ตอนที่ 6-20 ยาพิษ
ลินลี่ย์ประทับภาพนี้ลงในใจเขา
เมื่อเผชิญกับคำถามของซีซาร์ ลินลี่ย์พยักหน้า “มีเสน่ห์มาก ข้าได้ประทับภาพนั้นไว้ในความทรงจำแล้ว แต่ข้าเกรงว่าคงจะค่อนข้างยากสำหรับข้าที่จะแกะสลักออกมาได้ในระดับเดียวกับ ตื่นจากฝันได้อีก”
รูปสลักผลงานระดับชิ้นโบว์แดงจะปรากฏในโลกนี้ได้ นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดได้ยากแน่นอน
ในอดีต ลินลี่ย์เคยถูกหักอกมาแล้ว และได้ทุ่มเทอารมณ์ความรู้สึกของเขาลงในงานแกะสลักนั้น ทำให้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างในโลกและเข้าถึงสภาวะที่ลึกลับที่สุด จากนั้นเขาจึงสร้างงานประติมากรรมเช่นนั้นได้สมบูรณ์แบบ สำหรับเขาในสภาวะปัจจุบัน จะพยายามแกะสลักรูปสลักอีกรูปหนึ่งที่มีระดับขนาดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้
“ตราบใดที่ท่านอาจารย์ลินลี่ย์ยังเป็นช่างแกะสลัก ข้าก็จะยังพอใจ ข้าจะไม่ขอให้มันเหมือนในระดับเดียวกับรูปสลักตื่นจากฝัน ขอเพียงแค่เป็นรูปสลักระดับเดียวกับอาจารย์ผู้ชำนาญการที่สุดก็พอ” ซีซาร์พูดพลางหัวเราะ
ลินลี่ย์พยักหน้า
ถ้าเป็นกรณีนั้นลินลี่ย์มั่นใจในฝีมือของเขา
“ท่านซีซาร์, เอาอย่างนี้เป็นไง ข้าจะแกะสลักตามที่ท่านขอร้อง ต้องใช้เวลาประมาณเดือนหนึ่ง ท่านจะว่ายังไง?” ความจริง ลินลี่ย์ต้องการเวลาเพียงสามวันเท่านั้น แต่เขาต้องการเวลาสำหรับตนเองด้วย
ซีซาร์พยักหน้า “ตกลง หนึ่งเดือนถือว่าเป็นระยะเวลาสั้นมาก ข้าไม่รีบ ข้ามีเวลาในโลกเหลือเฟือ ฮ่าฮ่า”
“อาจารย์ลินลี่ย์, ถ้าท่านมีอะไรที่ต้องการให้ข้าช่วย บอกข้ามาได้เต็มที่ ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าจะทำให้ท่านแน่นอน” ซีซาร์พูดอย่างใจกว้าง
ลินลี่ย์อดประหม่าไม่ได้
เมื่อแพตเตอร์สันถูกเขาฆ่าไปแล้ว เป้าหมายในใจของลินลี่ย์ตอนนี้ก็คือเคลย์ จะฆ่าหรือจะจับเคลย์ ไม่ใช่เรื่องที่ลินลี่ย์ในสภาพปัจจุบันนี้จะสามารถทำได้
แต่ซีซาร์ ราชันย์มือสังหารมีความสามารถทำได้แน่นอน
“ท่านซีซาร์! ถ้าข้าจะขอให้ท่านจับตัวหนึ่งในผู้ปกครองราชอาณาจักรในอาณัติของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะเห็นด้วยหรือไม่?” ลินลี่ย์ยับยั้งตนเองไม่ให้วู่วาม และตั้งใจหยั่งความเห็นของซีซาร์ก่อน
ซีซาร์สะดุ้ง เขาจ้องลินลี่ย์อย่างข้องใจ “จับพระราชาน่ะหรือ?”
ลินลี่ย์พยักหน้าหนักแน่น “ถูกแล้ว”
ซีซาร์ขมวดคิ้ว หลังจากชะงักไปชั่วขณะ เขามองดูลินลี่ย์ “เรื่องอย่างนี้ ขอให้ข้าถามอะไรท่านก่อน ถ้าข้าจะช่วยท่านจับผู้ปกครองคนนี้ ท่านจะฆ่าเขาไหม?”
“ก็เป็นไปได้มาก” ลินลี่ย์ตอบตามตรง
โกหกราชันย์มือสังหาร เป็นเรื่องค่อนข้างไม่ฉลาด สำหรับการฆ่าเคลย์ ถ้ามารดาของเขาตายเพราะน้ำมือเคลย์จริงๆ แล้วลินลี่ย์จะไม่ตามล้างแค้นได้ยังไง?
ลินลี่ย์มีลางสังหรณ์ในแง่ร้าย ไม่มีร่องรอยของมารดาเขามานานหลายปีแล้ว เป็นไปได้มากว่า นางคงตายไปแล้ว หรืออาจถูกกักขังไว้ในที่บางแห่ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีเช่นใด เขาจะตามล้างแค้นให้มารดาของเขา
“ปลงพระชนม์กษัตริย์?” ซีซาร์มองดูลินลี่ย์
ลินลี่ย์มองกลับ ด้วยสายตาที่ตั้งความหวัง
ในใจของซีซาร์ เขาเข้าใจว่า แม้ในแง่ของสถานะแล้ว คาร์ดินัลจะมีความสำคัญมากกว่ากษัตริย์ แต่ผลกระทบจากการปลงพระชนม์กษัตริย์มากมายกว่าการสังหารคาร์ดิมากมายนัก
คาร์ดินัลคนหนึ่งตาย ก็สามารถทดแทนได้โดยการจัดการของวิหารเจิดจรัส
แต่การสิ้นพระชนม์ชีพของกษัตริย์จะทำให้เกิดการรบพุ่งกันนับไม่ถ้วนภายในราชอาณาจักร ขณะเดียวกัน วิหารเจิดจรัสก็คงไม่พอใจกับเขาอีกครั้ง
“ข้อขอร้องนี้ของท่าน... อภัยให้ข้าด้วยเถอะ ที่มิอาจทำให้สมหวังได้” ซีซาร์มองดูลินลี่ย์อย่างจริงจัง “ลินลี่ย์! ผลกระทบที่เกิดจากการปลงพระชนม์กษัตริย์ยิ่งใหญ่มหาศาลมาก และตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ทางวิหารเจิดจรัสปฏิบัติต่อข้าเป็นอย่างดี ข้าไม่ต้องการให้วิหารเจิดจรัสและองค์การดาบโค้งของข้าเป็นศัตรูกันเพราะรูปสลักรูปเดียว”
เบื้องหลังของซีซาร์ ราชันย์มือสังหารก็คือ องค์การดาบโค้ง หนึ่งในสี่สมาคมนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ซีซาร์รู้ว่าอะไรสำคัญ และอะไรไม่สำคัญ
รูปสลักเพียงรูปเดียวไม่ควรจะสร้างรอยร้าวของมิตรภาพความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับวิหารเจิดจรัส ตลอดหลายปีมานี้ วิหารเจิดจรัสปฏิบัติกับเขาอย่างมีมารยาท บางเรื่องซีซาร์ก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เขามิอาจเป็นหมาป่าเห็นแก่ตัวที่รานน้ำใจของทางวิหารโดยกระทำการต่อหนึ่งในกษัตริย์ที่อยู่ในอาณัติของวิหารเจิดจรัส
“เปลี่ยนคำขอของเจ้าเถอะ” ซีซาร์พูดด้วยความรู้สึกขออภัย
ลินลี่ย์รู้สึกอับจนหนทางทันที บางทีเมื่อว่าถึงเรื่องพลัง ซีซาร์คงไม่ใส่ใจเคลย์แม้แต่น้อย แต่สถานะของเคลย์ทำให้ซีซาร์ไม่กล้าแตะต้อง
ลินลี่ย์พยายามข่มใจให้สงบ
“ท่านซีซาร์! ข้าอยากจะถามท่าน ท่านมีวิธีทำให้ข้าซึ่งเป็นจอมเวทระดับเจ็ดสามารถฆ่านักรบระดับเก้าได้ไหม?” ลินลี่ย์ถาม
ซีซาร์ชายตามองลินลี่ย์ หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เขากล่าว “ข้ามีวิธีลอบสังหารไม่กี่วิธี แต่วิธีที่ทำให้จอมเวทระดับเจ็ดสามารถสังหารนักรบระดับเก้าได้? นี่.. นับว่าท้าทายดี” ขณะที่พูด ซีซาร์ใคร่ครวญถึงปัญหานี้ ในใจของราชันย์มือสังหารผู้นี้ซึ่งมิได้ฆ่าผู้ใดมาเป็นเวลานานแล้ว วิธีการลอบสังหารวิธีแล้ววิธีเล่าเริ่มผุดขึ้นมาในใจเขาอย่างรวดเร็ว
ลินลี่ย์ไม่กล้ารบกวนกระบวนความคิดของซีซาร์ เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบงัน
ทันใดนั้น ซีซาร์หันมามองลินลี่ย์ “นักสู้ระดับเก้าผู้นี้ เป็นนักรบหรือเป็นจอมเวท? ถ้าคนผู้นี้เป็นจอมเวท ข้ามีอยู่วิธีหนึ่ง”
“เป็นนักรบ” ลินลี่ย์พูดทันที
จัดการนักรบ และจัดการจอมเวทโดยรวมแล้วมีวิธีจัดการที่แตกต่าง พอได้ยินลินลี่ย์อธิบายว่านักสู้ผู้นี้เป็นนักรบระดับเก้า ซีซาร์ก็เริ่มปวดหัว
ลินลี่ย์ได้แต่รออยู่อย่างนั้น
“โอว! ข้ามีความคิดอย่างหนึ่งแล้ว” นัยน์ตาของซีซาร์เป็นประกาย เขาหันมาทางลินลี่ย์ “ฮ่าฮ่า, ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ข้าค้นพบวิธีนี้โดยบังเอิญ นึกไม่ถึงเลยว่าแปดร้อยปีต่อมา ข้าก็ยังจำได้”
“วิธีอะไร?” ลินลี่ย์ตื่นเต้นทันที
สวรรค์!
ราชันย์มือสังหารผู้นี้มีวิธีให้จอมเวทระดับเจ็ดฆ่านักรบระดับเก้าได้จริงๆ ด้วย
“ราชันย์มือสังหารย่อมมีวิธีสังหารหลากหลายรูปแบบ แน่นอนว่า เขารู้มากกว่าข้าในวงการแบบนี้ แต่ถ้าข้าอยู่มานานมากกว่าห้าพันปี บางทีข้าอาจจะรู้มากกว่าเขาก็ได้” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นมาในใจลินลี่ย์
ลินลี่ย์อดฝืนหัวเราะไม่ได้ ปู่เดลินไม่มีทางยอมรับว่าด้อยกว่าใคร
“วิธีนี้ก็คือ....” ซีซาร์ยิ้มให้ลินลี่ย์ “ใช้ยาพิษ!”
“ใช้ยาพิษ?”
ลินลี่ย์สะดุ้ง เขาคิดว่าต้องเป็นวิธีที่ดี.. แต่พระกระยาหารของกษัตริย์มักจะผ่านการลิ้มชิมรสทดสอบเสมอ การวางยาพิษจะมีผลได้ยังไง?
“อาจารย์ลินลี่ย์! อย่าปรามาสพลังของยาพิษ วิชาใช้พิษถือว่าเป็นศาสตร์ที่ลึกซึ้ง เป็นวิธีลอบสังหารที่ละเอียดอ่อน โลกนี้มีส่วนผสมมากมายเต็มไปหมด ซึ่งใช้สร้างพิษนับชนิดไม่ถ้วน ในโลกนี้มีใครบ้างกล้าพูดว่ารู้จักพิษในโลกนี้ทุกชนิด? หรือว่าเขาสามารถทำจัดรายการของยาพิษได้?”
ลินลี่ย์พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
เขาเห็นด้วยกับเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น เดลิน โคเวิร์ทรู้เรื่องการใช้หญ้าใจฟ้าเพื่อรับมือกับผลกระทบของเลือดมังกร
“ยาพิษที่ข้าจะบอกต่อไปนี้ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับใช้กับนักรบ ตราบใดที่นักรบยังไม่เป็นระดับเซียน เมื่อได้รับผลกระทบจากยาพิษนี้ พลังของเขาจะลดลงมากกว่าเก้าในสิบส่วน ยิ่งกว่านั้นในทุกวันนี้ ยังไม่มีการคิดค้นยาแก้พิษชนิดนี้ เพียงใช้เวลาหนึ่งปี นักรบที่ถูกพิษจะค่อยๆ ใช้พลังปราณยุทธขับสลายพิษออกจากตัวของเขาได้” ซีซาร์มีความทรงจำเกี่ยวกับพิษนี้อย่างชัดเจน “และพิษนี้ไม่มีรสไม่มีกลิ่น ไม่มีทางป้องกันมันได้เลย หลังจากต้องพิษแล้ว จึงค่อยรู้ตัวว่าตนเองได้รับพิษ”
เหลือพลังเพียงหนึ่งในสิบส่วน? ไม่มีทางตรวจสอบพบ?
ลินลี่ย์นัยน์ตาเป็นประกาย
เคลย์ไม่มีอะไรมากไปกว่านักรบระดับเก้า เมื่อเขาต้องพิษ ด้วยพลังระดับปัจจุบันของลินลี่ย์ มีหรือที่เขาไม่จะสามารถเหยียบย่ำเคลย์ให้จมธรณีได้?
“ท่านมียาพิษชนิดนี้บ้างไหมท่านซีซาร์?” ลินลี่ย์รีบถาม
ลินลี่ย์เดาได้ว่ายาพิษนี้คงหายากและแพงมาก นั่นไม่ต้องสงสัยเลย พิษที่มีผลต่อนักรบทั้งหมดยกเว้นนักรบระดับเซียน เป็นพิษที่ไร้กลิ่น ไร้รสและตรวจสอบไม่เจอ คงจะมีค่าและหาได้ยากแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้น นักรบทุกคนในโลกคงจะพากันตายหมดแล้ว “อาจารย์ลินลี่ย์! ท่านไม่ได้ฟังสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปหรือ? นี่คือสิ่งที่ข้านึกได้ว่าเรียนรู้มาเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว ข้าแค่ชำเลืองมองก็ได้สูตรลับมาแล้วในตอนนั้น ที่สำคัญพิษนี้ไม่มีผลต่อข้า” ซีซาร์ขมวดคิ้ว “ข้ารู้แต่เพียงว่าพิษนี้ปรุงมาจากส่วนผสมหลักแปดอย่าง แต่ข้ายังจำส่วนผสมที่แน่นอนชัดเจนไม่ได้”
“ท่านจำไม่ได้หรือ?” ลินลี่ย์ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้ ยามนี้เขาอาจฆ่าใครก็ได้
ซีซาร์หัวเราะลินลี่ย์ “อาจารย์ลินลี่ย์! อย่าห่วงไปเลย, แม้ว่าข้ายังไม่แน่ใจ แต่สูตรปรุงพิษนี้เก็บอยู่ในองค์การของข้ามานานแล้ว ข้าแค่สั่งให้คนคัดลอกและนำมาให้ข้า แต่ฐานที่ทำการขององค์การดาบโค้งของข้าอยู่ในที่มีคนน้อยมาก จากที่นี่ไปและกลับ ใช้เวลานานเกือบเดือนหรือสองเดือน”
เดือนหรือสองเดือน นั่นพอรับกันได้!
ลินลี่ย์พยักหน้าให้ซีซาร์ “ท่านซีซาร์! ขอถามหน่อยว่าองค์การของท่านมียาพิษชนิดนี้เก็บไว้บ้างไหม?” ลินลี่ย์ไม่ต้องการเสียเวลามองหาส่วนผสมของยาพิษ
“เราไม่มี” ซีซาร์ส่ายศีรษะ “ในโลกนี้ บางทีคงมีแต่หัตถ์มัจจุราชเท่านั้นที่เก็บยาชนิดนี้ไว้”
“หัตถ์มัจจุราช?”
ในอดีต ขณะที่สนทนากับเยล หัวข้อสนทนาได้พาดพิงถึงองค์การนักฆ่าสี่กลุ่มใหญ่ กลุ่มเหล่านี้ได้แก่ กลุ่มดาบโค้ง, กุหลาบโลหิต, จันทราสีเลือดและหัตถ์มัจจุราช แต่ละองค์การก็มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตน กลุ่มหัตถ์มัจจุราชจะเชี่ยวชาญในการฆ่าแปลกๆ ทุกชนิด ชอบใช้วิธีลอบสังหารที่แปลกใหม่
“ใช่แล้ว ในอดีต ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพวกหัตถ์มัจจุราชชอบถามข้า บางทีพวกเขาคงไม่ยอมให้คัดลอกสูตรยาพิษที่มีค่ามอบให้องค์การของข้าแน่” ซีซาร์พยักหน้า
ของที่ใช้สังหารนักรบที่ระดับต่ำกว่าขั้นเซียน มูลค่าของพิษเช่นนั้นมิอาจคาดคิดได้เลย
“ถ้าอย่างนั้น เป็นไปได้ไหมที่ข้าจะขอซื้อพิษนี้จากพวกหัตถ์มัจจุราช?” ลินลี่ย์พูดอย่างมีความหวัง
“เป็นไปไม่ได้” ซีซาร์หัวเราะ “สิบสุดยอดยาพิษของพวกหัตถ์มัจจุราชเป็นของที่พวกเขาไม่มีทางมอบให้องค์การอื่น เหตุผลที่พวกเขามอบสูตรพิษนี้ให้เรา บางทีเป็นเพราะพวกเขาคาดว่าพวกเราคงไม่มีทางได้ใช้มันจริงๆ”
“ไม่มีทางได้ใช้หรือ?” ลินลี่ย์มองซีซาร์อย่างคลางแคลงใจ
“เพราะราคามันสูงมาก มันไม่คุ้ม” ซีซาร์หัวเราะหึหึ “โดยเฉพาะส่วนผสมสองอย่างถูกกว้านซื้อออกจากตลาดทั้งหมดโดยฝีมือพวกหัตถ์มัจจุราช ราคาของพิษจึงมีแนวโน้มมากกว่าค่าภารกิจลอบสังหาร”
ลินลี่ย์เข้าใจ
แต่สำหรับเขา ไม่ว่าต้องใช้ทองมากเพียงใด ก็นับว่าคุ้มค่า
“เอาอย่างนี้เป็นไง ข้าจะกลับไปเดี๋ยวนี้ และส่งคนไปคัดลอกสูตรปรุงพิษนี้ให้เจ้า แต่ว่าอาจารย์ลินลี่ย์ หนึ่งเดือนจากนี้ไป ท่านต้องมีรูปสลักให้ข้าแล้วนะ” ซีซาร์หัวเราะขณะที่พูดกับลินลี่ย์
“ย่อมแน่นอน” ลินลี่ย์รู้สึกว่าปมในใจของเขาคลายตัว
หลังจากส่งซีซาร์กลับไปแล้ว ลินลี่ย์ที่กังวลเรื่องจัดการกับเคลย์มาตลอดเวลา ค่อยรู้สึกผ่อนคลายในที่สุด คืนนั้น เขาพักผ่อนอย่างสงบและฝันดี ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขายากมาก
บ่ายวันต่อมา
ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิสงบใจอยู่บนพื้นหญ้า ฝึกฝนลมปราณเลือดมังกรสีน้ำเงินดำในร่างของเขาที่กำลังโคจรอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พลังเลือดมังกรที่พิเศษเฉพาะนี้ถูกดึงลึกเข้าไปในกระดูก, กล้ามเนื้อและเอ็นของลินลี่ย์ทำให้ร่างของเขาทรงพลังมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ลินลี่ย์เชื่อว่า หากเขาฝึกได้ในระดับนี้ต่อไป คงมีสักวันที่ร่างของเขาจะทรงพลังมากเท่ากับมังกรระดับเซียนได้อย่างแท้จริง เขาจะฟื้นคืนความรุ่งเรืองของนักรบเลือดมังกรที่ล่มสลายไปแล้วกลับคืนมา
“ใต้เท้าลินลี่ย์เจ้าคะ” เสียงแม่บ้านคนหนึ่งดังมาจากข้างนอก
ลินลี่ย์สูดลมหายใจลึก ให้พลังปราณเลือดมังกรกลับมาอยู่ที่จุดตันเถียนของเขา
“เข้ามาได้” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น
จากนั้นหญิงรับรับใช้ก็เดินเข้ามา นางกล่าวอย่างนอบน้อม “ใต้เท้าลินลี่ย์ มีอาคันตุกะจากตระกูลเด็บส์หลายคนรออยู่ข้างนอกเจ้าค่ะ พวกเขาบอกว่าต้องการขอบคุณใต้เท้าลินลี่ย์”
“ขอบคุณข้า?” ลินลี่ย์ตะลึงไปชั่วขณะ
แต่หลังจากนั้นลินลี่ย์ก็เข้าใจได้ทันที เคลย์เห็นแก่หน้าเขา จึงยอมปล่อยคาลัน เด็บส์
“ขอบคุณข้า? เกรงว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้น” ลินลี่ย์รำพึงกับตัวเอง
มีโอกาสมากถึง 8-9 ในสิบส่วนที่ตระกูลเด็บส์มาพบลินลี่ย์เพื่อขอความช่วยเหลืออีกครั้ง พวกเขาบากหน้ามาขอให้ลินลี่ย์ช่วยเหลือตระกูลเด็บส์อีกครั้ง
“ให้พวกเขาเข้ามา” พอรู้ว่ามีสูตรยาพิษแล้ว ตอนนี้ลินลี่ย์รู้สึกใจเย็นมากและมั่นใจตนเองมากขึ้น ด้วยจิตใจที่ผ่อนคลาย ตอนนี้เขามีความผ่อนคลายและอดทนพอจะให้ความสนใจกิจการของตระกูลเด็บส์
“ตระกูลเด็บส์? แม้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกทำลาย แต่พวกเขาก็จะถูกเล่นงานอย่างหนัก” ลินลี่ย์สามารถคาดเดาอนาคตของตระกูลเด็บส์ได้
ภายในห้องโถงใหญ่
นีมิทซ์เป็นหัวหน้าของคณะอาคันตุกะนี้ ลุงสองคนของคาลัน, ตัวคาลันเอง, โรวลิ่งและอลิซ ทั้งหกคนนี้เป็นคณะตัวแทนของตระกูลเด็บส์ ไม่มีผู้ใดในคณะของนีมิทซ์กล้านั่ง พวกเขายืนด้วยความเคารพทุกคน
พอเห็นลินลี่ย์เดินเข้ามาแต่ไกล นีมิทซ์และคนอื่นๆ ยิ้มทันที และนีมิทซ์ประสานมือคารวะ “ใต้เท้าลินลี่ย์!”
“ข้าเพิ่งเสร็จการฝึกฝนออกกำลัง ถ้าพวกท่านสามารถรอได้อีกสักครู่ ข้าจะรีบอาบน้ำและเปลี่ยนชุดก่อน” ลินลี่ย์พูดพลางยิ้มเล็กน้อย แล้วจากนั้นไม่สนใจแสดงมารยาทตอบต่อนีมิทซ์และคนที่เหลือ เขาตรงไปยังอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่อีกด้านของห้องโถงใหญ่นีมิทซ์และคนอื่นตะลึงในช่วงเวลาสั้นๆ แต่พวกเขาได้แต่ยิ้มและยืนอยู่ตรงนั้น รอคอยลินลี่ย์กลับมาด้วยความเคารพ