ตอนที่ 129 ทำได้
ครั้งที่ 293!
เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ความเร็วของถังเทียนลดลงมาก แต่เมื่อดูใกล้ๆ ก็จะตระหนักได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงในจังหวะของเขากลายเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจมากขึ้น
นอกจากเจ้ายักษ์หมายเลขเก้าแล้ว เขาเป็นเหมือนผีเสื้อโบยบิน ดูเหมือนช้าแต่อาวุธเหล่านั้นมักจะเฉียดผ่านเขาไปไม่กี่มิลเมตรและร่วงลงในพื้นที่ว่าง
ทันใดนั้น เอวของเขายืดหยุ่นเหมือนต้นข้าวสาลี เอนเบาๆไปทางซ้ายแต่ก็หลบออกทางขวาด้วยความเร็ว
วืด!
ปลายกระบี่เฉียดผ่านเอวของถังเทียน
ถังเทียนดูเหมือนจะคาดเอาไว้แล้ว ขาขวาของเขาตวัดออกมาเหมือนงูพิษ ควั่บมีแสงคล้ายกระบี่ดูลานตา
ท่าเท้าถานถุ่ย
ขาของเขาจะกระตุ้นตัวพลังกระบี่ตรงจุดศูนย์กลาง พลังร่างกระเรียนที่คมชัดพร้อมจะงอยปากของมัน
ร่างผอมของหมายเลขสิบเอ็ดสั่นและกระเด็นออกไปราวกับถูกฟ้าผ่า
ท่าที่ถังเทียนเพิ่งใช้ไปเป็นการจงใจให้หมายเลขสิบเอ็ดทำผิดพลาด หมายเลขสิบเอ็ดมีฝีมือและอันตรายมากที่สุดมันคือเป้าหมายแรกที่ถังเทียนต้องการทำลาย
ถังเทียนไม่สนใจหมายเลขหนึ่งที่ไล่ตามมา พลังสลายวังวนของเขาลากเจ้ายักษ์หมายเลขเก้าให้เดินโซเซและหมายเลขเก้าได้ก้าวเหยียบหุ่นทองแดงตัวหนึ่ง หมายเลขหนึ่งไม่ได้ป้องกันการเคลื่อนไหวหมายเลขเก้ามันชะงักการเคลื่อนไหวของหมายเลขเก้า
ตำแหน่งของหมายเลขเก้าเริ่มเปลี่ยน หุ่นทองแดงตัวอื่นสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้เพียงอย่างเดียว แต่ถังเทียนเป็นเหมือนวิญญาณทันที กระเด้งขึ้นมาจากเท้าของเจ้ายักษ์หมายเลขเก้าและเกิดเรื่องขึ้นกับหุ่นสัตว์ประหลาดหลายมือแฝดสามที่ยืนอยู่เป็นแนวเส้นตรง
ถังเทียนเป็นเหมือนวิญญาณ มาปรากฏตัวข้างหมายเลขสี่ทันทีพร้อมกับสูดหายใจลึกเพิ่มพลังปราณเที่ยงแท้ และการสั่นสะเทือนมือ หมายเลขสี่ถูกกระตุ้นให้โจมตีโดยไม่รู้ตัวแล้ว ขาทั้งสองเป็นเหมือนขวานหนักแลกการโจมตีใส่กัน
ปัง ปัง
ท่าเท้าถานถุ่ยที่แหลมคมไม่ได้ใช้พลังงานกระเรียน แต่ครั้งนี้ใช้พลังมังกรฟ้า
ถานถุ่ยกับพลังงานกระเรียนใช้ร่วมกันเป็นเหมือนขวานคมกริบสองเล่ม ขณะที่วิชาถานถุ่ยกับกับพลังมังกรฟ้าใช้ร่วมกันเป็นเหมือนค้อนสองด้าม ขาทั้งสองของถังเทียนไม่ได้เก็บแรงไว้ เขาใช้แรงไปทั้งหมด
หมายเลขสี่คล้ายกับโดนหวดด้วยค้อนสองครั้งกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่หมายเลขห้าและหกยังคงยืนอยู่ในแนวเดียวกัน และเป็นเหมือนกับโดมิโนตกอยู่ในความยุ่งเหยิงทันที
ตัวถังเทียนลอยโค้งกลับมาอยู่ข้างหุ่นหมายเลขเก้าและใช้พลังวังวนสลายทำให้เจ้ายักษ์เก้าล้มหงายหลัง
ฉวยเวลาเมื่อเจ้ายักษ์เก้าพยายามทำตัวเองให้มั่นคง เขาไปปรากฏตัวต่อหน้าหมายเลขหนึ่งและใช้วิชาประทับหัตถ์ใหญ่
หมายเลขหนึ่งต่อสู้กับเขาอย่างกล้าหาญ
แต่คลื่นอากาศกระจายออกรอบๆ หมัดของหมายเลขหนึ่งเปิดช่องให้ทันที และประทับหัตถ์ใหญ่ของถังเทียนเหมือนกับแผ่นจารึกขนาดยักษ์กระแทกใส่หมัดหมายเลขหนึ่ง
ปง!
ร่างของหุ่นทองแดงหมายเลขหนึ่งสั่นสะท้าน
ถังเทียนคราง เพราะฝ่ามือนี้ เขาใช้พลังทั้งร่าง แต่เขารุกหน้าแทนที่จะถอยสองขามีรัศมีชัดเจนหวดใส่ข้อต่อของหมายเลขหนึ่ง ข้อศอกของหมายเลขหนึ่งปลิวกระเด็น
ถังเทียนตีลังกากลับมาอยู่ในเงาของหมายเลขเก้า
รอบๆ ร่างมหึมาของหมายเลขเก้า เขาควบคุมร่างของเจ้ายักษ์เก้าได้สิ้นเชิงและและหุ่นทองแดงสองสามตัวจะถูกพลังประทับหัตถ์ใหญ่ฟาดกระเด็นออกไปเป็นครั้งคราว
หุ่นที่อยู่รอบๆ เขาลดจำนวนลง
เมื่อเจ้ายักษ์เก้ากระแทกลงกับพื้น มีเพียงถังเทียนที่เหลือและยืนอยู่บนพื้น
แฮก... แฮก....
ทั้งหมดที่ถังเทียนได้ยินยังคงเป็นเสียงหอบหายใจของเขา ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงที่ว่างเปล่าบัดนี้เงียบสงัดราวป่าช้า
เมื่อมองดูหุ่นทองแดงที่กองอยู่กับพื้น ถังเทียนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ เขาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
เขา...เขาทำได้จริงๆ.....
ผ่านด่านห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้สำเร็จ!
ความรู้สึกที่ประความสำเร็จครอบงำเขาอยู่นี้ เขาไม่เคยได้รู้สึกมาก่อนมันเต็มอยู่ในทุกอณูร่างกายของเขา นัยน์ตาแดงฉานจ้องมองฝ่ามือของเขา แต่ในไม่ช้า ความปีติก็ทับโถมเข้ามาอย่างมิอาจควบคุมไว้ได้
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
"ข้าทำสำเร็จแล้ว!"
"บัดซบเอ๊ย...ทำได้แล้วโว้ย!"
……
ถังเทียนกระโดดมาอยู่ข้างๆหุ่นทองแดงอย่างร่าเริง "ฮ่าฮ่า!ข้าพูดมาก่อนแล้ว ข้าจะต้องเอาชนะพวกแกเจ้าพวกบัดซบให้ได้! ฮ่าฮ่าฮ่า! ข้าคือหนุ่มชาวฟ้าขนานแท้เฟ้ย!"
ข้างใต้เท้าของเขา หุ่นมนุษย์ทองแดงมีรอยแตกร้าวทุกที่บางตัวก็มีข้อต่อผิดรูป บางตัวก็มีรอยแตกร้าวทุกที่ ห้องที่กว้างและว่างเปล่าเต็มไปด้วยเสียงกึกก้องร่าเริงจากการประกาศชัยชนะของถังเทียน
แต่ว่า....เหนื่อยเป็นบ้า..
ดูเหมือนจะเหนื่อยไปบ้าง....
ความเครียดความหงุดหงิดจากการต่อสู้มาตลอด 293 ครั้งก็ผ่อนคลายออกไปจนได้ในที่สุดความเมื่อยล้า ความเหน็ดเหนื่อยค่อยๆ โถมเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ เขาพยายามฝืนลืมตาไว้ แต่หนังตากลับหนักขึ้นๆ โดยไม่รู้ตัวและโลกที่อยู่ต่อหน้าเขาเริ่มมืดลงทีละนิด
หนุ่มชาวฟ้าอย่างเขาเหน็ดเหนื่อยขนาดนั้นได้อย่างไร...
ชักง่วงขึ้นมาแล้ว.....
ถังเทียนล้มโครมกับพื้นและวินาทีต่อมาก็ส่งเสียงกรนสนั่นขณะที่ท้องของเขาพองขึ้นยุบลงเป็นจังหวะตามปกติ
เมื่อปิงมาถึง เขาเห็นถังเทียนหลับสนิทน้ำลายไหลยืดเป็นสายสะท้อนประกายเขาดูไม่มีภาพลักษณ์เลย เหมือนเด็กที่เล่นจนเหนื่อยแล้วนอนหลับสนิท
ใบหน้าที่หลับไปอย่างรวดเร็วนั้นมีรอยฟกช้ำไปทั่วและแทบจะจำไม่ได้ เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดรุ่งริ่ง ผิวก็เต็มไปด้วยร่องรอยบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
แม้ว่าอาการบาดเจ็บในห้องนี้จะไม่รุนแรง แต่ความเจ็บนับว่าไม่น้อยเลย อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของถังเทียนไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดเล็กน้อยเท่านั้นที่มองเห็นได้ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเป็นประกายเหมือนทารก ปากอ้ากว้างและหุบลงตามจังหวะการกรนของเขา
293 รอบการต่อสู้...
เจ้าเด็กนี่ชนะได้ยังไงกัน...
การต่อสู้ที่สำคัญอย่างนั้น เขาคิดถึงมันจริงๆ...
ปิงเปิดห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงโดยไม่เคยคิดว่าถังเทียนจะสามารถผ่านด่านได้ เขาแค่ต้องการให้เป้าหมายถังเทียน เพื่อที่ว่าเขาจะได้เป็นผู้ใหญ่ได้เร็ว
แต่เจ้าเด็กนี่กลับผ่านด่านห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้...
ไม่สิ เขาข่มมันได้ราบคาบ
ปิงมองดูถังเทียนอย่างเงียบๆ ไม่สามารถข่มใจให้สงบลงได้เป็นเวลานาน
※※※※※
เมื่อถังเทียนตื่นขึ้น เขารู้สึกหิวและกระหายเป็นกำลังแขนขาสั่น ดวงตาเป็นประกายสีเขียว เขารีบหาของกินจากตู้อาวุธอควาเรียสทันที รีบวิ่งไปที่สระน้ำราวกับลมพัดล้มตัวลงข้างรางน้ำและเริ่มวักน้ำดื่ม
อาหารที่ถังเทียนนำมาด้วยเป็นของแห้งที่ไม่เน่าเสียเขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องพื้นผิวของมันและเริ่มกระเดือกกินลงไป
กิน กิน กิน....
ถังเทียนกวาดอาหารทั้งหมดในตู้อาวุธอควาเรียสรวดเดียว
"ไม่มีอะไรเหลือเลยจริงๆ..."ถังเทียนลูบพุงด้วยความรู้สึกไม่พึงพอใจ พุงของเขานูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ปิงลอยตัวเข้ามาดูเหมือนภูตพราย ใบหน้าที่ดูคล้ายกับหน้าไพ่ดูมีสีสัน"ว่าไง เจ้าหนู, ตื่นแล้วหรือ,เจ้าผ่านด่านสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้จริงๆ ทำเอาข้าทึ่ง"
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!ของมันแน่อยู่แล้ว ลุงยังตาไม่ถึงเองแล้วจะเข้าใจศักยภาพยิ่งใหญ่ที่หนุ่มชาวฟ้ามีได้อย่างไร"ถังเทียนไม่มีการถ่อมตัวแม้แต่น้อย ด้วยใบหน้าของคนหลงตัวเอง เขาเท้าสะเอวแหงนหน้าขึ้นฟ้าแหกปากหัวเราะลั่น
ปิงยิ้มร่าเริง "นั่นก็ถูกแล้ว อย่างนั้นเรามาเริ่มการท้าทายครั้งใหม่ เด็กๆ ควรทำเรื่องท้าท้ายอย่างต่อเนื่องเพื่อที่ว่าศักยภาพยิ่งใหญ่ จะได้รับการกระตุ้นตลอด"
ถังเทียนสะดุ้ง ความผยองหายไปกับสายลมเขาเหน็ดเหนื่อยจากการหาวิธีเอาชนะแล้ว "อ่าฮะ,ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ!เราจะตามหาเชียนฮุ่ยก่อน หลังจากหาเชียนฮุ่ยเจอแล้วเราค่อยเริ่มกันก็ได้ วันเวลายังอีกยาวนาน ยังยาวนานนัก"
ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงน่ากลัวมากพอแล้วยังมีการท้าทายด่านอื่นอีก...
ถังเทียนจำได้เมื่อปิงพูดถึงห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง เขาบอกว่าบรรดาการฝึกฝนที่เจ็บปวดที่สุดในค่ายฝึกทหารใหม่ ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงอยู่ในสามอันดับแรก นี่ก็หมายความว่ายังคงมีการฝึกอีกสองด่านที่คล้ายๆกัน
แม้ขณะคิดเรื่องนี้ ถังเทียนก็หัวชาเสียแล้ว
ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่พูดถึงเรื่องการฝึกฝนกับเขา อาจทำให้เขาคลื่นไส้ก็ได้
สู้ 293 ครั้ง, เกือบ 300 ครั้งต่อให้กินซาลาเปา 300 ลูก ก็ทำให้คนกินอาเจียนได้เหมือนกัน
“ปิง!เราเสียเวลาไปมากแล้ว เราต้องรีบ”ถังเทียนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ตอนนี้ เริ่มเปิดเส้นทางได้แล้ว”
มุมปากของปิงโค้งขึ้น“แน่ใจนะว่าเจ้าพักเพียงพอแล้ว?”
“แน่นอน!” ถังเทียนตบอกตัวเอง, “เรี่ยวแรงกลับคืนมาเต็มที่แล้ว! หนุ่มชาวฟ้าฟื้นฟูพลังเต็มที่แล้ว! มาเถอะน่า,เปิดอุโมงค์เข้าหมู่ดาวกางเขนใต้กันเถอะ!”
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เปลี่ยนเสียงเขาหรี่ตาและลอกเลียนท่าทางของยอดฝีมือ พูดเสียงต่ำแฝงด้วยการคำราม“อาวุธของข้ามันหิวกระหายเกินทนแล้ว”
“อย่างนั้นก็มาเถอะ”ค่อนข้างผิดปกติที่ปิงไม่ได้ล้อเลียนถังเทียน แต่หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก “โอว,จริงสิ ข้าเตรียมพาหนะใหม่ไว้ให้เจ้าแล้ว”
“พาหนะใหม่?”ถังเทียนตะลึง “กระจอกเทศน้อยก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว”
“อย่าลืมสิว่าเจ้าฆ่าข่งโหย่วหลิน ดังนั้นของใช้ของหมู่ดาวกางเขนใต้สะดุดตาเกินไป”ปิงเตือน “ข้าขอให้เซรีนประกอบให้เจ้าใหม่แล้ว”
ถังเทียนกำลังเดินตามหลังปิง เขาหยุดและชี้ไปที่ไกลๆด้วยสีหน้าจริงจัง “นั่นพาหนะใหม่เหรอ?”
ปิงยิ้มและพยักหน้า “ถูกแล้ว”
“ลุงแน่ใจนะว่าเจ้าสิ่งนี้จะไม่ทรุดทันทีที่รับน้ำหนักข้านะ? โธ่เอ๊ย.. นกกระจอกเทศอะไรกันนี่ ผอมก๋องแก๋งเป็นบ้า?” ถังเทียนหน้าเขียวคล้ำ“ยัยเพี้ยนนั่นต้องเก็บกดความแค้นที่ผ่านมาไว้ในใจ นางแน่เลยทำอย่างนี้เพื่อแกล้งทรมานข้า”
พาหนะตัวก่อนของเขานั้นมีขนาดที่สะดุดตา นกกระจอกเทศบรอนซ์เคยมีขนาดที่สูงกว่าถังเทียนขาของมันหนาและแข็งแกร่ง แต่นกกระจอกเทศที่อยู่ต่อหน้าเขาดูเหมือนมันคงอดอยากปากแห้งมาแน่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกและสูงเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับนกกระจอกเทศตัวก่อน ขาทั้งสองข้างผอมเหมือนไม้ขีดไฟ
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนคลั่งใจก็คือสีของมันแดงแป๊ดไปทั้งตัว
น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นมาจากด้านหลังถังเทียน “นี่มันนกฟลามิงโกย่ะ!”
ดวงตาของเซรีนเป็นประกายแฝงด้วยแววเย็นชาและแค้นเคือง“เจ้ากำลังดูถูกงานประดิษฐ์ของข้าเหรอ? เด็กน้อย? เจ้ามีตาแต่ไม่มีแววก็หุบปากไปเลย! เทียบกับนกกระจอกเทศบรอนซ์ เจ้าตัวนี้จะโดดเด่นกว่ามาก น้ำหนักของมันแค่หนึ่งในสามของนกกระจอกเทศ นี่ก็หมายความว่า อัตราการสิ้นเปลืองพลังของมันแค่เพียงหนึ่งในสามของนกกระจอกเทศ ความเร็วของมัน เมื่อเทียบกับนกกระจอกเทศไม่ได้ช้ากว่าเลยและจุดเด่นของมันก็คือความเร็วในการวิ่งระยะสั้นเทียบได้กับความเร็วของวิชาตัวเบาของนักสู้ระดับหก”
“เหลือเชื่อขนาดนั้นเชียวเหรอ?” ถังเทียนถูกขู่ แต่ก็ยังรู้สึกว่ายากจะเชื่อ
“ทำไมเจ้าไม่ลองดูเล่าเจ้าหนู?” เซรีนทำหยิ่งใส่บ้าง
ถังเทียนไม่เกรงใจต่อไปเขากระโดดขึ้นหลังนกฟลามิงโก นกฟลามิงโกวิ่งราวกับลมพัดไปรอบๆ สนามฝึกฝนฝีมือ
“ว้าว....สุดอด!”
ถังเทียนกระตุ้นนกฟลามิงโกให้วิ่งและร่าเริงไปในขณะเดียวกัน เขารีบลงมาจากนกฟลามิงโก นกฟลามิงโกโดดเด่นอย่างแท้จริงก้าวย่างของมันเบากว่านกกระจอกเทศ แทบไม่มีเสียง ต่างจากเสียงดังของนกกระจอกเทศ
เซรีนแค่นเสียงและหันไปง่วนกับงานของนางต่อไป
“ลุง! ไปกันเถอะ!” ถังเทียนตะโกนและกระตุ้นนกฟลามิงโกกลให้วิ่งออกไป
ในไม่ช้าถังเทียนก็มาถึงที่ซึ่งเขาได้พบกับงูภูตดวงดาวครั้งก่อน แต่สถานที่นี้ว่างเปล่าแล้ว
ปิงนำทาง ทั้งคู่ก้าวต่อไปอย่างระมัดระวัง แต่ทั้งคู่คาดไม่ถึงเลยว่าตลอดรายทางพวกเขาไม่พบอสูรดวงดาวเลยแม้แต่ตัวเดียว
“ลุงแน่ใจนะว่าเรามาไม่ผิดทาง?”ถังเทียนถามปิง
ปิงค่อนข้างจะไม่แน่ใจเหมือนกัน “เป็นทางนี้แน่นอน ส่วนทางอื่นยังลับอยู่มาก”
จู่ๆ นัยน์ตาเขาก็เป็นประกาย “ใช้แล้ว, ทางนี้ ดู! ผ่านหินก้อนนี้ไปให้ได้ ทะลวงเข้าไป”
ถังเทียนกระตือรือร้น เขารีบเจาะหินทันทีหลังจากผลัดกันขุดเจาะหินแล้ว ราวๆหนึ่งชั่วโมงต่อมาประตูดวงดาวก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา