ตอนที่ 6–26 วางแผน
นี่คงเป็นเรื่องยาก!
ถ้าอยู่ภายในวัง ลินลี่ย์คงต้องหาโอกาสใช้ยาพิษก่อน แล้วจึงค่อยฆ่าเคลย์ในเขตราชวัง
“แม้ว่าเราจะไม่กังวลปัญหาจะถูกพบว่าเป็นคนลงมือฆ่า เมื่อจะสังหารเคลย์ การหลบหนีออกจากวังเป็นเรื่องที่ทำให้ยากมาก” ความเป็นไปได้ประการเดียวปรากฏขึ้นมาวูบหนึ่งในใจของลินลี่ย์แล้วก็หายไป
ในที่สุดลินลี่ย์ก็ได้บทสรุป
“หากใช้พิษในวังและจากนั้นค่อยหลบหนีออกมา นั่นแทบเป็นไปไม่ได้” ลินลี่ย์ปฏิเสธวิธีการนี้ ที่สำคัญ มียอดฝีมืออยู่มากมายภายในวัง ถ้าเขาเพียงใช้ร่างมังกร เขาจะหาทางหนีออกมาได้
แต่ลินลี่ย์ไม่อยากเปิดเผยความลับเรื่องที่เขากลายร่างเป็นมังกรได้
“ก็ต้องเป็นนอกวัง” ลินลี่ย์รู้สึกปวดศีรษะ
สถานที่นอกวัง ที่เคลย์ยินดีจะมากับเขาตามลำพังหรือ และยังต้องเป็นที่โดดเดี่ยวด้วย นี่ยากมาก ที่สำคัญเคลย์เป็นกษัตริย์ ถ้าใครต้องการพบเขา พวกเขาจะต้องเข้าไปพบในวังเป็นการส่วนตัว
ลินลี่ย์ไม่สามารถส่งคนไปที่วังและขอให้พระราชาเคลย์มาพบเขา
ลินลี่ย์ไม่เคยได้ยินสถานการณ์ขนาดที่ทำให้ผู้ครองอาณาจักรจะมาเยี่ยมพวกเขา เรื่องนี้ชัดเจนแล้วว่าทำไม่ได้ แม้ว่าเคลย์จะเห็นแก่หน้าเขาและรับคำยอมมาก็ตาม แต่เป็นไปได้ว่าน่าสงสัยและต้องมีการคุ้มกัน
ทันทีที่เคลย์ได้รับการคุ้มกัน โอกาสสำเร็จจะลดน้อยลง
“ข้าต้องหาโอกาสอยู่กับเขาตามลำพังในที่ๆ อยู่นอกวังให้ได้” แม้จะอยู่ในเมืองเฟนไลมานาน แต่ลินลี่ย์ไม่เคยได้มีโอกาสอยู่กับเคลย์ตามาลำพังมาก่อน
ว่าโดยทั่วไปแล้ว พวกเขาพบกันแต่ในเฉพาะงานเลี้ยงเท่านั้น
แต่ลินลี่ย์ไม่สามารถเคลื่อนไหวในงานเลี้ยงได้ อยู่ต่อหน้าผู้คนนับไม่ถ้วนเขาจะทำได้หรือ?
“จะทำยังไงดี?”
ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกหงุดหงิด
ต้นเดือนธันวาคม อุณหภูมิในเมืองเฟนไลลดลงฮวบฮาบและหิมะแรกของฤดูหนาวนี้ก็มาถึงเช่นกัน ทั่วทั้งเมืองเฟนไลปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน อากาศหนาวเย็นเสียดผิวทำให้ชนชั้นสูงมากมายพอใจหลบอยู่แต่ในบ้านพวกเขา ไม่ยินดีจะออกมาข้างนอก
ลินลี่ย์อยู่ในชุดคลุมหลวมกำลังเดินเล่นไปตามถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะโดยมีองครักษ์สองคนติดตามมาด้วย
“ซวบ, ซวบ” เสียงฝีเท้าย่ำลงบนหิมะ
เมืองเฟนไลที่มีหิมะปกคลุมดูมีเสน่ห์เป็นพิเศษ บนประตูของคฤหาสน์ชนชั้นสูงแต่ละด้านของถนนกรีนลีฟมีหยาดน้ำแข็งค้างนับไม่ถ้วน แสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนหยาดน้ำค้างแข็งแวววาวทำให้ทั้งหมดดูงดงามมากยิ่งขึ้น
ต้นสนสูงตระหง่านมีหิมะปกคลุมด้านหน้าคฤหาสน์ดูเหมือนงดงามเป็นพิเศษ
เป็นภาพที่ดูงดงาม
แต่อารมณ์ของลินลี่ย์กลับไม่ดี
“เคลย์นั้นเป็นนักรบระดับเก้าแล้ว แม้ว่าความก้าวหน้าจากระดับเก้าไปเป็นระดับเซียนจะยากมาก แต่บางทีสักวันเขาอาจบรรลุเข้าขอบเขตใหม่ได้ทันทีก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นจะน่าสิ้นหวังยิ่งขึ้น” ลินลี่ย์ไม่ต้องการจะรอคอยอีกต่อไป
ถ้าเขาเคลื่อนไหวลงมือกับเคลย์ได้เร็ว โอกาสสำเร็จจะมีมากขึ้น
แต่เขาต้องการโอกาส
“เจ้านายดูสิ! คฤหาสน์รอบๆ มีอยู่หลายหลังที่มีการประดับและตกแต่ง” เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
ขณะที่เดินไปตามถนน ความคิดของลินลี่ย์ไม่อยู่กับตัว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่ทันสังเกต แต่เมื่อได้ยินคำพูดของบีบี ลินลี่ย์สังเกตได้ว่าคฤหาสน์สองฝั่งถนนกรีนลีฟในตอนนี้แตกต่างจากแต่ก่อน
“นี่คือ...” ลินลี่ย์พูดอย่างสงสัย
“แขวนขึ้นไป ดีแล้ว ตอนนี้เลื่อนไปทางซ้ายนิดนึง” บ่าวรับใช้ของคฤหาสน์ที่อยู่ใกล้ที่สุดกำลังง่วนกับการประดับตกแต่งภายใต้คำแนะนำของคนใกล้เคียง
“นั่นคือ...ดอกยูลานนี่!” ลินลี่ย์สังเกตเห็นเครื่องตกแต่งที่ห้อยระย้าอยู่ข้างประตู ตามรูปแบบที่เห็นดูเหมือนกับเป็นดอกยูลาน
ทันใดนั้น ลินลี่ย์ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“จริงสิ! เข้าเดือนธันวาคมแล้ว เทศกาลยูลานจะมาถึงในอีกไม่ช้า และจะมีเทศกาลฉลองศักราชปีที่ 10,000” ลินลี่ย์รู้ความสำคัญของเทศกาลยูลานโดยเฉพาะ
วันที่ 1 มกราคม ปีที่ 10,000 ตามปฏิทินยูลาน บางทีนั่นจะเป็นวันเฉลิมฉลองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทวีปยูลาน มิน่าเล่าตระกูลชนชั้นสูงแต่ละตระกูลถึงได้พากันตกแต่งประดับประดากันอย่างมากมาย
“เป๊าะ!”
ซี่กระไดขั้นหนึ่งซึ่งบ่าวทาสยืนอยู่ขณะกำลังประดับประดาจู่ๆ ก็หักลงทันที บ่าวทาสผู้นั้นเสียหลักร่วงลงมา ตอนแรกศีรษะกระแทกกะไดก่อนจากนั้นจึงกระแทกหินบนพื้น เลือดของเขาไหลย้อมพื้นจนแดงฉาน
บ่าวทาสที่อยู่ใกล้ๆ พากันตกใจ
"เป็นอะไรหรือเปล่า?" ทุกคนวิ่งตรงมาช่วยพยุงเขา
"มึน...มึนนิดหน่อย.." บุรุษที่ได้รับบาดเจ็บนั้นพูดเสียงอ่อย โชคดีที่บันไดไม่สูงนักจึงทำให้เขาหล่นกระแทกไม่รุนแรงมาก นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เขารอดชีวิต
"เอาล่ะ, วันนี้เจ้าพอแค่นี้แหละ กลับไปบ้านและพักซะ โคล เจ้าไปดูแลเขาด้วย โธ่เอ๊ย..ไม่เคยขึ้นสูงอย่างนั้นจนตัวเองตกกระแทกบาดเจ็บอย่างนั้น" หัวหน้างานอดส่ายหน้าไม่ได้
บ่าวรับใช้ชื่อโคลช่วยประคองบ่าวที่ได้รับาดเจ็บทันทีและพาเขากลับไปที่พัก
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลินลี่ย์ตะลึง
"ใต้เท้า... ใต้เท้าลินลี่ย์หรือขอรับ?" ถึงตอนนี้พ่อบ้านผู้ดูแลค่อยสังเกตเห็นลินลี่ย์และรีบเข้ามาแสดงความเคารพลินลี่ย์ นี่คือคฤหาสน์ของดยุคโบนัลท์และลินลี่ย์เคยมาที่นี่ก่อนนั้น ผู้ดูแลคนนี้จึงจำลินลี่ย์ได้
"อรุณสวัสดิ์ขอรับ ใต้เท้าลินลี่ย์" ผู้ดูแลพูดพร้อมกับคำนับ
ถึงตอนนี้ลินลี่ย์ค่อยได้สติจากอาการมึนงง รอยยิ้มตื่นเต้นปรากฏบนใบหน้าของเขา เขามองดูบุรุษผู้นั้นและหัวเราะเบาๆ "ฮะฮะ อรุณสวัสดิ์เช่นกัน ฮะฮะ เอาล่ะ, ได้เวลากลับบ้านแล้ว"
ลินลี่ย์ตื่นเต้น หมุนตัวพาองครักษ์ของเขากลับทันที
"เฮ้, ทำไมใต้เท้าของเราถึงมีความสุขนักเล่า?" นักรบทั้งสองคนเริ่มซุบซิบสนทนากัน
พวกเขาเห็นอยู่ว่าเช้านี้ลินลี่ย์อารมณ์ไม่ดี แล้วอะไรทำให้เขาตื่นเต้นมากขนาดนั้นได้?
"วิธีนี้ง่ายมาก ทำไมข้าถึงไม่ทันได้คิดนะ? ฮะฮะ!" ลินลี่ย์อดตบศีรษะตนเองไม่ได้ เขาหมกมุ่นมากเกินไปจนสมองเขาย่ำแย่เสียแล้ว
ลินลี่ย์หาวิธีที่จะทำให้เคลย์มาเยี่ยมเขาได้อย่างแน่นอน วิธีนี้ก็คือ ได้รับบาดเจ็บ!
"เราจะแกล้งทำเป็นฝึกเดินลมปราณ และได้รับบาดเจ็บภายในด้วยอุบัติเหตุบางอย่าง จากสิ่งที่เราเห็น มีทางเป็นไปได้ว่าเคลย์จะมาเยี่ยมเราเอง"
ลินลี่ย์รู้สึกมีความสุขอย่างเหลือเชื่อ ตราบใดที่เขาก่อการเคลื่อนไหวในคฤหาสน์ของเขาเอง จะทำให้เขาวางแผนกับเคลย์ได้ง่าย
“สำหรับสถานะและความมั่งคั่งที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์มอบให้ เราไม่สนใจมากนักหรอก หลังจากเราพบเหตุที่เกิดขึ้นกับท่านแม่และฆ่าเคลย์แล้ว เราจะอาศัยความช่วยเหลือจากหอการค้าดอว์สันและหนีไปจากอาณาเขตของสหภาพศักดิ์สิทธิ์” ลินลี่ย์ตัดสินใจแน่นอนแล้ว
สหภาพศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีความสำคัญต่อลินลี่ย์
ตอนนี้คนของเขาและเป็นสมาชิกตระกูลเพียงคนเดียวก็คือวอร์ตัน เขาอยู่ที่จักรวรรดิโอเบรียน ไม่มีสิ่งใดในสหภาพศักดิ์ที่จะเหนี่ยวรั้งลินลี่ย์มิให้จากไปได้
จะฆ่าเคลย์โดยไม่ให้เกิดความสงสัยใดๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแท้จริง เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ ทางเลือกที่เหลือประการเดียวของลินลี่ย์ก็คือ ต้องยอมรับว่าเขาต้องเสียสละเรื่องเล็กน้อยนี้ สำหรับลินลี่ย์ สหภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่มีความสำคัญต่อไปอยู่แล้ว
ในสวนน้ำพุร้อน ภายในคฤหาสน์ของลินลี่ย์
ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในบริเวณพื้นหญ้าฝึกฝนเดินปราณเลือดมังกร ปราณเลือดมังกรเหมือนกับคลื่นลมคลั่งในมหาสมุทรที่ปะทุออกมา กระแทกกระทั้นใส่เส้นเลือดในร่างของเขา
ความจริงนักรบระดับเจ็ดโดยทั่วไปจะไม่สามารถทนต่อการฝึกฝนระดับนั้นได้ แต่ลินลี่ย์นั้นแตกต่าง เขาดื่มเลือดจากมังกรที่ยังมีชีวิต กล่าวโดยทั่วไป เมื่อเลือดมังกรถูกประยุกต์ใช้นอกร่างกาย จะทำให้เกิดความทนทานที่น่าอัศจรรย์ แต่ลินลี่ย์ได้ดื่มเลือดมังกรลงไปในตัวทำให้เส้นเลือดของเขามีระดับความยืดหยุ่นทนทานที่น่าทึ่ง
“อ๊าค!”
ลินลี่ย์กระอักโลหิตออกมาเต็มปากทันทีและหน้าของเขาขาวซีด
“อ๊าคคคคค! เสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดดังออกมาจากปากของลินลี่ย์
ตอนนี้ หญิงรับใช้ทุกคนที่อยู่นอกสวนน้ำพุร้อนได้ยินเสียงแผดร้องต่ำของลินลี่ย์อย่างเลือนราง พวกนางรีบวิ่งมาที่ประตูและแนบหูฟังอย่างระมัดระวัง
“ใต้เท้าลินลี่ย์... ดูเหมือนจะเจ็บปวดมากหรือเปล่า?” หนึ่งในหญิงรับใช้ร่างผอมเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น” สาวใช้อีกคนที่ดูท้วมกว่าพยักหน้า
แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาข้างใน
“ใต้เท้าลินลี่ย์เจ้าคะ?” สาวใช้ร่างผอมร้องเรียก
“มา...เข้ามา...” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้น
สาวใช้ทั้งสองคนนั้นมองหน้ากันเอง จากนั้นผลักเปิดประตูแล้ววิ่งเข้าไปข้างใน แต่เมื่อเข้าไปถึงพื้นสนามหญ้า ทั้งสองคนก็ตกใจ มีเลือดกองใหญ่อยู่บนพื้น และลินลี่ย์ล้มอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดขาว
“พยุงข้ากลับไปที่ห้องพัก” ลินลี่ย์พูดด้วยเสียงแผ่วเบา
“เจ้าค่ะ, เจ้าค่ะ”
สาวใช้ทั้งสองคนลุกลนอยู่บ้าง พวกนางแต่ละคนช่วยประคองแขนลินลี่ย์ และพยุงพาลินลี่ย์ไปจนถึงห้องนอนของเขา
“ใต้เท้าเจ้าคะ, เราจะไปขอให้นักเวทสายธาตุแสงมาช่วยไหมเจ้าคะ?” สาวใช้ร่างผอมถาม
“ไม่ต้อง, ข้าบาดเจ็บภายใน พลังเวทช่วยไม่ได้ ข้าต้องการฟื้นฟูเงียบๆ” ลินลี่ย์สูดลมหายใจลึก จากนั้นนั่งขัดสมาธิบนเตียงและหลับตา “ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองคนไปได้แล้ว”
"เจ้าค่ะ, ใต้เท้า" หญิงรับใช้ทั้งสองคำนับแล้วจากไป
เวทฟื้นฟูสายธาตุสว่างและธาตุน้ำทั้งสองเป็นเวทใช้ฟื้นฟูได้ตามธรรมชาติ มีผลช่วยรักษาบาดแผลทางกาย แต่อาการบาดเจ็บอวัยวะภายใน เวททั้งสองสายนี้ช่วยได้ไม่มาก
……
ภายในห้องของลินลี่ย์ มีเพียงเขากับเยลเท่านั้น
"น้องสาม, เจ้าไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหม?" เยลสับสน "ถ้าเจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บ ทำไมเจ้าถึงทำเป็นบาดเจ็บเล่า? และยังขอพบข้าอย่างเร่งด่วนอีกด้วย" แม้ก่อนที่เขาจะแกล้งได้รับบาดเจ็บ ลินลี่ย์ส่งคนไปหาเยล
ลินลี่ย์ลดเสียง "พี่ใหญ่เยล เรื่องนี้เกี่ยวกับการล้างแค้นของข้า พี่ใหญ่เยล ตอนนี้ข้าบอกท่านได้ว่า มีความเป็นไปได้มากที่เคลย์คือคนที่ฆ่าท่านแม่ของข้า"
"คนที่ฆ่าท่านแม่เจ้าหรือ?" เยลจ้อง "น้องสาม เจ้ากำลังวางแผนจะ.."
"ถูกแล้ว ล้างแค้น" ลินลี่ย์ไม่ปิดบังพี่น้องของเขาอีกต่อไป
"เคลย์นั้นเป็นนักรบระดับเก้า เจ้าจะล้างแค้นกับเขาได้อย่างไร? และเขายังเป็นกษัตริย์ปกครองราชอาณาจักรเฟนไลอีกด้วย" เยลยิ่งห่วงใยลินลี่ย์แทบคลั่ง
ลินลี่ย์พูดอย่างจริงจัง "อย่าห่วงเลย ข้ามีความมั่นใจแล้วว่าความสามารถของข้าสามารถจัดการกับเขาได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากข้าสังหารเคลย์ได้ ต่อให้วิหารเจิดจรัสไว้ชีวิตข้าและไม่ฆ่าข้า แต่ชีวิตของข้าคงถูกจัดการอย่างน่าอนาถ ดังนั้นข้าตัดสินใจว่าหลังจากที่ข้าสังหารเคลย์แล้ว ข้าจะออกจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์ทันที"
"ออกจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์?" เยลสะดุ้ง แต่หลังจากนั้นก็เข้าใจได้โดยเร็ว "ถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องการจากไปสินะ ปล่อยเรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง พลังอำนาจการค้าของหอการค้าดอว์สันของเราขยายครอบคลุมเมืองใหญ่ในสหภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเราที่จะลักลอบพาคนออกไปจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครทำได้ดีกว่าเราแล้ว"
"ยิ่งกว่านั้นหอการค้าดอว์สันของเรามีผู้เชี่ยวชาญในการแปลงโฉมด้วย" เยลพูดด้วยความมั่นใจ
ลินลี่ย์รู้ดีอยู่เต็มอกว่าหอการค้าดอว์สันมีอำนาจเพียงไหน หนึ่งในสามองค์กรการค้าใหญ่ที่สุดแห่งทวีปยูลานจะล้อเล่นได้อย่างไร?
"ข้ารู้ เหตุผลเรื่องนั้น พี่ใหญ่เยล ข้าต้องการให้ท่านจัดคนไปรอคอยข้าที่โรงแรมท้ายถนนกรีนลีฟ ต่อเมื่อข้าไปถึงที่นั่นภายหลัง ท่านค่อยลอบช่วยพาข้าออกนอกสหภาพศักดิ์สิทธิ์"
ลินลี่ย์มั่นใจมากว่าหลังจากฆ่าเคลย์แล้ว เขาจะสามารถหาทางหนีไปที่โรงแรมแห่งนี้ได้ง่าย
"อย่าห่วง" เยลพยักหน้า
"น้องสาม" เยลขมวดคิ้วมองดูลินลี่ย์ "เจ้าต้องระวังตัวให้ดี"
ลินลี่ย์ยิ้มให้เยล "พี่ใหญ่เยล, ท่านต้องเชื่อมั่นข้า"
ข่าวที่ว่าลินลี่ย์ได้รับบาดเจ็บแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มแรกที่ได้รับข่าวนี้ไม่ใช่กษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรเฟนไล แต่เป็นคาร์ดินัลกิลเยโมแห่งวิหารเจิดจรัส
แต่ภายในเวลาอันรวดเร็ว ราชาเคลย์และขุนนางต่างๆ ในเฟนไลต่างก็ได้ทราบข่าวว่าลินลี่ย์ได้รับบาดเจ็บขณะฝึกฝน แม้ว่าการบาดเจ็บจากการฝึกฝนจะเกิดขึ้นค่อนข้างยาก พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่กล่าวโดยทั่วไปก็คือ มีแต่คนฝึกหนักเกินขีดจำกัดสูงสุดของร่างกายถึงจะได้รับบาดเจ็บดังกล่าว และบางครั้งก็กระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายใน “มีเรื่องเดียวที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือ รอพระราชาเคลย์” ลินลี่ย์อยู่ในชุดหลวมยาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนอนของเขา หน้าของเขายังซีดขาวอยู่
บีบีกำลังยืนอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆ ด้วยเช่นกัน
“ใต้เท้าลินลี่ย์” หญิงรับใช้วิ่งเข้ามาจากข้างนอก