ตอนที่ 138 หลิงซิ่ว
ถังเทียนลืมตาตื่น พระอาทิตย์ยามเช้าฉายแสงต้องหน้าของเขาให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบาย
เขายืดตัวตรงและโดดขึ้นยืน เขาหลับได้สนิทและรู้สึกมีพลังไม่รู้จบ รู้สึกกระปรี้กระเปร่า
กู้เสวี่ยก็หลับได้สนิทเช่นกัน ที่ผ่านมาสองสามวันนางตึงเครียดทั้งกายและใจจนถึงจุดอ่อนล้า เมื่อหลับได้สนิท ที่มุมตาของนางมีรอยคราบน้ำตา
ถังเทียนจิตใจตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่าตั้งแต่แรกจนถึงที่สุด กู้เสวี่ยจะแสดงออกอย่างสงบและรับสถานการณ์ได้ดีเกินวัย แต่หัวใจนางเต็มไปด้วยความระทมใจ
เมอเรย์ประหลาดใจกับความเคลื่อนไหวของถังเทียน เขาลืมตาและมองดูถังเทียนจากนั้นก็หลับตาต่ออีกครั้ง
ถังเทียนมองไปรอบๆ ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาเป็นประกาย ที่มุมลานบ้านมีบ่อน้ำบ่อหนึ่ง เขาพบถังตักน้ำจากซากหักพังแถวๆนั้นและเริ่มตักน้ำ
ซ่า..... น้ำในบ่อเย็นถึงขั้วกระดูก เขาราดตั้งแต่ศีรษะลงไปที่ขา ขุมขนในร่างกายทั้งหมดหดลีบและความง่วงถูกขับไล่หายไปหมด
ทันใดนั้นเมื่อคิดถึงทุกๆ เช้าในเมืองซิงฟง ถังเทียนอดยิ้มไม่ได้
เขาไม่ได้ฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาเป็นเวลานานแล้ว
ทันทีที่ความคิดผุดขึ้นมา ถังเทียนรู้สึกคันหัวใจทันที โดยไม่มีอะไรจะพูด เขาตั้งท่าฝึกฝน และเริ่มฝึกวิทยายุทธพื้นฐาน
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเขาไม่ได้ฝึกมานานเกินไปหรือไม่ แต่วิชาวิทยายุทธพื้นฐานดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าใดนัก แต่ที่สำคัญก็คือนี่คือสิ่งที่เขาได้ฝึกมานานถึงห้าปีถังเทียนพบความรู้สึกที่เขาเคยมีในตอนนั้นได้อย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกที่คุ้นเคยไหลบ่าเข้ามาในร่างกายทุกจุด
ฝึกแล้วก็ฝึกอีก ถังเทียนก็ยิ่งจริงจังมากขึ้นขณะที่แสงอาทิตย์ฉายให้เห็นความเป็นลูกผู้ชาย เผยให้เห็นสีหน้าไตร่ตรอง
เขาค้นพบความรู้ใหม่บางอย่าง
※※※※※
เมอเรย์ประหลาดใจขณะมองดูถังเทียนผู้กำลังซึมซับเคล็ดวิทยายุทธพื้นฐาน ถังเทียนกำลังฝึกวิชาวิทยายุทธพื้นฐานและเขาอดทนฝึกซ้อมเป็นอย่างมาก
เขาเองก็ยังงงๆ
วิชาต่อสู้ขั้นพื้นฐานเป็นระดับฝึกฝนขั้นต้นในโรงเรียน ความจริงก็คือคนส่วนใหญ่ในวัยสี่หรือห้าขวบพ่อแม่หรือประมุขตระกูลของพวกเขาก็ให้ฝึกวิทยายุทธพื้นฐานเป็นการวางรากฐานไว้ก่อนแล้ว
อัจฉริยะที่แข็งแกร่งทรงพลังจะตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่เพื่อฝึกฝนวิชาต่อสู้พื้นฐานของพวกเขาเป็นปกติ
ฉากภาพข้างหน้าเขาสร้างความประหลาดใจให้กับเขา ถ้าเขารู้ว่าถังเทียนฝึกวิทยายุทธพื้นฐานนานถึงห้าปี ใครจะรู้ได้ว่าเขาจะทำสีหน้ายังไง
กู้เสวี่ยตื่นขึ้นเพราะเสียงหมัดของถังเทียนนางลุกขึ้นนั่ง แต่เมื่อนางตื่นตัวเต็มที่นางสังเกตได้ว่าถังเทียนกำลังฝึกวิทยายุทธพื้นฐาน ทำให้นางถึงกับตะลึง"วิทยายุทธพื้นฐาน?"
ความคิดของเมอเรย์ถูกเสียงพูดของกู้เสวี่ยรบกวนเขาถอนสายตาจากการมอง และมีสีหน้ากังวลลึกๆ ถามว่า "คุณหนูตื่นแล้วหรือ?"
แววประหลาดใจบนใบหน้าของกู้เสวี่ยลดลงทันที นางยิ้มหวานให้เมอเรย์และตอบ "อืม..ข้าหลับได้ดีจริงๆ"
"ลุงเมอเรย์, เขาก็กำลังฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานหรือเปล่า?" สายตาของกู้เสวี่ยหันกลับไปมองถังเทียน นางไม่เข้าใจ
เมอเรย์พยักหน้า"เขาฝึกมาชั่วครู่แล้ว วิทยายุทธพื้นฐานของเขาแข็งแกร่งมาก ไม่สิ ควรบอกว่าสมบูรณ์แบบมาก!เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นวิทยายุทธพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น เขาต้องใช้เวลามากกับการฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานมาแน่นอน"
ทันใดนั้นเสียงที่เกิดจากลมหมัดของถังเทียนเริ่มเปลี่ยน
เมอเรย์ประหลาดใจเล็กน้อยและหันไปดูทันที
เสียงลมจากหมัด... ไม่ถูกต้อง...
เสียงของพลังโจมตีจากหมัดไม่ถูกต้องแน่นอนวิชาหมัดพื้นฐานต้องมีเสียงหมัดธรรมดา ที่สำคัญคือ วิทยายุทธพื้นฐาน เป็นวิชาที่เน้นความตรงไปตรงมาทั้งหมดแรงที่ผลิตพลังออกมาจะไม่มีการเปลี่ยนรูปแบบ
แต่ลมจากหมัดนั่น...
ลึกและต่ำเกินไป
มันลึกและต่ำมากจนเมอเรย์มองจากที่ไกลเขาสามารถรู้สึกได้ถึงความสั่นสะเทือน ความประหลาดใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเมอเรย์ทั้งหมด ถึงกับทำให้เขาตกใจ
นี่คือคนที่สามารถฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐานได้ถึงระดับนี้จริงๆ
ทันใดนั้นมีเสียงแค่นเหมือนกับว่าดังอยู่ข้างหูของเมอเรย์
สีหน้าเมอเรย์เปลี่ยน
เงาของบุรุษที่เหมือนกับหมอกสว่างกำลังลอยมาทางพวกเขา ช้าและค่อยๆ แต่ในพริบตา มันก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาทุกคน
ม่านตาของเมอเรย์หดกระทันหันทันที
หลิงซิ่ว!
※※※※※
ถังเทียนหมกมุ่นอยู่ในวิทยายุทธพื้นฐานอย่างสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าเขาคุ้นเคยจนซึมซับเข้ากระดูก แต่ทันใดนั้นเขามีความตระหนักรู้ใหม่และในท่ามกลางความสุขนั้นเอง เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆ ตัวเขา
ทุกส่วนของวิชาต่อสู้พื้นฐานเป็นเบื้องต้นของการปลดปล่อยพลัง และนักสู้ทุกคนควรจะเรียนรู้วิธีใช้ หลังจากระดับสองขึ้นไปซึ่งปราณเที่ยงแท้เข้ามาเกี่ยวข้อง พลังมหาศาลที่ปลดปล่อยจากร่างกายหยาบโดยตรงจะลดลงมาก
ในทางตรงกันข้ามปราณเที่ยงแท้เปลี่ยนเป็นบางอย่างที่มีความซับซ้อนขึ้น พลังมีขนาดใหญ่ขึ้น
ความแข็งแกร่งของร่างกายภายนอกอาจจะเห็นได้ชัดเมื่อยังฝึกอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่ขณะที่ระดับเพิ่มขึ้นความแข็งแกร่งของปราณเที่ยงแท้ก็จะควบคุมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว
ถังเทียนเป็นนักสู้ระดับห้าแล้ว ถังเทียนใช้พลังกล้ามเนื้อของเขาได้อย่างหมดจดและกำลังจะสูญเสียพลังนี้ไปแล้ว เนื่องจากระดับของเขาเพิ่มขึ้น สัญญาณดังกล่าวจึงมีความสำคัญมาก
แต่วันนี้เมื่อถังเทียนทบทวนเพื่อทำความเข้าใจเคล็ดระเบิดพลังกล้ามเนื้อขั้นพื้นฐานออกมา และมีสัญญาณนี้ที่ยังไม่ชัดเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาประหลาดใจ
บางทีทั้งสองอย่างอาจใช้ผสานด้วยกันได้?
เป็นความคิดที่กล้าหาญ ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกายทันที
การระเบิดพลังพื้นฐานออกมาปกติจะทำได้สำเร็จก็โดยพลังกล้ามเนื้อ แต่ภายในกล้ามเนื้อจะมีทางเดินปราณเล็กๆแฝงอยู่ ถ้าเขาสามารถลดพลังกล้ามเนื้อและขณะเดียวกันก็ใช้ปราณเที่ยงแท้และส่งมันผ่านช่องเดินปราณเบาบางเล็กน้อยเหล่านี้อย่างนั้นเขาจะได้ผลลัพธ์อะไร?
ความคิดบ้าบิ่นเช่นนี้ทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมันแตกต่างจากหมัดและท่าเตะอื่นๆ ที่เขาใช้ จากตั้งแต่แรก ถังเทียนไม่เคยถูกยับยั้ง ตัวอย่างเช่น ขณะที่เขาฝึกร่างกระเรียนเขารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลกๆ อยู่ในคัมภีร์ร่างกระเรียนระดับห้า ดังนั้นเขาเริ่มควานหาดูแล้วจากนั้นก็เริ่มยกระดับร่างกระเรียนขึ้นสู่ระดับห้า
ความจริงการ์ดวิญญาณนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนสร้างขึ้นมาจากความเข้าใจและประสบการณ์ตนเองซึ่งแต่ละคนก็มีอยู่มากมายเพราะในวิทยายุทธอย่างเดียวกันนี้ แต่ผู้สร้างกลับผ่านประสบการณ์มาไม่เหมือนกัน การ์ดวิญญาณที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็ย่อมไม่เหมือนกัน
ผู้ฝึกฝนต้องไม่เชื่อและทำตามการ์ดวิญญาณอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่ควรเชื่อแม้ว่าจะเป็นการ์ดวิญญาณระดับทองก็ตาม
ในช่วงเวลาอย่างนี้ นั่นคือสิ่งที่ถังเทียนเรียนรู้
เมื่อถังเทียนฝึกคำภีร์ลมปราณกระเรียน เขาได้กระตุ้นปราณเที่ยงแท้ภายในช่องปราณที่เล็กกว่าซึ่งเป็นช่องปราณแต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถังเทียนฝึกปรือร่างกระเรียน เขารู้จักช่องปราณเล็กๆ เหล่านี้เป็นอย่างดี
ทันใดนั้นถังเทียนค้นพบว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อปราณเที่ยงแท้และพลังกล้ามเนื้อถูกใช้พร้อมกันมันจะช่วยให้วิทยายุทธพื้นฐานให้ยกระดับพลังของมันเขาสามารถได้ยินจากความเปลี่ยนแปลงของเสียงลมที่เกิดจากพลังหมัดได้
ตอนนี้ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนปลดปล่อยพลังออกมาสามรูปแบบคือ พลังสั่นสะเทือน, พลังร่างกระเรียนและพลังมังกรฟ้า
ดังนั้นเมื่อเขากระตุ้นพลังที่แตกต่างกันเข้าไปในวิชาต่อสู้พื้นฐานก็จะมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดวิทยายุทธพื้นฐานไม่ใช่เป้าหมายของถังเทียน แต่ถ้าเขาสามารถยกระดับพลังเหล่านั้นให้สูงขึ้น อย่างเช่นประทับหัตถ์ใหญ่และกระตุ้นปราณเที่ยงแท้ในวิทยายุทธเหล่านี้ก็อาจช่วยเพิ่มพลังของวิทยายุทธของเขาก็เป็นได้?
ขณะที่ถังเทียนจมอยู่ในความคิดของเขาจู่ๆ เสียงคำรามก็ดังขึ้นข้างหูเขาจากนั้นเสียงแหลมหวีดหวิวเหมือนไซเรนตำรวจก็ดังข้ามฟ้าเข้ามา
หอกสีเงินปรากฏขึ้นอย่างกระทันหันเหมือนกับมังกรออกจากถ้ำ
หัวใจถังเทียนตกวูบ เขาไม่ทันได้คิดอะไร ก็เอนตัวและใช้วิชาถานถุ่ย
เท้าดาบถานถุ่ย!
รังสีดาบสีขาวกระจายไปในอากาศจากแรงเหยียดขาของเขาหมอกที่จางไปลอยขึ้นทันที
ติ๊ง!
รังสีดาบและรังสีหอกปะทะกันทั้งสองคนรู้สึกเพียงแต่ว่ามีพลังแฝงอยู่มากจนทั้งสองต้องถอยหลัง
หลิงซิ่วถอยหลังไปห้าก้าวก่อนจะตั้งหลักได้มั่นคง หัวใจของเขาเย็นเฉียบช่างเป็นพลังถานถุ่ยที่ทรงพลังและแหลมคมนัก สีหน้าที่ภูมิใจและหยิ่งผยองพลันหายไป เขาต้องประเมินถังเทียนใหม่
สามารถเอาชนะต้าเว่ยและชื่อหลานได้ เขามีฝีมือไม่ใช่ระดับปานกลางแน่นอน
การต่อสู้ของหลิงซิ่วจะถูกจุดขึ้น เป็นเรื่องยากที่จะได้พบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนั้น
ถังเทียนยิ่งมีความสุข เขาทำได้แล้ว
ก่อนหน้านี้เท้าดาบฐานถุ่ยจะแตกต่างจากเท้าดาบถานถุ่ยตามปกติ แม้ว่าเท้าดาบถานถุ่ยของเขาตามปกติจะสามารถสร้างรังสีดาบ แต่จะอึดอัดหมองคล้ำ มันไม่เคยคมกล้าและหนาแน่นอย่างนี้มาก่อนและรังสีดาบที่ปล่อยออกมาจริงจะเป็นปราณจางๆแต่อาจเป็นเพราะนั่นคือพลังร่างกระเรียนก็เป็นได้
ถังเทียนไม่แน่ใจนักว่าหมอกปราณใช้ทำอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าพลังเท้าดาบถานถุ่ยใหม่นี้มีพลังมากขึ้น
หลิงซิ่วผู้มีพลังต่อสู้เต็มเปี่ยมชื่นชม"ถานถุ่ยที่ทรงพลังนัก, มาอีกครั้ง"
พอเขาขยับเอวหอกเงินก็เคลื่อนไหวเหมือนสายฟ้า ปลายหอกเย็นและแหลมคมฉกเข้าหาถังเทียนเป็นเส้นตรง
ไวมาก!
ถังเทียนหยีตา แต่เขาก็มีความเคลื่อนไหว ตอนนี้พลังของเขาอยู่ในระดับสูงสุด เขาไม่มีความกลัว และยังคงใช้เท้าดาบถานถุ่ยอีกครั้ง
ดาบถานถุ่ยสีขาวและหมอกจางส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งออกไป
ดาบถานถุ่ยและปลายหอกปะทะกันอีกครั้ง
หลิงซิ่วตาเป็นประกาย คมหอกที่แหลมคมพุ่งเฉียดเท้าดาบถานถุ่ยและพุ่งตรงเข้าหาถังเทียน
สัญชาตญาณที่กล้าแข็งของถังเทียนถูกนำมาใช้ แทบจะในเวลาเดียวกัน เขาใช้เข่าเป็นหลักและงอเข่าเล็กน้อยและกวาดขาข้างหนึ่งออก ในช่วงพื้นที่แคบเขาหมุนตัวต่อเนื่อง
ติง ติง ติง
เสียงพลังดาบที่ออกมาจากน่องกระทบกับหอกด้วยความถี่สูง
มีชื่อเรียกพลังดาบถานถุ่ยนี้โดยเฉพาะว่าดาบน่อง
พลังของดาบน่องอาจจะเล็กแต่ว่ามีความถี่สูง มันกระแทกใส่หอกราวกับว่าเป็นพายุ หอกสั่นสะท้านและเฉียดผ่านหน้าของถังเทียน
หลิงซิ่วไม่เคยคาดว่าจะเป็นอย่างนี้ การลองดีของเขาถูกป้องกันไว้ได้ด้วยกลยุทธของถังเทียน เขาถึงกับผงะ
อย่างไรก็ตาม ถังเทียนไม่คิดอะไรมากนัก สำหรับคนที่จู่โจมใส่กะทันหัน เขาต้องไม่ใช่คนดี และเขาต้องลงมือโต้ตอบบ้าง
เมื่อนึกถึงคำพูดเด็ดขาดที่เคยพูดไปแล้วเมื่อวานนี้กลับไม่ได้ผล
ถังเทียนหน้าเขียวคล้ำ ในฐานะจอมเกเรผู้ลือชื่อในที่สุดถังเทียนก็เข้าใจได้ว่าเขาไม่สามารถปกป้องสิทธิ์ของเขาเหนือพื้นที่นี้ อย่างนั้นเจ้าโง่พวกนี้ก็ไม่มีความกลัวเลยสินะ
มีบางคนจะชิงพื้นที่ของเขางั้นหรือ?
มันจะมากไปแล้ว!
ถังเทียนรวบรวมพลังไว้ที่เท้าซ้ายอย่างไม่ลังเลใจและพุ่งเข้าหาหลิงซิ่ว ในกลางอากาศเขางอขาและปล่อยดาบน่องต่อเนื่องเจ็ดดาบ
รังสีดาบน่องเจ็ดใบเกี่ยวพันกลางอากาศก่อเกิดเป็นม่านมีด
ขณะเดียวกันหลิงซิ่วก็มีปฏิกิริยารวดเร็วเช่นกัน
เขากับหอกถอยออกไปในช่วงสั้นๆและสามารถหลบพ้นได้
เมื่อจะต้านรับดาบน่องเขาใช้รังสีคมหอกของเขาแทงใส่ม่านดาบราวกับสายฝน จนมันเริ่มแตกกระจาย
ติง ติง ติง!
เสียงปะทะที่คมชัดหนักแน่น สะท้านหูของทุกคน
เงาร่างทั้งสองแยกกันทันทีที่พวกเขาสัมผัสกัน
เมื่อถังเทียนเห็นคนผู้นี้ชัดเจน เขาคลึงปลายเท้าบนพื้น เนื่องจากมันชา แต่หลิงซิ่วไม่ได้ดูดีกว่าเลยเขากำลังลูบฝ่ามือของเขาเข้าหากัน
แต่จู่ๆ ถังเทียนก็ตะโกนให้หยุดชั่วขณะ “เฮ้, เจ้าหนู ขอพักก่อนสิบนาที”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิงซิ่วตะลึง และโพล่งออกมา“เพื่ออะไร?”
“ข้ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย!”ถังเทียนพูดอย่างมั่นใจ
หลิงซิ่วสีหน้าชะงักค้าง “......”