CD บทที่ 288 ไหลตามฉัน
“หัวหน้าทีมเหมี่ยว!” จ้าวหยู่เหนี่ยวไกปืนและถามเธอว่า “ทำไมปืนกระบอกนี้ถึงยิงไม่ออกล่ะ?”
แม้ว่าเหมี่ยวอิงจะยังงัวเงียอยู่ แต่เมื่อเธอรู้ตัวว่าจ้าวหยู่เอาบางอย่างไปจากเธอ เธอก็ลืมตาขึ้น เมื่อเธอหันไปเห็นจ้าวหยู่ถือปืน เธอพูดด้วยท่าทางเหยียดหยามว่า
"นี่คุณโง่หรือไง? คุณไม่ได้ปลดเซฟตี้แบบนี้มันจะยิงได้ยังไง!?"
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จ้าวหยู่ก็กระจ่างในทันใด เนื่องจากเขาไม่เคยสัมผัสปืนเลยในชีวิตก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เกี่ยวกับปุ่มเซฟตี้ แต่จากความทรงจำของเขาในชีวิตนี้ จ้าวหยู่จบการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจ ดังนั้น เขาจึงได้รับการฝึกฝนในการยิงปืน
หลังจากเหมี่ยวอิงพูดจบ จ้าวหยู่ก็ปลดเซฟตี้ของปืนทันที และเล็งปืนออกจากรถอีกครั้ง
ขณะเดียว คนในรถข้างหน้าจ้าวหยู่เห็นว่าเขาเล็งปืนมาที่พวกเขา ทันใดนั้นชายเปลือยก็ไม่กล้าหัวเราะและผู้หญิงที่มีรอยสักก็ชักมือกลับเข้าไปในรถทันที! แล้วรถทั้งสองคันได้ชะลอความเร็วลง และหลีกทางให้รถจ้าวหยู่ผ่าน
"ฮึ่ม!" จ้าวหยู่พ่นหายใจออกอย่างเดือดดาล คนพวกนี้เกิดมาเป็นแค่ขยะ แต่กล้าทำตัวเหิมเกริมไม่เจียมตัว ด้วยความโกรธที่พลุ่งพล่าน ทำให้เขาต้องการให้บทเรียนแก่พวกอันธพาลอย่างแน่นอน!
เขาเหยียบคันเร่งไล่พวกเขาไป ในเวลาเดียวกัน เขาเล็งปืนไปที่ยางรถของอีกฝ่าย และกำลังจะยิง
ขณะที่จ้าวหยู่กำลังจะเหนี่ยวไก เหมี่ยวอิงก็ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตา เธอตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอพูดกับจ้าวหยู่นั้น มันไม่ได้เป็นความฝัน แต่มันเป็นความจริง!
เมื่อเธอเห็นว่าจ้าวหยู่หยิบปืนของเธอและกำลังจะยิงรถที่อยู่ข้างหน้าพวกเขา เธอก็ตกตะลึง เธอตะโกนว่า
"จ้าวหยู่! คุณบ้าไปแล้วหรือไง!?"
จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปและดึงมือจ้าวหยู่ แต่นิ้วของจ้าวหยู่อยู่ที่ไกปืนแล้ว มันจึงจ้าวหยู่ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า
*ปัง!*
เสียงปืนดังกังวานพาดผ่านค่ำคืนอันเงียบงัน
*เอี๊ยด!*
รถที่อยู่ด้านหน้าจ้าวหยู่กำลังหลีกทางให้ คนขับไม่คาดคิดว่าจ้าวหยู่จะยิงพวกเขาจริง ๆ คนขับหมุนพวงมาลัยอย่างแรงด้วยความกลัว ด้านขวาของรถของเขาครูดกับรถอีกคัน
นั่นทำให้ตัวรถพลิกคว่ำ และรถข้างหน้าหมุนสองสามครั้ง มันได้พุ่งผ่านสิ่งกีดขวางบนถนนที่กำลังก่อสร้าง และเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างทันที
เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกของรถ จ้าวหยู่รีบเหยียบเบรก แต่รถยังเร็วเกินไป และรถเจ็ทต้าของพวกเขาก็ชนกับรถทั้งสองคันด้วย!
“อ๊าก!!!” จ้าวหยู่และเหมี่ยวอิงตะโกนออกมาพร้อมกัน
จ้าวหยู่จับพวงมาลัยไว้แน่น เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่สูญเสียการควบคุมรถ โชคดีที่หลังรั้วเพิ่งสร้างถนนไม่มีคูน้ำ เมื่อรถพลิกคว่ำ มันก็หมุนหลายครั้งก่อนที่จะลงจอดในแนวตั้ง! และรถคันข้างหน้าก็กระแทกกับเสาและเสียงชนก็ดังก้อง!
หลังจากผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง จ้าวหยู่ก็ควบคุมรถได้และหยุดมันไว้หลังรถอีกสองคัน
"จ้าวหยู่!!!" ภายในรถมีเสียงตะโกนอย่างเหลืออดของเหมี่ยวอิง “นี่แกเป็นบ้าหรือไง!? แกกล้ายิงใส่คนเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ได้ยัง!? พวกเราเป็นตำรวจนะ!”
“หัวหน้าทีมเหมี่ยว คุณพูดอะไรน่ะ?” จ้าวหยู่พูดอย่างนิ่ง ๆ “คุณไม่ได้สั่งฉันหรอกหรือ? คุณบอกให้ฉันยิงพวกมันไม่ใช่หรือไง?”
“อะไรนะ!?” ใบหน้าของเหมี่ยวอิงแดงก่ำด้วยความโกรธ เธอชี้ไปที่รถที่ประสบอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้า "บัดซบ! ฉันจะขอให้แกยิงพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่!? สิ่งที่แกทำมันสามารถคนให้คนตายได้เลยนะ! แกทำได้ลงคอได้อย่างไร!?"
ขณะที่เหมี่ยวอิงกำลังดุด่าจ้าวหยู่ ประตูรถทั้งสองคันที่ประสบอุบัติเหตุก็เปิดออก ทุกคนในรถปีนออกมาอย่างงุ่มง่าม พวกเขามีทั้งหมด 5 คน นอกจากชายไม่สวมเสื้อและหญิงที่มีรอยสักแล้ว ยังมีชายอีกสามคนที่มีผมสีต่างกัน
เมื่อพวกเขาลงจากรถ พวกเขาก็รีบไปหนีทันที ต่างคนต่างได้รับบาดเจ็บและคร่ำครวญหาพ่อแม่อย่างน่าสมเพช
"เฮ้ หยุดนะ!" จ้าวหยู่เห็นว่าพวกเขาต้องการที่จะหนี เขาจึงออกจากรถทันทีพร้อมกับปืนในมือของเขา
ตอนนี้เหมี่ยวอิงรู้สึกกลัวอย่างแท้จริง เธอรีบลงจากรถเช่นกัน เธอกระโดดผ่านกระโปรงรถ แล้วไปคว้าข้อศอกของจ้าวหยู่เอาไว้อย่างรวดเร็ว
"จ้าวหยู่! เอาปืนคืนมาให้ฉัน! คุณบ้าไปแล้วหรือไง!?" เหมี่ยวอิงดึงเขาเข้ามาขณะที่เธอตะโกนด้วยความตื่นตระหนก "กระสุนมีจำนวนจำกัด คุณจะยิงปืนอย่างมั่ว ๆ ได้อย่างไร? เราได้ก่อปัญหาใหญ่ขึ้นมาแล้ว คุณรู้ตัวบ้างไหม?"
เนื่องด้วยเหมี่ยวอิงลากแขนของเขา จ้าวหยู่จึงตัดสินใจยิงขึ้นไปในอากาศหนึ่งครั้ง เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทั้งห้าต่างหวาดกลัวและไม่กล้าวิ่งหนีอีกต่อไป อันที่จริง แม้ว่าพวกเขาจะต้องการวิ่ง แต่ก็ไม่ง่ายที่จะทำ ถนนสายนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีรั้วก่อสร้างมากมายอยู่ข้างหน้า และส่วนใหญ่ไม่สวมรองเท้า เนื่องจากถนนยังเป็นหินอยู่ การพยายามวิ่งโดยไม่สวมรองเท้ามีแต่จะทำให้ได้รับลาดแผลมากขึ้นเท่านั้น
“คุณ…” เหมี่ยวอิงตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เธอเห็นท่าทางที่ดื้อรั้นแต่ดุร้ายของจ้าวหยู่ แม้แต่เหมี่ยวอิงผู้หยิ่งยโสมาโดยตลอด เธฮก็ยังรู้สึกกลัวอยู่บ้าง
"ฮึ่ม!" จ้าวหยู่พ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและบอกเหมี่ยวอิงว่า "หัวหน้าทีมเหมี่ยว เราต้องหาทางโกหกพวกมัน ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในเรือลำเดียวกันแล้ว ถ้าคุณอยากรอด คุณต้องไหลตามน้ำฉัน!"
“จ้าวหยู่… คุณ… คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?” เหมี่ยวอิงรู้สึกกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ ทันใดนั้น เธอก็ตระหนักได้ว่าจ้าวหยู่ตรงหน้าเธอ ไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกต่อไป
จ้าวหยู่เมินเฉยต่อเธอโดยสิ้นเชิง และเดินไปหาคนทั้งห้าที่พยายามจะวิ่งหนีพร้อมกับตะโกนสุดเสียงว่า "พวกแกจงฟังให้ดี ถ้าเกิดมีใครกล้าวิ่งหนีไปล่ะก็ ฉันจะยิงหัวพวกแกทั้งหมดทันที! เอ้า มานี่ มาหาฉัน!"
พวกเขาไปได้ไม่ไกลนัก เมื่อได้ยินคำขู่ของจ้าวหยู่ พวกเขาก็ได้แต่ก้มหน้าลง ในขณะนี้ พวกเขาได้สูญเสียท่าทีที่กร่างและดุร้ายก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง แต่ละคนสั่นกลัวไปทั้งตัว
"มาตรงนี้!" จ้าวหยู่ชี้ไปที่รถ “ทุกคน มานี่แล้วหมอบลง!” ขณะที่เขาพูด เขากล้าที่จะพยักหน้าเล็กน้อยให้เหมี่ยวอิง “เร็วเข้า จับพวกมันเลย!”
"อะ อะไรนะ?" เหมี่ยวอิงกลืนน้ำลาย ตอนนี้เธอถูกจ้าวหยู่ข่มขู่อย่างสมบูรณ์
“มัวยืนทำอะไรอยู่!?” จ้าวหยู่แสร้งทำเป็นดุเธอ “นี่คือผู้ต้องสงสัยในคดีปล้นธนาคาร! คุณลืมภารกิจของเราไปแล้วหรือไง? เร็วเข้า!”
ในขณะที่เขาพูด จ้าวหยู่ก็หยิบกุญแจมือของเขาออกมาก่อน ขณะที่กำลังจะใส่กุญแจมือชายไม่สวมเสื้อ ทันใดนั้นเครื่องตรวจจับล่องหนในหัวของเขาก็ส่งเสียงออกมา
‘เชี่ย!’
จ้าวหยู่เงยหน้าขึ้นทันทีและเตะไปที่ชายผู้มีผมย้อมสีน้ำเงิน เท้าของจ้าวหยู่ลอยขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว ร่างของชายคนนั้นก็กระแทกเข้ากับรถและกระดอนลงกับพื้น โทรศัพท์ของเขาร่วงหล่นไปไกลจากตัวเขา
“โอ๊ย… โอ๊ย….”
เมื่อพวกเขาเห็นชายคนนั้นล้มลงกับพื้นร้องครวญคราง อีกสี่คนที่เหลือก็ตัวสั่น
"แกกำลังทำบ้าอะไรอยู่!?" จ้าวหยู่กัดฟันและหยิบโทรศัพท์ที่เขาแย่งมาจากชายคนนั้น “นี่แกอัดเสียงแล้วโทรแจ้งตำรวจใช่ไหม? ไม่เห็นเหรอว่าฉันก็เป็นตำรวจ พวกเราอยู่ท่ามกลางช่วงเวลาสำคัญในการจับอาชญากร แต่พวกแกกลับขวางรถของเรา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกแกต้องเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของพวกโจรแน่นอน!”
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่จ้าวหยู่ทำอย่างนี้ แต่เหมี่ยวอิงก็ยังตกใจอยู่ดี
"โอ๊ย คุณตำรวจ… นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด! พวกเราไม่ใช่คนร้าย!" ชายสวมเสื้ออธิบายด้วยความสั่นกลัว ขณะที่เขาพูด กลิ่นของแอลกอฮอล์ก็ลอยออกมาจากตัวเขา เห็นได้ชัดว่าเขาดื่มไปไม่น้อยทีเดียว
“ห๊า! เข้าใจผิด!?” จ้าวหยู่คว้าตัวชายที่เขาเพิ่งเตะและกระแทกหัวของเขาเข้ากับประตูรถ จากนั้นเขาก็ตรึงแขนของชายคนนั้นไว้ด้านหลังและใส่กุญแจมือ
“ฉันจะบอกอะไรให้เอาบุญ!” จ้าวหยู่พูดอย่างเย็นชา "ฉันได้รับคำสั่งมาให้จับโจรที่เป็นชาย 4 คนและหญิง 1 คน พวกแกตรงกับคำอธิบายนั้นพอดี ถ้าพวกคุณมีอะไรอยากจะพูดก็ให้ไปพูดที่สถานีตำรวจ! นอกจากนี้…" ในขณะที่เขาพูด จ้าวหยู่ก็มองไปที่เหมี่ยวอิงอีกครั้งโดยแสดงท่าทีแข็งกร้าว "มัวรออะไรอยู่ รีบโทรหาสำนักงานใหญ่เร็วเข้า! บอกพวกเขาว่าเราจับคนร้ายได้แล้ว!"
"อ๊ะ? อะ อะไรนะ... แต่..." เหมี่ยวอิงมองกลับไปที่จ้าวหยู่ด้วยความตกตะลึงอย่างสมบูรณ์