ระบบปรมาจารย์ธาตุ บทที่ 9 : ความจริงที่หาคำตอบไม่ได้

บทที่ 9 : ความจริงที่หาคำตอบไม่ได้

เมื่อนึกถึงหลินซูหยาง ดวงตาของฉินเฟิงก็เต็มไปด้วยความโกรธ

ในโลกเดิม ชูชูเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์

และคนขับที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือหลินซูหยาง

อุบัติเหตุทางรถยนต์ของชูชู ไม่ใช่อุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดา

ในเวลานั้นมีพยานมากกว่าหนึ่งโหลเห็นว่าหลินซูหยางจงใจฆ่าชูชูด้วยรถของเขา

กล้องวงจรปิดตามท้องถนนยังจับภาพทั้งหมดนี้ไว้ได้อย่างชัดเจน

หลังจากนั้น ฉินเฟิงที่รู้ความจริง ก็ต้องการทวงความยุติธรรมให้กับชูชู

อย่างไรก็ตาม เขาก็พบว่าข้อมูลวีดีโอของกล้องวงจรปิดถูกลบไปแล้ว

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คำอธิบายโดยบอกว่ากล้องเสียและไม่ได้บันทึกวีดีโอที่เกิดเหตุไว้

แต่คนที่จัดการกล้องก็ยังบอกว่าก่อนหน้านี้กล้องยังดีอยู่ทั้งหมด และข้อมูลวิดีโอควรถูกลบโดยเจตนา

แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นเพิกเฉย

แม้ว่าจะมีพยานมากกว่าสิบคนที่ออกมาให้การเป็นพยาน โดยกล่าวหาว่าหลินซูหยางตั้งใจชนคน

แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่รับคำให้การ

เป็นผลให้หลินซูหยางพ้นผิดและเหตุการณ์นี้ก็ถือเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ธรรมดาเท่านั้น

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะตระกูลของหลินซูหยางร่ำรวยและมีอำนาจ และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในแวดวงธุรกิจ โลกใต้ดิน และแวดวงการเมือง

ฉินเฟิงไม่ยอมแพ้และรวบรวมหลักฐานทุกที่ แต่ก็ถูกตระกูลหลินลงมืออย่างลับๆ และเกือบตายหลายครั้ง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ลิ้มรสความโหดร้ายของโลกและเกลียดตระกูลหลิน

ในระหว่างการสืบสวนนี้ เขายังพบโดยบังเอิญว่าหลินซูหยาง มีพี่ชายที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศด้วย และชื่อของอีกฝ่ายคือหลินเทียนหยาง

เพียงแต่เขายังไม่เข้าใจว่าทำไมหลินซูหยางถึงได้ฆ่าชูชูที่ถนน

พฤติกรรมของอีกฝ่ายเป็นการจงใจฆ่าคน

แต่ชูชูเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสามปีที่ไม่มีรู้จักกับ หลินซูหยางก่อนเกิดอุบัติเหตุเลย

ทั้งสองคนไม่เคยแม้แต่จะพบกัน

มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่?

ฉินเฟิงไม่เคยเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่สำคัญอีกต่อไป

สิ่งสำคัญในตอนนี้คือหากมีหลินเทียนหยางอยู่ในโลกนี้ ก็จะต้องมีหลินซูหยางอยู่อย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรหลินซูหยางถึงขับรถของเขาชนชูชูในตอนนั้น

ในชีวิตนี้ เขาจะต้องฆ่าหลินซูหยางก่อนที่อีกฝ่ายจะลงมือ

เขาจะไม่ปล่อยให้หลินซูหยางทำร้ายชูชูอีก!

นอกจากนี้ เขายังต้องการที่จะชำระบัญชีตระกูลหลินที่เคยทำกับเขาด้วย!

ในโลกเดิม เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าและไม่มีทางที่จะจัดการกับหลินซูหยางที่ร่ำรวยและมีอำนาจได้

แต่ในโลกคู่ขนานนี้ ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว และเขามั่นใจว่าเขาจะสามารถล้างแค้นเรื่องนี้ได้

“อีกสองวัน ก็จะถึงคิวของชูชูที่จะลาดตระเวน ซึ่งเป็นวันที่ชูชูประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นไปได้ไหมว่าหลินซูหยางจะปรากฏตัวในวันนี้ด้วย”

"ดูเหมือนว่าฉันจะต้องทะลวงไปยังระดับปรมาจารย์ธาตุให้เร็วที่สุด!"

ฉินเฟิงต้องการพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาอย่างมาก

เพื่อรับมือกับอนาคตที่คาดเดาไม่ได้

ในโลกเดิม ตระกูลของหลินซูหยางร่ำรวยและมีอำนาจมาก

ในโลกนี้ ตระกูลหลินจะต้องมีพลังที่แข็งแกร่งและมีปรมาจารย์ธาตุมากมาย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า หลินเทียนหยางพี่ชายของหลินซูหยางก็เป็นปรมาจารย์ธาตุ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิงก็รู้สึกเร่งด่วนและไม่สามารถหลับได้อีกต่อไป

เขามองลงไปที่ชูชูที่อยู่ข้างๆ เขา

เด็กหญิงตัวเล็กๆ นอนหลับสนิทด้วยรอยยิ้มหวานที่มุมปากของเธอ ทำให้เธอดูน่ารัก

ฉินเฟิงนั่งเงียบๆ และเริ่มทำสมาธิ

เขาต้องการควบแน่นผนึกศักดิ์สิทธิ์ธาตุลมให้เร็วที่สุดเพื่อกลายเป็นปรมาจารย์ธาตุ

ด้วยวิธีนี้เท่านั้น เขาถึงจะสามารถปกป้องชูชูได้ดีขึ้น

คืนนี้เงียบงัน

เพื่อแข่งกับเวลา ฉินเฟิงฝึกฝนตลอดทั้งคืน

วันรุ่งขึ้น เขาลืมตาขึ้นจากการทำสมาธิ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความปิติ

การฝึกฝนเมื่อคืนนี้ เขาได้รับมากมาย และโครงร่างของผนึกศักดิ์สิทธิ์ธาตุลมก็ควบแน่นอยู่ในร่างกายของเขาแล้ว

ด้วยความเร็วนี้ เขาจะสามารถทะลวงได้ภายในสิบวันอย่างแน่นอน

นี่คือข้อได้เปรียบของคุณสมบัติระดับไร้เทียมทาน ถ้าฝึกฝนด้วยคุณสมบัติระดับธรรมดาเป็นเวลาสองหรือสามปี ก็ไม่สามารถมาถึงระดับนี้ได้

หลังจากฝึกฝนทั้งคืน ฉินเฟิงก็ง่วงนอนเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงงีบหลับ

เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ชูชูก็กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่

"พี่ตื่นแล้ว! โทรศัพท์พี่สนุกมาก!"

ฉินเฟิงมองไปที่เวลา เป็นเวลาหลัง 9 โมงแล้ว และมีอาหารเช้าที่ชูชูทำก็วางอยู่บนโต๊ะ

สาวน้อยคนนี้ประพฤติตัวดีมาตลอด

“วันมะรืนคือวันที่ชูชูจะออกไปลาดตระเวน”

ฉินเฟิงรู้สึกถึงความเร่งด่วนในใจของเขา

"สาวน้อย น้องชอบโทรศัพท์เครื่องนี้ไหม?" จู่ๆ ฉินเฟิงก็ถามขึ้น

"แน่นอน หนูชอบ!"

“งั้นพี่จะเอามาให้!”

ชูชูรู้สึกประหลาดใจ "พี่ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้แพงมาก ราคาตลาดข้างนอกมากกว่า 200,000 เหรียญ พวกเราจะมีเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไง!"

ฉินเฟิงยิ้ม พูดว่า "พี่ไม่มีเงิน! อย่างไรก็ตาม พี่มีวิธีที่จะได้โทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหนึ่ง"

ชูชูกระพริบตาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ฉินเฟิงยิ้ม พลางพูดว่า "สาวน้อย พี่จะเอาโทรศัพท์มือถือมาให้น้องตอนบ่าย"

หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่สนใจว่าชูชูจะเชื่อหรือไม่ และเดินไปล้างหน้าล้างตา

“พี่ หนูจะลาออก แต่หนูยังมีเงินเดือนอีกหนึ่งเดือนที่ยังไม่ได้จากโรงงาน ล้างหน้าเสร็จแล้วอย่าลืมทานข้าวเช้านะพี่!”

เด็กหญิงตัวเล็กๆ วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะและจากไปอย่างมีความสุข

ชูชูอยู่ในโรงงานผลิตเครื่องหนังสำหรับต่อสู้ มีความเชี่ยวชาญในการขัดขนของสัตว์ร้าย แช่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิสูง และแช่กรดไนตริฟิเคชัน ซึ่งงานหนักมาก

เธอไม่เต็มใจที่จะสละเงินเดือนของเดือนนี้โดยธรรมชาติ

หลังอาหารเช้า ฉินเฟิงก็นั่งแท็กซี่ไปที่จัตุรัสเทศบาล

เขาอยากได้โทรศัพท์มือถือให้ชูชู

มือถือเป็นของฟุ่มเฟือยในยุคนี้ ราคาเครื่องละ 200,000 เหรียญขึ้นไป

ฉินเฟิงมีเพียงมากกว่า 20,000 เหรียญในมือของเขา และเขาไม่สามารถซื้อได้เลย แต่เขามีวิธีอื่น

แน่นอนว่าเขาอยากได้โทรศัพท์มือถือมาให้ชูชู ไม่ใช่เพื่อให้สาวน้อยเล่นอย่างเดียว แต่เพื่อความสะดวกในการติดต่อกัน เพื่อไม่ให้หลงกันระหว่างลาดตระเวนนอกเมือง

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฉินเฟิงก็มาถึงสำนักงานกลางส่งเสริมการปกครอง

เช้านี้ มีผู้คนมากมายเข้ามาข้างใน และใบหน้าของทุกคนก็มีความสุขไม่มากก็น้อย

ผู้ที่มาที่นี่ ล้วนมาเพื่อเลื่อนขั้น

ทันทีที่ฉินเฟิงเข้าประตูมา เขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยอย่างดุเดือดภายใน

“นายได้ดูข่าวเมื่อวานนี้ไหม เกี่ยวกับหลินเทียนหยางน่ะ!”

"ได้ดู! หลินเทียนหยางน่าทึ่งจริงๆ!"

"ใช่เลย! เขากลายเป็นปรมาจารย์ธาตุได้ตอนอายุ 24 ปี เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลย!"

"ฮ่าฮ่า! อัจฉริยะคืออะไร? นี่สิถึงจะเรียกว่าอัจฉริยะ!"

“ตระกูลหลินนี้เป็นตระกูลใหญ่ และไม่มีการขาดแคลนทรัพยากรการฝึกฝน คุณสมบัติของหลินเทียนหยางนั้นดีมาก ความสำเร็จในอนาคตของเขานั้นไร้ขีดจำกัด!”

ทุกคนเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อหลินเทียนหยาง

หลินเฟิงต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย

เพราะเขาไม่ชอบตระกูลหลินมากนัก

"ยังไงก็ตาม ฉันได้ยินมาว่าหลินเทียนหยางมีน้องชายด้วย ดูเหมือนว่าเขาจะชื่อหลินซูหยาง..."

เรื่องนี้ได้ดังออกมาจากฝูงชน

มีหลินซูหยางอยู่ในโลกนี้จริงๆ ด้วย

ฉินเฟิงรีบเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

จบบทที่ 9