ตอนที่แล้วตอนที่ 134 กู้อู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 136 เจ้าเป็นใครกันแน่?

ตอนที่ 135 สู้อย่างบ้าคลั่ง!


ความรู้สึกถึงอันตรายเข้มข้นรุนแรงที่แฝงอยู่ในอากาศทำให้ทำให้เส้นขนในตัวของถังเทียนลุกชัน  เขาเพ่งความสนใจอยู่ด้านหน้าสัญชาตญาณของเขาเหมือนน้ำที่กระจายออก

ประสบการณ์ที่ล้ำค่าที่สุดถังเทียนได้รับมาจากห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงไม่ว่าสถานการณ์จะซับซ้อนขนาดไหน ไม่ว่าอันตรายจะรุนแรงเพียงใดเขาก็ต้องรักษาความเยือกเย็นและมีสมาธิไว้

นั่นคือผลของการบุกตะลุยหอสิบแปดมนุษย์ทองแดงถึง 293 ครั้ง

รังสีอันตรายที่แหลมคมรุกโหมใส่สภาพจิตใจของถังเทียนอย่างต่อเนื่อง  แต่สายตาของเขาไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

หัวใจของเขายิ่งสงบเยือกเย็นยิ่งขึ้น

เขาเหยียดแขนทั้งสองออกมีพลังสั่นสะเทือน เขากางนิ้้วที่มีความผันผวนต่อเนื่อง

พลังวังวนสลาย

กระแสหมุนวนลูกแล้วลูกเล่าปั่นออกมาอย่างรวดเร็ว  สมาธิของถังเทียนรวมตัวกันอย่างไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่เขาผ่านด่านสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้ เหมือนกับว่าเขาเข้าสู่สภาวะระดับใหม่ปราณเที่ยงแท้ของเขาและวิทยายุทธของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมาก  แต่สภาวะจิตของเขาก้าวหน้าไปอย่างมาก

หลังจากบุกห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงถึง 293 ครั้งด้วยพลังวังวนสลาย  มันคือวิชาที่เขาใช้บ่อยที่สุดสามารถปล่อยออกได้อย่างรวดเร็ว และมีผลต่อการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ สร้างโอกาสให้ตัวเขาเอง

ภายในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง จำนวนมนุษย์ทองแดงมากกว่าเขาสิบแปดเท่า เขาต้องยืมพลังวังวนสลายมาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามอยู่ผิดตำแหน่ง

เผชิญหน้ากับแสงน้ำเงินที่อันตราย เขาไม่รู้เหตุผล แต่ใจของถังเทียนเต็มไปด้วยภาพแสงหมื่นเมตรจากกรงเล็บภูตพรายทันทีฉากภาพแรงเสียดทานที่สร้างขึ้นระหว่างปลายของกรงเล็บภูตพรายกับอากาศนึกถึงการโยนหินลงน้ำ การโยนหินลงน้ำจะก่อให้เกิดแรงหมุนวน ขวางอยู่บนผิวน้ำและจะดันน้ำให้พุ่งกระจายจากผิวน้ำ

หัวใจของถังเทียนเต้นแรง เขาคลายมือและมีการเปลี่ยนแปลงเงียบๆ

นิ้วของเขาทุกนิ้ว จะเพิ่มเติมชั้นของพลังปราณเที่ยงแท้หมุนวนอย่างรวดเร็ว

ทุกครั้งที่เขากวาดนิ้วผ่านชั้นปราณเที่ยงแท้ที่หมุนวนด้วยความเร็วสูงเป็นเหมือนร่อนหินแนวขวางร่อนผ่านผิวอากาศด้วยความเร็วแต่นุ่มนวล

จำนวนวังวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในท่ามกลางเงาแขนทั้งหลาย  จู่ๆก็ปรากฏพลังหมุนวนขนาดมหึมา

วังวนเล็กลูกแล้วลูกเล่า ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิว เหมือนกับกลุ่มนกที่คละกันพุ่งเข้าไปในชั้นที่หนาของแสงสีฟ้าอย่างรวดเร็ว

วังวนเหยี่ยวเหิน

เคล็ดสังหาร

ถังเทียนเข้าใจเคล็ดสังหารของวังวนสลายโดยไม่รู้ตัวทำให้เขารู้สึกกระตือรือร้น

ทัศนวิสัยของต้าเว่ยพร่าเลือนและว่างเปล่าเพราะประกายแสงขาวเจิดจ้า  เป็นเหมือนกับนกพิราบจำนวนไม่ถ้วนโถมบินเข้ามาหาเขา

นั่นมันอะไร

ต้าเว่ยตกใจเพียงแต่รู้สึกว่ามีดในมือของเขากระแทกกับวังวนหมุนอย่างรวดเร็ว  พลังของเขาถูกดันเบี่ยงเบน

ฝูงนกชนกระแทกกับแสงสีฟ้า

รัศมีสว่างของแสงสีฟ้าสะดุดทันที วังวนขาวเป็นเหมือนนกคลั่ง แต่ละวังวนปั่นหมุนด้วยความเร็วที่น่าตระหนกเมื่อวังวนเหล่านั้นกระแทกใส่แสงสีฟ้า วังวนที่ชนกันแต่ละครั้งจะเพิ่มความเร็วในการหมุนเพิ่มขึ้น

ชั้นของรัศมีน้ำเงินทำหน้าที่เหมือนแนวป้องกันที่แข็งแกร่ง  เหมือนกับว่าถูกฝูงของภูตอสูรดวงดาวพุ่งเข้าหามันกำแพงป้องกันก็พังทลาย

วังวนส่งเสียงหวีดหวิว ต้าเว่ยพูดไม่ออก พวกมันอาจดูน่ากลัวแต่พวกมันก็ถูกกักอยู่ภายในไม่ว่าจะพยายามอย่างไร ก็ไม่สามารถบินออกมาได้

แต่สิ่งที่แย่ก็คือ เขาติดอยู่ในกรงนี้

เจ้าผู้นี้เป็นใครกันแน่...

ตอนนี้ต้าเว่ยไม่ดูหมิ่นคนผู้นี้อีกต่อไปแล้ว วิทยายุทธลึกลับเช่นนั้นทำให้เขาตื่นเต้น

โธ่เว้ย!

ขณะที่ต้าเว่ยกำลังตกใจและสงสัยร่างมนุษย์ร่างหนึ่งจู่ๆ ก็ปรากฏต่อหน้าเขา ภาพใบหน้าของคนที่ตื่นเต้นไม่มีใดเปรียบปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาน้ำลายกระเซ็นเกือบรดหน้าของเขา

"เลวระยำ!เลวทราม! ต่ำช้า!"

ถังเทียนหลุดปากด่าชุดใหญ่แต่ฝ่ามือขวาของเขากำลังผสานเข้ากับวังวนเหยี่ยวเหินอย่างเงียบกริบ

ประทับหัตถ์ใหญ่!

ต้าเว่ยรู้สึกได้แต่เพียงพลังงานประหลาดมหาศาลกระแทกใส่ซี่โครงเขาอย่างหนักหน่วง

"บัดซบ..."

ต้าเว่ยด่าอย่างโกรธเกรี้ยวเลือดพุ่งผ่านลำคอขึ้นมาเต็มปาก เขากระอักโลหิตออกมา

"ฮ่าฮ่าฮ่า!ขอบคุณสำหรับคำชม!"

เสียงที่หยิ่งลำพองของถังเทียนดังขึ้นมาจากด้านหลังทันที  ต้าเว่ยตกใจทันที  เขาไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใดรีบทิ้งตัวลงกับพื้น

ควั่บ!

เขารู้สึกแต่เพียงเย็นลงไปตามกระดูกสันหลังเสื้อเขาถูกตัดขาดตรงไหน?  มันคือรังสีดาบหรือ?

รังสีดาบเฉียดผ่านร่างเขาไปท่าเท้าดาบถานถุ่ยที่ถังเทียนสร้างขึ้นมาเป็นวงโค้งสมบูรณ์แบบ

แม้ว่าเขาจะหลบได้  แต่ต้าเว่ยมิได้ดีใจเลย ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งวิ่งไปโดยไม่สนใจอะไรในโลก  เมื่อกลุ่มวังวนกระแทกใส่อกของเขา  เขาไม่จำเป็นต้องมองเลยเขารู้ว่าอกของเขาคงจะบอบช้ำหนักแต่สิ่งที่แย่ก็คือประทับหัตถ์ใหญ่ที่ฟาดใส่ชายโครงด้านซ้ายของเขามีแนวโน้มว่าอาจทำให้เขาพิการได้

สิ่งที่ทำให้เขาไม่กล้าหยุดแม้แต่นิดเดียวก็คือเสียงที่ไล่หลังเขา

"ฟาด! ฟาด! ฟาด! ฟาด!"

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!

รังสีดาบโค้งรูปกากบาทที่เกิดจากท่าเท้าดาบถานถุ่ยยิงออกมาต่อเนื่องและทำลายไม่ได้เหมือนกับหนอนชอนไชกระดูกกัดใส่ร่างของเขาอย่างเมามน  ถ้าไม่ใช่เพราะความกลัว  เขาคงจะหันไปกระแทกรังสีดาบกากบาทไปแล้ว

พลังเท้าดาบถานถุ่ยเป็นเหมือนดาบต้าเว่ยรู้จักดี แต่เขาไม่เคยเห็นถานถุ่ยที่แกร่งกร้าวรุนแรงขนาดนั้นมากก่อน

เท้าดาบถานถุ่ยถูกปล่อยได้ต่อเนื่องขนาดนั้นเชียวหรือ?

ต้าเว่ยร่ำๆจะร้องไห้ เขาหมอบคลานอยู่กับพื้น เขาดูหวาดกลัวมาก

ถังเทียนมีความสุข

ยินดี!

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสู้กับคนนับตั้งแต่เขาผ่านด่านสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้สำเร็จความรู้สึกเช่นนี้แตกต่างจากในอดีต เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าเขามากแต่เขาไม่รู้สึกกดดันเลยสักครั้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาตอบโต้เป็นความรู้สึกที่อันตรายรุนแรง เขารู้สึกว่าตอบโต้ได้ ดังนั้นทุกอย่างจึงตกอยู่ในความอลหม่าน ในที่สุดเขาก็ได้เปรียบ

ถังเทียนโจมตีต่อเนื่องอย่างตื่นเต้น  เขาได้ต่อสู้เป็นชิ้นเป็นอันล่าสุดเมื่อใดกัน? เขามักถูกกดดันอยู่ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง  แม้จนกระทั่งผ่านด่านสำเร็จครั้งสุดท้ายเขาก็ยังไม่เคยได้เปรียบ

แต่ตอนนี้เมื่อเขาเห็นต้าเว่ยอยู่ในสภาพหลบหนีอย่างทุลักทุเล ถังเทียนถึงกับพลุกพล่าน  วังวนเหยี่ยวเหินกระตุ้นตัวเขาเป็นเหมือนกับว่ากำลังตีไก่ ก่อนหน้านี้เขาไม่กล้าใช้วิธีทั้งหมด วิธีการแปลกประหลาดทั้งหมด เขาเริ่มสร้างขึ้นมาและระดมใช้ออกไปเหมือนสายฝน

ต้าเว่ยรู้สึกเหมือนกับเขาใกล้จะเป็นบ้า

ยิ่งห่างไกลจากสามัญสำนึกทุกทีห่างออกไปทุกที

ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะใช้อะไรออกมาเขามักรู้สึกหวาดกลัวและไม่สามารถป้องกันได้ ต้าเว่ยผ่านการต่อสู้ใหญ่น้อยมาหมดแล้ว และมีประสบการณ์ต่อสู้เป็นร้อยๆครั้ง  แต่เขาไม่เคยพบการต่อสู้เช่นนี้เลยตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก อึดอัดเหลือทน

กู้อู่ที่เพิ่งถูกถังเทียนทุบจนหมดสติเพิ่งฟื้นคืนสติและเห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้น เขาประหลาดใจและโกรธ

"เจ้าพวกสวะทุกคน  ทำไมพวกเจ้าเอาแต่ยืนอยู่ตรงนั้นรีบเข้าไปลุยสิโว้ย!"

คำสบถด่าของกู้อู่ปลุกบริวารเขาให้ตื่นทุกคนรู้สึกตัวและกรูกันเข้าไปเหมือนผึ้งแตกรังต้าเว่ยได้ผ่อนหายใจได้ในที่สุด ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาเกือบน้ำตาไหลนองหน้าไปแล้ว

เขากัดฟันขณะที่นัยน์ตามีประกายเยือกเย็น ในที่สุดก็ได้เวลาที่เขาจะโจมตีตอบโต้

ถังเทียนสู้จนถึงจุดใกล้บ้าแล้ว

ไม่ว่าความเชื่อมั่นหรือความตั้งใจสู้ของเขาอยู่ในระดับสุดยอดแล้วหลังจากที่พบศัตรูหลายคนที่เหนือกว่าเขา  ตอนนี้ ถ้าไซอาออกมา เขาก็ยังจะสู้ด้วยอย่างแน่นอน

ยิ่งกว่านั้น  สิ่งที่กำลังเข้ามาหาเขาก็เป็นแค่กระสอบทรายมีชีวิต?

ถังเทียนกู่ร้องเสียงยาวขณะที่เขากางแขนและพุ่งขึ้นไปเหมือนนกยักษ์ จากนั้นก็โผลงในกลุ่มบริวารของกู้อู่

อะไรกันนี่, เจ้าผู้นี้บ้าไปแล้วหรือ?

กู้อู่จ้องมองถังเทียนอย่างมึนงง  แต่สิ่งที่ตามมาทำให้เขาสีหน้าเปลี่ยนไป

ถังเทียนเป็นเหมือนพยัคฆ์ที่กระโจนลงไปในหมู่ฝูงแกะไม่มีใครต้านเขาได้ เสียงหวีดหวิวยาวที่กดดันใส่พวกเขา ทำให้ทุกคนประสบความพ่ายแพ้ เขาเพียงแต่รู้สึกว่าระลอกปราณเที่ยงแท้ของเขากระเพื่อมผ่านไปความต้องการต่อสู้ของเขาก็ยิ่งลุกโหม เขาดูเหมือนจะปล่อยตัวมากเกินไป

พลังวังวนเหยี่ยวเหินกระจายใส่ทุกคนรวมทั้งพลังประทับหัตถ์ใหญ่และวิชาเท้ามีดถานถุ่ย

พลังระเบิดของปราณมังกรฟ้าพลังทะลุทะลวงของปราณร่างกระเรียนและการยืมใช้พลังของวิชาภูษาหมอง

ระหว่างนี้มีกระบวนท่าและวิธีการที่แปลกประหลาดที่เขาจำได้ไม่ถนัด วิธีที่ประสบความสำเร็จมากมายซึ่งไม่อาจป้องกันได้ ไม่มีใครดักทางได้

พวกเขามีจำนวนมากแต่เทียบกับเจ้าพวกหุ่นเน่าๆ จากห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงแล้วในแง่ความยอกย้อนเจ้าเล่ห์แล้ว เทียบไม่ได้เลยแม้แต่นิด

เมอเรย์ผู้ไม่หวั่นเกรงยังสั่นตกใจจนลืมอาการบาดเจ็บของตัวเขาเองเขารำพึงกับตนเอง “โลกยังมีคนที่กล้าหาญแข็งแกร่งอย่างนี้อยู่อีกหรือ...”

ใบหน้าซีดขาวของกู้เสวี่ยผู้สงบยังอดปากอ้าค้างไม่ได้   ถังเทียนกวาดพื้นที่จนเรียบ ผู้คนนับไม่ถ้วนที่ไม่อาจจะล้อเล่นได้ต่อหน้านางและบุรุษหนุ่มผู้ลึกลับไม่น่าวางใจนี่คือบุคลิกบางอย่างของเขา....

ต้าเว่ยที่ตอนแรกเตรียมเข้าบุกโจมตีถึงกับถอดสีหน้าขณะมองดู  ในช่วงเวลาสั้นๆความปรารถนาของเขาที่จะโจมตีโต้ตอบที่ลุกกระพือโหมกลับมอดหรี่ลงเหมือนเปลวเทียน

เมื่อเขาเห็นถังเทียนแผดเสียงอย่างบ้าคลั่งและปล่อยหมัดออกไปครั้งเดียวทำให้ผู้คุ้มกันสามคนกระเด็นออกไป  ความต้องการต่อสู้ตอบโต้ที่มีขนาดเปลวเทียนของต้าเว่ยพลันมอดดับทันที

เขาตื่นตระหนกและเข้ามาอยู่ข้างกู้อู่กอดเขาและพาวิ่ง  ที่ก้นและต้นขาของเขารู้สึกเย็นหลังจากเจอกับพลังเท้ามีดถานถุ่ยทำให้กางเกงเขาขาดเป็นรูใหญ่แต่ต้าเว่ยไม่ใส่ใจที่จะอายต่อไป

“เจ้าหนีทำไม?”กู้อู่ดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด และตะโกนลั่น “ข้าไม่เชื่อว่ามันคนเดียวจะเอาชนะพวกเราทั้งหมดได้”

กู้อู่โวยวายตลอดในที่สุด เขาก็เหนื่อย จากนั้นเขาถามขึ้นว่า “มันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”

ประโยคนี้ก้องอยู่ในหัวใจต้าเว่ย  “เป็นไปได้ยังไง....”

เขามั่นใจอยู่แน่ชัด  เขารู้ว่าเขาสามารถเอาชนะได้  ผลสุดท้ายก็เห็นกันอยู่ชัดเจนแล้วเขาไขว่คว้ามาได้แล้วแท้ๆ  แต่กลับหลุดมือไปได้ยังไง...

บุรุษประหลาดผู้นี้เป็นใครกันแน่?

กู้อู่ตบศีรษะตนเองอย่างแรงด้วยความผิดหวัง  “ข้าน่าจะรู้แล้ว!  ไซอา! ใช่แล้ว มันต้องเป็นคนที่ช่วยกู้เสวี่ยจากเงื้อมมือไซอา  ต้องเป็นมันแน่ๆ”

หลังจากได้ยินเช่นนั้นต้าเว่ยตะลึง ความรู้สึกกดดันในใจหายไปทันที

ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องแย่เท่าไหร่ที่พ่ายแพ้คนที่หลบหนีพ้นเงื้อมมือไซอาได้

“หยุด!” กู้อู่ตะโกนทันที

หลังจากวิ่งผ่านไปสองสามถนนต้าเว่ยก็หยุด

“โดดขึ้นบนหลังคา,  เลือกจุดที่สูงหน่อย” กู้อู่กล่าว

ต้าเว่ยสับสน แต่เขายังคงโดดขึ้นอาคารสูงโดยไม่ลังเลสงสัย พวกเขาสามารถมองเห็นพื้นที่ต่อสู้ได้อย่างชัดเจน  บริวารของพวกเขานอนอยู่กับพื้นกันหมด

ถังเทียนมองซ้ายและขวาเหมือนกับว่างานของเขายังไม่สมบูรณ์

“หลบเร็ว อย่าปล่อยให้เขาเห็นเจ้า” กู้อู่รีบกล่าวทันที

หัวใจต้าเว่ยยินดีนัก  ถ้าเจ้าผู้นั้นมองเห็นพวกเขาเขาคงไล่ตามตลอดทางแน่  เขาพาคุณชายแบกขึ้นหลังและหลบซ่อนอยู่ในที่มืด

กู้อู่เพิ่งฟื้นคืนจากอาการตกใจเขาหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม เขากัดฟันพูดเสียงเบาๆ หลายคนจะต้องยินดีในเคราะห์ร้ายของอีกฝ่าย

“สมาชิกคนอื่นๆ จะต้องทราบข่าว  กู้เสวี่ยไม่สามารถรักษาความลับของนางเรื่องสายเลือดซ่อนเร้นได้อีกต่อไป  พวกเขาจะต้องไล่ล่าตามนาง”

“เราแค่รออยู่ตรงนี้  รอให้พวกเขาได้เจอกับเจ้าบ้านั่น”

“ฮืม.. โชคของครอบครัวพวกเราไม่ดีเลย?”

ต้าเว่ยพยักหน้าเห็นด้วย

ใช่แล้วทำไมต้องเป็นเราที่โชคร้ายมากนักนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด