ตอนที่แล้วEp.465 - เซียนกระบี่ล่าแสงฮังอวี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.467 - สันเขามังกร

Ep.466 - ศิลาเทพเทเลพอร์ต


1/2

Ep.466 - ศิลาเทพเทเลพอร์ต

ถึงจะได้หินสกิลมา

แต่ยังไม่สามารถสืบทอดมรดกได้

ภารกิจต่อไปที่ฮังอวี่ต้องทำในช่วงสองสามวันนี้คือรวบรวมแต้มวิญญาณขณะเดียวกันทำการตรวจสอบข้อมูลที่ทางเมืองฟ้าเดียวดายแจ้งมา

นาเซอร์ได้ยืนยันกับเขาอีกที พร้อมมอบหลักฐานบางอย่าง ว่ามีช่างซ่อมผู้นี้อยู่ในอาณาจักรมังกรโลกาจริงๆ  และครั้งหนึ่งเคยเป็นสมาชิกของพันธมิตรหนามทมิฬ

หากช่วยเหลือช่างซ่อมออกมาได้ มันจะมีความหมายมากต่อพันธมิตร

ส่วนเหตุผลที่นาเซอร์มอบข้อมูลนี้แก่ฮังอวี่

ในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่ได้คาดหวังให้ฮังอวี่เข้าช่วยเหลือด้วยตัวเอง

แต่นาเซอร์เคยได้ยินมาว่าทุกแคว้นอาณาจักรมังกรโลกา รวมไปถึงบริเวณสันเขามังกรที่ถูกควบคุมโดยราชามังกรคลั่งมีมนุษย์กระจัดกระจายอยู่ และเนื่องจากมีมนุษย์อยู่ในทุกพื้นที่ เช่นนั้นพวกเราก็สามารถใช้มนุษย์ในพื้นที่นั้นเข้าช่วยเหลือได้มิใช่หรือ?

เรื่องนี้คุ้มค่าที่จะลอง และหากสำเร็จ ด้วยความสามารถระดับผู้เชี่ยวชาญของเขา เขาสามารถซ่อมแซมสิ่งของหรืออุปกรณ์คุณภาพสูงทั้งหมดที่ตกถึงมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมันเป็นประโยชน์มากต่อพันธมิตร

ภายในร้านอาหาร

ฮังอวี่ ซูหยุนปิง  รับประทานอาหารร่วมกัน

หลังจากฟังรายงานของซูหยุนปิงเกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุด ฮังอวี่ก็ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้แก่เธอ

ปัจจุบันทั้งคู่สนิทกันมาก โดยพื้นฐานแล้วไม่จำเป็นต้องมีความลับต่อกัน

เธอขมวดคิ้วและพูดว่า “นายจะไปช่วยช่างซ่อมคนนั้นจริงๆ? ปัจจัยเสี่ยงไม่สูงเกินไปหรอ? ถ้าพลาดขึ้นมาคงแย่แน่ๆ”

ฮังอวี่กล่าวขณะหั่นสเต็กเนื้อมังกร “ความเสี่ยงสูงก็จริง แต่คุ้มค่าที่จะลอง ถ้าช่วยช่างซ่อมได้ ชุดม่วงชิ้นที่สองของผมก็พร้อมใช้งาน”

ซูหยุนปิงกล่าวว่า “แต่คำถามคือการเดินทางไปสันเขามังกรมันไกลมาก ถ้านายใช้เวลานานขนาดนั้น สู้รออยู่เฉยๆแล้วให้ในเผ่ามนุษย์มีช่างซ่อมระดับผู้เชี่ยวชาญปรากฏขึ้นยังดีกว่า”

“สถานการณ์ในแคว้นเดียวดายมั่นคงแล้ว การพัฒนาเมืองธารทะเลทรายก็เฟื่องฟู ต่อให้ผมไม่อยู่ ก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหานี้ ส่วนเรื่องระยะทาง ....” ฮังอวี่กล่าว “ผมกำลังหาวิธีอยู่”

มีสิบภูมิภาคในอาณาจักรมังกรโลกา ได้แก่ : สันเขามังกร + เก้าแคว้น

สันเขามังกรคือศูนย์กลางของอาณาจักรมังกรโลกา และขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด โดยทั่วไปแล้วเป็นพื้นที่ภายใต้อำนาจของผู้ปกครองอาณาจักรมังกรโลกา

แคว้นเดียวดายอยู่ไกลจากสันเขามังกรมาก แม้ฮังอวี่จะนั่งสัตว์ขี่ที่ว่องไวที่สุดในตอนนี้ กว่าจะไปถึงที่นั่นอาจใช้เวลามากกว่า 5 - 6 วัน แต่นี่ไม่นับรวมถ้าเกิดปัญหาระหว่างทาง เช่น มอนสเตอร์ป่าโจมตีหรือพบเจอภัยธรรมชาติ อาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ตามความคิดของฮังอวี่ อันที่จริงมันมีไอเท็มพิเศษบางอย่างที่ช่วยให้ไม่ต้องเปลืองแรงอยู่ สามารถย่นเวลาเดินทางได้ไวขึ้น

ในความทรงจำของฮังอวี่ หลายแห่งในอาณาจักรมังกรโลกา มีค่ายกลเทเลพอร์ตโบราณหรือพวกเขตแดนลับอยู่  แม้ที่กล่าวมาจะไม่ช่วยให้ไปถึงที่หมายได้ทันที แต่ก็ช่วยประหยัดเวลาได้

แน่นอน

เงื่อนไขคือต้องหามันให้พบ

เห็นฮังอวี่ตัดสินใจแน่วแน่ ซูหยุนปิงก็ไม่พูดอะไรอีก เธอเปลี่ยนหัวข้อ “ยังไงก็เถอะ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เสี่ยวไป๋ใกล้กลั่นโพชั่นลับแห่งขุมนรกสำเร็จแล้ว เพียงแต่ว่ายังขาดวัตถุดิบหลักอีกอย่างหนึ่ง”

เสี่ยวไป๋เป็นนักกลั่นโพชั่นระดับผู้เชี่ยวชาญ ในบรรดาสูตรที่เธอมีอยู่ในปัจจุบัน โพชั่นลับแห่งขุมนรกอยู่ในระดับสูงสุด นี่คือสูตรสีฟ้าใดที่เปิดได้จากหีบในคุกโบราณ

โพชั่นไม่เหมือนอุปกรณ์

ระดับพลังของอุปกรณ์สีม่วงกับสีฟ้าห่างชั้นกันเกินไป ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้พิมพ์เขียวสีฟ้าใสผลิตอุปกรณ์สีม่วง

แต่สูตรโพชั่นน่ะไม่เหมือนกัน

สูตรโพชั่นลับแห่งขุมนรก มีโอกาสสูงที่จะกลั่นได้โพชั่นสีม่วง

แต่ว่าปัญหาคือการกลั่นมันน่ะยากมาก!

“วัสดุอื่นๆไม่มีปัญหา พวกเราสามารถหาซื้อมันมาได้ทั้งหมดแล้ว” ซูหยุนปิงหยุดพักหนึ่งก่อนเอ่ยต่อ “แต่เหลือวัสดุสีฟ้าในเลเวล 15 อีกชิ้นที่เรียกว่า ‘เลือดแห่งความโกลาหล’ ฉันประกาศหาทุกช่องทางแล้ว แต่ไม่มีข่าวเรื่องนี้เลย”

ฮังอวี่พยักหน้า “ผมกำลังจะไปที่สันเขามังกร สถานที่ที่มั่งคั่งที่สุดในอาณาจักรมังกรโลกา การเดินทางครั้งนี้อาจพอมีโชคหาซื้อมันได้”

อย่างไรก็ตาม เลือดแห่งความโกลาหลเป็นไอเท็มสีฟ้าที่หายากมากๆ บอกตามตรงฮังอวี่ไม่มั่นใจเต็มร้อยเหมือนกันว่าจะเจอมัน

หลังกินอาหารเที่ยง

ฮังอวี่เข้าสู่โลกวิญญาณอีกครั้ง

การเจรจาแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างทีมของจ้าวหมิงกับตัวแทนของดาบพิษใกล้เสร็จสิ้นแล้ว

“เจ้าหมา การเจรจาเป็นยังไงบ้าง?”

“ฮ่ง เป็นไปได้ด้วยดี เมืองฟ้าเดียวดายไม่ค่อยสนใจหินคริสตัล พวกเขาแค่ขอเสบียงกับเรา รวมไปถึงพิมพ์เขียว สูตรอาหาร และหุ่นรบขั้นสูง”

หวังเอ๋อรายงานจำนวนโดยประมาณ

ฮังอวี่ไม่จำเป็นต้องลองคำนวณในใจ เขาก็รู้ว่าธุรกิจนี้กำไรมหาศาล!

เหล่าจ้าวเป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์ ส่วนหวังเอ๋อฉลาดมากและเถียงเก่งไม่แพ้ใคร ทีมเจรจาที่ทั้งคู่ก่อตั้งขึ้น ย่อมคำนวณกำไรให้ออกมาดีที่สุด

หวังเอ๋อกล่าวว่า “อ้ออีกอย่าง ดาบพิษได้สั่งซื้อสินค้ากับทางเราด้วย พวกเขาต้องการให้มนุษย์ไปยังเมืองฟ้าเดียวดาย ช่วยพวกเขาสร้างเครือข่ายเน็ต และขายอุปกรณ์เช่นคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์แก่เผ่าออร์ค รวมไปถึงติดตั้งเกมด้วย”

ก่อนดาบพิษจะมาเยือนเมืองธารทะเลทราย เขาแวะเที่ยวชมเมืองเล็กหลายแห่ง และรู้สึกทึ่งกับเครือข่ายเน็ตของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์

เกม วิดีโอ วรรณกรรม หรืองานศิลปะอื่น ๆ ได้รับความสนใจอย่างมาก ดังนั้นจึงเสนอให้ดำเนินการก่อสร้างที่คล้ายกันในเมืองเทียนหวง

“แล้วลุงจ้าวตอบว่ายังไง?”

“ฮ่ง แน่นอน แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด พวกเราตกลง เพราะยังไงก็กำไร!”

“ทำได้ดีมาก”

แบบนี้ก็ดี

เมื่อเมืองฟ้าเดียวดายอาศัยเทคโนโลยีของมนุษญ์ ถูกกัดกร่อนโดยวัฒนธรรมของมนุษย์ ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ ตัดกันไม่ขาดในที่สุด

ภารกิจของดาบพิษยังไม่จบลง เขาออกไปเยี่ยมเยือนทีมต่างๆของเผ่ามนุษย์

และดาบพิษได้ค้นพบว่า แท้จริงแล้วมีกองกำลังมนุษย์หลายกลุ่มในเมืองธารทะเลทราย อย่างไรก็ตามพลังรบของมังกรครามทรงพลังที่สุด ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานของดินแดน การค้าและด้านอื่นๆเกือบทั้งหมดจึงเป็นของพวกเขา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ากองกำลังอื่นจะทำกำไรไม่ได้เลย

ตัวอย่างเช่นดาบพิษเพิ่งได้รู้ว่า เมืองธารทะเลทรายได้สร้างโครงข่ายเทเลพอร์ตของตัวเองแล้ว แต่ไม่ใช่ของมังกรคราม ทว่าเป็นของกองทัพมนุษย์จากเมืองทรายดำ

มันช่วยอำนวยความสะดวกสบายได้มาก!

ห้ามลืมนะว่าอาณาเขตของเมืองฟ้าเดียวดายน่ะกว้างใหญ่กว่าเมืองธารทะเลทราย! ฉะนั้นถ้าได้โครงข่ายเทเลพอร์ตมาบ้าง ข้อจำกัดในการหาสถานที่ล่าของผู้ครองแคว้นและเหล่าลูกน้องจะได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น!

ส่วนมนุษย์กลุ่มอื่นอาจได้กำไรน้อยลงมา แต่พวกเขาก็ครอบครองทรัพยากรบางอย่างที่กลุ่มอื่นหาเองไม่ได้

ดังนั้นเมืองธารทะเลทรายไม่ใช่ผู้ที่กินรวบทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว

เมืองฟ้าเดียวดายยังคงสามารถติดต่อกองทัพมนุษย์กลุ่มอื่นเพื่อทำการค้าได้เช่นกัน

ฮังอวี่ยังไม่ทันได้จัดงานเฉลิมฉลอง ฉูเทียนหัวก็วิ่งมา บอกข่าวดีแก่ฮังอวี่

“พวกเราพบศิลาเทเลพอร์ตแล้ว!”

ฮังอวี่มีความสุขมาก “จริงหรือ?”

ฉูเทียนหัวพยักหน้าและพูดว่า “เป็นเรื่องบังเอิญพอดี ในงานประมูลของประเทศญี่ปุ่น มีเจ้าสิ่งนี้โผล่มา ฉันฝากให้คนรู้จักที่เป็นวงในของที่นั่นถ่ายรูปส่งกับราคามาก่อน มันราคาประมาณ 200 - 300 กินคริสตัลฟ้า”

ราคานี้ไม่ถูกเลย

แต่ฮังอวี่ไม่เสียเวลาคิดแม้พริบตา

สำหรับเขา ถ้าราคาไม่เกินหลักหมื่น ไม่ใช่ปัญหา

หากมีคนจัดอันดับเศรษฐี ฮังอวี่คงเป็นที่หนึ่งในเจียงเฉิง!

ศิลาเทพเทเลพอร์ตนี้อย่างน้อยก็เป็นไอเท็มเฉพาะคุณภาพสีฟ้า

ศิลาเทพที่กล่าวมามีสองก้อน หากแยกจากกัน ผู้ถือครองศิลาเทพก้อนนึง สามารถเทเลพอร์ตไปยังศิลาเทพอีกก้อนนึงได้

อย่างไรก็ตาม ศิลาเทพเทเลพอร์ตเป็นอะไรที่หาได้ยากมาก ไม่นึกเลยว่าจะโชคดีเจอมันเข้าในจังหวะเหมาะ

ฮังอวี่ตัดสินใจส่งคนไปประมูล และเริ่มเตรียมการฝั่งของตัวเอง เอ่ยปากถาม “ตอนนี้มีทีมจากจีนอยู่ในสันเขามังกรบ้างไหม?”

ฉูเทียนหัวตอบว่า “มีหลายคนในเซี่ยงไฮ้อยู่ในสันเขามังกร พวกเราสามารถมอบศิลาเทพให้พวกเขาถือ แล้วใช้มันเทเลพอร์ตไปได้”

“ดีล่ะ ตกลงตามนั้น!” ฮังอวี่กล่าว “ผมต้องการไปที่สันเขามังกรให้เร็วที่สุด!”