ตอนที่ 136 เจ้าเป็นใครกันแน่?
ชะตาถูกลิขิตมาว่าคืนนี้เมืองเฮยซานจะไม่มีความสงบ
ปิงมองดูถังเทียนจากที่ไม่ไกล เขาสามารถบอกได้ว่าถังเทียนยังคงต้องฝึกต่อไป
ความจริงถังเทียนก็ปรารถนาจะฝึกต่อไปอยู่แล้วภายใต้แรงกดดันในสนามรบที่เร่าร้อน เขามีความมุ่งมั่นแท้จริง ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง เขาถูกบีบคั้นกดดันมาเป็นเวลาหลายวัน
เขาจะต้องเก็บออมพลังไว้บางส่วน เพราะไม่ต้องการยอมรับความพ่ายแพ้ เขาไม่ต้องการถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเจ้าหุ่นเน่าสิบแปดตัวเขากัดฟันยืนสู้ไม่ท้อถอย เขาเค้นสมองและคิดหาวิธีที่ดีที่สุดมาต่อสู้
เขาพยายามใช้แผนต่อสู้ในรูปแบบที่แตกต่างมากมาย
ประสบการณ์ของเขาทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นมาหลังจากล้มเหลวและถูกทุบตีกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดเขาก็เอาชนะผ่านด่านสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้และช่วงเวลาเมื่อเขาบุกผ่านด่านจนได้ในที่สุด เขาคิดว่าเขาตกอยู่ในภาพลวงตา
ในทุกครั้งตั้งแต่ถังเทียนมีปฏิกิริยากับห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง เขาจะอยู่ในสถานะกดดันอย่างต่อเนื่องและเป็นสถานะที่ถูกข่มขี่อย่างสิ้นเชิง
เขาแทบจะสิ้นหวังและไม่สามารถมองเห็นชัยชนะได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ถังเทียนบังคับตนเองให้พยายามช้าลง เขาต่อสู้อย่างต่อเนื่องภายใต้แรงกดดันและดูเหมือนว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสู้ เขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะออกไปแต่ความคิดที่เกิดจากการเจอแรงกดดันมักจะอยู่ในร่างเขาเสมอ
และหลังจากมาถึงดาวไพรมายา ได้พบกับนักสู้ผู้แข็งแกร่งอย่างไซอา ถังเทียนก็ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้เขาตกเป็นเบี้ยล่าง
จนกระทั่งวันนี้
เมื่อเขาแลกหมัดกับต้าเว่ย ถังเทียนก็ตระหนักได้ทันทีว่าคู่ต่อสู้ของเขาไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เขาคิด ไม่ได้มีอันตราย ขณะที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้อ่อนแออย่างที่เขาคิด
วันนี้ ถังเทียนแสดงฝีมือเต็มที่
แล้วจากนั้น เขาก็ตระหนักได้ทันทีและมองเห็นแสงสว่างรำไร เมื่อตอนแรกที่เขาเริ่มต้นในดาวใหม่อย่างนี้ เขาเข้าใจตอนนี้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ถังเทียนเก็บกด เขาจึงระเบิดพลังออกมา
เหมือนกับว่าในเสี้ยววินาที พันธนาการที่มัดเขาไว้หลุดหายไปทั้งหมด เขาสามารถโจมตีได้เต็มที่เท่าที่เขาพอใจ ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวจะต้องสมบูรณ์แบบ เขามั่นใจและเขาก็อยากลองกระบวนท่าที่แตกต่างกันเคล็ดวิชาที่แปลกประหลาดน่าทึ่งเหล่านั้นทั้งหมด เพิ่มพลังต่อสู้ให้กับเขา ดังนั้นเขาจึงมั่นใจ
นั่นคือสิ่งที่รู้จักกันในนามว่าคลั่งไคล้การต่อสู้ยิ่งเขามั่นใจมากก็ยิ่งกลายเป็นวิทยายุทธต่อสู้ที่แม่นยำ จึงเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะคว้าชัยชนะได้จากนั้นชัยชนะจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้เขา ขอเพียงเขาทำให้ดียิ่งขึ้น
ความตั้งใจต่อสู้ของถังเทียนกำลังเพิ่มสูงขึ้นมาก เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้นสูงเขาจะมีความต้องการต่อสู้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
ดังนั้นเมื่อเขาเห็นกลุ่มของนักสู้ผู้ห้าวหาญโผล่มาจากมุมถนน เขาไม่กังวลใจแม้แต่น้อยแต่นัยน์ตาของเขากลับเป็นประกายเหมือนกับว่าเขาเป็นสัตว์ป่าผู้หิวกระหายมองเห็นกลุ่มเหยื่อปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
"เร็วเข้า ตามจับกู้เสวี่ย!"
"บุกเข้าไป!"
"บุก!"
……
เมื่อมองเห็นกลุ่มนักสู้ทุกคนวิ่งเข้ามา ถังเทียนยิ้มทันที เหมือนกับเขาเป็นสัตว์ป่าผู้หิวโหยที่ยังไม่พอใจ เขาแยกเขี้ยวที่ย้อมไปด้วยเลือด
"เจ้าพวกโง่!"
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค ถังเทียนก็หายไป
ชั่วครู่ต่อมาถังเทียนก็มาปรากฏอยู่ในท่ามกลงกลุ่มพวกนักสู้ พลังของถังเทียนอยู่เหนือกว่าที่พวกเขาคิดไว้มากมายนัก ระหว่างเวลาที่ถังเทียนปรากฏในท่ามกลางกลุ่มพวกเขา พวกเขาไม่มีเวลาได้ทันตั้งตัว
หลังจากถังเทียนต่อสู้ตามแนวทางของเขาที่ได้จากห้องสิบแปดมนุษย์มนุษย์ทองแดง เขามีความรู้สึกสัมผัสที่ไม่ธรรมดาต่อโอกาสซึ่งเกินกว่าที่ใครๆจะสามารถนึกได้ แม้ว่าจะมีโอกาสเพียงสิบเปอร์เซนต์ เขาจะไม่ยอมปล่อยหลุดมือ ยิ่งกว่านั้น คนกลุ่มนี้มัวแต่ตะลึงและช้าอย่างเห็นได้ชัด
ถังเทียนหมุนตัวอยู่ในจุดเดียว
ขาทั้งสองเป็นเหมือนดาบเหล็ก เขาหมุนตัวไปรอบๆ
รังสีสว่างแหลมคมถูกยิงออกมาจากพื้น
เท้าดาบถานถุ่ย
ถังเทียนเริ่มหมุนปั่นเร็วขึ้นทุกที ร่างของเขาสั้นลงและสั้นลงแต่รังสีดาบนับไม่ถ้วน ปลิวออกมาราวกับเป็นน้ำพุ รังสีดาบขนาดสามเมตรปกคลุมไปทั่ว
ควั่บ
รังสีเท้าดาบถานถุ่ยขยายออก เลือดกระเซ็นกระจายเหมือนกลีบดอกไม้ท่ามกลางหิมะตก เสียงร้องโหยหวนเต็มอยู่ในพื้นที่
"สู้ได้ดี!นั่นเป็นการสู้ที่ดี!" กู้อู่หัวเราะมองดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ ทันใดนั้น เขาลดเสียงลงและถามอย่างไม่แน่ใจ"ข้าจำไม่ได้เลยว่าท่าเท้าถานถุ่ยมีกระบวนท่าอย่างนั้นด้วย"
ต้าเว่ยหวาดกลัวกับสิ่งที่เขาได้เห็นประจักษ์ พวกเขาโชคดีที่หลบออกมาได้ เมื่อเขาได้ยินข้อสงสัยของคุณชาย เขาตอบอย่างไม่แน่ใจ "นั่นอาจเป็นเคล็ดสังหารก็ได้เพราะเป็นเคล็ดสังหารจึงจะแฝงพลังไว้ขนาดนั้น ข้าจำได้ว่าเคล็ดสังหารของท่าเท้าถานถุ่ยก็คือ ดาบกงจักร"
กู้อู่เชื่อเขาทันทีเพราะชื่อแบบนั้นสมจริงมากเกินไป
แต่..มันคือเคล็ดสังหารอีกแล้ว...
ตั้งแต่วังวนเหยี่ยวเหินครั้งก่อน หน้าของต้าเว่ยถึงกับบิดเบี้ยวน่าเกลียดเขาดูแคลนวิทยายุทธระดับห้า พอๆ กับเคล็ดสังหารระดับห้า แต่พลังวิชาฝีมือของบุรุษหนุ่มลึกลับผู้นี้อาจจะแข็งแกร่งมากกว่าสิ่งที่เขาคิดก็ได้
เขารู้สึกสมองปั่นป่วนเนื่องจากเขาไม่สามารถเข้าใจได้ถึงเหตุผล
ตอนนี้เจ้าผู้นี้ยังมีเคล็ดสังหารอีกอย่างหนึ่งเป็นไม้ตาย
รังสีดาบกระจายออกมาเหมือนกับน้ำพุ ดูเป็นภาพงดงามตา โลหิตทุกหยดแข็งค้าง
โชคดี...โชคดีที่เราหนีออกมาก่อน!
พวกเจ้าทุกคนจะได้ลิ้มรสชาติเสียบ้าง
ต้าเว่ยมีลางสังหรณ์ว่าเจ้าผู้นี้จะสร้างความประหลาดใจให้ทุกคน
สถานการณ์ตอนนี้รุนแรงและยุ่งเหยิง
※※※※※
ดาบกงจักร
เคล็ดสังหารของท่าเท้าถานถุ่ย!เมื่อเขาใช้วิชานี้โดยบังเอิญ ถังเทียนดีใจมาก เขาต้องการกระโดดไปรอบๆโห่ร้องอย่างมีความสุข นักสู้แต่ละคนในรัศมีสามเมตรจะได้รับบาดเจ็บหนัก ทุกคนนอนร้องครวญครางอยู่บนพื้น
นักสู้บางส่วนที่กำลังยืนห่างออกไปยืนชะงักค้างหลั่งเหงื่อเยียบเย็น พวกเขาหน้าซีด ในสายตาของพวกเขาเด็กหนุ่มคนนี้คือปีศาจ
นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเหล่าสหายล้มลงกับพื้นราวกับข้าวสาลีที่ถูกตัด
ฉากภาพเช่นนี้น่ากลัว
ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายความเงียบ
"พวกแกทุกคนเข้าไปเอาตัวกู้เสวี่ยมา ข้าจะรับมือเจ้าคนนี้เอง!"
เสียงกู่ร้องดังยาวผ่านท้องฟ้าเหมือนเสียงหวีดหวิวของดาวตก บุรุษผมสีแดงเพลิงคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าถังเทียน ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกเปลวเพลิงร้อนสีแดงครอบคลุมตัวเขาจ้องดูถึงเทียนด้วยนัยน์ตาสีฟ้าเยือกเย็น
กู้อู่และต้าเว่ยตื่นเต้นเมื่อเห็นเจ้าผู้นี้
"ชื่อหลาน!" กู้อู่ตะโกนและพยายามระงับความตื่นเต้นอย่างหนัก
ต้าเว่ยยังคงเงียบ
แน่นอนว่าเขารู้ว่าชื่อหลานเป็นใครเหล่าผู้กล้าทุกคนซึ่งรวมลุงของเขากู้หย่งไว้ด้วย ทุกคนแข็งแกร่งมากกว่าเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากันตรงๆพวกเขาก็ยิ่งห้าวหาญมากขึ้น
แต่...
เพราะไม่ทราบเหตุผล ต้าเว่ยมีลางสังหรณ์ที่รุนแรง
แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะดูดีก็จริง แต่ถังเทียนไม่ได้เหลือบมองเขาสักครั้ง เขาไม่ลืมว่าเขามาที่นี่เพื่อปกป้องกู้เสวี่ย
"อย่าแม้แต่จะคิด!"
ถังเทียนคำรามและเคลื่อนไหว เขาหายไปจนมองไม่เห็น
"คิดจะหนีแล้วหรือ?" ชื่อหลานแค่นเสียงเขาหายไปราวกับประกายไฟเช่นกัน
ควั่บ ร่างที่มีเพลิงลุกโชนหยุดถังเทียนไว้ในไม่กี่ก้าว เขาพูดด้วยความภูมิใจ "ไม่มีใครหนีพ้นเงื้อมมือชื่อหลานได้หรอก!"
เขาสามารถพูดประโยคได้ยาวขนาดนั้นเพราะวิชาตัวเบาของเขาที่รู้จักกันในชื่อว่าเพลิงบินสะกัดกั้น
วิชาตัวเบาระดับหก ย่อมสง่างามแน่นอนส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของเพลิงบินสะกัดกั้นก็คือ ส่วนสะกัดกั้น มันจะหยุดศัตรูได้ทั้งหมดไม่มีผู้ใดต่อกรได้
ถังเทียนผงะเล็กน้อย แต่จากนั้นเขายิ้ม"งี่เง่า!"
ก่อนที่จะพูดจบประโยคเขาก็หายไปในอากาศอีกครั้ง
"ยอมแพ้ซะ!"
ชื่อหลานพูดเย็นชา เปลวเพลิงของเขากระเพื่อมอีกครา เขามาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าถังเทียน
เขามองดูถังเทียนด้วยสายตาเย้ยหยัน"อย่างเจ้าน่ะ จะทำให้ข้าสะเทือนได้หรือ?"
ถังเทียนยังคงเงียบ
ปุ
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากด้านหลังเขา ชื่อหลานตกใจ เขาไม่กล้าหันหลังไปดูแต่ยังคงจ้องมองถังเทียน ลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งและทรงพลัง ถ้าเขาเบี่ยงเบนความสนใจแม้เพียงนิด เขาจะถูกลอบทำร้ายทันที
แต่....ชื่อหลานรู้สึกทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เดี๋ยวก่อน! ถังเทียนผู้กำลังยืนอยู่ต่อหน้าเขาเริ่มจางลง
ข่าวร้าย,เขาหลงกลเสียแล้ว!
ถังเทียนยังคงจางหายไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเหลืออยู่เพียงแต่กลุ่มหมอก ชื่อหลานหันศีรษะไปทันที
เท่าที่เห็น..ตนเองพ่ายแพ้หมดรูป พวกนักสู้ธรรมดาถูกถังเทียนฟันใส่เหมือนกับผัก
หน้าของชื่อหลานเขียวคล้ำ เขาเป็นคนหยิ่ง และเขาเพิ่งจะโอ้อวดตัวเมื่อครู่นี้เองและตอนนี้เขากลับโดนเล่นงาน จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้า
ถังเทียนเพิ่งจะเก็บกวาดทุกอย่างเสร็จก็ทำหน้าล้อเลียนชื่อหลาน
ถ้าเขาไม่ทำหน้าอย่างนั้นเขาคงไม่สามารถแสดงความยินดีในใจเขาออกมาได้
เมื่อเขาเห็นชื่อหลานหน้าเขียวคล้ำเขาตื่นเต้น ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่าเขารู้สึกยินดีมากกว่าเมื่อเขาเอาชนะเจ้าพวกเล็กน้อยเหล่านั้นทั้งหมด
“เจ้ากำลังหาที่ตายชัดๆ!” ชื่อหลานแค่นเสียงลอดไรฟัน
เมื่อเปลวเพลิงกระพริบ เขาก็พุ่งเข้าหาถังเทียน
ชื่อหลานสาบานในใจว่าเขาต้องฉีกเจ้าคนหยิ่งยโสผู้นี้ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ได้ ถังเทียนเบิกตากว้างขึ้นทุกที แต่ทันใดนั้นความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงรุมล้อมอยู่รอบตัวเขา
มันอะไรกันนี่....
แผ่นผนึกปรากฏบดบังการมองของชื่อหลานอย่างไม่มีสัญญาณบอกเหตุ เขาเหินบินด้วยความเร็วสูง ทั้งสองสู้ประชิดตัวกันมากชื่อหลานไม่มีเวลาตั้งตัวแม้แต่น้อย แววตาจนใจขยายใหญ่ขึ้นในดวงตาเขา
ไม่!
เขาหลับตาด้วยความตกใจ
ปัง!
ทันทีที่พวกเขาปะทะกัน ถังเทียนไม่อาจทนมองได้ เขากระแทกใส่แนวผนึกของประทับหัตถ์ใหญ่ด้วยความเร็วสูงขนาดนั้นจะต้องได้รับความเจ็บปวดขนาดไหน ถังเทียนรู้ว่าพลังผนึกของประทับหัตถ์ใหญ่ของเขาแข็งแกร่งมั่นคงกว่าศิลาธรรมดามากเพียงไหน
หน้าของชื่อหลานกระแทกเขากับผนึกประทับหัตถ์ใหญ่ เขายังคงตั้งท่าแสดงให้เห็นว่าเขากำลังวิ่งไปข้างหน้า แต่เขาไม่ขยับเลยสักนิ้วเดียวเหมือนกับว่าเขากลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว
“ท่านทำตัวของท่านเองนะ!”
ถังเทียนบ่นพึมพำ แสดงสีหน้าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา
ชื่อหลานพึ่งพาสัญชาตญาณ แต่เมื่อเทียบกับสัญชาตญาณของหนุ่มน้อยชาวฟ้าแล้วจะได้รับความอัปยศอดสูขนาดไหน...
ถังเทียนรั้งพลังปราณเที่ยงแท้ของเขากลับและผนึกของประทับหัตถ์ใหญ่ก็หายไป หน้าของชื่อหลานกลายเป็นสีม่วง เขาร่วงลงกับพื้นนอนหมดสติ
ถังเทียนกวาดตามองดูพวกนักสู้ที่ยังยืนอยู่ได้นักสู้เหล่านั้นเป็นเหมือนลูกไก่ที่สั่นด้วยความกลัว ทันใดนั้นทุกคนร้องเหวอแล้วเผ่นหนีทันที
กู้อู่ตะลึง ตอนแรก เขาคิดว่าจะเป็นต่อสู้ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ และไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ชื่อหลานกลับพ่ายแพ้ทันทีจริงๆ..นั่นมันเกินไปแล้ว
ต้าเว่ยตื่นเต้น ใช่แล้ว มันเป็นอย่างนั้น
ชัยชนะที่อุกอาจ...วิธีการที่อุกอาจเหมือนกับอ่านใจของศัตรูได้ เคล็ดสังหารที่น่าสยองนัก
เขาได้เจอกับตัวเองมาก่อนมันทิ้งรอยประทับลึกในใจของเขา ชื่อหลานประมาทเกินไป แต่แม้เขาจะไม่ประมาทเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรกับเด็กหนุ่มลึกลับผู้นี้
เด็กหนุ่มลึกลับผู้นี้ใช้วิชาต่อสู้ได้อย่างโดดเด่นและแปลกประหลาดจริงๆ!
เจ้า...เป็นใครกันแน่?