ตอนที่แล้วตอนที่ 149 – ตอนที่ 144 มีมังกรจริงหรือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 151 – ตอนที่ 146 เจ้าต่างหากที่ต้องตาย

ตอนที่ 150 – ตอนที่ 145 เจ้าพร้อมจะตายหรือยัง


เย่ว์หยางเดินอยู่ในโพรงมดใต้ดินเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่พบสถานที่ๆ ระบุไว้ในแผนที่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ

แน่นอน เขาสามารถไปได้เร็วมาก อย่างไรก็ตาม โพรงมดวกวนมากกว่าเขาวงกตทำให้เย่ว์หยางปวดหัว สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางเหงื่อตกมากที่สุด ก็คือเครื่องหมายส่วนใหญ่ที่ทหารรับจ้างทำไว้ ถ้าไม่ซ้ำกัน ก็ผิดตำแหน่ง เขาเดินวนและตรงไปผิดจุดหลายครั้ง แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่ใส่ใจเรื่องเวลานัก แต่เขาเกรงว่าเย่ว์ปิงที่รออยู่ข้างนอกจะกังวล นางไม่ควรจะเข้ามาตามหาเขาในโพรงมด มิฉะนั้นนางจะตกอยู่ในอันตราย

เขาเดินไปอย่างไม่รู้เวลาในโลกใต้ดิน

ในที่สุด เย่ว์หยางก็ได้ยินเสียงน้ำไหล และแม่น้ำใต้ดินสีดำคล้ำปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา

ตามตำแหน่งเครื่องหมายบนแผนที่ เย่ว์หยางลุยทวนแม่น้ำตื้นขึ้นไป จากนั้นเดินไปอีกเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะพบร่องรอยบางอย่างที่ทหารรับจ้างทิ้งไว้บนผนัง

เดินออกจากแม่น้ำ เขาเข้าไปในรูเล็ก หลังจากไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร เขาพบว่าอุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นอย่างรู้สึกได้ชัด และอากาศมีกลิ่นกำมะถันหนาแน่น เย่ว์หยางเร่งเดินจนออกจากโพรงเล็ก สำหรับสิ่งที่เขาเกรงก็คือ โลกใต้ดินใหญ่มากในสายตาของเขา

ในพื้นที่ห่างออกไป ภูเขาไฟขนาดไม่สูงเต็มไปด้วยลาวา

ด้านล่างภูเขาไฟเล็ก มีทะเลสาบน้ำพุร้อนเต็มไปด้วยไอน้ำที่ลอยสูงเล็กน้อย นี่ทำให้เย่ว์หยางประหลาดใจ มีเกาะเล็กๆ ลอยเหมือนเกาะห่วงโซ่อยู่บนทะเลสาบน้ำร้อน แต่ละเกาะมีต้นไม้สายพันธุ์ประหลาดขึ้นอยู่บนนั้น มีการเจริญเติบโตอย่างดีในที่ใต้ดินแบบนั้นได้อย่างไรกัน? เย่ว์หยางเคยเห็นปรากฏการณ์นี้มาก่อน ผลมังกรเปลือกแข็งแตกต่างจากผลมังกรที่พบได้ทั่วไปในทะเลทราย ใบของมันบางและแข็ง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น มันยังมีสีเขียวเข้มและแข็งกว่าแผ่นเหล็ก มันหยั่งรากลึกลงไปในบ่อน้ำพุร้อนดูดซับพลังงานจำนวนมหาศาลเข้าไปเก็บไว้ในผล ต้องใช้เวลาเป็นพันๆ ปีเพื่อให้เติบโตจนลอยพ้นผิวน้ำ พอถึงช่วงเวลาหนึ่งผลมังกรเปลือกแข็ง จะเริ่มเจริญพันธุ์ด้วยตัวเอง เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเก็บเกี่ยวผลมังกรเปลือกแข็งเมื่อมีคนต้องการ มีแต่เพียงต้องรอให้ครบกำหนดเวลาแล้วใช้กรรไกรตัดมันออกมา

กรรไกรมังกรคู่เป็นกรรไกรใช้ทางการแพทย์ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น แต่มันเป็นเครื่องหมายการค้าของช่างโลหะผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเจียง

ในโลกนี้มีต้นไม้หลายสายพันธุ์ไม่สามารถตัดด้วยมีดธรรมดาได้ ตัวอย่างเช่น ไผ่หินแก้ว หญ้าดาวแก่นเหล็ก ผลมังกรเปลือกแข็งและอื่นๆ อีก

อย่างไรก็ตาม กรรไกรมังกรคู่เล่มน้อยนี้สามารถตัดมันได้อย่างง่ายดาย

เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ช่างตีเหล็กตระกูลเจียงไม่เคยยอมรับว่า มันเป็นของที่ออกแบบสร้างโดยบรรพบุรุษของเขา เจียงเฉี่ยวเอ๋อ กรรไกรมังกรคู่เล่มแรกสร้างโดยภูตอัจฉริยะเย่ว์กงจากตระกูลเย่ว์ กรรไกรมังกรคู่เป็นของขวัญที่ภูตอัจริยะเย่ว์กงมอบให้เจียงเฉี่ยวเอ๋อ เดิมทีไม่ได้ใช้ในงานเก็บเกี่ยวสมุนไพร แต่เขาทำให้นางได้ใช้ในงานตัดเย็บของนางมากกว่า ปัญญาความฉลาดของเย่ว์กงและเจียงเฉี่ยวเอ๋อยากจะหาคนเทียบได้ในโลก แต่ทว่าทั้งสองคนสุขภาพอ่อนแอเจ็บออดแอด ทำให้ทั้งคู่ไม่ทันได้แต่งงานกันก็ตายไปก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความรักของพวกเขาที่ผู้คนรับรู้สัมผัสได้ ก็ผ่านมาเป็นร้อยปีโดยไม่มีที่สิ้นสุด

กรรไกรมังกรคู่ทุกเล่มที่ผลิตออกมาโดยช่างโลหะที่มีฝีมือของตระกูลเจียง มักจะมีคำแกะสลักไว้ว่า “ผลงานเทพเจ้า” เพื่อแสดงความคารวะบรรพบุรุษของพวกเขา

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันถูกออกแบบมาให้บางและให้สตรีใช้ เป็นกรรไกรที่เหมาะจะให้หญิงสาวใช้กัน..” เพราะว่ามือของเขาใหญ่ เย่ว์หยางถือกรรไกรและรู้สึกว่ากรรไกรมังกรคู่นั้น เล็กมาก คิดดูอีกที ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่ากรรไกรนี้ออกแบบโดยภูตอัจฉริยะเย่ว์กงทำมาพิเศษเพื่อมือเล็กๆ ของเจียงเฉี่ยวเอ๋อนั่นเอง เขาไม่รู้ว่าทำไมช่างโลหะผู้เชี่ยวชาญในตระกูลเจียงจึงไม่ทำให้ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย

หลังจากค้นหาดูทั่วทั้งทะเลสาบน้ำพุร้อนแล้ว เย่ว์หยางพบว่ามีผลมังกรเปลือกแข็ง 2 ผล อยู่ก้นทะเลสาบ

อย่างไรก็ตาม มันยังไม่สุกเลย

เย่ว์หยางขมวดคิ้ว เขาพบว่ามีรอยตัด 2 รอยที่แตกต่างกัน เป็นไปได้ไหมว่ามีคนอื่นเอาผลมังกรเปลือกแข็งไปก่อนเขาแล้ว?

ร่องรอยที่ทิ้งไว้ เป็นรอยกรรไกรตัด แตกต่างจากรอยกัดของสัตว์อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น อีกรอยตัดหนึ่งแตกต่างจากรอยของกรรไกรมังกรคู่ นี่พิสูจน์ว่ามีคนมาที่นี่ก่อน และทหารรับจ้างไม่รู้เรื่องนี้ด้วย ที่น่าสงสัยกว่า เย่ว์หยางทราบมาว่าพวกทหารรับจ้างได้ยินเสียงมังกรร้อง เขายังไม่พบร่องรอยของมังกรแต่อย่างใดหลังจากค้นหาทุกซอกทุกมุมบริเวณน้ำพุร้อนและปากปล่องภูเขาไฟ สิ่งที่น่าสงสัยก็คือหนูเบญจธาตุค้นสมบัติพบพลังอย่างหนึ่งในน้ำ กำลังสลายไป

มีการต่อสู้ครั้งใหญ่เกิดขึ้นในน้ำหรือ?

ยังจะมีใครรู้เรื่องผลมังกรเปลือกแข็งขึ้นอยู่ใต้โพรงมดกันเล่า? ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น พวกเขารู้ได้อย่างไรเมื่อมาที่นี่แล้วจะได้เก็บเกี่ยวขณะที่มันสุก?

มังกรที่ปกป้องผลมังกรเปลือกแข็งเหล่านี้แต่แรก ไปไหนเสียแล้ว?

เย่ว์หยางใช้เวลาสงสัยอยู่ไม่นาน ในที่สุดเขาว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ไม่คิดว่ามันผิดปกติยังไง ขณะที่เย่ว์หยางรวบรวมความคิดตนอยู่ ทันใดนั้น มีเงาดำปรากฏอยู่ข้างหลังเขาอย่างเงียบกริบ เขาถามด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ว่า “เจ้ากำลังตามหาข้าหรือ?”

“เอ๋?” เย่ว์หยางตกใจ

เขามักระวังตัวไม่ให้ศัตรูเข้าใกล้เขาได้เกินกว่า 5 เมตรเสมอ แต่เขาไม่รู้สึกถึงการแสดงตัวตนของเจ้าผู้นี้เลย

เจ้านี่เป็นใครกันแน่?

เขาบังคับตนเองให้สงบใจแล้วหันไปดู แต่เขากลับพบว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างหลังเขา ไม่มีร่องรอยของมนุษย์คงอยู่แม้แต่คนเดียว มันเหมือนกับคำพูดนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาเอง เย่ว์หยางนิ่งเฉย เขาไม่ได้ใช้สายตาเขา แต่เขาสามารถรู้สึกได้ว่าศัตรูอยู่ด้านหลังเยื้องไปทางขวา ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ศัตรูของเขายังยื่นมือออกมาจนเกือบหลังศีรษะของเขา ถ้าเย่ว์หยางขยับแม้แต่นิด บางทีมือของศัตรูอาจกระแทกใส่หลังศีรษะของเขาก็ได้

เหงื่อเย็นเป็นประกายไหลลงจากหน้าผากเย่ว์หยาง

นี่คือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเผชิญมาในชีวิต

“เจ้ากลัวหรือ?” เจ้าผู้นั้นทำเหมือนกับว่ากำลังหยอกหนอนน้อย เสียงของเขาเต็มไปด้วยความน่ารังเกียจ

“ใครกัน, เจ้าเป็นใคร?” เย่ว์หยางรีบหันกลับไปโดยเร็วและพบว่ามีบุรุษวัยกลางคนร่างสูง มีอำนาจดูเหมือนเทพเจ้า เขามีลักษณะที่เย่อหยิ่ง และมองเย่ว์หยางด้วยสายตาแหลมคมดุจหอก เย่ว์หยางรู้สึกสะดุ้งในใจ

บุรุษวัยกลางคนที่ไม่รู้จักนี้ ไม่ด้อยกว่าจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้แต่อย่างใดเลย

ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถซ่อนรังสีฆ่าฟันได้ดีกว่าจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้เสียอีก

บุรุษวัยกลางคนได้ยินคำถามของเย่ว์หยางถึงกับขมวดคิ้ว “เจ้าบังอาจไม่รู้จักข้าเชียวหรือ?”

เย่ว์หยางถึงกับเหงื่อโชก เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าผู้นี้คือเย่ว์ชิวบิดาผู้ล่วงลับของสหายผู้น่าสงสารนั้น ที่ถูกเล่าขานเป็นตำนาน? ไม่ นั่นไม่ถูกต้องแล้ว คนอื่นๆ บอกว่าสหายผู้น่าสงสารมีลักษณะคล้ายกับบิดาของเขา เย่ว์ชิวไม่ควรจะดูเป็นอย่างนั้น หรือเจ้าผู้นี้จะเป็นลุงของสหายผู้น่าสงสาร? หรือไม่ก็ญาติคนอื่น? หรือว่าเป็นนักฆ่าที่วางแผนสังหารสหายผู้น่าสงสารนั้น? ความคิดของเย่ว์หยางแว่บไปแว่บมาไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ความคิดนั้นไม่มีทางพิสูจน์ได้เลยว่าจริง อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางแน่ใจว่าคนผู้นี้ซ่อนรังสีฆ่าฟันไว้ได้ทั้งที่อยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม มันต้องเป็นศัตรูแน่ไม่ใช่มิตร

“พวกสามัญชนมักจะเรียกข้าว่า สื่อจินโหว” คนวัยกลางคนเรียกตนเองว่าสื่อจินโหว (โหว..พระยา)

“อะไรนะ?” ฟังคำนี้เย่ว์หยางถึงกับหน้าซีด

ใน 3 ราชอาณาจักรใหญ่ คือ ต้าเซี่ย, เทียนหลัว และสื่อจิน มีนักสู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้แห่งต้าเซี่ย จุนอู๋โหย่ว, ฮ่องเต้แห่งเทียนหลัว หัวซิ่วรี่ หรือ ฮ่องเต้แห่งสื่อจิน ฉู่เทียนเสี้ยว พวกเขาเป็นนักสู้ที่มีระดับ 7 (ยอดมนุษย์) เป็นอย่างน้อย ความแข็งแกร่งของพวกเขาน่ากลัวมากและสามารถยับยั้งหน่วยทหารที่รุกรานเข้ามาก็ยังได้

ภายในราชตระกูล แทบไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่มือกับ 3 ฮ่องเต้ได้

ยกเว้นแต่สื่อจินโหวผู้นี้ ผู้ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง เขาเป็นผู้ได้รับการกล่าวขวัญในที่สาธารณะว่ามีพลังแข็งแกร่งยิ่งกว่า 3 จักรพรรดิ

30 ปีที่แล้ว ครั้งหนึ่งเขาประลองกับน้องชายของเขา ฉู่เทียนเสี้ยวฮ่องเต้เพื่อชิงตำแหน่งฮ่องเต้ ทั่วทั้งทวีปมังกรทะยานตกตะลึงกับเรื่องนี้ นักรบนับไม่ถ้วนในโลกนี้มาเป็นพยานและฮ่องเต้ของสื่อจินก็ทรงเห็นตามด้วย อย่างไรก็ตาม 1 เดือนก่อนการประลอง สื่อจินโหวผู้หยิ่งยโส มีเรื่องโกรธเคืองกับฮ่องเต้ของเทียนหลัว หัวซิ่วรี่ เมื่อเขาไปในอาณาจักรเทียนหลัวในฐานะราชทูต เขาบาดเจ็บหนักโดยฝีมือของ 1 ใน 3 ขององครักษ์วังหลวง หลังจากนั้น สื่อจินโหวก็สู้กับพระเชษฐาทั้งที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บหนัก ผ่านไป 3 วัน 3 คืนในที่สุดเขาก็พ่ายแพ้

ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บหนัก คงไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าใครจะชนะการต่อสู้

ดังนั้น สื่อจินโหวจึงสร้างชื่อกับการต่อสู้ครั้งนี้ กลายเป็นเจ้าชายที่แข็งแกร่งที่สุดในหัวใจของทุกคน แม้แต่จักรพรรดิแห่งสื่อจิน ฉู่เทียนเสี้ยวฮ่องเต้ยังจัดที่นั่ง 9 ขั้นให้เจ้าชาย แค่ต่ำว่าราชบัลลังก์เท่านั้น เพื่อแสดงคารวะสื่อจินโหว

ทุกคนในโลกรู้สึกว่าบางทีพระเชษฐาอย่างฉู่เทียนเสี้ยว เหมาะที่จะเป็นฮ่องเต้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งและความฉลาดของสื่อจินโหวดีกว่าเขาแน่

เดิมทีสื่อจินโหวเป็นองค์ชายที่ 6 ของอาณาจักร

อย่างไรก็ตาม หลังจากต่อสู้ชิงบัลลังก์สื่อจิน ฮ่องเต้ของ 3 อาณาจักรใหญ่ร่วมกันขนานนามเขาไม่ให้ซ้ำใครว่า “สื่อจินโหว”

คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขาเป็นเรื่องเหนือคาดหมายมาก เย่ว์หยางไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาพบสื่อจินโหวที่บ่อน้ำพุร้อนถัดไปซึ่งมีผลมังกรเปลือกแข็งเติบโตอยู่ เย่ว์หยางระมัดระวังตัวสูงสุด เขาไม่แน่ใจว่าคนผู้นี้ติดตามเขามาหรือว่าค้างแรมอยู่ที่นี่มาแต่แรก ถ้าสื่อจินโหวอยู่ที่นี่เพื่อเก็บผลมังกรเปลือกแข็ง อย่างนั้นหลังจากที่เขาเก็บมัน เขาคงจากไปแล้ว ทำไมเขายังคงรั้งอยู่ที่นี่?

ถ้าเขาติดตามเย่ว์หยางมา นั่นเกิดขึ้นเมื่อไหร่?

ตั้งแต่เขาเข้าโพรงมดมาหรือแค่เมื่อไม่นานมานี้?

“เจ้าก็ได้ยินชื่อข้าแล้ว เจ้าจะไม่คำนับแสดงความเคารพข้าหรือ? ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าก็เป็นคนระดับสูง แต่ข้ายังเป็นผู้อาวุโสกว่าเจ้าและเป็นนักสู้ด้วย เจ้าควรให้ความเคารพที่เหมาะสม ใช่หรือไม่?” สื่อจินโหวมองดูเย่ว์หยางด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งโดยเฉพาะ สายตาของเขาคมเหมือนมีด

“ท่านตั้งใจจะทุบหัวข้าอยู่เมื่อครู่ แล้วยังจะให้ข้าแสดงความนับถืออีกหรือ? เย่ว์หยางพยายามแสดงออกให้เป็นธรรมชาติที่สุด ขณะเดียวกันเขาจะไม่ปล่อยให้ศัตรูเห็นความแข็งแกร่งของเขาทั้งหมด มิฉะนั้นจะอันตราย

“โอว? ข้าคิดมาตลอดเทำนองนั้น ข้าไม่ยินดีเห็นชายหนุ่มที่ไม่เห็นความแข็งแกร่งของคนอื่นๆ ได้เติบโตอย่างช้าๆ” สื่อจินโหวพยักหน้าเห็นด้วย เขาตั้งใจทำข้อสังเกต กล่าวว่า “ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าให้ตัวเลือกเจ้า 3 ข้อ เจ้าสามารถเลือกวิธีตายที่แตกต่างกันได้ 3 วิธี หนึ่งถ้าเจ้าต่อต้าน ก็ต้องเจอการบดกระดูกขยี้หัวใจที่ข้าจะทำกับเจ้า สอง ถ้าเจ้าเลือกจะไม่ต่อต้านก็ปล่อยให้ข้าฆ่าเจ้าทันที โดยไม่ต้องเจอการฉีกกระชากให้ทุกข์ทรมาน ข้อสุดท้าย เจ้าหลบหนีให้สุดฝีมือ และข้าจะไล่จับเจ้า จากนั้นข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็นและต้มเจ้าในบ่อน้ำพุร้อน จากนั้นข้าจะดูเจ้าตายทั้งเป็น คิดให้ดี ทันทีที่เจ้าเลือก ข้าจะเคลื่อนไหวละนะ”

เย่ว์หยางไม่เคยเห็นคนหยิ่งยโสอย่างนี้มาก่อนในชีวิต

เขาคิดว่าตัวของเขาเองก็หยิ่งพอดูแล้ว ทว่า พอเทียบกับสื่อจินโหว ดูเหมือนเขาจะอ่อนชั้นไปมาก

เย่ว์หยางหยิ่งและดื้อด้านมาก เขาไม่เคยคิดสักครั้งว่าเขาจะพยายามใช้เหตุผล เจ้าผู้นี้ตรงกันข้าม เขามีความเย่อหยิ่งที่ดูเหมือนจะมีเหตุผลที่ดี

เย่ว์หยางยิ้มให้กับคำพูดของเขา “ข้าเลือกฆ่าตัวตายจะได้ไหม?”

สื่อจินโหวยังใจเย็นและปฏิเสธอย่างเฉยเมยขณะส่ายศีรษะว่า “ถ้าข้าไม่อนุญาต เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะฆ่าตัวตาย”

“ข้าก็ไม่สน ไม่ว่าเจ้าจะเป็นพระยาสื่อจินหรือพระยาวานร เอาแต่พูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เจ้าคิดว่าแก่กว่าคนอื่นไม่กี่ปี แล้วจะมาทำเป็นพูดเสียงดังอย่างนั้นกำหนดชีวิตคนอื่นให้เป็นหรือตายได้หรือ?” เย่ว์หยางยกนิ้วกลางให้สื่อจินโหว “เจ้าทำตัวเหมือนพวกทรราช แต่ไม่ต้องทำเหมือนคนปัญญาอ่อนก็ได้”

“ดูเหมือนว่าเจ้าเลือกตัวเลือกไว้แล้วสินะ” สื่อจินโหวไม่ได้โกรธและถามด้วยอาการสงบ “ตอนนี้ เจ้าพร้อมจะตายหรือยัง?”

“เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วยเล่า? เจ้าพร้อมจะตายด้วยไหมเล่า?” เย่ว์หยางย้อนคำถามคืน

ขณะเดียวกัน ก็ตวัดดาบวิเศษฮุยจินในมือฟันใส่ด้วยความเร็วปานสายฟ้า ผ่าเข้าใส่หน้าของสื่อจินโหว

ประกายไฟกระจายไปทั่วบริเวณ โลกใต้ดินทั้งหมดสะเทือนด้วยแรงฟันของเย่ว์หยาง น้ำพุร้อนถูกปราณดาบผ่าจนแยกครึ่ง กลายเป็นช่องว่างลึกก่อให้น้ำแยกเป็นคลื่นสูง 2 เมตรกระจายไปแต่ละข้าง

อย่างไรก็ตาม หลังจากฟันดาบที่สอง เย่ว์หยางถึงกับตาค้าง

นั่นเป็นเพราะ แรงฟันที่เขาใช้จากกำลังทั้งหมดถูกสื่อจินโหวใช้เพียงสองนิ้วมือหยุดมันไว้ได้

ดาบวิเศษฮุยจินที่มีพลังสามารถผ่าเหล็กและหินได้ ถูกสื่อจินโหวใช้สองนิ้วมือคีบจับไว้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว

**************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด