ตอนที่ 128 กำหนดแผน
วืด.. วืด....
ทั้งหมดที่ถังเทียนได้ยินคือเสียงแหวกอากาศหวีดหวิวมนุษย์ทองแดงข้างหน้าเขาโยกเหวี่ยงตัวไปมา การต่อสู้ที่ดำเนินไปบั่นทอนจิตใจเขา แต่เขาไม่ยอมแพ้
เขาเบิกตาแดงฉานโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและจ้องมนุษย์ทองแดงด้านตรงข้ามเขม็งโดยไม่ท้อถอย
ครั้งที่ 122
มนุษย์ทองแดงหมายเลขหนึ่งมีความแข็งแกร่งมากและมีทักษะต่อสู้ระยะประชิด แต่มันจะได้รับผลกระทบ ถ้ามีมนุษย์ทองแดงตัวอื่นอยู่ใกล้ๆ....
มนุษย์ทองแดงหมายเลขเก้าไม่มีพลังอย่างอื่นนอกจากความแข็งแกร่งและน้ำหนักและมีการสนองตอบช้ามาก
ตัวประหลาดหลายมือแฝดสามหมายเลขสี่ห้า หก ไม่เคยปล่อยให้พวกมันอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างทั้งสามแยกกันเลย พวกมันจะดึงพวกไปอยู่ในแนวเส้นตรง นี่ต้องมีแผนบางอย่าง....
หุ่นทองแดงหมายเลขสิบเอ็ดคือตัวปัญหากับฝีมือกระบี่ที่เยี่ยมยอดและมีการจู่โจมที่แม่นยำเพราะมักจะหาช่องว่างในท่ามกลางความสับสนได้เสมอและสามารถฆ่าได้ด้วยการจู่โจมเพียงครั้งเดียว ถังเทียนพลาดท่าให้กับกระบี่ของเจ้าผู้นี้หลายครั้งแล้ว แต่ถังเทียนก็ยังพบว่าถ้าเขาเข้าไปในระยะใกล้และสู้ในระยะประชิด หมายเลขสิบเอ็ดจะมีพลังลดลงอย่างมาก
……
สิ่งเหล่านี้คือประสบการณ์และความรู้ที่ถังเทียนได้รับหลังจากพยายามต่อเนื่องถึง122 ครั้ง
ประทับหัตถ์ใหญ่เป็นวิชาที่ทรงพลังแต่ความเร็วในการจู่โจมช้า เหมาะกับการปิดการต่อสู้ แต่ไม่เหมาะกับการต่อสู้ที่รวดเร็วและยุ่งเหยิง เมื่อเข้าคู่กับพลังมังกรฟ้าก็พอใช้ได้เพราะสามารถส่งให้มนุษย์ทองแดงผอมๆ อย่างหมายเลขสิบเอ็ดปลิวไปได้...
ถานถุ่ยเป็นวิชาที่ต้องใช้ความคล่องแคล่วสูง ขาจะทำหน้าที่คล้ายขวานเหมาะมากที่จะใช้คู่กับพลังร่างกระเรียน จะมีความคมมากขึ้น... และมือที่ว่าง ใช้หมัดสะท้านฟ้าสามารถก่อกวนอีกฝ่ายได้ ระดับความยากของการผสานวิชาต่อสู้ทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกันนั้น สูงมาก แต่ถ้าเขาสามารถทำได้มันจะน่ากลัวมาก...
วิชาสลายวังวนคือการต่อสู้ในขอบเขตที่จำกัดแต่มีประโยชน์มาก ทรงพลังไม่มาก แต่ว่องไว วังวนแต่ละวังวนจะมีประโยชน์ในการก่อกวน แต่ข้อบกพร่องคือไม่สามารถสังหารได้ในทีเดียว มันสามารถใช้เฉพาะต้อนศัตรูเข้าจุดอับ...แล้วปิดการต่อสู้ด้วยวิชาประทับหัตถ์ใหญ่ การประสานวิชาเช่นนี้ทำให้เหนื่อย
วิชาภูษาหมองมีความก้าวหน้ามากแต่ก็ยังอ่อนชั้นอยู่
ถังเทียนชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอยู่ในใจเขาเขารู้สึกโกรธกริ้วเดือดดาล แต่เขารู้ว่าความสามารถของเขายังอ่อนลำพังแต่ความกล้าไม่ได้ช่วยให้เขาชนะเจ้าพวกบัดซบเหล่านี้
เขาจำเป็นต้องคิดถึงบางอย่าง....เขาไม่เคยยอมแพ้และพยายามวางแผนอย่างดีที่สุด
วิธีทั้งหมดล้มเหลว แต่บางวิธีก็ให้แสงสว่างแห่งความหวัง
อีกครั้ง
ถังเทียนกัดฟันขณะที่ขาของเขาเตะอย่างรุนแรง ร่างของเขาเป็นเหมือนลูกศรที่พุ่งตรงเข้าร่างของมนุษย์ทองแดง
※※※※※
ครั้งที่ 156
ถังเทียนเลียริมฝีปาก ในการสู้ก่อนหน้านี้เขาประสบความสำเร็จฉุดเจ้าหุ่นตัวประหลาดหลายมือแฝดสามออกจากแนวเส้นตรงได้และอาศัยประโยชน์จากสถานการณ์เข้าประชิดหุ่นหมายเลขสิบเอ็ดและใช้ประทับหัตถ์ใหญ่บวกกับพลังมังกรฟ้าทำให้เจ้าพวกนี้ปลิวกระเด็นทันที
น่าเสียดายที่เขาโดนหุ่นหมายเลขหนึ่งตอบโต้กลับมาทำให้ความพยายามของเขาสูญเปล่า
พลังสลายวังวนก็มีประโยชน์เช่นกัน ถ้ามือของเขาสามารถใช้ได้เร็วและสร้างพลังหมุนวนได้มากขึ้น พลังหมุนวนจะตรึงร่างของฝ่ายตรงข้ามไว้ ตราบเท่าที่ฝ่ายตรงข้ามเผลอเปิดช่องว่าง เขาจะใช้ประทับหัตถ์ใหญ่ปิดการต่อสู้
ในการต่อสู้ที่ชุลมุน ไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหนก็ตามก็เป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ทั้งหมดจุดสำคัญคือต้องใช้ประโยชน์จากฝ่ายตรงข้าม
ใช้พลังวังวนสลายเพื่อตรึงร่างของอีกฝ่ายเพราะร่างของอีกฝ่ายจะเป็นโล่ชั้นดี
ต้องลดจำนวนครั้งในการเผชิญหน้ากับศัตรู
ฮืม... หุ่นทองแดงหมายเลขเก้าเป็นโล่ที่สมบูรณ์
จังหวะของหมัดสะท้านฟ้า ถ้าเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยน อย่างนั้นก็จะสร้างผลรบกวนได้มาก ใช่แล้ว....
อีกครั้ง!
※※※※※
ครั้งที่ 193
ถังเทียนแนบตัวอยู่ในเงาของมนุษย์ทองแดงหมายเลขเก้ากระแทกด้วยพลังสะท้านฟ้า ขณะที่นิ้วมือขวาทั้งห้าดีดอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วเหลือเชื่อ วังวนขนาดเล็กจำนวนมากถูกสลัดออกมาจากนิ้วและลอยไปติดอยู่ที่ด้านหลังหุ่นหมายเลขเก้าอย่างต่อเนื่อง
ร่างของหุ่นทองแดงหมายเลขเก้าเซไปทางซ้ายทีและขวาทีเหมือนหุ่นเชิด
ร่างของหุ่นหมายเลขเก้าเหมือนโล่ขนาดใหญ่ปกป้องหลังเขาได้อย่างปลอดภัย
เจ้ายักษ์หมายเลขเก้าคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวทั้งเหวี่ยงหมัดทั้งกระทืบเท้า แต่สำหรับถังเทียนผู้ปราดเปรียวแล้วไร้ประโยชน์สิ้นเชิง
ในทางตรงกันข้ามถังเทียนยืมพลังของเจ้ายักษ์หมายเลขเก้าและใช้พลังสลายวังวนฉุดรั้งมันไว้เพื่อพยายามทำให้เจ้ายักษ์หมายเลขเก้าเสียสมดุล
ถังเทียนตั้งใจมากเป็นพิเศษ สัญชาตญาณของเขาถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่
เขาเริ่มคุ้นเคยกับการต่อสู้ในเงื่อนไขเช่นนั้นมากขั้น ไม่ว่าจะเป็นท่าเท้าถานถุ่ย, พลังสลายวังวน, ประทับหัตถ์ใหญ่หรือดรรชนีมารพิโรธ ฯลฯ วิชาเหล่านี้ถูกนำมาใช้อย่างไหลลื่นเหมือนสายน้ำ โดยไม่มีการชะงักเพื่อหยุดคิด
สัญชาตญาณ สัญชาตญาณ!
ทันใดนั้น หุ่นหลายมือแฝดสามถูกดึงแยกออกจากกันและไปอยู่ที่ปลายแต่ละด้านสร้างแนวดักเจ้าหุ่นยักษ์หมายเลขเก้าไว้ขณะที่มนุษย์ทองแดงหมายเลขหนึ่งหลุดออกจากแนวขวางกั้นของถังเทียนและโดดออกจากพื้นที่ของยักษ์หมายเลขเก้า
ถังเทียนตะลึง นี่มัน..
มนุษย์ทองแดงอื่นๆไม่ได้เข้าจู่โจมทั้งหมดอีกต่อไป แต่ยืนประจำตำแหน่งของพวกมันเอง แคร้ง แคร้ง แคร้ง อาวุธในมือของพวกมันกระหน่ำใส่เจ้ายักษ์เก้าพร้อมกัน
สีหน้าถังเทียนเปลี่ยน เขาเข้าใจทันที
เจ้ายักษ์เก้านั่งยองๆ กุมศีรษะเนื่องจากมันมีเนื้อหนังหนา แต่ว่ามันขยับไม่ได้
ไอ้กลุ่มพวกบัดซบนี้...
การระดมโจมตีต่อเนื่องเป็นสายฝน ถังเทียนพยายามหลบอย่างทุลักทุเล
จู่ๆ ก็มีการโจมตีโดยไม่มีคำเตือนจากด้านล่างของเจ้ายักษ์หมายเลขเก้าเหมือนกับงูพิษที่แฝงอยู่ในเงามืด มันจู่โจมอย่างรุนแรง
ถังเทียนชะงักและถูกกระบี่จี้ใส่
ล้มเหลว!
เมื่อเขาถอยออกมาจากห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงเขากัดฟัน เจ้าหุ่นหมายเลขสิบเอ็ดอีกแล้ว
เขาควรจะทำให้ให้เจ้ายักษ์หมายเลขเก้าเคลื่อนไหว เพื่อที่ว่าพวกมันจะได้ไม่สามารถเข้าประจำตำแหน่งได้
เจ้าหุ่นหมายเลขสิบเอ็ดฝีมือร้ายกาจเกินไป เราต้องหาโอกาสกำจัดมัน..
ลองอีกครั้ง!
※※※※※
เซรีนประหลาดใจเล็กน้อย ถังเทียนไม่ได้ออกมาหลายวัน แค่ทุกๆ สองสามชั่วโมงจะมีเสียงคำรามเกรี้ยวกราดและเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากที่ฝึกฝนของถังเทียน
เจ้าผู้นี้ทำอะไรอยู่?
อย่างไรก็ตาม....เขานับว่าเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนคนหนึ่ง...
เซรียเผลอยิ้มมุมปากเข้าใจ ถังเทียนเป็นคนพิเศษที่สุดที่นางเคยพบในหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยซ่อนเร้นความทะเยอทะยานและมักจะมั่นใจเช่นนั้นอยู่เสมอ
แม้ว่าบางครั้งเขาจะหยิ่งเกินกว่าจะชอบได้ แต่นางก็ยอมรับว่าในหมู่อัจฉริยะทั้งหมดที่นางได้พบมา นางชอบถังเทียนที่สุด อย่างน้อยถังเทียนไม่เคยบ่นว่าตนเองเหนื่อย
เมื่อนึกถึงสัญญาวิญญาณพลังยุทธที่นางลงนามร่วมกับถังเทียนแล้วนางรู้สึกว่า นางสามารถตระหนักถึงสิ่งที่นางวาดฝันไว้ได้ ชะตาของนางผูกพันอยู่กับเจ้าผู้นี้แล้ว
"เจ้ามีอะไรที่ก้าวหน้าไปบ้าง?" จู่ๆ เสียงของปิงก็ดังมาจากด้านหลังของนาง
เซรีนกระโดดด้วยความตกใจ แล้วหันไปมองเมื่อเห็นว่าเป็นปิง นางชะงักไปเล็กน้อย "ท่านไม่ต้องไปฝึกกับเขาเหรอ?"
"ไม่จำเป็น" ปิงส่ายหัว เมื่อนึกถึงการฝึกของถังเทียนในช่วงไม่กี่วันมานี้ เขารู้สึกจริงๆ ว่าไม่มีความจำเป็นที่เขาจะอยู่ด้วยใกล้ๆ ตอนแรก เขาคิดจะให้คำชี้แนะกับถังเทียนเนื่องจากว่าเขาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพดาวกางเขนใต้และเขาสามารถวิเคราะห์การต่อสู้ที่ไม่ซ้ำกันได้ แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่า ถังเทียนพยายามหาวิธีการใหม่อย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าด้วยวิธีการเกือบทั้งหมดนั้นเขาสามารถบอกได้เลยทันทีว่า วิธีเหล่านั้นจะล้มเหลว แต่เขาก็ไม่เข้าไปแทรกแซง
ระหว่างวิธีที่ถังเทียนวางแผนด้วยตัวเองกับวิธีที่เขาชี้แนะแนะให้ ทั้งสองวิธีนี้ช่วยให้ถังเทียนเติบใหญ่ แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงลึกๆ ในใจแล้วปิงรู้ดีว่า การใคร่ครวญแก้ปัญหาไม่หยุดยั้งแบบนี้มีคุณค่ามาก
ทหารจำนวนมากจะเชื่อฟังคำสั่ง แต่มีไม่มากที่รู้จักไตร่ตรองและระหว่างที่เขาเป็นผู้ให้การอบรมมา ทหารพวกที่ไตร่ตรองแก้ปัญหาเองจะประสบความสำเร็จอย่างดี
“อาวุธจักรกลเหล่านี้เป็นยังไงบ้าง?”ปิงจ้องมองเซรีน
เมื่อพูดถึงอาวุธจักรกลเซรีนจะมีชีวิตชีวาทันที นางคลุกคลีอยู่กับอาวุธจักรกลเหล่านี้อยู่ในที่มืดนี้มานานมาก ในที่สุดนางก็สามารถพูดคุยเกี่ยวกับมันกับคนรสนิยมเดียวกัน ดังนั้นนางจึงเริ่มพูดไม่หยุดทันที
“มันยอดเยี่ยมจริงๆ! นี่คือจักรกลในยุคทองของกองทัพดาวกางเขนใต้แน่นอน อาวุธจักรกลเหล่านี้มีกลไกลมากมายซึ่งสาบสูญไปแล้ว และซับซ้อนมาก”เซรีนพูดอย่างดีใจ “ดูข้อต่อเหล่านี้สิ ข้อต่อสมัยนี้ซับซ้อนมากขึ้น แต่ระบบการใช้งานยังทำได้ไม่ดีเหมือนกับข้อต่อเหล่านี้”
เมื่อได้ยินคำชมเหล่านี้แล้วดูเหมือนปิงจะไม่สบายใจ เขากลับขมวดคิ้วแทน “อย่างนั้นในแนวคิดของเจ้าอาวุธกลเหล่านี้สามารถปรับให้เข้ากับการรบในยุคปัจจุบันได้หรือไม่?
เซรีนไตร่ตรอง “การสู้รบระดับต่ำและระดับกลางอาวุธเหล่านี้สามารถตอบสนองการใช้สอยได้ แต่สู้รบในระดับสูง ของพวกนี้ไม่เหมาะที่จะใช้ต่อไป”
ในที่สุดปิงก็แสดงความสนใจบางอย่าง“เป็นยังไง?”
“อาวุธจักรกลสามารถปลดปล่อยปราณเที่ยงแท้จำนวนมากได้และเสริมเข้ากับพลังยุทธ ซึ่งก็หมายความว่าพวกมันต้องทนทานต่อพลังปราณเที่ยงแท้ แต่พลังปราณเที่ยงแท้ระดับสูงมีพลังทำลายล้างสูงซึ่งวัสดุตามปกติไม่สามารถทนรับได้ ข้าได้วิเคราะห์แล้วว่าโลหะบรอนซ์ของหมู่ดาวกางเขนใต้นี้ทนต่อพลังปราณเที่ยงแท้ได้จนถึงระดับแปด ปราณเที่ยงแท้ที่สูงกว่าระดับเก้าขึ้นไปพวกมันจะไม่สามารถทนได้” เซรีนพูดไม่หยุด
ปิงปฏิเสธจะแสดงความเห็น “อาวุธจักรกลเหล่านี้เป็นแค่เครื่องมือระดับธรรมดาสำหรับใช้ฝึกทหารทั่วไป อาวุธจักรกลที่ยอดฝีมือใช้จะไม่เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถทนต่อปราณเที่ยงแท้ดังกล่าว”
“นั่นก็ถูก”เซรีนไม่ได้โต้แย้ง นางพูดต่อ “อย่างไรก็ตาม,ลองดูสำนักอื่นๆ อาวุธที่พวกเขาใช้เมื่ออยู่ในระดับที่สูง ก็คือ สมบัติ,สมบัติระดับเงิน จิตวิญญาณพลังยุทธก็จะทรงพลังมากไปด้วย อย่าว่าแต่ระดับทองเลย ปัญหาก็คือ มันฉลาดขึ้น พลังสายเลือดขององค์การวิญญาณมืดก็แข็งแกร่งเป็นพิเศษในทำนองเดียวกัน สายเลือดที่น่าตกใจอย่างนั้นเป็นเหมือนขุมสมบัติมหาศาล ร่างกายของพวกเขาสามารถฝึกฝนจนอยู่ในสภาพที่น่าตื่นตะลึง ส่วนการค้นคว้าเรื่องขุนพลวิญญาณของสมาคมรวมตระกูล แม้ว่าขุนพลวิญญาณของพวกเขาจะมีรูปร่างลักษณะที่แปลกแต่พวกมันก็ทรงพลังเท่าเทียมกัน เมื่อมองดูแนวโน้มการค้นคว้าของสำนักใหญ่เกือบทั้งหมดท่านจะพบว่าอยู่ในระดับสูงทั้งนั้น ลักษณะทั่วไปคือพวกเขาจะต้องอาศัยจิตวิญญาณพลังยุทธของพวกเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น”
“อาศัยจิตวิญญาณพลังยุทธเพิ่มขึ้นหรือ?”ดูเหมือนว่าปิงจะจมลึกอยู่ในความคิด
“ถูกแล้ว”ดูเหมือนเซรีนจะคุ้นเคยแล้ว “จิตวิญญาณพลังยุทธในสมบัติ,การกระตุ้นสายเลือดก็ยังต้องเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณพลังยุทธอย่างใกล้ชิด แม้กระทั่งการค้นคว้าเกี่ยวกับขุนพลวิญญาณ เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นพลังกายหรือพลังจักรกลจะมีขีดจำกัดระดับหนึ่ง มีแต่จิตวิญญาณพลังยุทธเท่านั้นที่มีความยืดหยุ่นมาก”
“ข้าเข้าใจแล้ว”ปิงเข้าใจทันที “ผสานจักรกลเข้ากับจิตวิญญาณพลังยุทธ”
“ถูกแล้ว,แต่ข้าเพิ่งพบเดี๋ยวนี้เอง ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น” เซรีนหัวเราะขมขื่น“ข้าจำเป็นต้องย่อยเคล็ดวิธีเหล่านี้ก่อนถึงจะเป็นไปได้ นี่เป็นโครงการขนาดใหญ่ทีเดียว”
“ไม่ต้องรีบ,ใช้เวลาของเจ้าตามสบาย” ในทางตรงกันข้าม แทนที่ปิงจะไม่สบายใจเขากลับนึกได้อีกเรื่องหนึ่ง “โอวจริงสิ, มีเรื่องที่ข้าอยากให้เจ้าช่วย”
“เรื่องอะไร?” เซรีนถาม
“ช่วยเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนกกระจอกเทศบรอนซ์ด้วย”ปิงอธิบายต่อ “วัตถุโบราณของกองทัพดาวกางเขนใต้สะดุดตามากเกินไป ข้าเพียงแต่หวังว่าเจ้าจะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันให้เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีใครโยงไปถึงกองทัพดาวกางเขนใต้”
เซรีนเข้าใจ และนางตื่นเต้นทันที “นี่ง่ายมากฮะฮะ ให้ข้าคิดดูก่อน จะเปลี่ยนเป็นรูปแบบอะไรดี, เปลี่ยนรูปแบบเก่าให้ดูดี..ข้ามีความคิดแล้ว...”
เซรีนพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็ไม่สนใจปิงอีกเลยง่วนอยู่กับงานตนเองอย่างเดียว
ปิงไม่ได้รบกวนแต่อย่างใด ในสายตาเขาพวกช่างเครื่องกลมักจะเป็นแบบนี้เสมอ
ทันใดนั้น เขาชะงักค้าง
นัยน์ตาปิงฉายแววตกใจ... ควั่บ.. เขาหายไปทันที