ตอนที่แล้วตอนที่ 138 หลิงซิ่ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 140 หลิงซิ่วเจ้าอารมณ์

ตอนที่ 139 หลิงซิ่วผู้น่าสงสาร


หลิงซิ่วโอบหอกของเขาด้วยสีหน้าดำคล้ำ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนขอเวลาพักก่อนต่อสู้และเป็นเพราะเขาเองก็ยังไม่ได้กินมื้อเช้ามาเช่นกัน

ห่างไกลออกไปกลิ่นหอมของเนื้อย่างกระทบจมูกพวกเขา เหลวไหล!มีคนกินเนื้อย่างในตอนเช้าด้วยเหรอ ในดวงตาเขา เต็มไปด้วยความโกรธ ตอนกลางคืนเมื่อเหล่าผู้อาวุโสประชุมกันเขายังไม่ได้กินอะไรจนบัดนี้ ท้องของเขาร้องโครกคราก และที่แย่ที่สุดก็คือต้องมามองดูเจ้าบัดซบนี่กินอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา

มันช่างน่าโมโหเสียจริง

เขามั่นใจว่าจะทุบเจ้าบัดซบนี่จนสำรอกอาหารออกมาให้หมดแน่นอน

จ๊อกกกก...!

เสียงนั้นดังออกมาจากท้องของเขาเอง ความเงียบเต็มอยู่ในอากาศและทันทีนั้นใบหน้าของหลิงซิ่วจากดำกลายเป็นสีแดง

ไอ้บัดซบนี่ต้องได้ยินแน่นอน..บ้าจริงเว้ย..

"เฮ้, พ่อหนุ่ม..เจ้าต้องหิวแน่เลย"ถังเทียนหันหน้ามาและโบกเนื้อย่างมาทางหลิงซิ่วเหมือนจะเชิญชวนเขา

"เจ้าเรียกใครเป็นพ่อหนุ่ม?" หลิงซิ่วโกรธและชี้ปลายหอกมาที่ถังเทียน

"ถ้าเจ้าไม่หิวก็ไม่เป็นไร  งั้นข้ากินคนเดียวก็ได้"ถังเทียนเคี้ยวเนื้อย่างตุ้ยๆ และพูดพลาง

"บัดซบเอ๊ย!"

หลิงซิ่วสบถและวิ่งเข้ามาเขาพุ่งไปที่เนื้อโดยไม่นั่งลง

สองชั่วโมงต่อมา  ถังเทียนและหลิงซิ่วกินจนพอใจ  พวกเขาทอดตัวลงกับพื้นทั้งคู่พุงกางราวกับยัดด้วยลูกแตงโม กู้เสวี่ยและเมอเรย์มองดูพวกเขาด้วยสายตางงงวย  พวกเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น

ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ แต่คนที่เฝ้าสังเกตดูการต่อสู้จากระยะไกลก็พลอยมึนงงไปด้วย

"อิ่มเป็นบ้า!"หลิงซิ่วอดล้มตัวนอนไม่ได้

"นี่แหละรสชาติของชีวิต"ถังเทียนรำพึงขณะที่ดวงอาทิตย์ส่องต้องหน้าเขา

"เฮ้, อย่านึกว่าเจ้าจะสามารถติดสินบนข้าด้วยเนื้อย่างมื้อเดียวนะ"หลิงซิ่วพยุงตัวด้านบนขึ้นและมองดูอย่างรำคาญ จากนั้นเขาพูดอย่างเกียจคร้าน "อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลต้องการพาตัวคุณหนูเสวี่ยกลับไป  อย่ามาห้ามข้าเลยข้าจะทำเป็นเหมือนไม่เห็นเจ้าก็แล้วกัน"

หน้าของเมอเรย์เปลี่ยน   ด้วยชื่อเสียงที่หลิงซิ่วสร้างมานั้นสำหรับเขาเมื่อพูดสิ่งใดออกไปแล้ว เขาเชื่อว่าไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธได้

ตรงกันข้าม  กู้เสวี่ยยังสงบนิ่ง

"ฝันไปเถอะ"  ถังเทียนตอบอย่างเกียจคร้านเช่นกัน  "นี่มันถิ่นของข้า  เจ้าข้ามเข้ามาในถิ่นของข้า แล้วข้าจะเป็นพี่ใหญ่ในอนาคตได้ยังไง?"

หลิงซิ่วไม่เคยคิดว่าความตั้งใจดีของเขาจะถูกปฏิเสธ  เขาลุกขึ้นนั่งตัวตรงและมองจริงจัง"เจ้าเอาจริงหรือเปล่า?"

"ทำไมจะไม่เล่า?" ตาของถังเทียนยังคงหลับสำเนียงที่แฝงความเกียจคร้านของเขาทำให้หลิงซิ่วสงสัยว่าเขาหลับไปแล้ว"

"อย่างนั้นข้าว่าคงไม่มีทางอื่น!" หลิงซิ่วยืนสีหน้าเคร่งเครียด "ข้าก็จะไม่ขัดขืนคำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเหมือนกัน"

การต่อสู้ของเขาจะต้องเกิดขึ้น  เขาชี้หอกเงินมาที่ถังเทียน  เสียงของเขาตอนนี้เย็นชา  "เข้ามา!  เราจะประลองฝีมือกัน"

"เฮ่ย..เจ้าไม่ได้เมาอาหารอยู่ใช่ไหม?"  ถังเทียนหาว ดวงตาสะลึมสะลือ เขามึนงง "เหนื่อย.. ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ของีบก่อน..."

หลิงซิ่วอยากจะเอาหัวชนกำแพง  "ถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้อย่าโทษว่าข้าร้ายไม่ได้นะ"

"ครึ่งชั่วโมง  ข้าของีบแค่ครึ่งชั่วโมง..."  ถังเทียนหาวอีกครั้ง

"เลิกโยกโย้ได้แล้ว!ลุกขึ้นมาสู้กัน! ผู้ชนะเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์.."หลิงซิ่วต้องการจะแทงถังเทียนให้พรุน แต่ในฐานะยอดฝีมือ เขายับยั้งใจไว้

"อย่างนั้นยี่สิบนาที.. ถ้าไม่ได้..งั้นขอสิบนาทีก็ได้."ตาของถังเทียนมีน้ำตาคลอเบ้า  เขาง่วงจนไม่อยากลืมตา

หลิงซิ่วโกรธ!

เขาไม่เคยพบคนขี้เกียจอย่างนั้นมาก่อนแต่ถังเทียนกลับหลับเฉย แม้ขณะที่ปลายหอกของเขาจี้เข้ามาใกล้ ถังเทียนก็ยังไม่รู้สึก

ขี้เซานัก..

ถังเทียนสามารถลืมตาได้  เขาไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายเมื่อหลิงซิ่วทำท่าจะแทงเขา

มีคนแบบนี้อยู่ในโลกได้อย่างไร  หลิงซิ่วโกรธจัด  แต่ด้วยศักดิ์ศรีความเป็นยอดฝีมือ  ทำให้เขาไม่ลอบทำร้ายถังเทียน

ทันใดนั้น  เขาเหลือบไปเห็นบ่อน้ำ  นัยน์ตาเขาเป็นประกาย

ถังตักน้ำยังคงอยู่ตรงนั้น  หลิงซิ่วไม่พูดอะไรวางหอกเงินแล้วเดินไปที่ถังน้ำที่มีน้ำเต็ม

เมื่อเขาถือถังน้ำเดินเข้ามาหาถังเทียน  ถังเทียนกรนเรียบร้อยแล้ว

เขาหลับได้ไวนัก...แต่ หึ หึ!

หลิงซิ่วยกถังน้ำในมือแล้วสาดน้ำใส่ถังเทียนทันที

น้ำจากในบ่อเย็นเสียดกระดูกถูกราดใส่ถังเทียน ถังเทียนเหมือนกับฝันว่าตกลงไปในหลุมน้ำแข็งกระทันหัน  เขาร้องจ๊ากและโดดขึ้นมายืนบนพื้น

เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่สะใจและถังน้ำในมือของหลิงซิ่ว  ถังเทียนก็เข้าใจ

ถังเทียนผมลุกชันด้วยความโกรธและด่าทอใส่หลิงซิ่ว  "ข้าเลี้ยงเนื้อเจ้ามื้อหนึ่ง  แต่ตอนนี้เจ้ากลับเอาน้ำมาสาดใส่ข้า!  บัดซบเอ๊ย!"

หลิงซิ่วเพิ่งนึกออกว่าเขาล้ำเส้นเกินไปแล้ว

ขณะที่เขาเตรียมจะอธิบาย  ถังเทียนก็พุ่งเข้ามาหาเขาเสียแล้ว  หลิงซิ่วที่ตั้งใจจะมาสู้เพิ่งรู้ตัวว่าหอกเงินของเขาไม่ได้อยู่ในมือ แต่กลับเป็นถังตักน้ำแทน  "เดี๋ยวก่อน..."

ถังเทียนระเบิดความโกรธ  และใช้วังวนเหยี่ยวเหินทันที

วังวนลูกแล้วลูกเล่าลอยเข้าหาหลิงซิ่วเมือนกับฝูงนกพิราบขาวถังเทียนก้มหน้าก้มตาดึงเอารังสีดาบถานถุ่ยออกมาแล้วซัดใส่หลิงซิ่ว

หลิงซิ่วหลบได้ทั้งหมด  แต่ถังเทียนโกรธหนัก ระดมโจมตีจนแทบหายใจไม่ทัน

วังวนเหยี่ยวเหินทำให้เขายืนได้ไม่มั่นคงและรังสีดาบถานถุ่ยที่หนาแน่นก็บดบังการมองของเขา ในช่วงเวลาที่ตื่นเต้นตึงเครียดนี้ เขายกถังไม้ในมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ถังไม้ถูกกระแทกทันที

รังสีดาบที่คมเฉียดผ่านปลายจมูกและฟันเข้าใส่เขาเลือดพุ่งออกมา เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

"เฮ้ เฮ้เฮ้..." หลิงซิ่วตะโกน

ถังเทียนไม่มีความคิดจะหยุด  เขาระดมโจมตีใส่หลิงซิ่วเป็นพายุบุแคมเขาก้มหน้าก้มตาโจมตีอย่างต่อเนื่อง  ขณะเดียวกันก็สบถด่าทอไปด้วย

"เจ้ายึดเอาความตั้งดีของข้าเหมือนกับเป็นเจตนาร้าย!  ข้าอุตส่าห์เลี้ยงเนื้อย่างเจ้าแต่เจ้ากลับเอาน้ำมาสาดใส่ข้า"

"เจ้าเบื่อหน่ายชีวิตแล้วใช่หรือเปล่า!"

"เจ้าหนู!  ข้าจะบอกเจ้าให้  ใครก็ตามที่บังอาจสาดน้ำใส่ข้ามันต้องถูกทุบให้เละ"

"เจ้าก็คือเนื้อบนเขียง!  เจ้าเคราะห์ร้ายเสียแล้ว  เจ้าจะต้องเสียใจกับการกระทำโง่ๆ ของเจ้า!"

"ตายเสียเถอะเจ้าบัดซบ!"

……

หลิงซิ่วผู้น่าสงสารวิทยายุทธทั้งหมดของเขาฝึกฝนมากับหอกเงินพู่แดง เขาไม่มีอาวุธ ไม่มีเครื่องมือป้องกันได้แต่เพียงพยายามดิ้นรนอยู่ในท่ามกลางการโจมตีของถังเทียน

เป็นการต่อสู้แบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคยทั้งนั้น

เมื่อหลิงซิ่วถูกฟาดลงกับพื้นด้วยพลังประทับหัตถ์ใหญ่จากนั้นถังเทียนระดมหมัดต่อยใส่เขาที่ล้มอยู่บนพื้นอีกเป็นชุด

ในช่วงเวลาสั้นๆสิบวินาที หน้าของหลิงซิ่วก็บวมปูดเบี้ยวผิดรูป

นี่... นี่มัน...

ทุกคนที่กำลังดูการต่อสู้เหมือนถูกสาปเป็นรูปปั้นพวกเขาทุกคนตะลึงกับภาพที่พวกเขาเห็นประจักษ์ตา

นั่นคือหลิงซิ่ว  หลิงซิ่วหอกเงิน

คนที่กำลังถูกทุบจนหน้าปูดบวมเหมือนหมู

คนที่เป็นฝ่ายนอนอยู่บนพื้น

คนที่ต้องการตอบโต้  แต่ทำได้แค่ร้อง...

โอว..พระเจ้านี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ถังเทียนต่อยหมัดอย่างบ้าคลั่งและในที่สุดความโกรธของเขาก็หายไป หลิงซิ่วที่น่าสงสาร สภาพของเขาดูไม่ได้เลยจากโดนพลังหมัด เป็นเหมือนกับว่าถูกช้างเหยียบมา

ถังเทียนหยุดและหันหน้าไปหาหลิงซิ่ว  เขาถาม "เจ้าพอใจหรือยัง?"

"ไม่?  ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ.."หลิงซิ่วโกรธ

ไม่ทันได้มีคำพูดตามมาถังเทียนก้มหน้าลงและระดมหมัดใส่เขาอีก คำพูดของหลิงซิ่วหยุดชะงัก เขารับหมัดไปอีกสามสิบวินาทีก่อนที่จะหยุด

"พอใจหรือยัง?"

"ไม่!"หลิงซิ่วยังยืนกราน "เจ้าไม่มีศักดิ์ศรีของนักสู้เลย.."

ถังเทียนเถียง"เฮอะ.. เจ้ากินเนื้อย่างของข้า จากนั้นตักน้ำมาสาดใส่ข้าแล้วเจ้ายังต้องการพูดถึงเรื่องศักดิ์ศรีนักสู้อีกหรือ?"

ไม่รอให้หลิงซิ่วได้ตอบโต้  ถังเทียนระดมต่อยต่ออีกสองนาที

ถังเทียนไม่ได้ใช้ปราณเที่ยงแท้  แต่เป็นพลังร่างกายล้วนๆ  แต่ความโหดของถังเทียนพลังหมัดเหล่านี้ก็เจ็บถึงกระดูกดำได้เช่นกัน

"พอใจหรือยัง?"

หลิงซิ่วยังคงเงียบ

"อ่าฮะ, ตอนนี้ไม่มีเสียงแล้วหรือ?"

ถังเทียนเริ่มต่อยอีกครั้งแต่ละหมัดก่อให้เกิดเสียงดังชัด หน้าของหลิงซิ่วบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ

"ไม่พอใจหรือ?  อย่างนั้นข้าจะถลกหนังและมัดเจ้าซะ"ถังเทียนรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังมีแนวความคิด

หลิงซิ่วโวยวายลั่น"วิญญูชนฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้"

"วิญญูชนบ้าอะไรกัน?" ถังเทียนทำหน้าเยาะเย้ยจากนั้นเริ่มถอดกางเกงหลิงซิ่ว

หลิงซิ่วตื่นเต้น  "เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย, เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ  อย่าทำแบบนี้"

ถังเทียนกลายเป็นหูหนวกไม่ได้ยินคำพูดของเขา

หลิงซิ่วตื่นตระหนกเรื่องที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าทุกคนทำให้เขาถึงกับตัวสั่น ในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมา"เออ..ข้าพอใจแล้ว,ยอมแล้ว"

ถึงตอนนี้ถังเทียนค่อยพูดอย่างภูมิใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าน่าจะรีบพูดให้เร็วกว่านี้ทุกอย่างก็จะดีขึ้นไม่ใช่หรือ? มาเถอะ เรียกข้าว่า "พี่ใหญ่"ซะดีๆ"

มันน่าขายหน้าเกินไป!

มีคนชั่วร้ายอย่างนี้เกิดขึ้นในโลกได้ยังไง?

ข้าไม่น่าเสนอตัวรับภารกิจนี้เลย...

แต่คนฉลาดไม่ถือสาเมื่อพลาดท่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ..

หลิงซิ่วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว"พี่ใหญ่..."

"ฮ่าฮ่าฮ่า!"สีหน้าถังเทียนเปลี่ยนทันที เขากระโดดลงมาจากตัวหลิงซิ่วและฉุดหลิงซิ่วที่ฟกช้ำบวมปูดขึ้นมาทันทีแล้วช่วยปัดฝุ่นให้เขาเป็นอย่างดี"จากวันนี้ไป เราเป็นครอบครัวเดียวกัน (มาเฟียชัดๆ) มาเถอะๆมากินเนื้อย่างต่อ"

เนื้อย่างอีกแล้ว...

หลิงซิ่วน้ำตาแทบร่วงเมื่อได้ยินคำนี้

ชีวิตของเขาพังทลายก็เพราะเนื้อย่าง หลิงซิ่วสาบานว่าจะไม่ยอมกินเนื้อย่างอีกเด็ดขาด

เขาคลำใบหน้าและถอนหอกเงินออกมาจากข้างบ่อ เมื่อเขาเห็นเงาสะท้อนจากน้ำในบ่อว่าหน้าของเขาฟกช้ำบวมปูดแค่ไหนหลิงซิ่วถึงกับหน้าดำคร่ำเครียด

บัดซบเอ๊ย...

“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนว่าไม่มีความบาดหมางแต่ก็ยังไม่มีความสามัคคี!”

ถังเทียนดักคอแต่หลิงซิ่วทำเป็นหูหนวก เขานั่งลงข้างกู้เสวี่ยและโอบหอกเงินไว้ในอ้อมแขน

กู้เสวี่ยยังสงบและมองดูหลิงซิ่วซึ่งรู้สึกประหม่าลนลานและรู้สึกกดดันทันทีทันใดนั้น มีร่างหนึ่งเข้ามาขวางอยู่ข้างหน้า ถังเทียนนั่งลงและหัวเราะกล่าว “เจ้าราดน้ำเย็นใส่ข้าถังหนึ่งและข้าก็ทุบเจ้าคืนครั้งหนึ่ง ถือว่าเราเจ๊ากัน”

เจ้าทุบข้าครั้งเดียวเหรอ?

หลิงซิ่วหนังตากระตุก  ความร้อนในตัวลดฮวบฮาบ  กู้เสวี่ยรู้สึกกดดันมากขึ้น

หลังจากผ่านไปครึ่งวันคนของตระกูลกู้ก็ตระหนักได้ว่าหลิงซิ่วนั่งอย่างไร้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะเคลื่อนไหวต่อไป

นี่..... นี่....

คนของตระกูลกู้ทุกคนที่มาพร้อมกับหลิงซิ่วถึงกับเหงื่อกาฬหลั่งไหล  ทันใดนั้นพวกเขารีบกลับไปรายงานผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล จากนั้นไม่นาน เขาก็วิ่งกลับมา

“จอมยุทธหลิงซิ่ว  ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลกำลังเร่งรัดท่าน..”

หลิงซิ่วไม่พูดอะไรสักคำ  เขาลืมตากล่าว “รายงานผู้อาวุโสสูงสุดไปว่าหลิงซิ่วไม่อาจติดตามข้างกายเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโปรดเรียนผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลให้หายอดฝีมือคนใหม่เถอะ”

ทุกคนแตกฮือ

แม้แต่ถังเทียนก็ยังตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด