ตอนที่ 144 อันตราย
เขามาปรากฏตรงนั้นได้อย่างไร?
ม่านตาของหัวซาฉายประกายสับสน
ถังเทียนตัวขนานพื้นเท้าเขาอยู่ด้านหน้า ตัวโน้มหงายด้านหลังเหมือนสะพานเหล็กขาทั้งสองมีรังสีสว่างขาวเหมือนหิมะและไขว้ตัดขวางกลางอากาศเหมือนกรรไกรเข้าใกล้เข้ามา
ปัง
หัวซาเพียงแต่รู้สึกว่าขาซ้ายถูกแรงยันยกขึ้นตลอดทั้งตัวของเขาเหมือนถูกแรงเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ
จังหวะนั้นของถังเทียนได้ใช้พลังทั้งหมด เขาไม่สามารถยั้งหยุดร่างกายเขาได้ในตอนนี้ถึงกับลอยสูงกว่าพื้นเกินกว่า 30 เมตร
หลังของเขาลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง น่าเสียดายโอกาสดีๆในการตามจู่โจมผ่านไปแล้ว ถังเทียนกลับคืนสู่ความสงบทันทีสามารถทำให้หัวซาหกคะเมนได้ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว ถังเทียนรู้ดีว่าการต่อสู้แค่เพิ่งเริ่ม
เมื่อถังเทียนหันไปดูอีกที หัวซาก็ลุกจากพื้นแล้ว
"ข้ามองเห็นไม่ค่อยถนัด....สายตาคงไม่ดีแน่..."
"เป็นไปได้อย่างไร...เขาสามารถเล่นงานหัวซาได้...."
"พระเจ้า....คุณพระช่วย,ข้าเพิ่งเห็นอะไรกันนี่...."
เสียงอุทานทำนองนี้ดังอื้ออึงในหมู่คนที่มองดูจากที่ไกล
ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อและงงกับสิ่งที่ได้เห็น ปากของพวกเขาส่งเสียงอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัวภาพนั้นเพิ่งเกิดขึ้น ทำให้พวกเขาตื่นเต้นอย่างสิ้นเชิง เมื่อมองเห็นหัวซาดิ้นรนลุกขึ้นจากพื้น ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น ใครๆก็สามารถบอกได้เลยว่าเขาถูกจับโยนลงพื้นอย่างหนัก
"ดูหลิงซิ่วสิ!" ทันใดนั้น บางคนในหมู่ผู้คนร้องลั่นตื่นเต้น
สายตาของทุกคนหันไปทางหลิงซิ่วและหัวหรงโดยไม่รู้ตัว
※※※※
แม้ว่าหัวหรงจะดูแคลนหลิงซิ่ว แต่เขามีนิสัยเจ้าเล่ห์และช่างสงสัยและไม่ได้โจมตีใส่สุดกำลังเหมือนหัวซา พลองในมือของเขาไวเหมือนสายฟ้า
วิชาพลองที่เขาฝึกก็คือพลองปีกจั๊กจั่น นี่คือวิชาพลองที่เบาและว่องไว แต่เขาใช้ในรูปแบบที่แตกต่างแทนที่จะใช้ความหนักหน่วงของพลอง แม้ว่าพลังของเขาจะไม่น่ากลัวเท่ากับหัวซาแต่พลังแขนของเขาก็ยังน่ากลัว ความและน้ำหนักถูกเขาผสานใช้เข้าด้วยกันอย่างน่าทึ่ง
ความเร็วราวสายฟ้าเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจ เมื่อเทียบกับหัวซา พลังความแข็งแรงของเขายังห่างไกลนัก แต่ในแง่ของความเร็วหัวซาก็คงร้องไห้แน่ถ้าจะมาเทียบกับเขาแม้แต่ในยอดฝีมือห้าสิบอันดับแรกของดาวไพรมายา แม้จะมีหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าเขา แต่มีน้อยคนมากที่ไวกว่าเขา
อย่างไรก็ตาม....
ในที่สุดเขาก็พบคู่มือในวันนี้จนได้ คนที่สามารถสู้กับเขาได้ในสิ่งที่เขาภูมิใจมากที่สุด
หน้าของหัวหรงเคร่งเครียดพลองใหญ่ของเขารวดเร็วน่าทึ่ง แสงที่ออกมาจากพลองนั้นบางและโปร่งเหมือนกับปีกของจั๊กจั่น แต่วันนี้เขากลับพบกับการต้านทานที่เหนียวแน่น
ปลายหอกแตกประกายเหมือนดวงดาวประกายแสงสีเงินเย็นเป็นประกายในท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่จากสี่เป็นแปด ในพริบตามเดียวก็เป็นทะเลดวงดาวอยู่ต่อหน้าของเขา
วิชาหอกที่มีความเร็วขนาดนั้น
วิชาพลองของหัวหรงป้องกันทะเลปลายหอกได้อย่างแข็งขันมั่นคง
เป็นไปได้อย่างไร?
ถ้าใครบางคนบอกเขามาก่อนว่ายังมีคนที่ไวกว่าเขาในดาวไพรมายา ถามใครไปก็คงไม่มีผู้ใดเชื่อ
แต่ตอนนี้ ภาพนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา
พลังต้านทานของทะเลปลายหอกแน่นหนากว้างขวางหอกและพลองปะทะกันหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่หัวหรงรู้สึกว่าพลองของเขากระทบพื้นที่มั่นคง
เขาเริ่มคิดว่าภารกิจนี้จะต้องลงมือเหนื่อยแน่ หัวหรงและหัวซามีสิทธิ์ออกจากดาวไพรมายานานแล้ว ด้วยความเก่งกล้าของพวกเขาย่อมได้ตำแหน่งรถศึกขององค์การวิญญาณมืดได้อย่างไม่มีปัญญหา แต่เมื่อพวกเขาออกจากดาวไพรมายาไป แม้ว่าพวกเขาจะสามารถทำเงินได้มาก แต่ความเสี่ยงก็สูงและไม่สะดวกสบายเหมือนในดาวไพรมายา
ตราบเท่าที่พวกเขาไม่เข้าไปตอแยคนน่ากลัวอย่างไซอา ยอดฝีมือสองพี่น้องก็ยังอาจใช้ชีวิตดุจราชาได้
หลิงซิ่ว..... เจ้าหมอนี่มาจากไหนกัน?
หัวหรงประหลาดใจและสงสัย
※※※※
ถังเทียนล้มหัวซาแบบตาต่อตาฟันต่อฟันทำให้หลายๆ คนถึงกับนั่งไม่ติด ในการต่อสู้ระหว่างหลิงซิ่วและหัวเรง หลิงซิ่วไม่ได้แพ้แต่อย่างใด! เสียงหอกและพลองปะทะกันราวกับเสียงฝนตกและดาวในท้องฟ้าหลายดวงระเบิดต่อเนื่องไม่หยุด
ทุกคนงุนงง
ความคาดหวังที่มีต่อชัยชนะของพี่น้องตระกูลหัวยังไม่ปรากฏสถานการณ์ที่พวกเขาคาดไว้ยังไม่ปรากฏเช่นกัน
ทุกคนเพิ่งตื่นจากอาการตกตะลึง
นี่คือสองพี่น้องตระกูลหัว....พวกเขาสามารถเข้าสู่ห้าสิบอันดับแรกในสุดยอดฝีมือของดาวไพรมายา พวกเขาสามารถทำผิดกฎหมายได้ในดาวไพรมายานี้ แค่ในเมืองเฮยซานเล็กๆ นี้ พวกเขาก็สามารถสั่นสะเทือนได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมืออย่างสองคนนี้ถูกต่อต้านป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยฝีมือของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีสองคน....
เสียงอุทานค่อยๆ เงียบลงทุกคนตระหนักทันทีว่าพวกเขาต้องเริ่มสำรวจดูการต่อสู้นี้ว่าพวกเขาจะสามารถผ่านไปได้อย่างไม่มีข้อสงสัย
เด็กหนุ่มสองคนนี้จะทนอยู่ได้นานเท่าไหร่?
ยี่สิบท่า? ห้าสิบท่า?
ถ้าพวกเขาทั้งสองคนสามารถทนต้านรับได้เกินร้อยกระบวนท่า ก็คงเพียงพอทำให้มีชื่อเสียงในชั่วข้ามคืน
หรือบางที อาจชนะ?
มีไม่กี่คนนักที่แว่บความคิดนี้ขึ้นมาในใจ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็คิดว่าจินตนาการของพวกเขามองโลกในแง่ดีเกินไป จึงผลักความคิดเช่นนี้ออกไปจากใจ เด็กหนุ่มสองคนนี้แค่ป้องกันต้านรับพี่น้องตระกูลหัวก็จะได้ชัยชนะแล้วหรือ? พวกเขายังอยู่ไกลจากจุดนั้น
อย่างไรก็ตามการสู้กันครั้งนี้กลายเป็นที่สนใจในไม่ช้า
พวกที่ชมดูการต่อสู้มีแต่ความเบิกบาน
※※※※
หัวซาจ้องมองถังเทียนที่อยู่ต่อหน้าเขาเขาน่าเกลียดและดูดุร้ายอยู่แล้วบวกกับใบหน้าที่บูดบึ้งทำให้ยิ่งน่ากลัวขึ้นอีก ขากางเกงท่อนล่างซ้ายขาดออกไป รอยแผลกากบาทลึกถึงกระดูกเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลไหลลงตามเท้าซ้ายนองเต็มเท้าซ้ายเขา
หัวซาไม่รู้ตัวเลยว่านัยน์ตาสัตว์ป่าของเขากำลังจ้องมองถังเทียนอย่างดุร้าย เขาไม่ได้พยายามปิดบังรังสีฆ่าฟันและความโกรธไว้ เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ
ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เขาระเบิดอารมณ์อย่างต่อเนื่อง หัวซาคำรามด้วยความโกรธ เขาทุบกำปั้นซ้ายที่หน้าอกและพุ่งเข้าหาถังเทียนทันที
กระบองเขี้ยวสุนัขป่าหนักเกือบสามร้อยกิโลกรัมในมือของเขาถูกลากออกมาทันที
วิ้ว วิ้ว วิ้ว!
เสียงหวีดหวิวต่ำที่น่ากลัวทำให้ผู้ได้ยินรู้สึกหัวใจชา แสงสีกากีหม่นครอบคลุมกระบอง ในพริบตาก็ครอบคลุมถังเทียน พื้นที่รัศมี 17เมตรตกอยู่ในขอบเขตการโจมตีของหัวซา
สีหน้าของถังเทียนเปลี่ยน สัญชาตญาณของเขารู้สึกได้ถึงอันตรายซึ่งกล้าแข็งมากจนพลังปราณเที่ยงแท้ภายในของเขากระตุกโดยไม่รู้ตัว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถังเทียนรู้สึกถึงอันตรายกล้าแข็ง
ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงทุกครั้งที่เขารู้สึกได้ถึงอันตรายรุนแรงอย่างนี้นั่นหมายความว่าเขาจะโดนรุกโจมตีในไม่ช้า
แทบจะในเสี้ยววินาที ถังเทียนตัดสินใจคำรามเสียงต่ำ "นกยูง"
ร่างของถังเทียนเปล่งแสงสีน้ำเงินออกมาอย่างเงียบกริบในชั่วพริบตาเกราะนกยูงก็คลุมทั้งร่างของเขา ตอนนี้ เขาไม่สนใจแล้วว่าคนอื่นจะพบว่าเขามาจากสมาพันธ์ชาวยุทธหรือไม่ เพราะการต่อสู้ในวันนี้ถ้าเขาแพ้ก็หมายถึงความตาย
ตรงกันข้าม ถังเทียนต้องการชัยชนะ
ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะเจ้าผู้นี้ได้ แล้วเขาจะท้าทายไซอาได้อย่างไร?
เกราะนกยูงฟื้นคืนสู่สภาพดีแล้วหลังจากถังเทียนจิตวิญญาณพลังยุทธเงินหล่อเลี้ยอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกว่าทั่วทั้งร่างถูกครอบคลุมไปด้วยปราณเที่ยงแท้ที่มีชีวิตชีวาและสัมผัสที่คล่องแคล่วของเขาขยายออกไปไกล
นี่คือจุดแข็งพลังที่แท้จริงของสมาพันธ์ชาวยุทธ
สมบัติดวงดาวที่แข็งแกร่ง,พลังของตนเองและจิตวิญญาณพลังยุทธสามารถแบ่งปันความพลังให้กับนักสู้
เมื่อมีเกราะติดตั้งอยู่บนตัวเขา ถังเทียนมีกำลังใจเพิ่มขึ้นมากเขาคำรามกราดเกรี้ยวและย่อเอวในท่านั่งม้าแล้วใช้พลังประทับหัตถ์ใหญ่ต้านทานกระบองเขี้ยวสุนัขป่า
เมื่อเทียบกันในด้านกำลังแล้ว หนุ่มชาวฟ้าผู้นี้ไม่เคยหวั่นเกรงใคร
พลังที่รุดหน้าซึ่งครอบคลุมตัวถังเทียนถูกนำมาใช้ทันที
พลังประทับรูปลักษณ์สี่เหลี่ยมปรากฏอยู่เหนือตัวถังเทียน
บึ้ม!
แขนทั้งสองรู้สึกชา ถังเทียนครางออกมา ตาของเขาถลึงมองด้วยความโกรธ ท่านั่งม้าของเขาดูเหมือนจะล้มแต่เขาก็จัดท่าตั้งมั่นได้ทันที นอกจากนี่พลังที่รุนแรงถ่ายผ่านตัวเขาลงไปและเท้าของเขาถึงกับจมลงไปในเนื้อหิน
หินแข็งรอบตัวถังเทียนในรัศมี 17เมตรถูกป่นเป็นผง
พลังโจมตีนี้ หัวซาไม่ได้ยั้งออมพลังเลยแม้แต่น้อยแต่ตอนนี้มันกลับถูกต้านรับอย่างแข็งขันและน่ากลัวมาก เขาถึงกับผงะถอยหลังออกไปถึงเจ็ดแปดก้าวถึงตั้งหลักได้
รอยแตกปรากฏอยู่บนผนึกของประทับหัตถ์ใหญ่เหนือหัวถังเทียนและมันแตกเป็นเสี่ยงๆฝ่ามือประทับหัตถ์ใหญ่ของเขาแข็งแกร่งมากไม่เคยแตกสลายมาก่อน แต่วันนี้กลับแตกเป็นเสี่ยงๆ
เรี่ยวแรงถึกของเจ้าผู้นี้ยังมากกว่าอาโมรี่เสียอีก
ถังเทียนข่มความตกใจ ร่างของเขาสั่นเล็กน้อยฝุ่นบนตัวเขาฟุ้งขึ้นบนท้องฟ้าจนเป็นรูปคนและหายไปช้าๆ ถึงตอนนี้ เขาค่อยๆยืดตัวตรงและผ่อนลมหายใจยาว แต่สายตาของเขาเยือกเย็น
แขนของเขาตอนนี้ชาจนแทบไร้ความรู้สึก
แรงปะทะล้วนๆ เช่นนั้น ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจ
ถังเทียนเชื่อมั่นในพลังแขนของเขาสายตาของเขาจ้องมองหัวซา เพราะว่าหัวซาก็คงไม่รู้สึกว่าดีไปกว่าเขาแน่นอน อย่างไรก็ตาม ถ้ามีพลังโจมตีติดตามมาอีก ครั้งนี้เขาคงได้รับบาดเจ็บแน่นอน
ตาของหัวซาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความประหลาดใจอย่างมาก นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับนักสู้ที่ตั้งใจประชันกับเขาในด้านความแข็งแกร่งของร่างกายนอกจากนี้ เจ้าคนที่อยู่ต่อหน้าเขา รูปร่างของเขาดูแล้วช่างหลอกตา
และเขายังคงสวมเกราะ...
ตาของเขาเป็นประกายด้วยความโลภ ชุดเกราะเป็นของหาได้ยากในดาวไพรมายา นอกจากในดาวไพรมายาแล้วแม้แต่ในองการวิญญาณมืดก็ยังตั้งราคาชุดเกราะไว้ค่อนข้างแพงและชุดเกราะของเจ้าเด็กนี่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ของธรรมดา
แม้ว่าพลังของถังเทียนจะทำให้หัวซาประหลาดใจ แต่เขาก็ยังยิ้มได้
ถ้าเจ้ามีฝีมือทั้งหมดเพียงแค่นี้ อย่างนั้นเจ้าเสร็จแน่
ในดวงตาของเขาเปล่งแววกระหายเลือด และยิ้มของเขาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย
ปง ปง ปง....
ทันใดนั้น เสียงที่คล้ายกับเสียงเต้นของหัวใจที่รุนแรงดังเข้ามาในหูของถังเทียน ถังเทียนตะลึง, อะไรกันนี่? เมื่อเขาตรวจสอบที่มาของเสียงสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หัวใจของหัวซา!
นี่คือ...
หัวซาสายตาที่โกรธและรอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมร่างขนาดเนินเขาย่อมๆ ของเขาหดลงอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนตะลึง
ในพริบตาหัวซาที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนก็หดขนาดจาก 1.95 เมตรเหลือเพียง 1.6 เมตร!
หัวซาที่มีขนาดร่าง 1.6 เมตรหดขนาดลงอย่างมากมาย และไม่รู้หยิ่งอีกต่อไป แม้แต่ความโกรธ ดูเหมือนเขาจะควบคุมได้แล้ว
นั่นคือพลังสายเลือดหรือ? ถังเทียนไม่แน่ใจ แต่ความรู้สึกถึงอันตรายดั้งเดิมจากในใจเขายังเหมือนเมฆในท้องฟ้าที่กดดันมาจากทุกด้าน
เจ้าผู้นี้.....อันตราย