Ep.465 - เซียนกระบี่ล่าแสงฮังอวี่
3/3
Ep.465 - เซียนกระบี่ล่าแสงฮังอวี่
วิถีกระบี่ล่าแสงลมกรด กับค่ายกลกระบี่ล่าแสง ทั้งสองสกิลนี้มีเอฟเฟกต์ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อย่างแรกเป็นสกิลหลักของเซียนกระบี่ล่าแสง และเป็นสกิลที่มีประโยชน์มาก ดังนั้นสอดคล้องกับที่มันมีคุณภาพสีม่วง
หินสกิลนี้หายากยิ่งกว่าจัตุรัสคุกโลหิต ฮังอวี่นึกไม่ถึงว่าจะได้รับมันมาในช่วงเวลาอันสั้น และยิ่งนึกไม่ถึงว่าผู้ที่มอบมันให้เขาคือเมืองฟ้าเดียวดาย
หินสกิลนี้ แม้ต้องจ่ายด้วยราคาสูง แต่หากได้มันมายังไงก็คุ้มค่า
ฮังอวี่ไม่รีรอ เอ่ยเข้าประเด็น “เมืองฟ้าเดียวดายต้องการแลกเปลี่ยนอะไรกับหินสกิลก้อนนี้?”
“เราได้ยินมาว่าขุนนางเมืองธารทะเลทรายมีหินสกิลม่วงสองก้อนอยู้ในมือ” ดาบพิษเอ่ยตามตรง เห็นได้ชัดว่าเขาก็ทำการบ้านมาแล้วเช่นกัน
“เราขอแลกเปลี่ยนหินสกิลก้อนนี้กับหินสกิลม่วงสองก้อนในมือท่าน”
ฮังอวี่ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “หินสกิลก้อนหนึ่งแลกกับหินสกิลสองก้อนที่มีคุณภาพเท่ากัน ราคานี้ไม่เท่าเทียม”
เขาได้หินสกิลม่วงมาสองก้อนจริง
หนึ่งคือธารน้ำแข็งมาเยือน อีกหนึ่งคือเพลิงหายนะนิจนิรันดร์
ทั้งคู่เป็นหินสกิลของนักเวทย์ที่ทรงพลังมาก ธารน้ำแข็งมาเยือนทำดาเมจต่ำกว่าอีกสกิลก็จริง แต่ระยะกว้างมาก สามารถทำเอฟเฟกต์แช่แข็งหมู่
ด้านเพลิงหายนะนิจนิรันดร์ มันคือหนึ่งในสกิลขั้น 4 ที่รุนแรงที่สุด สามารถสร้างดาเมจในพริบตา สังหารมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นได้ในวินาทีเดียว
แม้มูลค่าของหินสกิลวิถีกระบี่จะสูงมาก แต่ฮังอวี่คิดว่าหินสกิลทั้งสองก้อนนี้ไม่ด้อยไปกว่ากัน
ในมือเขามีหินสกิลม่วงเพียงสองก้อน การแลกเปลี่ยนมันแบบสองต่อหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ข้อตกลงที่ดี
ดาบพิษกล่าวว่า “แม้หินสกิลม่วงจะมีค่ามาก กระนั้นคุณค่าของมันขึ้นอยู่กับความต้องการ วิถีกระบี่มีค่ามากสำหรับท่านขุนนาง ขณะที่หินสกิลสองก้อนในมือท่านขุนนางไม่มีค่าสำหรับท่านผู้ครองแคว้น ดังนั้นข้าคิดว่าข้อเสนอนี้ยุติธรรม”
นั่นก็จริง
แต่มันไม่ง่ายเลยกว่าจะได้หินสกิลม่วงมา หากเป็นไปได้ ฮังอวี่ต้องการเก็บมันไว้ซักก้อน
เขาครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมยินดีมอบหินสกิลม่วงให้ก้อนหนึ่ง บวกกับหินสกิลฟ้าสามก้อน เพื่อแลกเปลี่ยนกับหินสกิลวิถีกระบี่ ไม่ว่าหินสกิลฟ้าที่พวกคุณต้องการคืออะไร ต่อให้ไม่มีในแคว้นเดียวดาย พวกผมสามารถหาให้ได้”
ดาบพิษส่ายหัวและพูดว่า “หินสกิลฟ้าไม่มีความหายสำหรับเมืองฟ้าเดียวดาย หินสกิลม่วงคือทรัพยากรที่ควรค่าแก่การสะสม ขออภัยที่ข้าไม่อาจทำตามข้อเรียกร้องได้”
ฮังอวี่รู้สึกลำบากใจ แต่ถ้าให้เขายอมแพ้? นั่นไม่มีทาง!
หากพลาดมันไปครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกครั้งเมื่อไหร่
แต่ให้ยอมรับมัน? หินสกิลม่วงสองก้อนยากที่จะได้มา การแลกเปลี่ยนนี้ขาดทุน!
“ในเมื่อเงื่อนไขมีแต่ต้องแลกหินสกิลสองก้อนเท่านั้น งั้นพอจะมีอะไรเป็นของแถมให้ทางเราไหม?” ฮังอวี่ตั้งสมาธิก่อนเอ่ยถาม
ดาบพิษเอ่ยขึ้นทันใด “เราสามารถเพิ่มหินสกิลฟ้าบวกกับข่าวสำคัญให้ได้”
ระหว่างกล่าว
ดาบพิษหยิบหินสกิลฟ้าอีกก้อนซึ่งแยกเก็บไว้ต่างหากออกมา
[ก้าวล่าแสงลมกรด] สีฟ้าคุณภาพสูง มรดกของเซียนกระบี่ล่าแสง จ่าย 10,000 แต้มวิญญาณในการเรียนรู้
เมื่อฮังอวี่เห็นสิ่งนี้ เขาก็เข้าใจทันที
เห็นได้ชัดว่าเมืองฟ้าเดียวดายเตรียมการมาล่วงหน้าแล้ว
การสืบทอดมรดกขั้น 4 ต้องใช้ 4 สกิล นั่นคือสกิลหลัก 1 สกิล และสกิลรองอีก 3 สกิล
ฮังอวี่มีค่ายกลกระบี่กับหนึ่งกระบี่ล่าแสงอยู่แล้ว หากได้รับวิถีกระบี่กับก้าวล่าแสงลมกรดมา เขาก็จะสามารถสืบทอดมรดกขั้น 4 ได้อย่างราบรื่น
ดังนั้นเงื่อนไขที่เมืองฟ้าเดียวดายเสนอ ฮังอวี่ไม่อาจปฏิเสธได้
ในเมื่อมาถึงขั้นนี้ ยังต้องลังเลอะไรอีก
นาเซอร์ยอมให้ถึงขนาดนี้ หากหักหน้ากันคงไม่ดี
“ก็ได้”
“ผมตกลง!”
“แล้วข้อมูลสำคัญที่ว่าคืออะไร?”
ฮังอวี่ตกลงแลกเปลี่ยนหินสกิล ขณะเดียวกันเริ่มสนใจข้อมูลของดาบพิษ
ดาบพิษกล่าวว่า “ได้ยินมาว่าไม่นานมานี้ท่านขุนนางกำลังตามหาช่างซ่อมอาวุธระดับผู้เชี่ยวชาญ ทางเรามีข้อมูลของช่างซ่อมที่อยู่ในอาณาจักรมังกรโลกา”
ฮังอวี่เอ่ยถาม “เขาอยู่ที่ไหน?”
ดาบพิษตอบว่า “เดิมเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของพันธมิตรหนามทมิฬ แต่เนื่องจากสถานะถูกเปิดเผย เลยถูกเฮสการ์จับไว้ ตอนนี้สมควรอยู่ในอาณาเขตของเฮสการ์ แต่ที่เฮสการ์ไม่ฆ่าเขา เป็นเพราะเห็นความสามารถของช่างซ่อมผู้นี้ ตัดสินใจจองจำ เพื่อใช้ทำประโยชน์แก่ตัวเอง”
ฮังอวี่พอได้ยินก็เข้าใจทันที
“หรือถ้าให้พูดก็คือ ผู้ครองแคว้นกำลังจะบอกว่า อยากให้ผมช่วยเหลือชายผู้นี้?”
“ถูกต้อง เขามีความสำคัญต่อทางพันธมิตรมาก และยังเป็นเป้าหมายที่ท่านตามหา ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวมิใช่หรือ?”
ฮังอวี่จมอยู่ในห้วงความคิด ข้อมูลของนาเซอร์ไม่น่าผิดพลาด
แต่มันเป็นเรื่องยากหากคิดช่วยใครสักคนให้รอดพ้นจากสายตาของมังกรคลั่ง
เกรงว่าจุดประสงค์ของนาเซอร์ แค่ต้องการให้เขาเข้าไปช่วยเหลือสหายมากกว่า
ฮังอวี่เค้นสมองรอบแล้วรอบเล่า สุดท้ายพยักหน้า “ผมจะลองดู”
ขั้นแรกรับปากก่อน ส่วนวิธีการค่อยว่ากันทีหลัง
หากสามารถช่วยเหลือช่างซ่อมผู้นี้ได้ และมอบเสื้อคลุมจักรพรรดิทรายแก่เขา ฮังอวี่จะได้รับอุปกรณ์ม่วงชิ้นที่สอง และมันช่วยให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ข้อตกลงเป็นอันเสร็จสิ้น
ฮังอวี่ได้รับหินสกิลทั้งสองก้อนมาก่อนโดยไม่มีปัญหาใดๆ
เขาไม่เอ่ยอะไรซักคำ เรียนรู้พวกมันทันที
[วิถีกระบี่ล่าแสงลมกรด] เลเวลปัจจุบัน 1 เมื่อเปิดใช้งาน การโจมตีแต่ละครั้งต้องจ่ายค่าพลังจิต 5 หน่วย , ความเร็วในการโจมตี +300% , โจมตีโดยเพิกเฉยต่อพลังป้องกัน +15 , หลังจากโจมตีแต่ละครั้งจะทิ้งภาพติดตาเอาไว้ และภาพติดตาสามารถทำดาเมจ 50%
[ก้าวล่าแสงลมกรด] เลเวลปัจจุบัน 1 เมื่อเข้าสู่สถานะก้าวล่าแสง หรือเข้าสู่สถานะก้าววายุ จะมีการเรียกใช้จู่โจมมุมอับโดยอัตโนมัติ และเข้าสู่สถานะล่องหนขั้น 4 สามารถโจมตีได้ตามปกติขณะล่องหน , ความเร็วในการเคลื่อนที่ +30 , การโจมตีทางกายภาพ +15 , พละกำลัง +10 , ว่องไว +10 ต้านทานสถานะผิดปกติที่ทำให้ลดความเร็ว + 20
ขณะนี้สกิลทั้งสองอยู่ในเลเวล 1
แต่ถึงแม้จะเป็นเลเวล 1 เอฟเฟกต์ก็ยังทรงพลังมาก
วิถีกระบี่ล่าแสงช่วยเพิ่มความเร็วในการโจมตีได้ถึงสามเท่า รวมไปถึงเพิกเฉยต่อพลังป้องกัน ไหนจะทิ้งภาพติดตาไว้อีก หรือก็คือ ถ้าโจมตีได้เร็วพอ ศัตรูจะไม่สามารถตอบโต้กลับได้เลย ทั้งยังสามารถสะสมดาเมจได้อย่างน่าทึ่ง!
ก้าวล่าแสงเป็นสกิลที่รวมสกิลขั้นก่อนของก้าววายุและจู่โจมมุมอับ เพิ่มสองสถานะล่องหนและลอบโจมตีไปพร้อมๆกัน
และเนื่องจากเป็นสกิลล่องหนขั้น 4 ส่งผลให้สกิลตรวจจับทั่วๆไปไม่สามารถมองทะลุได้ และเมื่อไม่อยู่ในสถานะล่องหน ความเร็วในการเคลื่อนที่จะเพิ่มขึ้น สามารถใช้คอมโบกับสกิลต่างๆได้
โดยสังเขป
สองสกิลใหม่นี้เป็นสกิลสถานะ พวกมันไม่ได้ทำดาเมจทันที ไม่เด่นเท่ากลบฝังปีศาจคลั่ง โทสะปีศาจคลั่ง หรือค่ายกลกระบี่ล่าแสง แต่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการรบได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง!
หลังจากเรียนรู้พวกมัน เท่ากับว่าฮังอวี่กำลังจะได้สืบทอดมรดกขั้นสี่ในไม่ช้า หรืออีกความหมายนึงก็คือ นับจากนี้ไปเขาสามารถใช้ฉายา--
--เซียนกระบี่ล่าแสงฮังอวี่!