2063 - 2064
2063 - โชควาสนาในดินแดนโบราณ
พวกเขาชะลอตัวลง เรือรบดำเนินไปอย่างช้าๆ และมุ่งหน้าสู่จักรวาลอันมืดมิด สือฮ่าวจำได้ว่าที่นี่มีโชคตามธรรมชาติหลบซ่อนอยู่
“เจอแล้ว มันกำลังมา!” เขาพูดเบาๆ
ในระยะไกล เรือโบราณที่ขาดรุ่งริ่งมีกลิ่นอายแห่งกาลเวลา ย้อมด้วยเลือดเคลื่อนที่มาอย่างช้าๆและเงียบสงบ เดินหน้าเข้าหาทุกคน
"นั่นคืออะไร?" จูหลินถามด้วยเสียงสั่นสะท้าน
“เรือวิญญาณ บางคนก็เรียกว่าเรือรบวิญญาณ มีสัตว์ประหลาดอยู่บนนั้น มันมีประสาทสัมผัสอันเฉียบแหลมพร้อมจะเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งให้กลายเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อบำรุงตัวเอง” สือฮ่าวกล่าว
ทุกคนเริ่มตื่นเต้นเมื่อได้ยินสัตว์ประหลาดตนนี้สามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นเมล็ดพันธุ์ได้ พวกเขารู้สึกว่าหากสามารถกลั่นวิญญาณของมันออกมาอาจจะทำให้พวกเขาได้เมล็ดพันธุ์ระดับสุดยอด
เรือลำนั้นมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่ามันจะทรุดโทรมแต่ยังค่อนข้างโอ่อ่า นั่นแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของมันเมื่อครั้งบรรพกาล
อ่าว!
เสียงร้องอันชั่วร้ายดังขึ้นทำลายความเงียบ ความผันผวนทางจิตวิญญาณยิ่งรุนแรงขึ้น ทันใดนั้นมียักษ์สีเงินขนาดใหญ่ก็พุ่งออกมาจากเรือมุ่งตรงเข้าหาสือฮ่าว
“ผู้สูงสุด มีจิตวิญญาณแห่งสงครามระดับสูงสุดจริงๆ!” คนเหล่านี้ตกตะลึง
สือฮ่าวยังคงนิ่งสงบ เขาก้าวออกมาปิดกั้นความผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวทั้งหมด นี่เป็นเพียงจิตวิญญาณที่ตายแล้วของหมียักษ์สีเงินเท่านั้นมันไม่สามารถทำอันตรายเขาได้
หู!
ลมแรงโหมกระหน่ำ ในเรือรบลำนั้น มีนกเผิงสีทองบินอยู่เหนือท้องฟ้า มันกางปีกขนาดใหญ่และพุ่งเข้าหาสือฮ่าวเช่นเดียวกัน
ทุกคนตกใจกลัว นี่คือเรือผีถึงกับมีวิญญาณของสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดซ่อนอยู่
น่าเสียดายที่พวกมันได้พบกับสือฮ่าว การโจมตีของพวกมันไม่มีอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้สูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับเต๋ามนุษย์
ในที่สุดเพียงสือฮ่าวยกมือขึ้นเบาๆ หัวของหมีเงินยักษ์ก็ถูกตัดออกจากร่าง ในขณะที่นกเผิงสีทองถูกฉีกออกเป็นสองส่วนทั้งคู่ถูกสังหารอีกครั้งโดยไม่มีโอกาสปกป้องตัวเองเลย
ในทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตทั้งสองกลายเป็นสายฝนแห่งแสงสิ่งที่ถูกเก็บไว้ภายในคือพลังทางจิตวิญญาณ เมื่อมันถูกทำลายมันไม่มีที่ไปย่อมถูกดูดกลืนโดยทุกคนที่อยู่บนเรือ
สือฮ่าวไม่คิดจะรับผลประโยชน์ครั้งนี้เพราะเขาคิดว่าพลังของมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขามากนัก เป็นเพราะวิญญาณดั้งเดิมของเขามาถึงระดับสูงสุดของเต๋ามนุษย์แล้ว
มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะดูดกลืนสิ่งที่อยู่ในระดับเต๋ามนุษย์อีก
เขาไม่คิดจะนำของสิ่งนี้เข้าสู่ร่างกายให้เสียประโยชน์ การมอบมันให้คนอื่นจะทำให้พวกเขาได้รับประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลแทน
“มันน่าตกใจจริงๆ จิตวิญญาณบรรพกาลของข้าแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อยจริงๆ!” พวกเขารู้สึกถึงความรู้สึกที่นึกไม่ถึง
“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เราอาจจะสามารถบรรลุเต๋าได้จริงๆ พวกเราจะมีโอกาสกลายเป็นผู้สูงสุดแล้ว!”
"ฆ่า!"
ไม่ใช่แค่มู่ชิง มังกรแดงและอื่นๆ แม้แต่วิญญาณสายฟ้าผีเสื้อจักรพรรดิและหินศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ก็ยังไม่สามารถนิ่งเฉยได้
นี่เป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ สิ่งมีชีวิตจำนวนมากปรากฏขึ้นจากเรือโบราณลำนั้น พร้อมด้วยนกศักดิ์สิทธิ์เก้าเศียร สิงโตทองคำขาว สุนัขศักดิ์สิทธิ์ใต้พิภพและอื่นๆ ในบรรดาพวกมันมีหลากหลายสายพันธุ์
ภายใต้การจู่โจมของผู้คนจากหมู่บ้านหินผาที่ฝึกฝนมานับพันปี เรือผีก็ล่มสลายอย่างรวดเร็ว วิญญาณสงครามเหล่านี้ถูกฆ่าตายทั้งหมด
“การหล่อเลี้ยงวิญญาณดั้งเดิมแบบนี้ ช่างวิเศษเหลือเกิน!” ใครบางคนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
โชคไม่ดีที่แม้ว่าวิญญาณบรรพกาลของพวกเขาจะส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับและโปร่งแสง แต่ท้ายที่สุดมันก็ยังไม่เพียงพอทำให้พวกเขากลายเป็นผู้สูงสุดได้
วิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ชื่นชอบการโจมตีผู้อ่อนแอเท่านั้น หากมันพบว่าฝ่ายตรงข้ามดึงมือ พวกมันจะถอนตัวหลบหนีทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งนี้เมื่อมันพบว่าฝ่ายตรงข้ามมีผู้สูงสุดที่แข็งแกร่งถึงขนาดลงมือจัดการผู้สูงสุดของพวกมันสองคนพร้อมกัน พวกมันก็ถอนตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านอาณาจักรโบราณที่ถูกทำลายไปทีละแห่ง พวกเขาก็เข้าสู่ทวีปห้าธาตุ ในสถานที่แห่งนั้นมันซ่อนเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ล้ำเลิศที่สุดก็ว่าได้
ย้อนกลับไปในตอนนั้นสือฮ่าวได้เห็นกับตาของเขาเอง อย่างไรก็ตาม มีสิ่งมีชีวิตโบราณที่แข็งแกร่งปกป้องเมล็ดพันธุ์นั้นไว้ ในตอนนั้นเขาไม่มีปัญญาแย่งชิงมันไปได้จึงได้แต่จากไปด้วยความเสียดาย
ในที่สุดพวกเขาก็มาถึง นี่เป็นดินแดนมหัศจรรย์ ไม่เหมือนกับดินแดนโบราณที่ถูกทำลายอื่นๆ
ที่นี่มีพืชพันธุ์มากมาย ทั้งดอกไม้ ผลไม้ กฎแห่งเต๋าทั้งหมด พวกมันรวมตัวกันไว้อย่างเหนียวแน่นกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋า
ในตอนนี้สือฮ่าวมีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้นคือต้นสารพัดเต๋า
“หลังจากผ่านไปหลายปี ไม่รู้ว่ามันจะยังอยู่ที่เดิมหรือไม่ ตอนนั้นมันยังไม่โตเต็มที่ ตอนนี้น่าจะเติบโตเต็มที่แล้ว” สือฮ่าวคิดถึงข้อสรุปมากมายที่อาจเป็นไปได้
ต้นสารพัดเต๋านั้นน่าจะอยู่ในบริเวณนี้ เพราะว่าตามสถานที่ที่เขาผ่านมามากมายมันมีต้นไม้เล็กๆที่มีเต๋าอันยิ่งใหญ่แฝงอยู่ด้านใน
“สถานที่นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แม้ว่าเราจะไม่ได้เมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ แต่ถ้าเรากินผลไม้เหล่านี้เราก็จะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน!”
มังกรแดงพูดพร้อมกับถอนหายใจ นี่คือพื้นที่บ่มเพาะในอุดมคติ
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถหยุดอยู่ที่นี่ได้ในระยะยาว สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่รู้จัก การเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ทุกประเภท
หากพวกเขาฝึกฝนที่นี่เป็นเวลาหลายสิบปี มันอาจก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
“เจ้ากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรเต๋ามนุษย์แล้ว เจ้ายังต้องกลัวอะไรที่นี่?” มดเขาสวรรค์ถามสือฮ่าว
“ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตอมตะอย่างแท้จริงอาศัยอยู่ พวกเราไม่อาจอาศัยอยู่ได้นาน” สือฮ่าวพูดพร้อมกับถอนหายใจ
ในอดีต เหตุผลที่พวกเขาถอยออกไป ไม่สามารถนำต้นสารพัดเต๋าออกไปได้ เป็นเพราะว่ามีสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวคอยปกป้องมันอยู่
ระหว่างทางพวกเขาเดินหน้าไม่หยุดเนื่องจากพวกเขารู้ว่าสถานที่นี้มีเมล็ดเต๋าที่ไม่มีใครเทียบได้ พวกเขาจึงต้องมองหาด้วยตัวเอง
หลังจากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกและพบเจอกับขุนเขาขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
บริเวณโดยรอบมีสายฟ้าสาดกระจายอยู่ทุกที่ รอยแตกในความว่างเปล่าขนาดใหญ่ขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง เป็นที่แน่ชัดว่าผู้ฝึกฝนที่ความแข็งแกร่งไม่พอจะไม่สามารถเข้าสู่ยอดเขาแห่งนั้นได้
สือฮ่าวไม่รอช้าเขาหันหัวเรือมุ่งเข้าหายอดเขาแห่งนั้นอย่างรวดเร็ว
พลังหยินอันยิ่งใหญ่แผ่ซ่านไปทั่วอากาศ แก่นของเปลวไฟหยางอันยิ่งใหญ่พลุ่งพล่านอยู่ภายในยอดเขา
หยินและหยางลุกลาม กฎศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้น มีแสงสว่างเจิดจ้ามากมายที่นี่มันศักดิ์สิทธิ์และสงบสุขอย่างยิ่ง
แน่นอนว่ายังมีเสียงฟ้าร้องรวมไปถึงกลิ่นอายของการทำลายล้างแฝงอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน
ที่ใจกลางของเกาะมีต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งจำศีลอย่างสงบ กิ่งก้านของมันเหมือนมังกรคดเคี้ยวไปมา ลำต้นตั้งตรงและแข็งแรง ใบไม้พลิ้วไหวด้วยแสงสีศักดิ์สิทธิ์ไร้ขอบเขต
กิ่งก้านของต้นไม้นั้นแน่นหนาผลของมันกระจายอยู่ทั่วทุกกิ่งเป็นหมื่นๆผล
ต้นไม้ต้นนี้เป็นเต๋าที่ไม่มีใครเทียบได้ ว่ากันว่าผลไม้ทุกลูกของมันล้วนแล้วแต่เป็นเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่มีมากมายกว่าหมื่นเต๋า
ไม่ช้าก็เร็วหลังจากที่มันตื่นขึ้นมามันก็จะย้ายตัวเองไปที่อาณาจักรเซียนอย่างแน่นอน
รอบๆนั้นมีสายฟ้าแลบวูบวาบ มีสระสายฟ้าที่ลอยขึ้นและตกลงมาทีละแห่ง
ฉากนี้น่ากลัวมาก!
หนึ่งในเมล็ดพันธุ์ที่มีค่าที่สุดในโลกปัจจุบัน เทียบได้กับต้นอ่อนของต้นไม้โลก
“มีคนอยู่ที่นี่!” มดเขาสวรรค์ตกตะลึง เขาเห็นอีกคนอยู่ไกลๆคนผู้พวกเดินอยู่บนเรือลำใหญ่ ในตอนนี้สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่ต้นไม้สารพัดเต๋า
คนเหล่านั้นก็มองเห็นกลุ่มของสือฮ่าวอย่างชัดเจนเช่นกัน ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ
“ผู้คนของอาณาจักรเซียน!” เฉาอวี่เซิ่งกล่าวเบาๆ
เป็นเพราะเรือโบราณลำนั้นมีรอยประทับของดินแดนอมตะ มีเพื่อนเก่าของพวกเขาที่นี่บ้างไหม?
แม้แต่การแสดงออกของสือฮ่าวก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังเมื่อมองไปที่เรือลำนั้น
2064 - ลูกศิษย์ของชิงยี่
เรือรบสีม่วงทองปล่อยเกลียวพลังงานอมตะออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ มันหยุดอยู่เหนือใจกลางเกาะ ไม่ไกลจากต้นสารพัดเต๋า มีเพียงทะเลสายฟ้าเท่านั้นที่แยกพวกเขาออกจากกัน
มีทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวยืนอยู่บนเรือ ชายหนุ่มองอาจกล้าหาญส่วนหญิงสาวนั้นก็งดงามหยดย้อย ทุกคนยืนอยู่บนเรือท่าทางสงบไม่ได้หวั่นเกรงเมื่อพบว่าพวกเขาปรากฏตัว
คนเหล่านี้ไม่ธรรมดาเลย ล้อมรอบด้วยพลังเซียน
“นี่ของจริงหรือของปลอมเหตุไฉนพวกเขาถึงบ่มเพาะพลังเซียนได้มากถึงขนาดนั้น?” สือจงร้องออกมาด้วยความตกใจ
“มันไม่ใช่พลังของพวกเขาแต่เป็นพลังของเรือรบลำนั้นต่างหาก” มู่ชิงกล่าว นั่นน่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ขั้นเซียน
คนเหล่านี้มาจากดินแดนอมตะ เพราะรอยประทับบนเรือลำนั้นชัดเจนมาก
ย้อนกลับไป เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ธงสงครามของดินแดนอมตะมีรอยประทับประเภทนี้อย่างแม่นยำ
“พวกเจ้าเป็นใครกัน”
บนเรือ ชายวัยกลางผู้หนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าขบวนมองออกมา ดวงตาของเขาราวกับเป็นสายฟ้าสีทองที่ฉีกความว่างเปล่าออกเป็นสองสาย
“*สือป้าเทียน!” ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์ตะโกนออกมาประกาศชื่อของมันเองแบบนี้
*สือ=ก้อนหิน ป้า=ทรราช เทียน=สวรรค์
อีกด้านหนึ่งกลุ่มคนได้แสดงสีหน้าแปลกๆ ชื่อนี้คืออะไร? เหตุไฉนมันจึงตั้งชื่อไม่ดีไม่งามถึงขนาดนี้
แม้แต่สือฮ่าว มู่ชิง ผีเสื้อจักรพรรดิและคนอื่นๆก็รู้สึกอับอายในการประกาศชื่อของมัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันค่อนข้างน่าขบขันนะ!” ชายวัยกลางคนคนนั้นมองไปที่ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พร้อมรอยยิ้มจางๆ
ดวงตาของสือฮ่าวราวกับสายฟ้าที่กวาดไปทั่วคนเหล่านั้น
บนเรือนั้นไม่มีใครที่เขารู้จักแม้แต่คนเดียว นี่คือการเคลื่อนไหวออกค้นหาทรัพยากรของอาณาจักรเซียนหรือไม่?
ในทันใดนั้นทั้งสองฝ่ายก็มองหน้ากันและถอยหลังออกจากกันเล็กน้อย
สือฮ่าวเปิดเผยการแสดงออกบนใบหน้าอย่างแปลกประหลาด อีกด้านหนึ่งมีสิ่งมีชีวิตสูงสุด ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่แค่หนึ่งจริงๆแล้วมีถึงสอง!
ความแข็งแกร่งของเด็กเหล่านั้นมีตั้งแต่อาณาจักรเทพสวรรค์ไปจนถึงอาณาจักรปลดปล่อยตนเอง พวกเขามาเพื่อต้นสารพัดเต๋าหรือพวกเขาคิดจะใช้มันมอบให้ใครบางคนในนี้?
เราต้องเข้าใจว่าต้นไม้ต้นนี้มีความพิเศษ พิเศษจริงๆ มันเป็นเมล็ดพันธุ์ล้ำค่าที่ไม่มีใครเทียบได้สิ่งมีชีวิตในโลกล้วนต้องการค้นหามันมาเป็นของตัวเอง!
“พวกเจ้าทั้งหมดเป็นสิ่งมีชีวิตในเก้าสวรรค์สิบพิภพ?” ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกฝั่งถาม เขาเป็นหนึ่งในสองสิ่งมีชีวิตสูงสุด
“แน่นอน พวกเจ้าเป็นคนจากอาณาจักรเซียนหรือไม่” มู่ชิงตอบกลับ
ในระหว่างกระบวนการนี้สือฮ่าวยืนอยู่กับอวิ๋นซี เขายังคงสงบและเฝ้าดูพวกคนเหล่านั้น มันทำให้เขานึกถึงผู้คนมากมายจากอดีต
ราชันย์สิบสมัยเข้าสู่อาณาจักรเซียนไปแล้ว สือยี่ ฉินฮ่าว พี่น้องของเขาก็เข้าสู่สถานที่แห่งนั้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีชิงยี่ สือฮ่าวถอนหายใจเบาๆ !
“ถูกต้อง เราเป็นคนของราชาอมตะเอ๋าเฉิง” ชายวัยกลางคนกล่าว
แม้ว่าสือฮ่าวจะยืนอยู่ที่จุดสูงสุดแต่เขาก็ยังตกใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อของราชาอมตะคนนี้ เพราะเขาโด่งดังเกินไป
ราชาอมตะเอ๋าเฉิงเป็นหนึ่งในราชาอมตะที่เก่าแก่ที่สุด เขาเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดของอาณาจักรเซียน ผู้ซึ่งมองข้ามแม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ทอดยาวอยู่เบื้องบน
ในอดีตราชาอมตะน้อยของอาณาจักรเซียนผู้ซึ่งส่งผู้คนไปยังอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตแห่งความมืดก็คือทายาทโดยตรงของราชาอมตะเอ๋าเฉิงคนนี้!
ราชาอมตะเอ๋าเฉิงนี้มีชีวิตมาอย่างยาวนาน พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างกายของเขาไร้ขอบเขตไม่มีใครเทียบได้ ก่อนหน้านี้แม้แต่ราชาอมตะบางคนก็ยังเคยถูกเขาฆ่ามาแล้ว!
ในอดีต ในช่วงสุดท้ายของสงครามเซียนโบราณสาเหตุที่ศัตรูต่างมิติถอยทัพออกไปก็เพราะราชาอมตะคนนี้นำกองทัพของอาณาจักรเซียนออกมาด้วยตัวเอง
คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งค่อนข้างพอใจกับปฏิกิริยาของสือฮ่าว ใครบ้างในโลกที่ไม่หวาดกลัวต่อราชาอมตะเอ๋าเฉิง? การมีปฏิกิริยาแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
“พวกเจ้าถอนตัวออกไปได้แล้ว ต้นสารพัดเต๋านี้เป็นที่หมายปองของทายาทราชาอมตะเอ๋าเฉิง พวกเจ้าไม่มีโอกาสจะแย่งชิงมันได้” ชายวัยกลางคนกล่าว
การแสดงออกของสือฮ่าวเริ่มสงบ
ในขณะเดียวกันจูหลิน สือจง เฉาอวี่เซิ่งและคนอื่นๆก็ตกใจ นี่เป็นถึงหนึ่งในราชาอมตะที่ทรงพลังที่สุดในโลก! พวกเขาลงเอยด้วยการเผชิญหน้ากับทายาทของเขา
……….
แม้ว่าจะเป็นคนจากดินแดนอมตะ แต่เมื่อต้องเผชิญกับยุคไร้การฝึกฝน พวกเขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
พวกเขาปิดเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างสองอาณาจักรอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวว่ายุคไร้การฝึกฝนจะขยายไปสู่ดินแดนอมตะ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นั่น
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ พวกเขาคงไม่ถอนตัวออกไปเลย
“ปกติแล้ว ไม่มีใครเต็มใจที่จะเข้าสู่อาณาจักรนี้ อย่างไรก็ตาม มีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์บางอย่างที่สุกแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเสี่ยงในการมาเอาพวกมัน” ชายวัยกลางคนกล่าว
เขาชี้ไปที่ต้นสารพัดเต๋า ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ต้นไม้ต้นนั้น
“จงระวังให้มากขึ้น เนื่องจากเรายังไม่ถึงขอบเขตผู้อมตะที่แท้จริง เราจึงสามารถเข้าออกสถานที่แห่งนี้ได้” ชายวัยกลางคนกล่าว
สิ่งมีชีวิตสูงสุดทั้งสองมาเพื่อนำทางและปกป้องเด็กๆกลุ่มใหญ่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีผู้อมตะที่แท้จริง ที่จริงแล้วเป็นเพราะมีข้อจำกัดในสถานที่แห่งนี้
ผู้อมตะที่แท้จริงไม่สามารถเข้าสู่โลกนี้ได้ ไม่เช่นนั้นหากพวกเขากลับสู่อาณาจักรเซียนยุคไร้การฝึกฝนจะติดตามพวกเขาไปด้วย เว้นแต่ว่าพวกเขาตั้งใจจะอยู่ที่นี่ตลอดกาล
แน่นอนว่าการมีราชาอมตะคอยดูแลสถานที่แห่งนั้นอยู่ไม่ใช่ว่ายุคไร้การฝึกฝนจะกระจายสู่อาณาจักรเซียนได้ง่ายๆ เพียงแต่ว่ามันจะต้องใช้ความพยายามรวมถึงทรัพยากรไม่น้อยในการจัดการเรื่องนี้
ดังนั้นแม้แต่ราชาอมตะก็ไม่อนุญาตให้ผู้อมตะลงมาในอาณาจักรนี้เพื่อตัดความยุ่งยากไป
อีกด้านหนึ่งในบรรดาเด็กหนุ่มสาวทุกคนมีหญิงสาวดวงตากลมโตคนหนึ่งกำลังมองมาที่พวกเขาด้วยความมั่นใจ จู่ๆนางก็พูดขึ้นว่า
“ในเมื่อพวกเจ้าทุกคนมาจากเก้าสวรรค์สิบพิภพพวกเจ้ารู้จักคนที่ชื่อฮวงหรือไม่?”
มู่ชิงและคนอื่นๆตกตะลึง นางเป็นใคร? เหตุไฉนถึงกล้าตามหาฮวง!
สือฮ่าวมองไปทางนาง เด็กหญิงนางนี้งดงามมากเพียงแต่ว่านางดูเหมือนจะหยิ่งผยองเล็กน้อย ด้วยที่อายุยังน้อยแต่มาถึงระดับบ่มเพาะนี้แล้วก็สมควรที่นางจะมั่นใจในตัวเอง
“เจ้าตามหาเขาทำไม?” สือฮ่าวถาม
“มีใครบางคนต้องการให้ข้าฝากข้อความถึงเขา นี่คือเหตุผลที่ข้าเข้าสู่อาณาจักรนี้พร้อมกับทายาทของราชาอมตะเอ๋าเฉิง” หญิงชุดเหลืองพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉียบคมนัยน์ตาเป็นประกาย
“เจ้ามีอะไรจะบอกข้างั้นหรือ” สือฮ่าวกล่าว
ความโกลาหลก็ปะทุขึ้นทันที เห็นได้ชัดว่ามีคนเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน แม้แต่สิ่งมีชีวิตสูงสุดทั้งสองก็แสดงท่าทีประหลาดใจ
ในขณะเดียวกันหญิงชุดเหลืองคนนั้นยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก นางจ้องมาที่เขาแล้วจึงเดินออกมาจากนอกเรือพร้อมกับพูดว่า
“มาคุยกันที่ด้านข้างกันเถอะ”
สือฮ่าวบินเข้าหานางอย่างไร้อารมณ์
“อาจารย์ของข้าคือเทพธิดาชิงยี่หรือที่เรียกว่าเยว่ฉาน ข้าเป็นลูกศิษย์ของนางชื่อว่าหลัวหลิน” หญิงชุดเหลืองหลัวหลินกล่าวระบุที่มาของนางโดยตรง
ตอนนี้การแสดงออกของสือฮ่าวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าเด็กหญิงนางนี้จะเป็นลูกศิษย์ของชิงยี่
อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ของนางค่อนข้างพิเศษจริงๆ เขาสัมผัสได้ถึงความมั่นใจของนาง แม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับเขา นางก็ยังมีความเย่อหยิ่งอยู่แบบหนึ่ง
“หลายปีแล้วที่อาจารย์ของข้าต้องการให้ข้าส่งข้อความของนางถึงสหายเก่า” หลัวหลินกล่าว
"และ?" สือฮ่าวถาม
“อาจารย์ของข้าต้องการที่จะแต่งงานกับราชาอมตะน้อยทายาทของราชาอมตะเอ๋าเฉิง” ดวงตากลมโตของหลัวหลินส่องประกายเมื่อกล่าวคำพูดนี้
“นี่คือคำพูดที่ชิงยี่ฝากเจ้ามาบอกกับข้างั้นหรือ?” สือฮ่าวมองไปที่หลัวหลินด้วยสายตาจริงจัง
"ถูกต้อง!" หลัวหลินเงยหน้าขึ้น น้ำเสียงของนางหยิ่งผยองและแน่วแน่