ตอนที่ 139 หลิงซิ่วผู้น่าสงสาร
หลิงซิ่วโอบหอกของเขาด้วยสีหน้าดำคล้ำ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนขอเวลาพักก่อนต่อสู้และเป็นเพราะเขาเองก็ยังไม่ได้กินมื้อเช้ามาเช่นกัน
ห่างไกลออกไปกลิ่นหอมของเนื้อย่างกระทบจมูกพวกเขา เหลวไหล!มีคนกินเนื้อย่างในตอนเช้าด้วยเหรอ ในดวงตาเขา เต็มไปด้วยความโกรธ ตอนกลางคืนเมื่อเหล่าผู้อาวุโสประชุมกันเขายังไม่ได้กินอะไรจนบัดนี้ ท้องของเขาร้องโครกคราก และที่แย่ที่สุดก็คือต้องมามองดูเจ้าบัดซบนี่กินอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา
มันช่างน่าโมโหเสียจริง
เขามั่นใจว่าจะทุบเจ้าบัดซบนี่จนสำรอกอาหารออกมาให้หมดแน่นอน
จ๊อกกกก...!
เสียงนั้นดังออกมาจากท้องของเขาเอง ความเงียบเต็มอยู่ในอากาศและทันทีนั้นใบหน้าของหลิงซิ่วจากดำกลายเป็นสีแดง
ไอ้บัดซบนี่ต้องได้ยินแน่นอน..บ้าจริงเว้ย..
"เฮ้, พ่อหนุ่ม..เจ้าต้องหิวแน่เลย"ถังเทียนหันหน้ามาและโบกเนื้อย่างมาทางหลิงซิ่วเหมือนจะเชิญชวนเขา
"เจ้าเรียกใครเป็นพ่อหนุ่ม?" หลิงซิ่วโกรธและชี้ปลายหอกมาที่ถังเทียน
"ถ้าเจ้าไม่หิวก็ไม่เป็นไร งั้นข้ากินคนเดียวก็ได้"ถังเทียนเคี้ยวเนื้อย่างตุ้ยๆ และพูดพลาง
"บัดซบเอ๊ย!"
หลิงซิ่วสบถและวิ่งเข้ามาเขาพุ่งไปที่เนื้อโดยไม่นั่งลง
สองชั่วโมงต่อมา ถังเทียนและหลิงซิ่วกินจนพอใจ พวกเขาทอดตัวลงกับพื้นทั้งคู่พุงกางราวกับยัดด้วยลูกแตงโม กู้เสวี่ยและเมอเรย์มองดูพวกเขาด้วยสายตางงงวย พวกเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ แต่คนที่เฝ้าสังเกตดูการต่อสู้จากระยะไกลก็พลอยมึนงงไปด้วย
"อิ่มเป็นบ้า!"หลิงซิ่วอดล้มตัวนอนไม่ได้
"นี่แหละรสชาติของชีวิต"ถังเทียนรำพึงขณะที่ดวงอาทิตย์ส่องต้องหน้าเขา
"เฮ้, อย่านึกว่าเจ้าจะสามารถติดสินบนข้าด้วยเนื้อย่างมื้อเดียวนะ"หลิงซิ่วพยุงตัวด้านบนขึ้นและมองดูอย่างรำคาญ จากนั้นเขาพูดอย่างเกียจคร้าน "อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลต้องการพาตัวคุณหนูเสวี่ยกลับไป อย่ามาห้ามข้าเลยข้าจะทำเป็นเหมือนไม่เห็นเจ้าก็แล้วกัน"
หน้าของเมอเรย์เปลี่ยน ด้วยชื่อเสียงที่หลิงซิ่วสร้างมานั้นสำหรับเขาเมื่อพูดสิ่งใดออกไปแล้ว เขาเชื่อว่าไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธได้
ตรงกันข้าม กู้เสวี่ยยังสงบนิ่ง
"ฝันไปเถอะ" ถังเทียนตอบอย่างเกียจคร้านเช่นกัน "นี่มันถิ่นของข้า เจ้าข้ามเข้ามาในถิ่นของข้า แล้วข้าจะเป็นพี่ใหญ่ในอนาคตได้ยังไง?"
หลิงซิ่วไม่เคยคิดว่าความตั้งใจดีของเขาจะถูกปฏิเสธ เขาลุกขึ้นนั่งตัวตรงและมองจริงจัง"เจ้าเอาจริงหรือเปล่า?"
"ทำไมจะไม่เล่า?" ตาของถังเทียนยังคงหลับสำเนียงที่แฝงความเกียจคร้านของเขาทำให้หลิงซิ่วสงสัยว่าเขาหลับไปแล้ว"
"อย่างนั้นข้าว่าคงไม่มีทางอื่น!" หลิงซิ่วยืนสีหน้าเคร่งเครียด "ข้าก็จะไม่ขัดขืนคำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเหมือนกัน"
การต่อสู้ของเขาจะต้องเกิดขึ้น เขาชี้หอกเงินมาที่ถังเทียน เสียงของเขาตอนนี้เย็นชา "เข้ามา! เราจะประลองฝีมือกัน"
"เฮ่ย..เจ้าไม่ได้เมาอาหารอยู่ใช่ไหม?" ถังเทียนหาว ดวงตาสะลึมสะลือ เขามึนงง "เหนื่อย.. ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ของีบก่อน..."
หลิงซิ่วอยากจะเอาหัวชนกำแพง "ถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้อย่าโทษว่าข้าร้ายไม่ได้นะ"
"ครึ่งชั่วโมง ข้าของีบแค่ครึ่งชั่วโมง..." ถังเทียนหาวอีกครั้ง
"เลิกโยกโย้ได้แล้ว!ลุกขึ้นมาสู้กัน! ผู้ชนะเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์.."หลิงซิ่วต้องการจะแทงถังเทียนให้พรุน แต่ในฐานะยอดฝีมือ เขายับยั้งใจไว้
"อย่างนั้นยี่สิบนาที.. ถ้าไม่ได้..งั้นขอสิบนาทีก็ได้."ตาของถังเทียนมีน้ำตาคลอเบ้า เขาง่วงจนไม่อยากลืมตา
หลิงซิ่วโกรธ!
เขาไม่เคยพบคนขี้เกียจอย่างนั้นมาก่อนแต่ถังเทียนกลับหลับเฉย แม้ขณะที่ปลายหอกของเขาจี้เข้ามาใกล้ ถังเทียนก็ยังไม่รู้สึก
ขี้เซานัก..
ถังเทียนสามารถลืมตาได้ เขาไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายเมื่อหลิงซิ่วทำท่าจะแทงเขา
มีคนแบบนี้อยู่ในโลกได้อย่างไร หลิงซิ่วโกรธจัด แต่ด้วยศักดิ์ศรีความเป็นยอดฝีมือ ทำให้เขาไม่ลอบทำร้ายถังเทียน
ทันใดนั้น เขาเหลือบไปเห็นบ่อน้ำ นัยน์ตาเขาเป็นประกาย
ถังตักน้ำยังคงอยู่ตรงนั้น หลิงซิ่วไม่พูดอะไรวางหอกเงินแล้วเดินไปที่ถังน้ำที่มีน้ำเต็ม
เมื่อเขาถือถังน้ำเดินเข้ามาหาถังเทียน ถังเทียนกรนเรียบร้อยแล้ว
เขาหลับได้ไวนัก...แต่ หึ หึ!
หลิงซิ่วยกถังน้ำในมือแล้วสาดน้ำใส่ถังเทียนทันที
น้ำจากในบ่อเย็นเสียดกระดูกถูกราดใส่ถังเทียน ถังเทียนเหมือนกับฝันว่าตกลงไปในหลุมน้ำแข็งกระทันหัน เขาร้องจ๊ากและโดดขึ้นมายืนบนพื้น
เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่สะใจและถังน้ำในมือของหลิงซิ่ว ถังเทียนก็เข้าใจ
ถังเทียนผมลุกชันด้วยความโกรธและด่าทอใส่หลิงซิ่ว "ข้าเลี้ยงเนื้อเจ้ามื้อหนึ่ง แต่ตอนนี้เจ้ากลับเอาน้ำมาสาดใส่ข้า! บัดซบเอ๊ย!"
หลิงซิ่วเพิ่งนึกออกว่าเขาล้ำเส้นเกินไปแล้ว
ขณะที่เขาเตรียมจะอธิบาย ถังเทียนก็พุ่งเข้ามาหาเขาเสียแล้ว หลิงซิ่วที่ตั้งใจจะมาสู้เพิ่งรู้ตัวว่าหอกเงินของเขาไม่ได้อยู่ในมือ แต่กลับเป็นถังตักน้ำแทน "เดี๋ยวก่อน..."
ถังเทียนระเบิดความโกรธ และใช้วังวนเหยี่ยวเหินทันที
วังวนลูกแล้วลูกเล่าลอยเข้าหาหลิงซิ่วเมือนกับฝูงนกพิราบขาวถังเทียนก้มหน้าก้มตาดึงเอารังสีดาบถานถุ่ยออกมาแล้วซัดใส่หลิงซิ่ว
หลิงซิ่วหลบได้ทั้งหมด แต่ถังเทียนโกรธหนัก ระดมโจมตีจนแทบหายใจไม่ทัน
วังวนเหยี่ยวเหินทำให้เขายืนได้ไม่มั่นคงและรังสีดาบถานถุ่ยที่หนาแน่นก็บดบังการมองของเขา ในช่วงเวลาที่ตื่นเต้นตึงเครียดนี้ เขายกถังไม้ในมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ถังไม้ถูกกระแทกทันที
รังสีดาบที่คมเฉียดผ่านปลายจมูกและฟันเข้าใส่เขาเลือดพุ่งออกมา เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
"เฮ้ เฮ้เฮ้..." หลิงซิ่วตะโกน
ถังเทียนไม่มีความคิดจะหยุด เขาระดมโจมตีใส่หลิงซิ่วเป็นพายุบุแคมเขาก้มหน้าก้มตาโจมตีอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็สบถด่าทอไปด้วย
"เจ้ายึดเอาความตั้งดีของข้าเหมือนกับเป็นเจตนาร้าย! ข้าอุตส่าห์เลี้ยงเนื้อย่างเจ้าแต่เจ้ากลับเอาน้ำมาสาดใส่ข้า"
"เจ้าเบื่อหน่ายชีวิตแล้วใช่หรือเปล่า!"
"เจ้าหนู! ข้าจะบอกเจ้าให้ ใครก็ตามที่บังอาจสาดน้ำใส่ข้ามันต้องถูกทุบให้เละ"
"เจ้าก็คือเนื้อบนเขียง! เจ้าเคราะห์ร้ายเสียแล้ว เจ้าจะต้องเสียใจกับการกระทำโง่ๆ ของเจ้า!"
"ตายเสียเถอะเจ้าบัดซบ!"
……
หลิงซิ่วผู้น่าสงสารวิทยายุทธทั้งหมดของเขาฝึกฝนมากับหอกเงินพู่แดง เขาไม่มีอาวุธ ไม่มีเครื่องมือป้องกันได้แต่เพียงพยายามดิ้นรนอยู่ในท่ามกลางการโจมตีของถังเทียน
เป็นการต่อสู้แบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคยทั้งนั้น
เมื่อหลิงซิ่วถูกฟาดลงกับพื้นด้วยพลังประทับหัตถ์ใหญ่จากนั้นถังเทียนระดมหมัดต่อยใส่เขาที่ล้มอยู่บนพื้นอีกเป็นชุด
ในช่วงเวลาสั้นๆสิบวินาที หน้าของหลิงซิ่วก็บวมปูดเบี้ยวผิดรูป
นี่... นี่มัน...
ทุกคนที่กำลังดูการต่อสู้เหมือนถูกสาปเป็นรูปปั้นพวกเขาทุกคนตะลึงกับภาพที่พวกเขาเห็นประจักษ์ตา
นั่นคือหลิงซิ่ว หลิงซิ่วหอกเงิน
คนที่กำลังถูกทุบจนหน้าปูดบวมเหมือนหมู
คนที่เป็นฝ่ายนอนอยู่บนพื้น
คนที่ต้องการตอบโต้ แต่ทำได้แค่ร้อง...
โอว..พระเจ้านี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ถังเทียนต่อยหมัดอย่างบ้าคลั่งและในที่สุดความโกรธของเขาก็หายไป หลิงซิ่วที่น่าสงสาร สภาพของเขาดูไม่ได้เลยจากโดนพลังหมัด เป็นเหมือนกับว่าถูกช้างเหยียบมา
ถังเทียนหยุดและหันหน้าไปหาหลิงซิ่ว เขาถาม "เจ้าพอใจหรือยัง?"
"ไม่? ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ.."หลิงซิ่วโกรธ
ไม่ทันได้มีคำพูดตามมาถังเทียนก้มหน้าลงและระดมหมัดใส่เขาอีก คำพูดของหลิงซิ่วหยุดชะงัก เขารับหมัดไปอีกสามสิบวินาทีก่อนที่จะหยุด
"พอใจหรือยัง?"
"ไม่!"หลิงซิ่วยังยืนกราน "เจ้าไม่มีศักดิ์ศรีของนักสู้เลย.."
ถังเทียนเถียง"เฮอะ.. เจ้ากินเนื้อย่างของข้า จากนั้นตักน้ำมาสาดใส่ข้าแล้วเจ้ายังต้องการพูดถึงเรื่องศักดิ์ศรีนักสู้อีกหรือ?"
ไม่รอให้หลิงซิ่วได้ตอบโต้ ถังเทียนระดมต่อยต่ออีกสองนาที
ถังเทียนไม่ได้ใช้ปราณเที่ยงแท้ แต่เป็นพลังร่างกายล้วนๆ แต่ความโหดของถังเทียนพลังหมัดเหล่านี้ก็เจ็บถึงกระดูกดำได้เช่นกัน
"พอใจหรือยัง?"
หลิงซิ่วยังคงเงียบ
"อ่าฮะ, ตอนนี้ไม่มีเสียงแล้วหรือ?"
ถังเทียนเริ่มต่อยอีกครั้งแต่ละหมัดก่อให้เกิดเสียงดังชัด หน้าของหลิงซิ่วบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ
"ไม่พอใจหรือ? อย่างนั้นข้าจะถลกหนังและมัดเจ้าซะ"ถังเทียนรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังมีแนวความคิด
หลิงซิ่วโวยวายลั่น"วิญญูชนฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้"
"วิญญูชนบ้าอะไรกัน?" ถังเทียนทำหน้าเยาะเย้ยจากนั้นเริ่มถอดกางเกงหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วตื่นเต้น "เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย, เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ อย่าทำแบบนี้"
ถังเทียนกลายเป็นหูหนวกไม่ได้ยินคำพูดของเขา
หลิงซิ่วตื่นตระหนกเรื่องที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าทุกคนทำให้เขาถึงกับตัวสั่น ในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมา"เออ..ข้าพอใจแล้ว,ยอมแล้ว"
ถึงตอนนี้ถังเทียนค่อยพูดอย่างภูมิใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าน่าจะรีบพูดให้เร็วกว่านี้ทุกอย่างก็จะดีขึ้นไม่ใช่หรือ? มาเถอะ เรียกข้าว่า "พี่ใหญ่"ซะดีๆ"
มันน่าขายหน้าเกินไป!
มีคนชั่วร้ายอย่างนี้เกิดขึ้นในโลกได้ยังไง?
ข้าไม่น่าเสนอตัวรับภารกิจนี้เลย...
แต่คนฉลาดไม่ถือสาเมื่อพลาดท่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ..
หลิงซิ่วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว"พี่ใหญ่..."
"ฮ่าฮ่าฮ่า!"สีหน้าถังเทียนเปลี่ยนทันที เขากระโดดลงมาจากตัวหลิงซิ่วและฉุดหลิงซิ่วที่ฟกช้ำบวมปูดขึ้นมาทันทีแล้วช่วยปัดฝุ่นให้เขาเป็นอย่างดี"จากวันนี้ไป เราเป็นครอบครัวเดียวกัน (มาเฟียชัดๆ) มาเถอะๆมากินเนื้อย่างต่อ"
เนื้อย่างอีกแล้ว...
หลิงซิ่วน้ำตาแทบร่วงเมื่อได้ยินคำนี้
ชีวิตของเขาพังทลายก็เพราะเนื้อย่าง หลิงซิ่วสาบานว่าจะไม่ยอมกินเนื้อย่างอีกเด็ดขาด
เขาคลำใบหน้าและถอนหอกเงินออกมาจากข้างบ่อ เมื่อเขาเห็นเงาสะท้อนจากน้ำในบ่อว่าหน้าของเขาฟกช้ำบวมปูดแค่ไหนหลิงซิ่วถึงกับหน้าดำคร่ำเครียด
บัดซบเอ๊ย...
“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนว่าไม่มีความบาดหมางแต่ก็ยังไม่มีความสามัคคี!”
ถังเทียนดักคอแต่หลิงซิ่วทำเป็นหูหนวก เขานั่งลงข้างกู้เสวี่ยและโอบหอกเงินไว้ในอ้อมแขน
กู้เสวี่ยยังสงบและมองดูหลิงซิ่วซึ่งรู้สึกประหม่าลนลานและรู้สึกกดดันทันทีทันใดนั้น มีร่างหนึ่งเข้ามาขวางอยู่ข้างหน้า ถังเทียนนั่งลงและหัวเราะกล่าว “เจ้าราดน้ำเย็นใส่ข้าถังหนึ่งและข้าก็ทุบเจ้าคืนครั้งหนึ่ง ถือว่าเราเจ๊ากัน”
เจ้าทุบข้าครั้งเดียวเหรอ?
หลิงซิ่วหนังตากระตุก ความร้อนในตัวลดฮวบฮาบ กู้เสวี่ยรู้สึกกดดันมากขึ้น
หลังจากผ่านไปครึ่งวันคนของตระกูลกู้ก็ตระหนักได้ว่าหลิงซิ่วนั่งอย่างไร้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะเคลื่อนไหวต่อไป
นี่..... นี่....
คนของตระกูลกู้ทุกคนที่มาพร้อมกับหลิงซิ่วถึงกับเหงื่อกาฬหลั่งไหล ทันใดนั้นพวกเขารีบกลับไปรายงานผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล จากนั้นไม่นาน เขาก็วิ่งกลับมา
“จอมยุทธหลิงซิ่ว ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลกำลังเร่งรัดท่าน..”
หลิงซิ่วไม่พูดอะไรสักคำ เขาลืมตากล่าว “รายงานผู้อาวุโสสูงสุดไปว่าหลิงซิ่วไม่อาจติดตามข้างกายเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโปรดเรียนผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลให้หายอดฝีมือคนใหม่เถอะ”
ทุกคนแตกฮือ
แม้แต่ถังเทียนก็ยังตะลึง