ห้านาทีผ่านไป...
เวลาเริ่มผ่านไปเรื่อยๆ
ถังเทียนเอียงคอ สีหน้าดูหดหู่
“เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง?” กู้เสวี่ยถาม ด้วยน้ำเสียงกังวล
“ไม่มีอะไรข้าไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย” ถังเทียนยักไหล่และพูดด้วยสีหน้าประหลาด “หรือว่านี่เป็นของปลอม?”
“ไม่มีอะไรหรือ?” กู้เสวี่ยตะลึงและนางมีปฏิกิริยาปากอ้าค้าง “เป็นไปได้อย่างไร?”
หลิงซิ่วมองดูสับสน “เป็นไปไม่ได้! มันไม่มีผลตอบสนองได้ยังไง?”
จากนั้นเมอเรย์ก็วิ่งเข้ามาหลังจากได้ยินเสียง แม้ว่ากู้เสวี่ยจะพบวิธีการแต่นางรีบถามเมอเรย์ เมอเรย์มีประสบการณ์มากมาย สายเลือดเขียวสวรรค์ของเขาก็ได้มาจากการดูดซับ
หลังจากได้ยินคำอธิบายของคุณหนู เมอเรย์ตะลึง เขาไม่เคยได้ยินว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักครั้ง
ทุกคนมองหน้ากันเอง
“เป็นไงบ้าง?” ถังเทียนลังเล จากนั้นเขามองดูขวดแก้วอีกขวดหนึ่ง “ข้าควรลองขวดนั้นไหม? บางทีเลือดแคระเข้ากับข้าไม่ได้กระมัง?”
“อย่าดีกว่า” กู้เสวี่ยสั่นศีรษะอย่างต่อเนื่อง
ควั่บ ฝ่ามือของเขาคว้าขวดแก้วไว้
เข้าก้มหน้าก้มตัวกลืนเลือดเทพลงท้อง
กู้เสวี่ยตื่นเต้น “ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้?”
เมอเรย์ไม่พูดอะไรสักคำเขาจ้องมองถังเทียนใกล้ๆ หลิงซิ่วเงียบและจ้องถังเทียนเช่นกัน
สิบนาทีต่อมา
“ไม่เห็นมีอะไรเลย” ถังเทียนยักไหล่ผิดหวัง “ดูเหมือนว่าข้าไม่เหมาะกับการดูดซับพลังสายเลือดนะ! ไม่ต้องเป็นห่วงข้าหรอกน่า ข้าอาจจะพิเศษก็ได้”
“ก็คงจะไม่มีปัญหาจริงๆ” เมอเรย์พูดอย่างไม่แน่ใจแต่เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ยังดีนะที่เจ้าไม่เป็นอะไร!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า, ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!” ถังเทียนหัวเราะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “กะอีแค่เลือดสองหยดจะทำอะไรหนุ่มชาวฟ้าได้?”
ไหมว่าเลือดแต่ละหยดสามารถขายได้เท่าไหร่?”
“เท่าไหร่เหรอ?” ถังเทียนตะลึงและถามดู
“สายเลือดแคระขายกันหนึ่งล้านเหรียญดาว ส่วนเลือดเทพสามารถขายได้เจ็ดแสนเหรียญดาว ตอนนี้เจ้ากลืนลงไปหมดแล้ว เจ้าทำเงินหนึ่งล้านเจ็ดแสนเหรียญดาวหายวับไปกับตา”กู้เสวี่ยพูดอย่างไม่พอใจ
“หนึ่งล้าน...เจ็ดแสน...เหรียญดาว...” ถังเทียนพึมพำเสียงสั่น
“ถูกแล้ว ถ้าเจ้าโชคดี เจ้าอาจขายสายเลือดทั้งสองได้ถึงสองล้านเหรียญดาว” กู้เสวี่ยหัวเราะเยาะในความโชคร้ายของเขา
“อ๊าาาาาาา.....”
ถังเทียนร้องลั่นสุดเสียง เสียงนั้นดังกึกก้องไปไกล
※※※※
ถังเทียนได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างแรงขณะเหม่อมองปิง สองล้านเหรียญดาวเป็นเงินก้อนมหาศาลสำหรับเขา ตอนนี้ เขาไม่มีอะไรมากนัก
ปิงหัวเราะเยาะความโชคร้ายของเขาเช่นกัน “โอว, สองล้านเหรียญดาว? รู้สึกรสชาติเป็นยังไงบ้าง? หวานหรือขม?”
ถังเทียนมองดูย่ำแย่ เขายังคงเงียบและไประบายอารมณ์ลงที่ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง
ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงที่น่าสงสารกลายเป็นทางออกให้ถังเทียนได้ระบายความโกรธเสียแล้ว ถังเทียนระบายอารมณ์อยู่สิบนาทีก่อนจะเดินออกมาจากห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง
จากนั้นเขามานั่งอยู่ข้างๆ ปิง “นี่ลุง, ลุงยังควบคุมอาวุธจักรกลได้อยู่เหรอ?”
“โธ่!” ปิงเหลือกตา “ถ้าคนสอนเองทำไม่ได้ แล้วเขาจะสอนคนอื่นได้ยังไง?
“วิชานั้นลุงเรียกว่าอะไร? มันยอดเยี่ยมมาก!” จากนั้นถังเทียนโยนเรื่องเงินสองล้านเหรียญดาวออกไปจากหัวและถามปิง
“ดาบกางเขนเขียวแดง”ปิงตอบโดยไม่กระพริบตาและพูดอธิบายข้อเท็จจริง “นั่นเป็นวิชาที่ใช้ต่อสู้ในสนามรบรูปแบบหนึ่งหนึ่ง”
“ลุงสอนข้าได้ไหม?” นัยน์ตาถังเทียนเป็นประกายดูจริงใจ “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา” ปิงตอบตามตรง เขาไม่ยอมรอให้ถังเทียนรบเร้าจึงได้แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “เกราะนกยูงครามของเจ้าเป็นยังไงบ้าง?”