ตอนที่ 6-25 ผลิตผงพิษ
เห็ดเมฆา เหตุผลที่แท้จริงที่ลินลี่ย์หามันก็เพื่อใช้ปรุงผงพิษสะบั้นโลหิต และเหตุผลที่ต้องการผลิตพิษสะบั้นโลหิตก็เพราะเขาก็การเอามาใช้กับเคลย์
แต่ในที่สุดกลับเป็นเคลย์ที่มอบเห็ดเมฆาให้กับเขา
“เป็นไปได้หรือว่าแม้ซ่อนตัวอยู่ในโลกส่วนลึก ก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่ากงเกวียนกำเกวียนตามสนองอย่างนั้นหรือ?” ทันใดนั้นลินลี่ย์คิดถึงคำสอนของวิหารเจิดจรัส มีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงชะตากรรม ในอดีตลินลี่ย์ไม่เคยเชื่อในศาสนาใดๆ ทั้งนั้น แต่สัจจธรรมนี้มีวิวัฒนาการที่แปลกประหลาดเหลือเกิน
เมื่อถูกกำหนดว่าเห็ดเมฆาถูกส่งเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือของเขา เขาจะไม่รับมันไว้ได้ยังไง?
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” ลินลี่ย์ยิ้มคำนับขอบคุณ ขณะที่เขารับเห็ดเมฆาไว้
แต่ในใจแล้ว ลินลี่ย์กำลังหัวเราะอย่างเย็นชา “เพราะท่านเป็นผู้มอบมันให้ข้าเอง นี่ก็หมายความว่า สวรรค์ต้องการจะให้ท่านตายแน่นอน ท่านตำหนิข้าไม่ได้”
ลินลี่ย์แทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับมารดาของเขาเลย แต่นั่นไม่อาจหยุดลินลี่ย์จากความโหยหาความรักของมารดาที่อยู่ลึกในใจเขา เนื่องจากเขาไม่เคยรู้เรื่องของมารดา ลินลี่ย์จึงรู้สึกว้าเหว่อยู่เสมอ เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นคนอื่นมีมารดา เขามักไม่ค่อยสบายใจ เขามักคิดอยู่เงียบๆ คิดถึงมารดาของเขาอย่างเดียวดาย
เมื่อจับเคลย์ได้ เขาคงจะได้พบเบาะแสของมารดาเขาแน่นอน!
“ลินลี่ย์! ข้าได้เชิญมหาเสนาบดีขวามาร่วมทานอาหารกลางวันในวันนี้ ทำไมเจ้าไม่ถือโอกาสอยู่ที่นี่ต่อเพื่อทานอาหารกลางวันกับเราเล่า” เคลย์ยิ้มให้ลินลี่ย์
“พะย่ะค่ะ, ฝ่าบาท” ลินลี่ย์แสดงความนอบน้อมถ่อมตน
ราชินีพยักหน้าให้ลินลี่ย์อย่างสง่างาม จากนั้นพูดกับเคลย์ด้วยน้ำเสียงสุภาพ “พระองค์กับลินลี่ย์เชิญอยู่ต่อเถิด, หม่อมฉันขอตัวกลับก่อน” เคลย์พยักหน้าให้อย่างสงบเช่นกัน ในอาณาจักรเฟนไล อำนาจของกษัตริย์มีมากมายเหนือกว่าราชินี
อากาศในเดือนพฤศจิกายนเริ่มหนาวเย็น
แต่ลินลี่ย์และเคลย์ทั้งสองคนอยู่ในชุดเบา ไม่กลัวความหนาวเย็นแม้แต่น้อย ตอนนี้ลินลี่ย์เป็นนักรบระดับเจ็ด ขณะที่เคลย์ก็เป็นนักรบระดับเก้าที่มีพลังยิ่งใหญ่กว่า
“ฝ่าบาท, ทำไมพระองค์ถึงเชิญเมอร์ริทมาร่วมทานข้าวกับพระองค์ด้วย?” ลินลี่ย์สนทนากับเคลย์อย่างเป็นธรรมชาติและปกติ
เมื่อได้ยินคำพูดของลินลี่ย์ เคลย์มีใบหน้ายิ้มพอใจ เขาชำเลืองมองนางกำนัลที่เพิ่งเดินออกไปอย่างว่าง่าย จากนั้นเคลย์จึงพูดเสียงเบาๆ “ลินลีย์! เจ้ารู้ไหมว่าเมื่อเร็วๆ นี้เมอร์ริทเพิ่งแต่งกับภรรยาคนที่สิบสาม?”
“คนที่สิบสาม?” ลินลี่ย์ตะลึง
เขาไม่รู้ว่าผู้พิพากษาที่เคร่งครัดจริงจังอย่างเห็นได้ชัด อย่างมหาเสนาบดีขวาจะมากรักไม่แน่นอน
“ภรรยาคนใหม่ของเขาเป็นสตรีที่มีสีสันมาก” เคลย์เผยอยิ้มให้กับลินลี่ย์ เป็นรอยยิ้มที่บุรุษทุกคนเข้าใจกันได้เอง
เมื่อเห็นสีหน้าของเคลย์แล้ว ลินลี่ย์อดสะดุ้งไม่ได้
“ฮ่าฮ่า...” เคลย์ตบไหล่ลินลี่ย์ “ลินลี่ย์ ปีหน้าเจ้าจะอายุสิบแปดปีแล้ว อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่เคยมีสัมพันธ์กับสตรีมาก่อน”
ลินลี่ย์ได้แต่อึดอัดอย่างช่วยไม่ได้
เคลย์ถอนหายใจ “เมอร์ริท เจ้าเด็กคนนั้นสามารถได้ตัวนางจิ้งจอกน้อยเจ้าเสน่ห์อย่างนั้น ช่างน่าอิจฉาเสียจริง แต่เนื่องจากข้าคิดจะครอบครองนาง จิ้งจอกน้อยเจ้าเสน่ห์นั้นก็จะตกเป็นของข้า เมอร์ริทจะไม่กล้าแตะต้องนาง นับตั้งแต่นี้ไป”
เคลย์พูดเรื่องเช่นนี้กับลินลี่ย์อย่างไม่ปิดบัง
“ฝ่าบาท? ทำอย่างนั้น...จะดีหรือ?” ลินลี่ย์ประหลาดใจเล็กน้อย
ที่สำคัญคือ นางเป็นภรรยาของมหาเสนาบดีขวา แต่จากที่ได้ยิน เคลย์ตั้งใจจะยึดนางไว้เพื่อตัวเขาเองโดยตรง
“เรื่องนี้มีอะไรไม่เหมาะสมเล่า? เมอร์ริทไต่ฐานะมาจนอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันก็ผ่านภรรยามาหลายคนแล้ว เขาควรจะรู้สถานะของตนเองดี แต่ลินลี่ย์ วันนั้นที่เมอร์ริทแต่งงานและมีงานเลี้ยง ข้าคิดว่าเจ้าไม่ได้ไปร่วมด้วยนะ”เคลย์พูดอย่างสงสัย
ในช่วงเวลานี้ ลินลี่ย์กำลังขบคิดปัญหาเรื่องส่วนผสมสมุนไพร เขาไม่มีความคิดไปร่วมงานแต่งงานเลยแม้แต่น้อย กล่าวโดยทั่วไปก็คือ ลินลี่ย์ปฏิเสธคำเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงจากบรรดาขุนนางทั้งหลาย
งานเลี้ยงฉลองแต่งงานของมหาเสนาบดีขวาหรือ?
ปฏิเสธเหมือนๆ กันทั้งหมด
“ลินลี่ย์! วันนี้เป็นยังไง, ระหว่างช่วงเวลาอาหารกลางวัน เจ้าลองมองดูวินด์เซอร์ภรรยาใหม่ของเมอร์ริท ถ้าเจ้าชอบนาง ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะยกนางให้เจ้า ข้ารับรองได้ว่า ไม่ว่าเมอร์ริทจะกล้าและห้าวเพียงไหน เขาจะไม่กล้าแตะต้องวินด์เซอร์แม้แต่ครั้งเดียว” เคลย์พูดอย่างมั่นใจ
เคลย์ครองอำนาจในราชอาณาจักรเฟนไลแบบเบ็ดเสร็จ
วันแต่งงานของเมอร์ริท เคลย์ฉวยโอกาสชิงตัววินด์เซอร์ คืนนั้นเคลย์ส่งคนมารับตัววินด์เซอร์ไปที่ตำหนักชั้นนอก และเขา เคลย์ร่วมอภิรมย์ทั้งคืน
สำหรับเมอร์ริท เขาไม่กล้าแสดงความไม่พอใจแม้แต่น้อย
ยิ่งกว่านั้น ตั้งแต่คืนนั้นมา เมอร์ริทก็ไม่กล้าแตะต้องวินด์เซอร์อีกเลย
เสนาบดีบางคนที่รับตำแหน่งสำคัญในราชอาณาจักรเฟนไล บางคนก็ได้เลื่อนตำแหน่งผ่านความสามารถของตนเอง พวกเหล่านั้นนับว่าเป็นเสนาบดีที่มีฝีมือแน่นอน แต่เสนาบดีบางคนก็ได้ยศตำแหน่งผ่านการกระทำที่น่าเกลียด
ลินลี่ย์ลอบประหลาดใจต่อความเอาแต่ใจของเคลย์
แต่ครั้งหนึ่ง เคลย์มีสมญานามว่า “ราชสีห์ทอง” เต็มไปด้วยพละกำลังของพญาราชสีห์ ใครจะคาดคิดถึงวิธีที่เขาดำเนินการได้เล่า หากเขาพอใจที่จะทำ
“ทูลฝ่าบาท, ดยุคเมอร์ริทและดัชเชสเดินทางมาถึงแล้ว” มหาดเล็กวิ่งเข้ามารายงานด้วยความเคารพ
“ฮ่าฮ่า, มาเถอะ, ลินลี่ย์” เคลย์ยืนขึ้นทันที
ลินลี่ย์ได้แต่คว้าห่อเห็ดเมฆาและเดินตามออกไป หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็มาถึงลานสีแดงสดใสสวยงามภายในวัง
เมอร์ริทและมาดามวินด์เซอร์รออยู่ตรงนั้น ที่ประตูทางเข้าลานวัง
ลินลี่ย์อดเหลือบมองมาดามวินด์เซอร์ไม่ได้ นางได้รับความสนใจจากเคลย์
รูปร่างของมาดามวินด์เซอร์เพรียวบางมาก แม้ว่านางจะแต่งกายมิดชิดตามรูปแบบจารีตอนุรักษ์นิยม แต่ชุดนั้นก็ขับเน้นส่วนเว้าโค้งรูปร่างที่โปร่งบางของนาง เอวของนางบอบบางมากขับเน้นหน้าอกให้ดูอวบเต็ม
ผมแดงเข้มของนางมีเสน่ห์น่าดู
โดยเฉพาะนัยน์ตาของมาดามวินด์เซอร์นี้ดึงดูดใจนัก ทุกคนที่เห็นนางคงได้คิดฟุ้งซ่านอย่างควบคุมสติไว้ไม่ได้
“ถวายบังคมฝ่าบาท, ใต้เท้าลินลี่ย์” เมอร์ริทพูดเสียงก้องพร้อมกับเสียงเบานุ่มนวลของมาดามวินด์เซอร์
“นางเป็นจิ้งจอกสาวพราวเสน่ห์จริงๆ” ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
เคลย์เหลือบมองลินลี่ย์อย่างยินดี และกระซิบใกล้หูลินลี่ย์ “เจ้าคิดว่าไงบ้าง? รู้สึกมีแรงกระตุ้นที่จะ...?”
“ฝ่าบาท! เชิญเสวยกระยาหารกลางวันเถิด” ลินลี่ย์กระซิบตอบ
“ฮ่าฮ่า...” เคลย์เริ่มหัวเราะลั่น
วินด์เซอร์อดไม่ได้ที่จะเพ่งมองลินลี่ย์ด้วยนัยน์ตาหยาดเยิ้ม ดูเหมือนนางจะให้ความสนใจลินลี่ย์ ถ้าเมอร์ริทกับเคลย์ไม่อยู่ตรงนั้น บางทีนางอาจจะตรงเข้าไปสนทนากับเขาก็เป็นได้
“ว้าว, ช่างเป็นสาวงามหยาดเยิ้มเสียจริง” บีบีอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ตลอด เวลากล่าว นัยน์ตาของมันกลมเป็นประกาย
“ควิช.”
บีบีกระโจนออกจากไหล่ของลินลี่ย์ลงบนอกของวินด์เซอร์โดยตรง
“เบ้อเริ่มเลย....” เสียงของบีบีดังขึ้นในใจลินลี่ย์
ลินลี่ย์งุนงง
“ช่างเป็นหนูที่น่ารักจริงๆ!” วินด์เซอร์กอดบีบีด้วยความตื่นเต้น มันใช้ศีรษะถูบนอกที่อวบอูมของนาง ดูเหมือนมันจะมีความสุขมาก
….
“ฟิ้ว”
ลินลี่ย์คว้าตัวบีบีได้ในที่สุดก็รีบออกจากวัง ตลอดเวลาที่อยู่ในวัง วินด์เซอร์พยายามใช้สายตาที่หยาดเยิ้มมองดูเขา แม้แต่ลินลี่ย์เองก็ยังรู้สึกว่ายากจะรับได้
เขาเข้าไปนั่งในรถม้าโดยสาร
“กลับ” ลินลี่ย์ออกคำสั่งให้ยามคุ้มกันเขาให้เริ่มออกรถทันที
“เฮ้! เจ้านาย จะรีบไปถึงไหน? ก็เคลย์ผู้นั้นบอกเองว่ายินดีจะยกวินด์เซอร์ให้ท่านไม่ใช่หรือ? ท่านน่าจะรับไว้นะ” บีบีใช้ตาน้อยๆ ของมันจ้องมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะตบหัวมันเบาๆ “เจ้าหนูน้อยลามก”
“ฮื่ม.. ข้ากำลังจะเป็นหนุ่มแล้ว เจ้านายก็รู้” บีบีพูดอย่างไม่พอใจ
ลินลี่ย์ตะลึง ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
แต่เมื่อคิดย้อนไปถึงสิ่งที่เขาได้รับจากการเข้าวัง ลินลี่ย์อดยิ้มเต็มหน้ามิได้ เขาเอากล่องออกมาไว้ข้างตัวเขา
ภายในกล่องนี้ก็คือเห็ดเมฆากอหนึ่ง
“ตอนนี้ข้ามีเห็ดเมฆาอยู่ในมือแล้ว ส่วนผสมทั้งแปดเตรียมพร้อมแล้ว ข้ามีสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการปรุงผงพิษสลายโลหิตแล้ว” ลินลี่ย์ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเริ่มปรุงผงพิษทันทีเมื่อเขากลับไปถึงบ้าน
“เจ้านาย! ข้ารู้สึกเหมือนว่าเคลย์คล้ายกับพี่น้องที่ยืนเคียงข้างท่าน ท่านจะฆ่าเขาจริงๆ หรือ?” บีบีกระซิบ
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วมองดูบีบี
“บีบี! เคลย์เป็นกษัตริย์ปกครองราชอาณาจักร ตราบใดที่เขายังมีสมองอยู่บ้าง เขาจะสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับข้าเป็นธรรมดา เขาแสดงความเป็นมิตรและทำดีกับข้า ก็เพราะสถานะและศักยภาพของข้า ถ้าข้าไม่มีศักยภาพ อย่างนั้นเคลย์อาจจะไม่ให้ความสนใจข้าเลยด้วยซ้ำ บางทีถ้าข้ามีภรรยาที่งดงาม เขาอาจจะชิงไปเป็นสมบัติตนเองก็ได้ เหมือนที่ทำกับเมอร์ริท”
ลินลี่ย์เข้าใจเคลย์อย่างเห็นได้ชัด
ความจริง คนอย่างเคลย์อำมหิตไร้ความปราณี แต่เขาก็นับได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อย เขาสามารถแยกแยะระหว่างเสนาบดีผู้มีความสามารถและไร้ความสามารถออกจากกันได้
“ความจริง ข้ายังเริ่มสงสัยว่าในอดีต เคลย์เห็นท่านแม่ข้างดงามจึงต้องการลักพาตัวไปเพื่อตัวเอง” เมื่อเห็นวินด์เซอร์ ลินลี่ย์คิดถึงความเป็นไปได้นี้
เกี่ยวกับนิสัยของเคลย์ เรื่องนี้มิใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
“บีบี! บอกข้าซิว่า ข้าจะยอมไว้ชีวิตเคลย์ได้อย่างไร?” ลินลี่ย์จ้องบีบี แค่คิดถึงความเป็นไปได้เช่นนั้นก็ทำให้ความต้องการฆ่าของลินลี่ย์พรั่งพรูเต็มหัวใจ
บางทีเพราะมันรู้สึกได้ถึงความต้องการฆ่าเคลย์ของลินลี่ย์ บีบีพูดทันที “ฆ่าเขา, ฆ่าเขา ข้าบีบีจะเป็นคนแรกที่จัดการเขา” บีบียกอุ้งเท้าหน้าตะกุยลมไปมาพร้อมกับแยกเขี้ยว เพื่อแสดงให้ลินลี่ย์เห็นว่ามันก็รู้สึกเกลียดชังเคลย์เหมือนกัน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องออกตัวหรอก หลังจากพบเบาะแสเกี่ยวกับท่านแม่แล้ว ข้าจะเป็นคนแรกที่ลงมือ” ลินลี่ย์กล่าวเย็นชา
ภายในห้องลับคฤหาสน์ของลินลี่ย์ ภายใต้โคมสิบแปดดวงส่องสว่างไสวไปทั้งห้อง ลินลี่ย์ปรุงผงพิษสลายโลหิตอย่างระมัดระวัง
ขั้นตอนในการปรุงพิษมีความซับซ้อนมาก แต่ละขั้นตอนต้องระมัดระวังรอบคอบเป็นพิเศษ
หากมีข้อผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย ส่วนผสมก็อาจสูญเสียเปล่าก็เป็นได้
ตอนนี้ บนโต๊ะภายในห้องลับ มีอุปกรณ์เครื่องมือของนักเล่นแร่แปรธาตุและส่วนผสมทั้งแปด ทั้งหมดถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กน้อยจำนวนมาก
“ฉับ ฉับ”
ลินลี่ย์กรองน้ำสมุนไพรออกจากหม้อกรอง จากนั้นใส่น้ำที่คั้นไว้ในหม้อต้มใบใหม่และเริ่มต้ม ขณะเดียวกันลินลี่ย์ก็เริ่มเพิ่มส่วนผสมที่เหลืออีกสามอย่างเพื่อผสมเข้าด้วยกัน
“เพื่อไม่ให้เก็บของผิด ข้าควรใส่หญ้าใจฟ้า จากนั้นก็ขมิ้นแล้วตามด้วยเม็ดกระวาน”
เมื่อลินลี่ย์จ้องมองหม้อปรุงยา เขาทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปกับการนี้ มองดูว่าจะมีผลตอบสนองเช่นไร แต่ละขั้นตอนจะต้องแม่นยำไม่ผิดพลาด
ผ่านไปตลอดทั้งคืน
“ในที่สุดก็ได้น้ำยาที่สมบูรณ์จนได้” ลินลี่ย์จ้องเขม็งดูของเหลวใสปริมาณน้อยในหม้อต้มยา ที่ไหลลงในถาดสีขาว
“ของเหลวโปร่งใสนี้ใสเหมือนกับน้ำแยกความแตกต่างไม่ออกเลยจริงๆ” ลินลี่ย์ถอนหายใจอย่างตื่นเต้น
ตามพื้นฐานคำแนะนำในการปรุงผงพิษสลายโลหิต ของเหลวขั้นตอนสุดท้ายนับได้ว่าเป็นพิษสลายโลหิตรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ตามขอเพียงทำให้มันเหือดแห้งจนเหลือแต่ผง ถึงจะนับได้ว่าเป็นพิษระดับสุดยอด
ตอนนี้ ของเหลวชุดนี้ผ่านการต้มมาครั้งหนึ่งแล้ว และมีน้ำเหลืออยู่ภายในไม่มากนัก ส่วนใหญ่ภายในเวลาสิบวันก็จะเหือดแห้งไปหมดเหลือแต่ผงพิษสลายโลหิต
“น้ำยานี้ถือว่าเป็นความสำเร็จชุดแรก พรุ่งนี้ข้าจะปรุงชุดที่สอง” ลินลี่ย์ระมัดระวังมาก
เขาไม่กล้าใช้วัสดุทั้งหมดในการปรุงรวดเดียว ที่สำคัญคือ ถ้าเขาล้มเหลว ก็นับว่าเป็นหายนะ แต่โดยวิธีแบ่งวัสดุและใช้ความพยายามทำหลายครั้ง อย่างน้อยผิดพลาดครั้งเดียวก็ไม่ถึงกับเสียหาย
ความจริงผงพิษที่ปรุงออกมาก็น่าจะพอแล้ว แต่เพื่อความระมัดระวัง ลินลี่ย์ตัดสินใจเตรียมยาไว้หลายชุด
สิ้นเดือนพฤศจิกายน ปี 9999 ตามปฏิทินยูลาน
ลินลี่ย์ปรุงพิษสลายโลหิตไว้หกชุด โดยลินลี่ย์ปรุงได้สำเร็จและผลิตออกมาในสภาพผงพิษ แค่มองดูเฉยๆ จะเห็นเป็นผลึกโปร่งแสง ยากจะนึกภาพออกว่ามันมีพลังอำนาจทำลายนักรบระดับเก้าได้
“เฮ้อ, แม้ว่าเราต้องใช้ส่วนผสมของเราจนหมดสิ้น ผงพิษหกชุดนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว” เมื่อมองดูผงพิษทั้งหกชุดบนโต๊ะของเขา ลินลี่ย์ถอนหายใจเฮือก
เพื่อให้ได้ผงพิษสลายโลหิตมา ลินลี่ย์ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักหน่วง และตอนนี้ เขาทำได้สำเร็จแล้ว
“ตอนนี้ สิ่งเดียวที่เรายังขาดก็คือโอกาสที่เราจะใช้กับเคลย์” ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะเริ่มไตร่ตรองหาวิธีใช้ยาพิษกับเคลย์และจับเขาโดยไม่มีผู้ใดสงสัยว่าลินลี่ย์เป็นคนทำ