ตอนที่แล้วEp.463 - เครือข่ายขุนนางเล็ก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.465 - เซียนกระบี่ล่าแสงฮังอวี่

Ep.464 - ข้อตกลงอันยอดเยี่ยม


2/3

Ep.464 - ข้อตกลงอันยอดเยี่ยม

ณ เมืองธารทะเลทราย

ฮังอวี่อยู่ในห้องประชุม

เจียงหนานรายงานสถานการณ์ของดินแดน

“งานก่อสร้างช่วงแรกของเมืองธารทะเลทรายเสร็จสมบูรณ์แล้ว”

“ตอนนี้จำนวนทหารในเมืองธารทะเลทรายมีถึง 15,000 นาย โครงสร้างพื้นฐานทุกประเภทก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน เครือข่ายอินเตอร์เน็ตครอบคลุมทุกพื้นที่ ระบบการค้าถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์”

“ขุนนางเล็กกว่ายี่สิบเมือง ไม่เพียงพึ่งพาเศรษฐกิจและการค้าจากเมืองธารทะเลทรายเท่านั้น แต่วัฒนธรรมของพวกเรายังแทรกซึมไปยังพวกเขา ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ พวกเขาจะกลมกลืนเข้ากับเผ่าพันธุ์มนุษย์ในไม่ช้า ไม่เป็นภยันตรายแอบแฝงอีกต่อไป”

ทุกคนพยักหน้า

เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนนี้แล้ว สถานการณ์ในเมืองธารทะเลทรายจะมั่นคงราวกับหินผา

“ขั้นต่อไปคือการเข้าสู่ช่วงที่สอง ด่านนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพทางทหาร เพิ่มผลผลิต และอัพเกรดตึกรามในดินแดน เพื่อพัฒนาทรัพยากรและศักยภาพของเมืองธารทะเลทรายอย่างเต็มที่”

หลังจากฟังรายงานแล้ว ฮังอวี่ก็พูดว่า “ทำได้ดีมาก หน่วยงานไหนที่กำลังงานก็พยายามกันต่อไป เพราะการได้รับรากฐานที่มั่นคงในแคว้นเดียวดายยังไม่เพียงพอ อาณาจักรมังกรโลกาไม่ได้มีแค่แคว้นเดียวดายเท่านั้น ต้องตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงภายนอกและการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา”

จ้าวหมิงและฉูเทียนหัวเป็นแกนนำหลักของมังกรคราม ทั้งคู่รู้ว่าฮังอวี่ได้ลอบเป็นพันธมิตรกับเมืองฟ้าเดียวดายและเข้าร่วมพันธมิตรหนามทมิฬแล้ว

เมื่อมีพันธมิตรที่ทรงพลังอย่างนาเซอร์ ก็ไม่มีขุมพลังใดในแคว้นเดียวดายสามารถคุกคามเผ่ามนุษย์ได้อีก กระทั่งขุนนางใหญ่ทั้งสามก็ไม่มีข้อยกเว้น

แต่ระหว่างที่เผ่ามนุษย์ยังคงเติบใหญ่ในอาณาจักรมังกรโลกา เฮสการ์จะต้องไม่นิ่งเฉยแน่นอน

พลังรบของราชามังกรคลั่งนั้นยากเกินหยั่งถึง อำนาจของชาวมังกรครอบคลุมเหนือฟ้า แต่ไม่ช้าก็เร็วมนุษย์และราชาแห่งอาณาจักรมังกรโลกาจะต้องต่อสู้กัน

ดังนั้นจะองค์กรมังกรครามก็ดี จะมนุษย์ในอาณาจักรมังกรโลกาก็ดี หนทางที่พวกเขาจะผ่อนคลายยังอีกยาวไกล

“ฮ่ง เจ้านาย”

“ข้างนอกมีกลุ่มออร์คมาหาพวกเรา”

“พวกเขาอ้างว่ามาจากเมืองฟ้าเดียวดาย”

ทันทีที่ได้ยิน ฮังอวี่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องเป็นคนของนาเซอร์ คาดว่าคงเดินทางมาค้าขายกับแคว้นเดียวดายโดยเฉพาะ เขาเรียกออร์คระดับสูงทั้งห้าที่นำโดยดาบพิษมาห้องรับรองทันที

ก่อนที่ดาบพิษจะมาถึงเมืองธารทะเลทราย เขาได้เยี่ยมชมเมืองในท้องถิ่นอย่างน้อย 4 5 เมือง ด้วยระบบการปกครองแบบใหม่ การเปลี่ยนแปลงของเมืองเล็กทำให้ดาบพิษรู้สึกเหลือเชื่อมาก ในขณะเดียวกันก็ตระหนักถึงความสามารถอันทรงอานุภาพของเผ่าพันธุ์มนุษย์

ท่านผู้ครองแคว้นกล่าวไม่ผิด เผ่ามนุษย์สมควรให้ความร่วมมือ

ตัดสินจากการบริหารดินแดน อย่างน้อยชายเบื้องหน้าก็แตกต่างจากราชามังกรคลั่งหรือผู้นำโลกวิญญาณตนอื่นๆ เขาสามารถขับเคลื่อนดินแดนให้เจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งไปพร้อมๆกัน ไม่ใช่สร้างความเจริญนี้บนฐานของการเอารัดเอาเปรียบ

นอกจากเรื่องศักยภาพแล้ว จำนวนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็น่าทึ่งไม่แพ้กัน

คงมีแค่กองกำลังของพวกเขานี่แหละที่มีประสิทธิภาพพอจะเอาชนะเฮสการ์ได้!

ในรอบร้อยปี พวกเขาคือความหวังเดียวที่จะโค่นราชามังกรคลั่ง!

ดาบพิษกล่าวด้วยท่าทีนอบน้อม “ข้าดาบพิษ รองขุนนางแห่งเมืองฟ้าเดียวดาย ในนามของท่านผู้ครองแคว้น ขอกล่าวแสดงความนับถือขุนนางแห่งเมืองธารทะเลทราย”

รองขุนนางอีกตนจากเมืองฟ้าเดียวดาย?

ฮังอวี่นึกถึงรองขุนนางที่ถูกฆ่าด้วยน้ำมือเขา

นาเซอร์กล่าวว่าซาร์โกได้รับการสนับสนุนจากเฮสการ์ เห็นได้ชัดว่านาเซอร์จงใจกีดกันซาร์โก และส่งดาบพิษมายังเมืองธารทะเลทรายในฐานะทูต ดูเหมือนนาเซอร์จะไว้ใจดาบพิษมาก

ฮังอวี่กล่าวว่า “ไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้น ฉันกับท่านผู้ครองแคว้นเป็นสหายกัน เมืองฟ้าเดียวดายกับเมืองธารทะเลทรายเป็นเมืองพี่เมืองน้อง แต่ฉันอยากรู้จริงๆว่าเมืองฟ้าเดียวดายจะร่ำรวยแค่ไหน และมีสินค้าอะไรมาเสนอให้พวกเรา”

ดาบพิษหันไปพยักหน้า

ออร์คสี่ตัวก้าวออกมา โดยแต่ละตัวถือกล่องใบใหญ่ พวกเขาค่อยๆวางมันลงและเปิดฝาหีบออก

เห็นแค่เพียงรังสีแสงจรัสทอประกายออกมา และภายในเต็มไปด้วยไอเท็มมากมาย!

นี่คือหีบสมบัติมิติ!

เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นโดยวิธีการเล่นแร่แปรธาตุ! มีหน้าที่คล้ายมิติเก็บของ เพียงแต่ว่ามิติเก็บของจะผูกมัดกับจิตวิญญาณ แต่หีบสมบัติมิติเหล่านี้สามารถพกพาและให้ใครใช้งานก็ได้ โดยพื้นที่จัดเก็บจะแตกต่างกันไปตามคุณภาพ

แต่ที่แน่ๆ หีบสมบัติทั้งสี่นี้ล้วนมีคุณภาพสีฟ้า แต่ละกล่องสามารถบรรจุไอเท็มได้หลักร้อยชิ้น และไอเท็มคุณภาพสูงสุดที่เก็บได้คือสีฟ้า

จ้าวหมิง ฉูเทียนหัว เดินไปตรวจสอบดู แล้วทั้งคู่ก็ต้องอ้าปากค้าง!

จ้าวหมิงรายงานอย่างตื่นเต้น “นี่มันน่าทึ่งมาก! เกือบทั้งหมดมีคุณภาพไม่ต่ำกว่าสีเขียว ถึงจะมีสีขาวปะปนอยู่บ้าง แต่เกือบทั้งหมดเป็นไอเท็มล้ำค่าอย่างหินสกิล!”

ฉูเทียนหัวกล่าวเสริมว่า “จำนวนไอเท็มสีฟ้ามีสูงถึง 100 - 200 ชิ้น แค่ลำพังอุปกรณ์สีฟ้าก็มีมากถึง 40 - 50 ชิ้น!”

เจียงหนาน หวังเอ๋อ ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำนี้

เมืองฟ้าเดียวดายช่างเป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวย!

“นี่คือสินค้าชุดแรกจากเมืองฟ้าเดียวดาย” ดาบพิษเริ่มแนะนำ “มีทั้งหมดสี่กล่อง แต่ละกล่องบรรจุ 500 ชิ้น ซึ่งไม่ใช่แค่วัสดุ แต่ทั้งหมดเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และนั่นรวมไปถึงอุปกรณ์ หินสกิล ม้วนคัมภีร์ พิมพ์เขียว สูตรอาหาร ไข่สัตว์วิญญาณ และไอเท็มเฉพาะอีกมากมาย”

แม้แต่ฮังอวี่ก็ตกใจ

ไอเท็มพวกนี้มีมูลค่ามหาศาลอย่างแน่นอน

แม้ทรัพยากรทางการเงินของเมืองธารทะเลทรายในตอนนี้จะแข็งแกร่ง แต่คงยากหากคิดกลืนพวกมันทั้งหมดเป็นของตัวเอง นี่จะส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดในการก่อสร้างในอนาคต

และดูจากท่าทีเฉยเมยของดาบพิษ เกรงว่าสมบัติที่เก็บไว้ในเมืองฟ้าเดียวดายจะมีมากกว่านี้เยอะ

แต่เรื่องนี้พอเข้าใจได้ นาเซอร์ปกครองเมืองฟ้าเดียวดายมานานกว่าสามสิบปี และอดีตขุนนางเมืองฟ้าเดียวดายก็เป็นเผ่าออร์คเช่นกัน หมายความว่าในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขาผ่านสมรภูมิน้อยใหญ่นับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยถูกล้มล้าง เมืองนี้จึงอุดมสมบูรณ์มาก

หวังเอ๋อแยกตัวออกมา ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ทำการประเมินมูลค่าสินค้าคร่าวๆ พบว่ามีไอเท็มสีขาวราวๆ 150 ชิ้น แม้พวกมันจะมีสีขาว แต่เกือบทั้งหมดเป็นหินสกิล นอกจากนี้ยังมีพิมพ์เขียว ยันต์อัญเชิญ  , ไข่สัตว์วิญญาณ ฯลฯ มูลค่ารวมมากกว่า 300,000 หินคริสตัลขาว

ส่วนไอเท็มสีเขียวมีประมาณ 720 ชิ้น มีทั้งชุดเซ็ทสีเขียว หินสกิล สูตรและพิมพ์เขียว  รวมไปถึงวัสดุและสมบัติจากสวรรค์ ทั้งหมดล้วนเป็นของดี มูลค่าโดยรวมมากกว่า 150,000 หินคริสตัลเขียว

และไอเท็มสีฟ้ากว่า 100 ชิ้นที่เหลือ มีตั้งแต่หินสกิลขั้น 3 และ 4 ม้วนคัมภีร์ อุปกรณ์ มูลค่ารวมเกินกว่า 18,000 หินคริสตัลฟ้า

จากการประเมินข้างต้น สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างจากอัญมณีล้ำค่า แต่สำหรับในแคว้นเดียวดาย มูลค่าของมันไม่สูงนัก

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าพวกฮังอวี่สามารถซื้อต่อมันได้ในราคาลดกระหน่ำกว่า  50%

ในทางกลับกัน หากนำเจ้าพวกนี้เข้าสู่โลกมนุษย์ แต่ละชิ้นล้วนขายดี ไม่ต้องกังวลเรื่องคนซื้อ มูลค่าสูงเป็นสองเท่า

กำไรมหาศาล!

แน่นอน

มีของดีอีกเพียบ ที่ควรค่าแก่การเก็บไว้ในองค์กร ไม่สามารถนำออกไปสร้างรายได้ทั้งหมด

“อืม ไม่เลว ล้วนเป็นของดี!” ฮังอวี่รู้สึกพอใจมาก

ธุรกิจประเภทนี้ก็เหมือนกับการโกยเงิน

“เมืองฟ้าเดียวดายต้องการแลกเปลี่ยนอย่างไร?”

ดาบพิษกล่าวว่า “พวกเราไม่ขาดแคลนหินคริสตัล ไอเท็มบางส่วนพวกเรายอมให้จ่ายด้วยหินคริสตัลได้ แต่ส่วนใหญ่ต้องการแลกเปลี่ยนกับเสบียงที่พวกเราต้องการ”

“ไม่มีปัญหา!”

ไม่มีปัญหาแน่นอน!

ยินดีจัดให้ตามปรารถนา!

เอาจริงๆเมืองธารทะเลทรายและองค์กรมังกรครามไม่ได้มีหินคริสตัลเก็บไว้มากถึงขนาดนั้น หากอีกฝ่ายต้องการแลกเปลี่ยนมันด้วยหินคริสตัลจริงๆ ฮังอวี่คงไม่สามารถหามาให้พวกเขาได้

ฮังอวี่เอ่ยถาม “เมืองฟ้าเดียวดายต้องการเสบียงอะไร? ช่วยระบุรายละเอียดมา พวกเราจะจัดเตรียมมันให้ หวังเอ๋อและรองขุนนางจ้าวหมิงจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้”

จ้าวหมิงก้าวออกมาด้วยดวงตาเป็นประกาย ท่าทีของเขาดูกระตือรือร้นมาก “ไม่ต้องกังวล เมืองธารทะเลทรายแสวงหาความร่วมมือในระยะยาว และยึดหลักการค้าเท่าเทียม ดังนั้นมูลค่าที่เมืองฟ้าเดียวดายจะได้รับ ย่อมเป็นที่พึงพอใจแน่นอน!”

ไม่คาดคิดเลยว่าเผ่ามนุษย์จะยินดีรับซื้อทั้งหมด?

ดาบพิษรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย สินค้าชุดนี้ไม่ใช่จำนวนมากมายสำหรับเมืองฟ้าเดียวดาย แม้จะกล่าวว่าไม่มาก แต่สำหรับขุนนางใหญ่มันคือปริมาณมหาศาลแน่นอน

ขณะที่เผ่ามนุษย์เพิ่งยึดเมืองธารทะเลทรายได้เพียงสองเดือน แต่พวกเขากลับมั่นใจว่าสามารถกลืนสมบัติเหล่านี้ทั้งหมดในคำเดียว ดาบพิษต้องประเมินความสามารถของเมืองธารทะเลทรายใหม่

อย่างไรก็ตาม ดาบพิษไม่รีบร้อนเสนอราคา เขาพูดกับฮังอวี่ว่า “ของพวกนี้เป็นแค่ไอเท็มระดับต่ำ พวกเราได้เตรียมไอเท็มระดับสูงมาเพื่อแลกเปลี่ยนกับท่านขุนนางด้วย”

นี่เรียกว่าระดับต่ำหรือ?

อุปกรณ์สีฟ้าหลายสิบชิ้นเนี่ยนะระดับต่ำ? ไหนจะหินสกิลขั้น 4 อีก 20 30 ก้อนอีก ฮ๊าาาา!

ดาบพิษนำไอเท็มหลายรายการออกมา และทั้งหมดคราวนี้เป็นสีม่วง

ฮังอวี่ถูกดึงดูดไปยังไอเท็มหนึ่งในนั้น กระทั่งตัวเขายังสงบใจไม่ได้ ผุดลุกขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“นี่มัน ... หินสกิลของเซียนกระบี่ล่าแสง!”

[หินสกิลนักรบ : วิถีกระบี่ล่าแสงลมกรด] สีม่วงคุณภาพกลาง มรดกสืบทอดของเซียนกระบี่ล่าแสง