ตอนที่ 6-24 บรรลุขอบเขตใหม่
ลินลี่ย์เงียบอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงยิ้มพยักหน้าขอโทษเยล “พี่ใหญ่เยล ข้าขอโทษด้วยที่รบกวนท่าน”
“ไม่เป็นการรบกวนเลย” เยลหัวเราะร่าเริง “ก็แค่ส่งคนไปเอาของมาเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หอการค้าดอว์สันของเรามักใช้ให้คนส่งข่าวไปที่สำนักงานใหญ่ด้วยวิธีนี้เสมอ เราทำมาหลายครั้งแล้ว”
ลินลี่ย์พยักหน้า
“น้องสาม” เสียงของเยลจริงจังขึ้นขณะที่เขามองหน้าลินลี่ย์ “บอกข้ามาตามตรงเถอะ ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนต้องการสมุนไพรเหล่านี้?”
ถ้าเป็นคนอื่นถามเขา ลินลี่ย์อาจจะโกหกและอ้างว่าเขาจะใช้ในการปรุงยาช่วยให้เขาเพิ่มความเร็วในการฝึกฝนทำให้ร่างกายของเขาได้ความแข็งแกร่งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่เคยได้ยินเลยว่าการอาบน้ำยาสมุนไพรจะมีส่วนช่วยเหลือในการฝึกฝน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหนึ่งในพี่น้องของเขาเอง ลินลี่ย์ไม่ต้องการจะโกหก
“พี่ใหญ่เยล, ตอนนี้ ข้ายังบอกท่านไม่ได้ เมื่อถึงเวลาแล้ว ข้าจะบอกท่าน” ลินลี่ย์แตะไหล่เยลขณะที่เขาบอก
พี่น้องในหอพัก 1987 อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขากินด้วยกัน, อยู่ด้วยกัน, เล่นด้วยกัน จึงทำให้สนิทสนมเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ
“เข้าใจแล้ว, น้องสาม, แต่ถ้าเจ้าต้องการอะไร ขอให้บอกข้าให้ทราบด้วย” เยลไม่ถามคำถามอื่นต่อไป
วันต่อมา แม่บ้านของลินลี่ย์นำสมุนไพรที่ลินลี่ย์ขอให้ซื้อหามาให้ ยกเว้นแต่เขาไม่สามารถหาหญ้าหมอกได้เลย แม่บ้านบอกในทำนองว่า ไม่มีหญ้าหมอกขายอยู่ในตลาดแม้แต่น้อย ถ้าเขาต้องการซื้อหญ้าหมอก เขาจะต้องส่งคนไปซึ้อมาจากสี่จักรวรรดิใหญ่
ที่สำคัญคือ หญ้าหมอกเพาะปลูกอยู่ในทุ่งหญ้าใหญ่ทางตะวันออกไกล บางส่วนของตลาดศูนย์กลางของสี่จักรวรรดิใหญ่ แม้จะอยู่ใกล้กับทุ่งหญ้าใหญ่ก็ยังมีหญ้าสำหรับขายเป็นจำนวนน้อย
“ตอนนี้ ส่วนผสมทั้งแปดที่จำเป็นต้องใช้ปรุงยาพิษสะบั้นโลหิต มีอยู่เจ็ดอย่างแล้ว ที่ยังขาดเพียงอย่างเดียวก็คือเห็ดเมฆา” ในห้องเรียนลับของเขา ลินลี่ย์วางสมุนไพรทั้งหมดลงบนโต๊ะข้างหน้า เขาไตร่ตรองอยู่ว่าจะทำยังไง ส่วนผสมทั้งแปดมีอยู่สามอย่างที่หาได้ยาก หญ้าหมอกได้มาจากหอการค้าดอว์สัน ขณะที่หญ้าใจฟ้าเขามีมากเพียงพอแล้ว
“ถ้าเราต้องรอถึงสามเดือน ตอนนั้นคนจากหอการค้าดอว์สันก็คงจะนำส่งเห็ดเมฆามาให้แล้ว” ลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจมาก
อย่างมากสามเดือน ถึงตอนนั้น เขาคงได้ส่วนผสมที่เขาต้องการทั้งหมด และจากนั้นจะได้เตรียมผสมปรุงพิษสะบั้นโลหิตสักเล็กน้อยได้
แต่ลินลี่ย์ ไม่ใช่คนประเภทที่เอาแต่นั่งรอเฉยๆ
“ช่วยข้ากระจายข่าวที ปล่อยข่าวออกไปว่าข้ากำลังเตรียมการเริ่มฝึกฝนโดยใช้การอาบน้ำสมุนไพร และต้องการใช้เห็ดเมฆาเป็นส่วนประกอบสำคัญ ข้ายินดีจ่ายล้านเหรียญทองเพื่อซื้อมาให้ได้” ลินลี่ย์สั่งการแม่บ้านของเขา
แม้ว่าลินลี่ย์จะไม่ได้โกหกพี่น้องของเขา แต่เขาต้องหาข้ออ้างดีๆ ให้กับชาวโลกที่เหลือ
เห็ดเมฆา โดยตัวของมันเองไม่มีสรรพคุณในทางพิษ มันมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก แต่สมุนไพรทั้งหมดมีคุณสมบัติที่มหัศจรรย์อยู่ในตนเองอยู่แล้ว เมื่อสมุนไพรทั้งแปดนี้ถูกปรุงแต่งผสมเข้าด้วยกัน ก็สามารถผลิตสร้างผงพิษอย่างพิษสะบั้นโลหิตออกมาได้
“เจ้าค่ะ, ใต้เท้าลินลี่ย์” เมื่อได้ยินคำพูดว่า “ล้านเหรียญทอง” หัวใจของแม่บ้านถึงกับหวั่นไหว
สำหรับลินลี่ย์ จำนวนล้านเหรียญทองไม่ถือว่ามาก เมื่อเขาประมูลขายงานประติมากรรมตื่นจากฝัน ก็ได้ราคาถึงสิบสองล้านเหรียญทอง หลังจากนั้นแพตเตอร์สันแอบพบเขาเป็นการลับ เขาได้ให้ลินลี่ย์ต่างหากอีกสิบล้านเหรียญทอง หลังจากที่ระดับฐานะของลินลี่ย์เพิ่มขึ้น เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีศาลจอมเวท ทั้งวิหารเจิดจรัส, ราชาเคลย์และขุนนางชนชั้นสูงอีกหลายคนล้วนส่งของขวัญมีค่ามาให้ลินลี่ย์มากมาย
และช่วงเวลาสั้นๆ ที่ผ่านมา ทางตระกูลเด็บส์ก็มอบของขวัญเป็นบัตรเครดิตเวทเป็นจำนวนเงินล้านเหรียญทอง
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของลินลี่ย์ในปัจจุบันนี้มีมากเกินกว่ายี่สิบล้านเหรียญทอง
และนี่ยังไม่นับแก่นเวทของอสูรระดับเซียนที่ลินลี่ย์ได้มาจากเซียนหมีลายม่วง แก่นเวทที่ลินลี่ย์เก็บรักษาไว้นั้น ไม่อาจประมาณค่าได้ บางทีอาจมีมูลค่าอาจเกินกว่าร้อยล้านเหรียญทองก็เป็นได้
ข่าวว่าลินลี่ย์กำลังหาซื้อเห็ดเมฆาด้วยมูลค่าล้านเหรียญทอง เดิมทีกระจายอยู่ในหมู่พ่อค้าสมุนไพรเท่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มคนชั้นสูงของอาณาจักรเฟนไลก็ได้ทราบข่าวนั้นเช่นกัน ตอนนี้พวกชนชั้นสูงทราบแล้วว่าอาจารย์ลินลี่ย์ต้องการเห็ดเมฆา
ถ้าพวกเขาสามารถหาเห็ดเมฆาให้ลินลี่ย์ได้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้รับเงินล้านเหรียญทองเท่านั้น แต่พวกเขายังมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลินลี่ย์อีกด้วย
พวกขุนนางชนชั้นสูงหลายคนเริ่มเค้นสมองของพวกเขาหาวิธีที่ช่วยให้พวกเขาหาเห็ดเมฆาได้
แต่เห็ดเมฆา หาได้ยากเกินไปและราคาก็แพงสุดกู่
หลังจากสั่งให้กระจายข่าวนี้ไปแล้ว ลินลี่ย์ยังคงใช้ชีวิตโดดเดี่ยวคร่ำเคร่งฝึกฝนอยู่ในคฤหาสน์ของเขาต่อไป ชั่วพริบตาเดียวก็ถึงเดือนพฤศจิกายน อุณหภูมิในอากาศเริ่มลดลงเช่นกัน ใบไม้ของต้นไม้ในสวนน้ำพุร้อนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วร่วงลงบนพื้นหญ้าที่มีใบไม้ทับถมอยู่ก่อนแล้ว
“ฮ่าห์...!”
ลินลี่ย์ใช้นิ้วมือเดียวยันพื้นและวิดพื้นขึ้นลง เขาใช้พลังผ่านนิ้วมือ จากนั้นพลิกตัวในอากาศ ลินลี่ย์ตีลังกาในอากาศลงสู่พื้นได้อย่างง่ายดาย ร่างกายท่อนบนเต็มไปด้วยเหงื่อ
เขาใช้เวทสนามแม่เหล็กช่วยในการฝึกฝนมานานมากแล้ว แม้ว่าร่างของลินลี่ย์จะมีพลังเต็มเปี่ยม แต่ก็เริ่มเหนื่อยขึ้นบ้างแล้ว
“เฮ้อออ”
ลินลี่ย์กลับลงมายืนตามปกติอีกครั้ง เขารู้สึกว่ากล้ามเนื้อภายในและที่ใกล้กับนิ้วมือ, แขนและไหล่ของเขารู้สึกปวดและชาไปหมด เขาพบว่าความรู้สึกนี้สบายมาก เนื่องจากเขารู้ว่าในสถานการณ์นี้กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาจะค่อยๆ สร้างความแข็งแกร่ง
วิธีฝึกร่างกายตนเองเพื่อให้เกินขีดจำกัดครั้งแล้วครั้งเล่า ตราบใดที่เขายังไม่ถึงขีดจำกัด ก็เพียงแต่ฝึกให้มากขึ้นในแต่ละครั้ง
ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิ และเริ่มฝึกฝนตามคัมภีร์ลับเลือดมังกร ปล่อยให้ปราณเลือดมังกรในร่างของเขาเริ่มโคจรเข้าไปในจุดตันเถียนของเขา ในช่วงเวลาสั้นๆ ขนาดนั้น ปราณยุทธเลือดมังกรเริ่มโคจรไปทั่วร่างลินลี่ย์
การฝึกครั้งแล้วครั้งเล่า ในแต่ละครั้งปราณเลือดมังกรก็จะบริสุทธิ์ขึ้นทีละนิด กระดูกและเลือดเนื้อของลินลี่ย์จะแข็งแกร่งขึ้นทีละนิดด้วย
ปราณเลือดมังกรสีน้ำเงินเข้มโคจรเข้าไปในตันเถียนของเขาอีกครั้ง จากนั้นกระจายออกมาอีก ตันเถียนคือจุดศูนย์กลางพลังของนักรบเลือดมังกร ลินลี่ย์เข้าถึงพลังนักรบระดับหกมานานแล้ว และในเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม เขาอยู่ในระดับสูงสุดของพลังนักรบระดับหก
ตอนนี้ ลินลี่ย์มาถึงรอยต่อของระดับ เขาสามารถรุดหน้าขึ้นสู่ระดับใหม่วันไหนก็ได้
“แครก, แครก” เสียงดังแปลกประหลาดเริ่มปลดปล่อยออกมาจากร่างลินลี่ย์ กล้ามเนื้อลินลี่ย์เหมือนกับมีหนูฝังเอาไว้ในนั้น ขณะที่กล้ามเนื้อนั้นเริ่มกระเพื่อมเป็นระลอกขึ้นลงไม่หยุด แม้แต่เส้นเลือดของเขาก็ปูดออกมาเป็นไปทั่วร่างกาย หยาดเหงื่อปนเลือดเริ่มผุดออกมา!
“ในที่สุดข้ากำลังจะบรรลุเข้าสู่ขอบเขตใหม่” ลินลี่ย์ตกใจระคนยินดี
เขารอวันนี้มานานเหลือเกิน
“ปุด, ปึ้ด!”
ปราณเลือดมังกรสีน้ำเงินเข้มโคจรไปอย่างแปลกประหลาด ทำให้ลินลี่ย์รู้สึกเจ็บไปทั่วร่าง แต่ภายในตันเถียนของเขา ปราณเลือดมังกรที่โคจรอยู่เริ่มบีบตัวแน่นอีกครั้ง เพิ่มความหนาแน่นขึ้นอีกหลายระดับ ปราณเลือดมังกรถูกดึงกลับมาที่จุดตันเถียนไม่หยุดหย่อน และจากนั้นก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากตันเทียนอีกครั้งวนเวียนไป
เมื่อใดก็ตามที่ปราณเลือดมังกรโคจรเข้าไปในตันเถียน ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง
หลังจากเวลาผ่านไปราวๆ หนึ่งชั่วโมง ปราณเลือดมังกรทั้งหมดในร่างลินลี่ย์ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด แม้ว่าจะมีม่านกั้นที่เบาบางระหว่างพลังนักรบระดับหกขั้นสูงสุดกับระดับเจ็ดขั้นแรกเริ่ม แต่พลังของลินลี่ย์ในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าอดีตที่ผ่านมาหลายเท่านัก
ลินลี่ย์ลืมตา มีแววตื่นเต้นที่มิอาจระงับได้อยู่ในดวงตา
“ฮะฮะ ในที่สุดข้าก็บรรลุขอบเขตของนักรบระดับเจ็ด” ลินลี่ย์ตื่นเต้นยินดี
ตราบใดที่เขายังคอยกระตุ้นปราณเลือดมังกรในร่างของเขา เขาจะสามารถรองรับร่างมังกรได้ ความเร็วในการฝึกฝนของนักรบเลือดมังกรอยู่ในระดับสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ ลินลี่ย์ใช้เวลาประมาณครึ่งปีก่อนจะก้าวหน้าจากระดับหกขึ้นสู่ระดับเจ็ด ผลของความก้าวหน้าเช่นนี้นับว่าน่าประหลาดใจมาก
แต่ลินลี่ย์คาดว่าการก้าวหน้าจากระดับเจ็ดไประดับแปดเป็นไปได้ว่าต้องใช้เวลาอีกหลายปี
เส้นทางที่ไกลออกไปจะยิ่งยากลำบากขึ้นทุกที แต่อย่างไรก็ตาม นักรบเลือดมังกรส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่กี่สิบปีก็มีพลังถึงระดับเซียนได้
บีบีที่หลับอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาลืมตาสะลึมสะลือของมัน และมันก็ตาสว่างด้วยความตื่นเต้นทันที คุยกับลินลี่ย์อย่างกระตือรือร้นตื่นเต้นทันที “เจ้านาย, ท่านถึงระดับเจ็ดแล้วหรือนี่?”
“ถูกแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้าอย่างมีความสุข
“อย่างนั้นก็หมายความว่า เมื่อท่านอยู่ในร่างมังกร พลังก็อยู่ในระดับเก้าชั้นต้นจริงไหม?” บีบีตื่นเต้น “ตอนนี้ดูเหมือนว่าพลังของท่านจะมากกว่าข้าในตอนนี้มากเลย เจ้านาย!”
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะเช่นกัน
ในช่วงแรก การเพิ่มพลังในร่างมังกรน่าทึ่งมาก อย่างเช่น ในฐานะนักรบระดับเจ็ด ในทวีปยูลานระดับของเขาถือว่าธรรมดาไม่มีอะไรน่าแปลก แต่พอยกระดับอยู่ในร่างมังกร เขาจะอยู่ในระดับเดียวกับนักรบระดับเก้าขั้นต้น จะถูกมองว่าเป็นผู้โดดเด่นในโลก
อย่างไรก็ตาม ยิ่งนักรบผู้นั้นเพิ่มพลังความแข็งแกร่งมากขึ้น การเพิ่มพลังในร่างมังกรจะลดลง
ที่สำคัญคือ ร่างมังกรไม่มีอะไรมากไปกว่าดึงเอาเลือดมังกรซึ่งนักรบเลือดมังกรที่อ่อนแอไม่สามารถดูดซับได้เต็มที่ออกมา
“ระดับเก้าเบื้องต้น และร่างมังกรของเจ้าก็ได้รับอิทธิพลจากมังกรเกราะหนาม มังกรเกราะหนามจะเด่นในเรื่องความเร็วและพลังป้องกัน ขณะนี้เจ้ายังคงมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งและความเร็วที่สูงเหลือเชื่อ” เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวออกมาจากแหวนตอนนี้
ลินลี่ย์มีความมั่นใจในความเร็วของตัวเองมาก
เพราะหลังจากใช้ร่างมังกร ไม่เพียงแต่เขามีความเร็วของนักรบเลือดมังกรตามปกติเท่านั้น เขายังสามารถใช้เวทธาตุลมและบวกกับเวทความเร็วเสียงระดับเจ็ดทำให้ความเร็วโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้นมาก
ลินลี่ย์ยินดีมากขณะที่ยืนยิ้มอย่างโง่งมอยู่ตรงนั้น
“เจ้านาย! เลิกหัวเราะเหมือนคนโง่เสียที ดูตัวเองบ้างสิ ไปอาบน้ำเถอะ อึ๋ย..” บีบีจงใจทำหน้ารังเกียจขณะที่มันทำท่าอุดจมูกกระโดดขึ้นกระโดดลงขณะแยกเขี้ยวให้ลินลี่ย์
ลินลี่ย์มองดูตัวเอง
ตอนนี้ เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและเลือด เขาดูสกปรกจริงๆ
“ตูม!”
ลินลี่ย์กระโดดลงไปในบ่อน้ำร้อน น้ำในบ่อน้ำพุร้อนไหลออกมาต่อเนื่องตลอด ดังนั้นลินลี่ย์ไม่กังวลว่าจะทำให้บ่อสกปรก หลังจากนั้นก็ได้พบว่าความรู้สึกในร่างของเขาเปลี่ยนแปลงไป จากนั้นน้ำพุร้อนก็ไหลมาชะล้างมัน ลินลี่ย์รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจจนเขานอนหลับตาในบ่อน้ำพุร้อน
เขาเผลอหลับ
เขาสบายตัวจัดจนเผลอหลับไปจริงๆ
ขณะที่ลินลี่ย์ดื่มด่ำกับฝันหวาน ก็มีเสียงดังออกมาจากด้านนอก “ใต้เท้าลินลี่ย์, ใต้เท้าลินลี่ย์” เสียงของคนใช้หญิงดังลั่นด้วยความห่วงใย
ลินลี่ย์ลืมตาทันที เมื่อได้ยินเสียง เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ “เข้ามา”
หลังจากนั้นหญิงรับใช้จึงกล้าเข้ามาในสวน นางยืนอยู่ด้านข้างบ่อน้ำพุร้อนลอบมองร่างเปลือยของลินลี่ย์ จากนั้นเรียนด้วยความเคารพ “ใต้เท้าลินลี่ย์ ผู้ส่งพระราชสารกำลังรออยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ เขาบอกว่าได้รับบัญชาจากฝ่าบาทให้มาเชิญใต้เท้าลินลี่ย์เข้าวังเจ้าค่ะ”
“บัญชาจากฝ่าบาทหรือ?” ลินลี่ย์ลังเลเล็กน้อย จากนั้นขึ้นจากสระโดยตรง
“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว” ลินลี่ย์มักสวมเสื้อผ้าด้วยตนเอง เนื่องจากเขาไม่ชอบให้หญิงรับใช้ช่วยเขาแต่งตัว
“เจ้าค่ะ” นางหน้าแดง หญิงรับใช้รีบก้มหน้าและเดินออกมาจากสวนน้ำพุร้อนโดยเร็ว
…..
เมื่อเข้าไปนั่งในรถม้าและมุ่งหน้าเข้าวังหลวง ข้างนอกรถม้าโดยสาร นอกจากทหารจากวังสิบหกคนแล้ว ก็มีอัศวินจากวิหารเจิดจรัสสิบหกคน ลินลี่ย์มีขบวนแวดล้อมที่ใหญ่กว่ามหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาเสียอีก
“ใต้เท้าลินลี่ย์ ตอนนี้ฝ่าบาทประทับอยู่ในราชอุทยานตะวันออก” เสียงของมหาดเล็กดังออกมา
“เชิญนำทาง” ลินลี่ย์พูดทันที
มหาดเล็กประจำวังแสดงความสุภาพต่อลินลี่ย์ ยิ้มให้เขาตลอดทาง
“ตอนนี้ฝ่าบาทยังเชิญใครอื่นอีกหรือไม่?” ลินลี่ย์ถาม
“มีแต่ใต้เท้าลินลี่ย์เท่านั้น” มหาดเล็กตอบ
“ข้าเท่านั้นเองหรือ?” ลินลี่ย์เริ่มสงสัย แต่เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ ภายใต้การนำทางของมหาดเล็ก ในที่สุดลินลี่ย์ก็มาถึงราชอุทยานตะวันออก ขณะนี้เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้ว ยังคงมีดอกไม้บานอยู่ไม่กี่ดอก แต่ดอกไม้นับไม่ถ้วนในราชอุทยานตะวันออกยังคงสดใสสวยงาม
และนั่น ราชสีห์ทอง ราชาเคลย์กำลังสนทนากับราชินีอยู่ในสวน
“ฮ่าฮ่าฮ่า, ลินลี่ย์ เจ้าเข้ามา” เคลย์ทักทายลินลี่ย์อย่างเป็นกันเอง “มานั่งนี่สิ” ถวายบังคมฝ่าบาท, องค์ราชินี” ลินลี่ย์แสดงความเคารพ จากนั้นจึงนั่งลง
เคลย์และราชินีต่างมองหน้ากัน จากนั้นจึงยิ้มให้ลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! ข้าได้ยินว่าเจ้ากำลังหาเห็ดเมฆาเพื่อปรุงสมุนไพรสำหรับอาบใช่ไหม?”
“ถูกแล้ว ฝ่าบาท” ลินลี่ย์พยักหน้า
ทันใดนั้น ลินลี่ย์ค่อยรู้เหตุผลที่เคลย์ขอให้เขามาที่วังเป็นพิเศษ แต่ลินลี่ย์ไม่ปักใจเชื่อนัก เขากำลังมองหาเห็ดเมฆาเพื่อใช้จัดการเคลย์ เป็นไปได้ยังไงที่เคลย์จะ....
“ฮ่าฮ่า, ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังหาเห็ดเมฆานี้ ดังนั้นข้าจึงส่งคนไปหาดู นับว่าโชคดีจริงๆ ที่คลังหลวงของข้ามีเห็ดเมฆาอยู่กระจุกหนึ่ง” เคลย์ชำเลืองไปทางนางกำนัลที่อยู่ใกล้ๆ นางแสดงกล่องห่อผ้าไหมทองที่นางกำลังถือให้ลินลี่ย์ดู
คราวนี้ลินลี่ย์ตะลึงจริงๆ
เห็ดเมฆาที่เขาแสวงหาอย่างสิ้นหวัง กษัตริย์เคลย์กลับเป็นคนที่มอบให้เขา!