ตอนที่ 123 จดหมายเชียนฮุ่ย
"เด็กน้อย, อย่าอารมณ์เสียนักเลยก้นของเจ้ายักษ์เบอร์เก้ามีชื่อมาก เพราะขนาดที่ใหญ่ของมันกระแทกได้เป็นวงกว้างเหมือนทะเล ดังนั้นเจ้าไม่ต้องอารมณ์เสียนักหรอกน่า ข้ารู้ว่าความรู้สึกนี้มันน่ากลัว แต่เด็กๆ ทุกคนที่เติบโตขึ้นเป็นลูกผู้ชาย จะต้องมีประสบการณ์ที่เจ็บปวดอย่างนั้นบ้าง..."
ระหว่างที่ปิงพึงพอใจนั้น ถังเทียนหน้าดำราวกับถ่าน เขายังคงเดินตามเงียบๆ
เจ้ายักษ์เก้าหมายถึงมนุษย์ทองแดงหมายเลขเก้าเจ้าผู้นี้คือจุดที่สิ้นหวังที่สุด เนื่องจากขนาดมหึมาของมันพอๆ กับเนินเขาย่อมๆแม้ว่าเทียนจะมีพลังแขนที่แข็งแรงก็ยังยากที่จะจับมันพลิกได้ จุดที่ย่ำแย่ที่สุดก็คือมันชอบกระโดดสูงก่อนจะโถมทับลงมาทั้งตัว
ถังเทียนเพิ่งมีประสบการณ์มาโดยตรง
เขาทนอยู่ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงมาเป็นเวลานาน แต่จนถึงบัดนี้ เขายังไม่สามารถหาวิธีผ่านด่านนี้ได้เลย เขาจำไม่ได้เลยว่าได้พยายามผ่านด่านมากี่รอบแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไร แม้ว่าเขาจะสามารถได้เปรียบชั่วคราว แต่เขาจะโดนฝังอยู่ในทะเลมนุษย์บรอนซ์ในไม่ช้า
มนุษย์บรอนซ์หมายเลขหนึ่งมีทักษะต่อสู้ระยะประชิด เขาไม่สามารถขัดสีหัวบรอนซ์ของเขาได้หรืองไง? เขาใช้มันเพื่อหลอกสายตาคนอื่นหรือเปล่า...?
หุ่นบรอนซ์ทั้งสามตัวมีแขนและอาวุธได้แก่หมายเลขสี่ ห้าและหก วิธีเอาชนะการโจมตีของทั้งสาม...
หุ่นบรอนซ์หมายเลขสิบเอ็ดผอมเหมือนไม้ไผ่เป็นมือกระบี่หลุดโลก ใช้กระบี่หรอกหรือ? เจ้าน่าจะใช้กระบี่คู่นะจะได้เหมาะกับหมายเลข (11) ของเจ้า....
ทั้งสิบแปดตัวพวกมันสามารถตั้งทีมฟุตบอลได้พร้อมกับตัวสำรองอีกเจ็ดตัว
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนต้องกัดฟันกรอดๆก็คือสิบแปดมนุษย์ทองแดงไม่ได้เข้าใจถึงยอดฝีมือที่แท้จริงเลยไม่มีขีดคั่นคุณภาพแพงหรือสูงส่งเหมือนกับการสู้กันตัวต่อตัว ไม่มีนิสัยหยิ่งแน่นอน
น่าอนาถ ขี้โกงและไร้ยางอาย
พวกมันเป็นแค่อันธพาลเน่าๆสิบแปดตัว
กลยุทธที่พวกมันชอบใช้ก็คือรวมพลังกันรุมทุบเขา
ถังเทียนกัดฟัน เขาต้องถูกเจ้าพวกนี้รังแกทุบตีทุกวันเป็นประจำ เขาไม่กล้าคิดเลยว่าทหารใหม่ของกองทัพดาวกางเขนใต้จะกล้าผ่านด่านห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้ยังไงน่าสงสารสหายเหล่านั้นในตอนนั้นนัก...
ทำไมกองทัพดาวกางเขนใต้ถึงถูกทำลาย แต่สถานที่บัดซบนี้ยังเหลือรอดอยู่ได้...
รอข้าก่อนเถอะแกไอ้พวกอันธพาลเน่า... ข้าจะทำให้พวกแกกลายเป็นเศษโลหะให้ได้...
ถังเทียนผู้มาดมั่นกลับไปยังลานฝึกวิทยายุทธเขากวาดตามองรอบๆ อย่างไม่เป็นมิตร และแรงกดดันและอุณหภูมิรอบด้านลดลงทันที
ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ทั้งสองคนนี้สั่นและตื่นตัวทันทีเร่งขึ้นเสียงฝึกฝนตะโกนดังกว่าเดิมน่าเสียดาย ความตั้งใจป้องกันตัวจากอันตรายของพวกเขาล้มเหลว
"พวกเจ้าทั้งสองคนมาตรงนี้ให้ข้าดูหน่อยว่าสองวันมานี้ ก้าวหน้าแค่ไหน"ถังเทียนพูดอย่างไม่เป็นมิตร
แต่สองคนดูหดหู่ทันที
ชั่วเวลาต่อมาลานฝึกก็มีโคลนสองกองจากนั้นถังเทียนเดินออกมาอย่างพอใจหลังจากระบายความอึดอัดของเขาแล้ว
ทั้งสองคนนี้ก้าวหน้าดีมาก
แต่ได้ระบายออกอย่างนี้ ค่อยยังชั่ว
พรุ่งนี้ได้อย่างนี้อีกสักครั้งก็คงดี
※※※※※※
ลุงเฉียน ลุงตามหาข้าหรือ?" ถังเทียนกระโดดขึ้นไปบนระเบียง ระเบียงตรงนี้เป็นจุดสูงที่สุดในบ้านตระกูลซ่างกวนซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งบ้าน
ลุงเฉียนเห็นถังเทียน จึงยิ้มให้อย่างอบอุ่น
คุณชายเทียนก้าวหน้าเติบใหญ่เต็มที่ในระดับที่น่าตะลึง
"คุณชายเทียนมีช่วงเวลาที่ลำบากเมื่อไม่กี่วันมานี้"
ลุงเฉียนเห็นถังเทียนฝึกหนักทุกวันถังเทียนจะต้องทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างและคอยปรากฏตัวที่ลานฝึกฝน การฝึกฝนของเขามีแต่มากกว่าคนอื่นไม่เคยน้อยกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชายเทียนคอยกระตุ้น แล้วเด็กๆ พวกนี้จะยอมฝึกหนักได้อย่างไร?
และคุณชายเทียนก็ใช้เวลาส่วนใหญ่คอยแนะนำพวกเขาเป็นประจำ
ลุงเฉียนมองเห็นความก้าวหน้าของผู้เยาว์ในตระกูลซ่างกวน ภายในสองเดือนมานี้ โดยรวมแล้วมีความก้าวหน้า
สำหรับทุกตระกูล ความก้าวหน้าเช่นนั้นถือว่าเป็นการก้าวกระโดดข้ามอุปสรรค
ในทางตรงกันข้าม ถังเทียนกำลังถ่อมตัวต่างหาก ถ้าลุงเฉียนรู้ว่าคุณภาพการฝึกเหล่านี้เป็นแค่ส่วนเดียวของที่เขาได้ฝึกฝนจริง เขาจะตกใจหรือเปล่า?
ช่วงไม่กี่วันมานี้เขาฝึกอย่างกระตือรือร้นจนเขาแทบลืมวันคืน
เขาโบกมือ "ลุงเฉียน, อย่ายืนที่ระเบียง"
ลุงเฉียนพยักหน้าและสีหน้าเขาจริงจัง "เมื่อคุณหนูจากไป นางได้บอกไว้ว่า ถ้านางไม่กลับมาภายในสองเดือนให้ข้านำเจ้าไปที่ห้องหนังสือของนาง"
ถังเทียนหยุดยิ้ม และขมวดคิ้ว "ห้องหนังสือของนาง?"
"ใช่แล้ว"ลุงเฉียนรู้สึกเครียดทันทีเมื่อเห็นภาพถังเทียนขมวดคิ้ว
"พาข้าไปที่นั่น!"ถังเทียนไม่แสดงความลังเลใจ
"ได้สิ"
※※※※※
ถังเทียนเข้าไปในห้องหนังสือของเชียนฮุ่ยเป็นครั้งแรก
ห้องหนังสือของเชียนฮุ่ยใหญ่โต ตรงกลางห้องเป็นโต๊ะเรียนและดูเหมือนจะกว้างเสียด้วยผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ แต่ละชั้นเต็มไปด้วยหนังสือชนิดต่างๆมีหลายเล่มเก่าเหลือง และขาดรุ่งริ่ง เห็นได้ชัดว่ามันเก่ามาก
สถานที่อย่างนั้น เห็นแล้วปวดหัวจริงๆ....
ถังเทียนกลืนน้ำลายเอื๊อก สำหรับวัยรุ่นเลือดร้อนและกระตือรือร้น สถานที่อย่างห้องหนังสือเป็นที่ง่ายต่อการถูกเยาะเย้ยจริงๆ
โชคดี สมองเชียนฮุ่ยดีกว่า...
ถังเทียนคิดว่าเชียนฮุ่ยปล่อยให้เขาเข้ามาในห้องหนังสือของนาง นี่หมายความว่านางต้องมีบางอย่างเหลือไว้ข้างใน
เชียนฮุ่ยรู้ว่าเขาไม่ใช่คนฉลาด นางต้องไม่ซ่อนของไว้ลึกเกินไป
ถังเทียนมองดูรอบๆ, หืม? สายตายเขาเหลือบไปเห็นชั้นหนังสือชั้นหนึ่ง นัยน์ตาถังเทียนเป็นประกาย หมู่ดาวกางเขนใต้!
เกี่ยวกับสมบัติดาวกางเขนใต้ที่ถังเทียนครอบครองมีแต่เชียนฮุ่ยที่รู้
เป็นไปตามคาด หลังจากเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือถังเทียนก็พบจดหมายที่เชียนฮุ่ยทิ้งไว้ให้เขา
"พี่เทียน! ถ้าท่านอ่านจดหมายนี้แล้ว ก็หมายความว่าข้าตกอยู่ในความยุ่งยากอยู่ที่หมู่ดาวกางเขนใต้ สองปีมานี้ข้าลอบตรวจสอบเกี่ยวกับความลับป้ายความเพียรแห่งหมู่ดาวกางเขนใต้ หมู่ดาวกางเขนใต้มักได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่ดาวเล็กที่สุดที่มนุษย์เคยพบ นอกจากนั้นแล้ว แทบไม่มีข้อมูลอื่นอะไรเลย หมู่ดาวเพอร์ซูสตกต่ำมานานเกินไปและอยู่ไกลจากศูนย์กลางโลกมากเช่นกัน ดังนั้นจึงขาดข้อมูลที่มีค่า ข้าเคยหวังว่าหนังสือเก่าแก่บางเล่มที่อธิบายเกี่ยวกับสมบัติจะให้เบาะแสกับข้าได้"
ถังเทียนมองดูลายมือที่สวยงามของเชียนฮุ่ยและรู้ปลาบปลึ้มใจ เขาสามารถนึกภาพออกว่าเชียนฮุ่ยต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนเพื่อตรวจสอบหาข้อมูลป้ายความเพียรแห่งดาวกางเขนใต้
"ในที่สุด ในหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งข้าได้พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์ หมู่ดาวกางเขนใต้ ครั้งหนึ่งเคยมีกองทัพที่แข็งแกร่งชื่อว่ากองทัพดาวกางเขนใต้ ระหว่างยุคสามกองทัพมหาอำนาจ พวกเขาขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดร่วมกับกองทัพดาวแมงป่องและกองทัพดาวงู ในการศึกสุดท้าย กองทัพดาวแมงป่องชนะและเริ่มตั้งราชวงศ์สกอร์เปียนอย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตกใจก็คือ หลังจากเอาชนะกองทัพดาวกางเขนใต้ได้แล้วหมู่ดาวกางเขนใต้หายไปจากการดูรับรู้อย่างเงียบๆ และในอีกสองสามพันปีต่อมาไม่มีข้อมูลอย่างอื่นเกี่ยวกับหมู่ดาวกางเขนใต้ให้เห็นเลย"
"กองทัพดาวกางเขนใต้ขึ้นชื่อในเรื่องทักษะจักรกล แม้ในวันนี้พวกเขาก็ยังเป็นสุดยอดความเชี่ยวชาญกลไกของโลกความพ่ายแพ้และล่มสลายในประวัติศาสตร์ นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดา การสืบค้นมาหยุดอยู่ตรงนี้ จนกระทั่งวันหนึ่ง จู่ๆ ข้าก็ได้พบคำถามที่แปลกประหลาด"
"สามกองทัพใหญ่มีแสนยานุภาพมากมายกองทัพดาวแมงป่องและกองทัพดาวงูทั้งสองนี้เป็นดาวโคจรในระนาบเดียวกันพวกเขาเป็นตัวแทนกลุ่มดาวที่ทรงอานุภาพ พลังของพวกเขามิอาจคาดคิดได้ แต่กองทัพดาวกางเขนใต้เล่า? หมู่ดาวกางเขนใต้เป็นหมู่ดาวที่เล็กที่สุดแต่กลับผิดปกติ ความเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องกลที่พวกเขามีนั้นได้มาจากไหน? ใครเป็นคนสร้างกองทัพนี้? เดิมทีแล้วพวกเขามาจากไหน?"
"คำถามนี้จุดประกายความอยากรู้ของข้า จนกระทั่งข้าได้พบผู้นำของกองกำลังนี้ เหมิงอี้ผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพดาวกางเขนใต้ เป็นคนที่น่ากลัวมากและร่วมมือกับคนสำคัญเป็นจำนวนมาก เหมิงอี้เป็นหนึ่งในผู้บัญชาการที่แข็งแกร่งที่สุด แต่แตกต่างจากคนอื่นที่เมื่อตรวจสอบย้อนไปไม่มีใครรู้จักประวัติของเขา"
เพราะถังเทียนได้ส่วนตรงนี้ไป เขาจึงไม่ลังเลใจที่จะถามปิง "นี่ลุง, ลุงรู้จักประวัติผู้บัญชากองทัพของลุงหรือเปล่า?"
ปิงขมวดคิ้วและดูเหมือนจะใช้ความคิดอย่างหนัก ครู่ต่อมาเขาก็ส่ายหัว "ข้าไม่รู้ประวัติของผู้บัญชาการจะลึกลับมาก ทุกคนเคยถามเขามาก่อน แต่เขาไม่เคยเปิดเผย"
ถังเทียนอุทาน "โอว"และอ่านต่อไป ปิงยังคงลอยตัวอยู่เหนือหัวเขาและอ่านไปด้วยเช่นกัน
"ในการรวบรวมกองทัพดาวกางเขนใต้ผู้บัญชาการเหมิงอี้ผู้มีประวัติลึกลับนี้จะมีบทบาทที่สำคัญข้าเริ่มค้นหาเบื้องหลังของผู้บัญชาการลึกลับผู้นี้ แต่กองทัพดาวกางเขนใต้อยู่ไกลจากเราและเบาะแสที่เหลืออยู่นั้นน้อยมาก จนกระทั่งเมื่อมีหนังสือเล่มหนึ่งอ้างอิงถึงเขาเมื่ออธิบายถึงผู้บัญชาการคนนี้ เขาอยู่ลึกลงไปในหมู่ดาวกางเขนใต้"
"ลึกลงไปในหมู่ดาวกางเขนใต้? ปิงโพล่งขึ้นมา"เป็นไปไม่ได้ เราได้สืบค้นลึกลงไปจนถึงที่สุดของดาวกางเขนใต้แล้ว! ไม่, เดี๋ยวก่อน!"
ถังเทียนรีบถาม "ทำไม?"
สีหน้าปิงแปลกประหลาดยิ่งขึ้น "มีฐานทัพเล็กๆ อยู่ที่นั่นสร้างโดยท่านผู้บัญชาการ"
ปิงไม่โง่ เขามีความเข้าใจผู้บัญชาการนี้ดีกว่าด้วยการเชื่อมโยงนี้ ทำให้เขาระลึกถึงปัญหาหลายข้อในอดีตได้
"ตอนนั้นทุกคนคิดว่าท่านผู้บัญชาการแปลกแต่เนื่องจากว่าเขามีระดับสูงสุด ถ้าเขาต้องการมัน อย่างนั้นเราก็จะสร้างขึ้น เป็นไปได้ไหมว่ามีความลับซ่อนอยู่ในนั้น?" ปิงพึมพำกับตนเอง
ถังเทียนคงอ่านต่อไป
"กองทัพดาวกางเขนใต้ต้องมีภารกิจที่พวกเขาไม่รู้ตัว หลังจากข้าสืบค้นกองทัพดูก็ยืนยันในจุดนี้ได้มากขึ้น ในบรรดาสามกองทัพใหญ่ มีแต่กองทัพดาวกางเขนใต้ ขาดความทะเยอทะยานที่จะขยายแสนยานุภาพ เรื่องนี้ก็แปลกเช่นกัน
"ลุง,เป็นเช่นนี้หรือ?" ถังเทียนเงยหน้าถาม
"ถูกแล้ว,กองทัพเน้นแต่การป้องกันหมู่ดาวกางเขนเพราะฐานทัพใหญ่อยู่ที่นั่น เราไม่ค่อยกล้าออกมา" ปิงพยักหน้า"มีเขตปกครองอยู่ทั่วทุกที่"
"เป็นไปได้ไหมว่าหมู่ดาวกางเขนใต้ยังมีความลับบางอย่างจริงๆ?" ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
ปิงสั่นศีรษะ "ข้าไม่รู้"
ถังเทียนอ่านต่อไป
"พี่เทียน,ประวัติของป้ายความเพียรแห่งดาวกางเขนใต้ของท่านไม่ง่ายนัก หลังจากยุคสามกองทัพมหาอำนาจใหญ่แล้วสมบัติหมู่ดาวกางเขนใต้ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย ถ้าทางกองทัพรักษาหมู่ดาวไว้ในฐานะที่เป็นฐานทัพใหญ่ อย่างนั้นป้ายความเพียรก็ต้องเป็นหนึ่งในสมบัติที่สำคัญที่สุดของพวกเขาด้วย มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นกุญแจของกองทัพ หลังล่มสลายไปแล้วมรดกความมั่งคั่งของกองทัพหายไปทั้งหมด เหลือแต่ความลึกลับจนถึงวันนี้"
“ข้าสงสัยว่าท่านลุง (พ่อถังเทียน) บางทีคงเคยเข้ามาที่หมู่ดาวกางเขนใต้มาก่อนก็เป็นได้หรือมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ เมื่อข้าพบรอยแยกที่เต็มไปด้วยฝุ่นของหมู่ดาวกางเขนใต้แล้วในขณะที่ท่านยังทำไม่ได้ ถ้าท่านกำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ข้าอาจตกอยู่ในความยุ่งยากบางอย่างแล้วก็เป็นได้ ด้านหลังจดหมายมีแผนที่เส้นทางจากหมู่ดาวเพอร์ซูสไปหมู่ดาวกางเขนใต้ บางส่วนอาจไม่ถูกต้องนัก พี่เทียนขอให้ท่านแค่ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น”
“ข้ารู้,พี่เทียน, ท่านจะต้องมาตามหาข้าจนได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ระวังตัวให้ดี!”
จดหมายจบแค่นี้
“ค่ายทหารใหม่อยู่ที่ไหนเหรอ?นั่นไม่ใช่หมู่ดาวกางเขนใต้หรอกหรือ?” ถังเทียนถามปิง
“ก็ถูก”แต่ปิงสั่นศีรษะ “แต่เป็นดาวที่แตกต่างจากฐานทัพใหญ่ หมู่ดาวกางเขนใต้ประกอบด้วยดาวเคราะห์สี่ดวงเจ้าไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะตลอดทั้งดวงดาวจะถูกผนึกไว้ด้วยหมอกกาลเวลา”
“แล้วเราจะต้องหาทางให้ได้”ถังเทียนยืนกราน