ตอนที่ 146 ชัยชนะ
ที่แตกต่างจากสภาพทุลักทุเลของถังเทียน ก็คือพลังของหลิงซิ่วเกินกว่าที่ทุกคนคาดจริงๆ
เขาสามารถเล่นงานหัวหรงได้ตลอด
นักสู้ผู้เคยพ่ายแพ้หลิงซิ่วก่อนหน้านี้ตอนนี้ตระหนักแล้วว่าพวกเขาไม่ได้แพ้อย่างงมงาย วิชาหอกของหลิงซิ่วใช้ออกได้อย่างสมบูรณ์แบบ วันนี้ผู้คนได้เห็นประจักษ์แล้วว่าหลิงซิ่วแกร่งกล้าเหี้ยมหาญอย่างแท้จริง
ปราณเที่ยงแท้ของหลิงซิ่วเป็นรองหัวหรง และเขาก็ยังไม่ได้กระตุ้นพลังสายเลือดแต่เขาก็ยังไม่เคยแพ้ เพราะวิชาหอกของเขา
โดยเฉพาะวิชาหอกที่เลิศล้ำ
ปลายหอกเปล่งประกายเย็นในอากาศ จุดแสงกินพื้นที่กว้างเหมือนทะเลดวงดาว พลองทองแดงของหัวหรงถูกป้องกันโดยทะเลดวงดาวไม่ว่าหัวหรงจะเปลี่ยนท่าเช่นไรก็ตาม หลิงซิ่วแกล้งทำเป็นไม่เห็น และยังคงสร้างชั้นของทะเลดวงดาวขึ้นต่อเนื่อง
นี่เป็นครั้งแรกที่หัวหรงได้เห็นวิชาหอกเช่นนั้น และไม่รู้จะรับมือเช่นไร
ในสภาพที่อึดอัด หัวหรงกระตุ้นพลังสายเลือดของเขา พลังสายเลือดของเขาแตกต่างจากหัวซาชื่อว่าพลังสายเลือดเทพ ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจ พลองปรากฏเห็นเป็นภาพเลือนราง มีแต่เพียงกลุ่มแสงเท่านั้น
เมื่อคนอื่นคิดว่าหลิงซิ่วอาจมีจุดลงเอยเหมือนถังเทียนที่ถูกฟาดจนสะบักสะบอม แต่หลิงซิ่วกลับทำตรงกันข้ามโดยไม่รู้ตัว
ทะเลดวงดาวนับไม่ถ้วน แต่ละดวงเกิดจากปลายหอกของหลิงซิ่ว
ความเร็วในการใช้หอกของเขาเพิ่มมากขึ้น
หัวหรงติดอยู่ในทะเลดวงดาวอีกครั้ง
ทั้งสองฝ่ายตกไปอยู่ในสภาพยันกันอีกครั้ง
หลิงซิ่วทรงพลังขนาดนี้จริงๆ หรือ?
พ่อบ้านของครอบครัวที่หนึ่งเฝ้าสังเกตการต่อสู้ เขาเกือบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง หลิงซิ่วสามารถยันหัวหรงได้! ทันใดนั้น เขาเต็มไปด้วยความเสียใจพวกเขาได้รู้จักยอดฝีมือผู้ติดอันดับห้าสิบยอดฝีมือของดาวไพรมายาแล้ว
※※※※
เทียบกับทางด้านหลิงซิ่วซึ่งอยู่ในสภาพยันกันทางด้านถังเทียนมีการโต้ตอบมากขึ้น
การเผชิญหน้ากับการโต้ตอบของถังเทียนทำให้หัวซาตกเป็นฝ่ายตั้งรับบ้าง
หัวซาได้คาดการปฏิกิริยาต่างๆของถังเทียนเช่นการหลบหนีไว้แล้ว แต่เขาไม่เคยนึกภาพออกเลยว่าถังเทียนจะเข้ามาและลดระยะห่างระหว่างพวกเขา หัวซาเข้าใจความตั้งใจของถังเทียนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการจับมือเขาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถมีเปรียบเรื่องความเร็วได้
ต่อไปจะเป็นการสู้ระยะประชิด
แต่...สู้ระยะประชิด.....เจ้ายังอ่อนหัดนัก!
หัวซาหัวเราะเยือกเย็นในใจ เขาปล่อยมือจากกระบองเขี้ยวสุนัขป่าโดยไม่ลังเลและพลิกข้อมือจับหลังแขนของถังเทียน มืออีกข้างยื่นไปที่ถังเทียนความได้เปรียบเรื่องพลังสามารถเล่นงานถังเทียนได้อย่างสมบูรณ์ หลังกระตุ้นพลังสายเลือดแคระ พลังของเขามากขึ้นเป็นสองเท่าตราบใดที่เขาคว้าส่วนใดๆ ของร่างถังเทียนได้ เขาสามารถฉีกออกได้อย่างง่ายดาย
ตำแหน่งสุดยอดห้าสิบคนแรกในดาวไพรมายาไม่ได้หล่นมาจากฟ้าแต่เป็นความน่าเชื่อถือของฝีมือที่แท้จริงของเขาที่ต้องฝ่าคมหอกคมดาบจึงจะได้มา เขารู้จุดอ่อนตัวเองอย่างชัดเจน และใช้จุดแข็งของตัวเองได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ถูกแล้วไม่ใช้ความเร็ว ความแข็งแรงจะถูกนำมาใช้แทน เป็นพลังความแข็งแรงล้วนๆ
หัวซามั่นใจอย่างเหลือเฟือ เขาเพิ่งทดสอบมาแล้ว พลังของถังเทียนไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาแม้แต่น้อย
ขณะที่มือของเขาดูเหมือนยื่นเกือบถึงไหล่ของถังเทียนทันใดนั้น ดูเหมือนมีบางอย่างที่ร่างกายท่อนล่างของเขา จากหางตาที่เขาเหลือบไปเห็น แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันรู้ตัว มวลอากาศสีขาวก็พุ่งออกมาจากด้านล่าง
นี่คือ....
หัวซาตกใจมวลอากาศสีขาวนี้ไวมาก เหมือนกับนกสีขาวบินออกมา และพุ่งเขาใส่หน้าเขาทันที สายตาของเขาถูกบดบังโดยสิ้นเชิง
วังวนวิหคขาว
วังวนวิหคขาวที่กำลังพุ่งเข้าใส่แฝงไปด้วยวังวนของสายลมกล้าแข็ง ร่างของหัวซาคล้ายกับถูกคลื่นกระแทกใส่ไม่สามารถทรงตัวได้มั่นคง
หัวซาสะดุ้งกลัว เขารวบรวมพลังมือเขาที่ว่างพุ่งตรงใส่วังวนวิหคขาวเหล่านี้
หืม? หางตาหัวซากระตุก การโจมตีนี้ล้มเหลวในระยะสั้นๆ
โอว ไม่!
สองคำนี้ปรากฏอยู่ในใจของเขาและรังสีแสงสองสายที่พุ่งเข้าหาคางของหัวซาก็คือ เท้าดาบถานถุ่ย
สีหน้าของหัวซาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเสียเปรียบมากตั้งแต่แรกทำให้เขารู้สึกกดดันลึกๆ มือซ้ายที่ว่างของเขาเตรียมโจมตีอีกครั้ง จู่ๆเมื่อพลังขนาดใหญ่พุ่งมาถึงที่แขนขวาของเขา ร่างของหัวซาสั่น
หัวซาตกใจและรวบรวมพลังไว้ที่มือขวาโดยไม่ลังเลพยายามตั้งหลักและผละออกจากอีกฝ่าย
เขาสามารถรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายผละออกไปด้วยแรงดึงกระทันของเขาและตอนนี้รังสีเท้าดาบถานถุ่ยก็พุ่งมาถึงด้วยความเร็วแสง ปราณเที่ยงแท้หุ้มฝ่ามือซ้ายของหัวซาไว้และป้องกันเท้าดาบถานถุ่ยทั้งสองสาย
ฉัวะ!
ฝ่ามือซ้ายสะดุ้ง,ราวกับว่าถูกฟันด้วยดาบถึงสองเล่มจนรู้สึกชา
หัวซาสะดุ้งกลัว ปราณเที่ยงแท้ของเขาทรงพลังกว่าถังเทียนมากมันควรจะป้องกันพลังถังเทียนได้ง่ายๆ สิ อย่างไรก็ตาม ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนนั้นคมมากและแข็งแกร่งมากสามารถฟันผ่านปราณเที่ยงแท้ที่คลุมฝ่ามือของหัวซาได้
เอ๋! เดี๋ยวก่อน! เขาไปไหนแล้ว?
หัวซาใจเต้นรัว วังวนวิหคขาวบดบังทัศนวิสัยของเขาเท้าดาบถานถุ่ยทำให้เขาฟุ้งซ่านไม่อาจสงบใจได้
หลังจากเข้ามาในระยะใกล้แล้ว ถังเทียนก็ตระหนักได้ทันที สัญชาตญาณที่เกือบจะไร้ประโยชน์ของเขาเมื่อเผชิญหน้ากับความเร็วที่น่าทึ่งของหัวซา จู่ๆ ก็กลับมาให้ความรู้สึกที่ว่องไวอีกครั้งอีกฝ่ายหนึ่งตกต่ำ อีกฝ่ายหนึ่งมือขึ้น จังหวะของการต่อสู้ตกมาอยู่ในมือของถังเทียนอีกครั้ง
อั้ก!
ฝ่ามือข้างหนึ่งประทับที่เอวขวาของเขา
พลังปราณเที่ยงแท้อันวุ่นวายปั่นป่วนและพลังที่แข็งแกร่งถูกปล่อยออกมาทันที
สีหน้าของหัวซาเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังที่ปั่นป่วนวุ่นวายชอนไชเข้าสู่ร่างกายเขาเหมือนคลื่นน้ำโชคดีที่หัวซารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ประหลาดในปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนจากเท้าดาบถานถุ่ยก่อนนั้น และครั้งนี้เขาตื่นตัวเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อฝ่ามือถังเทียนประทับใส่เอวเขาเขาจึงเตรียมทนรับพลังร่างกระเรียน
อย่างไรก็ตามเขาคิดไม่ถึงว่าปราณเที่ยงแท้จะสั่นอย่างนั้น เหมือนสายเปียนโนที่ถูกขึง ปราณเที่ยงแท้ของหัวซาก็พลอยสั่นไปด้วย โอว, ไม่นะ สีหน้าของหัวซาเปลี่ยนทันทีเขาไม่เคยคิดในใจมาก่อนเลยว่าถังเทียนยังจะมีพลังงานรูปแบบที่สองอยู่อีก แย่แล้ว!
ก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวปราณเที่ยงแท้นั้นก็ระเบิดออกมาโดยไม่มีคำเตือน!
พลังมังกรฟ้า!
พลังรูปแบบที่สาม
หัวซารู้สึกเหมือนมีระเบิดกำลังระเบิดอยู่ที่เอวข้างขวาของเขา
ปง!
ร่างของหัวซาสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ ฝ่ามือที่ตั้งใจจะคว้าจับถังเทียนถูกกระแทกออกไปเช่นเดียวกัน
ควั่บ ควั่บ ควั่บ
รังสีดาบสองสามสายแหวกมาตามอากาศและสว่างวาบในสายตาของหัวซาทันที
บรรลัยแล้ว!
หัวซาไม่เคยคิดว่าเขาจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ การโจมตีของถังเทียนไม่มีร่องรอยให้จับเค้าและยังรวดเร็ว ไม่ใช่แค่ความเร็วล้วนๆ แต่เป็นจังหวะที่รวดเร็ว
แทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างการโจมตีนี้ ลื่นไหลต่อเนื่องเหมือนสายน้ำ และยังคงสร้างความเหน็ดเหนื่อยให้กับเขา
หัวซามีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชน เขาทราบได้ทันทีว่าสถานการณ์ของเขาตกอยู่ในสภาพเลวร้ายแล้ว คู่ต่อสู้ของเขาเป็นยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิดและสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ถ้าเขายังปล่อยให้การต่อสู้ดำเนินต่อไปในรูปแบบนี้ เขาจะเป็นฝ่ายแย่แน่นอน
จู่ๆดวงตาของเขาฉายประกายอำมหิตทันทีเขาคำรามเสียงดังลั่นรวบรวมพลังทั่วร่างและใช้มือขวาฉุดถังเทียนพร้อมๆ กัน เขาเก็บท้องงอหลังมือซ้ายป้องกันตับและดีดพุ่งเข้าปะทะถังเทียน
เขาแค่ต้องการทำลายจังหวะของถังเทียน แม้ว่าจะเสี่ยงได้รับบาดเจ็บก็ตาม
หัวซามีพลังที่แข็งแกร่งมากเกินไปแรงฉุดเต็มกำลังของเขาทำให้ถังเทียนไม่อาจทรงกายมั่น เมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายกำลังจะเข้าปะทะกัน นัยน์ตาถังเทียนเป็นประกาย
เขาไม่ได้ใช้พลังงานใดๆต่อต้านหัวซา แต่เขากลับถ่ายเทพลังปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดลงไปในเกราะนกยูงทันที
จิตวิญญาณพลังยุทธเงินแผดเผาพลังเต็มที่เปล่งเปลวเพลิงสีเงินสวยงาม เปลวเพลิงเงินเหล่านี้ละลายกลายเป็นพลังยุทธของนกยูงครามพลังยุทธของนกยูงครามเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของนกยูงคราม ตื่นเต้น เจ็บปวดและคาดหวัง
นี่คือ...
ไม่มีเวลาจะไตร่ตรองอย่างระมัดระวังแล้ว มันคือโอกาสสุดท้าย!
“นกยูง!” เสียงตวาดของถังเทียนดังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ถังเทียนเปล่งรัศมีสีน้ำเงินสว่างเจิดจ้าจนคนอื่นๆไม่สามารถจ้องดูโดยตรงได้ รังสีแสงน้ำเงินสว่างวาบกระจายออกมาจากตัวถังเทียนเหมือนกับสายฟ้าคะนองอยู่รอบตัวหัวซา
เวลาเหมือนกับจะหยุดนิ่ง
หลังจากแสงรัศมีจางไปร่างของทั้งสองก็ปรากฏออกมาต่อสายตาผู้ดู เป็นเหมือนรูปปั้น
โอว โอว โห....
ถังเทียนพ่นลมหายใจอย่างหนักหน่วงและจิตใจเขาว่างเปล่าเขาไม่เหลือกำลังพอแม้แต่จะกระดิกนิ้วได้
ห่างออกไปครึ่งก้าวหัวซานิ่งแข็งอยู่กับที่ ตาทั้งสองข้างปูดโปน ทั่วทั้งร่าง เต็มไปด้วยขนสีฟ้าจางเหมือนกับตัวเม่น จากนั้นรูนับไม่ถ้วนก็ฉีดเลือดพุ่งออกมา
ถังเทียนที่ฟื้นคืนพลังได้เล็กน้อยดิ้นจนไหล่เขาหลุดจากมือของหัวซาแขนของเขาช้ำไปหมด พลังของเจ้าผู้นี้น่ากลัวเกินไป
ถังเทียนทิ้งตัวลงพื้นและหอบหายใจอย่างแรง เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเขา...ชนะ
ทุกคนจ้องมองถังเทียนอย่างมึนงง
ตุ้บ
หัวซาเป็นเหมือนท่อนไม้ล้มลงคว่ำหน้าราบกับพื้น
※※※※
“ซา!” หัวหรงเห็นหัวซาล้มกับพื้นเขาร้องออกมาด้วยความเศร้าโศก ตาของเขาแดง ขณะที่เขาร้องลั่น “ข้าจะฆ่าเจ้าซะ”
การโจมตีของหลิงซิ่วยังคงเป็นไปเรื่อยๆไม่ว่าอีกฝ่ายจะโจมตีกลับมาเช่นไรก็ตาม เขาก็แค่สร้างชั้นทะเลดวงดาวชั้นแล้วชั้นเล่าเพิ่มขึ้น
แต่ตอนนี้ นัยน์ตาของเขาฉายประกายเหน็บหนาวขึ้น
โอกาสเปิดแล้ว
หลิงซิ่วสืบเท้าไปข้างหน้าและแทงใส่หัวหรงตรงๆ
ดูเหมือนเป็นการแทงธรรมดาไม่มีเสียงขณะแทง แต่ดวงดาวรอบๆถูกดึงดูดเข้ามาทั้งหมดและละลายผสานเข้าไปในหอก
เมื่อหอกนี้แทงผ่านทะเลดวงดาวได้ดึงเอากระแสลำแสงเงินขนาดมหาศาลมารวมอยู่ที่ปลายหอกของหลิงซิ่ว
เป็นฉากภาพที่งดงามมาก
ทะเลดวงดาวหายไปทันทีขณะที่ปลายหอกของหลิงซิ่วครอบคลุมด้วยแสงสีเงินแพรวพราว
ท่วงท่าหอกที่ยอดเยี่ยมนี้ยิ่งเพิ่มพลังจนอยู่ในขีดสูงสุด
หน้าของหลิงซิ่วที่ปรากฏมีแววมุ่งมั่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นอีกคนอย่างสิ้นเชิง ถือหอกเงินที่เปล่งรัศมีสีเงิน
ใบหน้าของหลิงซิ่วมุ่งมั่นน่ากลัว นัยน์ตาสีแดงเพลิงฉายประกายร้อนแรงและมีความนับถืออย่างสุดซึ้ง “แก่นแท้ความยุติธรรม”
ซวบ
บึ้ม!
แสงสีเงินแพรวพราวฉายไปทั่วท้องฟ้าและสว่างจ้าแยงนัยน์ตาจนทุกคนต้องหลับตาโดยไม่ตั้งใจ คนที่หลับตาไม่ทันเวลาจะตาบอดแสงไปชั่วขณะ
เมื่อรัศมีแสงจางหายไป การมองเห็นจึงค่อยๆ กลับคืนเป็นปกติ
อกของหัวหรงมีแผลขนาดอ่างล้างหน้าเนื่องจากถูกทะลวงหายไปเป็นแผลที่น่ากลัวใบหน้าของเขายังคงปรากฏเค้าแววที่เหลือเชื่อ