ตอนที่แล้วตอนที่ 6-6 คัมภีร์เวท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่  6-8  จิตสังหารที่รุนแรง

ตอนที่ 6-7 เสียหายหนัก


น้ำในบ่อน้ำพุร้อนแตกกระจายเป็นฟอง ลินลี่ย์ในตอนนี้แนบตัวติดกับพื้นล่างบ่อน้ำพุร้อน

บ่อน้ำพุร้อนมีความลึกไม่มากนัก ลึกประมาณ 2 เมตรกว่าเท่านั้น ลินลี่ย์ในตอนนี้กำลังแนบร่างกับพื้นก้นบ่อน้ำในบ่อน้ำพุร้อนใสมากพอให้ลินลี่ย์สามารถมองเห็นและประเมินสถานการณ์ด้านนอกได้

คนเหล่านี้เป็นใครกัน? เหตุใดนักรบของวิหารเจิดจรัสที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกถึงเสียท่าให้กับพวกมันง่ายดายนักในใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยคำถาม  ไม่ว่ายังไงก็ตามนักรบของวิหารเจิดจรัสอย่างน้อยก็เป็นนักรบระดับ 5 พวกเขาทุกคนล้วนมีความสามารถในการใช้พลังลมปราณ

เป็นไปได้หรือไม่ว่า เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้นักรบเหล่านี้ไม่อาจใช้พลังลมปราณเพื่อป้องกันตัวเองจากกลุ่มหมอกสีดำพวกนั้น?

ในตอนนี้ลินลี่ย์ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเขาจึงไม่กล้าผลีผลามออกไปปะทะกับหมอกสีดำตรงๆ!

"ลินลี่ย์เจ้าหมอกสีดำนี่น่าจะเป็นเวทธาตุมืด เวท'หมอกกร่อนวิญญาณ' เจ้าสามารถใช้พลังลมปราณของเจ้าต้านพลังของมันได้" เสียงของเดลินโคเวิร์ทดังขึ้นในใจ

"แต่นักรบของวิหารเจิดจรัสพวกนั้น...." ลินลี่ย์เอ่ยถาม

"พวกเขาถูกโจมตีด้วยเวทประเภทสะกดใจก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาใช้พลังลมปราณเพื่อต้านเวทนี้”  เดลิน โคเวิร์ท กล่าว

"บุ๋ม บุ๋ม"

จากตัวของลินลี่ย์ , รัศมีวายุเริ่มกระจายเป็นวงออกไป มันคือเวทธาตุลม 'ลมสำรวจ' ทำให้ลินลี่ย์สามารถรับรู้สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้านนอกได้

“เร็วเข้า เราต้องทุ่มสุดตัว วันนี้ลินลี่ย์ต้องตาย!”ชายชุดดำท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวเสียงเย็นชา

ชายชุดดำอีกห้าคนพยักหน้ารับ รีบพุ่งตัวอย่างรวดเร็วไปที่บ่อน้ำพุร้อน

ขณะเดียวกัน...

"ซู่ม!"

ลินลี่ย์พุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำพุร้อนราวกับลูกธนู น้ำสาดกระจายไปทั่ว จากนั้นลินลี่ย์พุ่งตัวลงมาจากข้างบนราวกับพญาเสือกระโจนลงมาจากหน้าผาใส่พวกมันเล็บมือทั้งห้าของเขาเปลี่ยนเป็นกรงเล็บมังกรตวัดไปยังหัวของหนึ่งในชายชุดดำ

"ฮึ่มมม" ร่างของชายชุดดำสั่นเล็กน้อยเขากำลังจะยกมือซ้ายขึ้นเพื่อต้านรับการโจมตีจากกรงเล็บขณะที่มือขวาก็เตรียมทิ่มแทงออกไปด้วยมีดสั้นคมกริบ

ลินลี่ย์เผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา

ทันใดนั้นลมปราณเลือดมังกรสีน้ำเงินดำคลุมแขนขวาของลินลี่ย์ที่กำลังใช้กรงเล็บโจมตีชั้นของลมปราณเลือดมังกรนั้นบางมาก ด้วยชั้นของปราณที่เบาบางราวกับสายลมในบริเวณที่เต็มไปด้วยความมืดจาก คาถา 'หมอกกร่อนวิญญาณ' ทำให้ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจน สำคัญกว่านั้นคือ...เล็บมือของลินลี่ย์เปลี่ยนเป็นกรงเล็บคมกริบในชั่วพริบตา

ชิ้ง! มือขวาของลินลี่ย์แทงทะลุผ่านไหล่ของชายชุดดำอย่างง่ายดายขณะเดียวกันมือขวาของลินลี่ย์ก็บิดหมุนอย่างรุนแรง

"โพละ!!!"

หน้าอกซ้ายของชายชุดดำระเบิดกระจาย เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ชายชุดดำตายทันทีแต่ก่อนตายตาของเขาเบิกกว้าง เพราะมีดของเขาไม่อาจแทงทะลุผ่านผิวของลินลี่ย์ได้ไม่มีกระทั่งรอยขีดข่วนด้วยซ้ำ

" 'เกราะหยก' เวทธาตุดินระดับ 7 สร้างดินมาคลุมร่างและเปลี่ยนให้เป็นหยกเจ้าคิดหรือว่าการโจมตีแค่นั้นจะทะลุการป้องกันของเกราะหยกได้ง่ายๆงั้นรึ" ลินลี่ย์คิดในใจ"อย่าว่าแต่เกราะหยกเลย ผิวหนังของข้ายังสามารถเปลี่ยนเป็นเกล็ดมังกรเกราะหนามได้ทันที"

ตอนนี้เมื่อลินลี่ย์ใช้ร่างแปลงมังกรสมบูรณ์ของนักรบเลือดมังกรเขาจะมีพลังอยู่ในขั้นต้นของนักรบระดับ 8

และเมื่อใช้ 'ร่างแปลงมังกร' ลินลี่ย์ได้รับสืบทอดคุณสมบัติของเกล็ดจากมังกรเกราะหนามมาด้วยซึ่งพลังป้องกันของมันนั้นสูงจนน่าทึ่ง เกล็ดสีดำของลินลี่ย์แข็งยิ่งกว่าเกราะหยกเสียอีกดูจากพลังที่ชายชุดดำโจมตีเขาด้วยมีด เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาเป็นยอดฝีมือระดับ 7

น่าเสียดาย ที่พลังป้องกันของยอดฝีมือระดับ 7ไม่มีทางป้องกันการโจมตีจากกรงเล็บของลินลี่ย์ได้แม้แต่น้อยนี่คือกรงเล็บมังกรจากร่างมังกรแปลงของนักรบเลือดมังกร และยิ่งกว่านั้นนี่เป็นเพียงร่างแปลงกึ่งมังกรเท่านั้น

"เป็นไปได้อย่างไร?" ชายชุดดำอีกสี่คนตกตะลึง

จากข้อมูลที่พวกเขาได้รับมาก ลินลี่ย์เป็นเพียงจอมเวทสองธาตุระดับ 7และทักษะนักรบของเขานั้นต่ำกว่าระดับ 7 มาก พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่านักฆ่าระดับ 7จะไม่อาจทนรับแม้แต่หมัดของเขาเพียงหมัดเดียว

"หน่วยข่าวกรองทำงานพลาด!"ผู้นำของชายชุดดำที่ยืนอยู่ด้านหลังก่นด่าในใจ

แต่ลินลี่ย์กลับแอบพยักหน้ายอมรับในใจ "ดูไปแล้ว หากใช้ร่างแปลงกึ่งมังกรผู้ใช้จะสามารถโจมตีทะลุพลังป้องกัน และยังทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส"

"เจ้าพวกพันธมิตรมืด"เสียงคำรามรุนแรงได้ยินเสียงออกมาจากด้านนอกอุทยานน้ำพุร้อน ลินลี่ย์เข้าใจว่าอัศวินจากวิหารเจิดจรัสอีกกลุ่มพุ่งตรงเข้ามาพร้อมเกราะป้องกันของพวกเขาอัศวินสิบกว่าคนที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอัศวินที่มีทั้งหมดกว่าหนึ่งร้อยคน

สีหน้าของผู้นำของชายชุดดำเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว

"ไม่ว่าต้องไปสนใจ ฆ่าลินลี่ย์ให้ได้" ผู้นำชายชุดดำตะโกน

จากนั้นเขานำชายชุดดำที่เหลืออีกสี่คนล้อมโจมตีลินลี่ย์มีดสีดำในมือเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายของความมืดดูเหมือนพวกเขาจะทุ่มพลังทั้งหมดของพวกเขาลงไปกับมีดในมือเรียบร้อยแล้ว

พวกเขาเตรียมต่อสู้แลกชีวิตแล้ว!

"นักรบระดับ 7 งั้นรึ?".

มองเห็นกลุ่มคนชุดดำโจมตีเข้ามา ลินลี่ย์ไม่หลบซ่อนอีกแล้ว ลินลี่ย์ใช้มือขวาแตะเอวของเขาทันใดนั้น...

แสงเย็นเยียบและอำมหิตสีม่วงพุ่งวาบออกมา

ขณะเดียวกัน ลินลี่ย์พุ่งถอยหลังอย่างรวดเร็ว ในคนทั้งห้าที่กำลังโจมตีลินลี่ย์เหลืออยู่เพียงสี่คนที่ยังคงอยู่จุดเดิมของพวกเขาในขณะที่คนสุดท้าย ผู้นำกลุ่มรีบพุ่งถอยอย่างรวดเร็ว

"ฉัวะ!"

หน้าท้องของชายชุดดำทั้งสี่ถูกเฉือนเปิดออกกระเพาะอาหารและลำไส้ไหลออกมาและกองบนพื้น โลหิตฉีดพุ่งกระจายไปทั่ว

“รวดเร็วและเฉียบคม” ผู้นำของชายชุดดำเบิกตากว้างมองลินลี่ย์อย่างไม่อยากจะเชื่อ

เพียงกระบี่เดียวเดียว ฆ่านักรบระดับ 7 ได้ 4 คน นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว

ลินลี่ย์รู้ความคมของกระบี่เทพเลือดม่วงดี แต่แค่ความคมของกระบี่เทพเลือดม่วงอย่างเดียวก็ยังยากที่จะเจาะทะลุพลังป้องกันสัตว์เวทระดับ 7 เหมือนกันกับที่นักรบระดับ 7ใช้พลังลมปราณเพื่อป้องกันร่างกายของเขา ลินลี่ย์ไม่อาจฆ่าพวกเขาได้ทำได้อย่างมากก็แค่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น

แต่ว่าชายชุดดำทั้งสี่ทุ่มพลังทั้งหมดไปกับการโจมตีหมดแล้ว

พวกเขาคาดไม่ถึงว่าลินลี่ย์ยังมีกระบี่ติดตัวอีกเล่มหนึ่ง

"หากข้าต้องการเพิ่มพลังให้กระบี่เทพเลือดม่วง ข้าต้องถ่ายเทพลังลมปราณเลือดมังกรลงไปในกระบี่แต่หากสถ่ายเทพลังลมปราณเลือดมังกรลงไปในกระบี่เทพเลือดม่วงความเร็วจะลดลงแต่หากข้าถ่ายเทพลังเวทธาตุลมเข้าไปแทนละก็?" ตอนนี้ลินลี่ย์กำลังเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของพลังเวทกับพลังลมปราณ

จริงอยู่ว่า ลินลี่ย์ตวัดกระบี่เพียงครั้งเดียวก็ฆ่าไปสี่คน

เขาอาศัยความเร็วที่มองแทบไม่ทันของเขาโจมตีอย่างรวดเร็วจนศัตรูไม่อาจตอบสนองได้ทัน

แค่อาศัยเพียงความเร็วและความคมของกระบี่เท่านั้นก็เพียงพอที่จะฆ่านักรบระดับ6 หรือทำให้นักรบระดับ 7 บาดเจ็บสาหัสได้อย่างไม่ยากเย็น หากนักรบระดับ 7ทำเช่นเดียวกับนักฆ่าทั้งสี่คนนี้ทุ่มเทพลังลมปราณทั้งหมดไปกับการโจมตีแลกชีวิตกับศัตรูและไม่สนใจที่จะป้องกัน ยิ่งทำให้ฆ่าพวกเขาได้ง่ายขึ้น

"แต่ผู้นำของพวกมันไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก" ลินลี่ย์มองไปยังผู้นำของกลุ่มชายชุดดำ

เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าพลังของชายชุดดำคนนี้ เหนือกว่าระดับ 7

การถ่ายเทพลังเวทธาตุลมให้กระบี่เทพเลือดม่วงทำให้กระบี่เคลื่อนไหวรวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้นก็จริงแต่มันไม่ได้เพิ่มพลังโจมตีให้ด้วย  แต่หากเขาถ่ายเทพลังลมปราณเลือดมังกรให้กระบี่เทพเลือดม่วงแทนเขาจะสามารถเพิ่มพลังโจมตีได้ แต่ความเร็วในการโจมตีจะไม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

"เจ้าเศษสวะ"

เสียงคำรามอย่างโกรธแค้นปะทุขึ้นจากด้านขวานอกอุทยานน้ำพุร้อนเห็นได้ชัดเลยว่าเหล่าอัศวินแห่งวิหารเจิดจรัสได้เห็นซากศพเพื่อนๆของพวกเขาแล้วและกำลังโกรธแค้นจนแทบคลั่ง

“ลินลี่ย์ พวกเราคาดไม่ถึงว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเช่นนี้ช่างน่าเสียดายจริงๆที่เจ้าไปอยู่ฝ่ายวิหารเจิดจรัส ดังนั้น...”ผู้นำกลุ่มชายชุดดำดูเหมือนจะไม่สนใจผู้คนด้านนอก เขาพูดกับลินลี่ย์อย่างนุ่มนวล

น้ำเสียงของผู้นำกลุ่มชายชุดดำดูเหมือนจะมั่นใจอะไรบางอย่าง ตอนแรกลินลี่ย์ก็ไม่ได้สังเกตมากนักแต่ในขณะที่ชายชุดดำพูดออกมาใกล้จบ ลินลี่ย์พลันรู้สึกว่าจิตใจของเขาสับสนและสายตาพร่าเลือน

"เจ้าจงตายซะ!"

มีดสีดำของชายชุดดำมาพุ่งตรงมาที่หน้าอกของลินลี่ย์เกือบจะในทันที

"ลินลี่ย์!" เดลิน โคเวิร์ท ส่งเสียงตะโกนดังก้องในจิตใจของลินลี่ย์  ทันใดนั้นเองความรู้สึกของลินลี่ย์ก็กลับมา

"กร้วม!"

ผู้นำกลุ่มชายชุดดำเบิกตามองไปที่เอวของเขาอย่างเหลือเชื่อเอวของเขาถูกกัดหายเกือบครึ่งกล้ามเนื้อของเขายังคงสั่นและโลหิตฉีดพุ่งออกมาเป็นสายน้ำชายชุดดำรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเรี่ยวแรงของเขากำลังหดหายไปพลังชีวิตของเขากำลังไหลออกไปอย่างรวดเร็ว

"นี่มันหนูเงา....."

ผู้นำกลุ่มชายชุดดำมองอย่างโง่งมไปยังหนูเงาสีดำข้างตัวลินลี่ย์

หนูเงาสีดำน่าจะเป็นสัตว์เวทที่มีระดับสูงสุดไม่เกินระดับ 4  ผู้นำกลุ่มชายชุดดำคนนี้เป็นถึงนักรบระดับ 8หนูเงาสีดำไม่น่าจะทำอะไรเขาได้นี่เป็นเหตุผลที่ผู้นำกลุ่มชายชุดดำไม่สนใจมันแม้แต่น้อย

แต่...

ตอนนั้นเอง เจ้าหนูเงาสีดำน้อยตัวนั้นพุ่งเข้ามาอ้าปากจนกว้างอย่างรวดเร็วจากนั้นกัดเข้าที่เอวของเขาเต็มคำอย่างโหดเหี้ยม

"ฮึ่มมมม! ดูซิว่าเจ้ายังจะทำท่าอวดดีต่อหรือไม่? เจ้าควรจะภูมิใจที่ข้า, บีบีลงมือฆ่าเจ้าด้วยตัวเองนะ" บีบียืนอยู่ข้างศพของผู้นำกลุ่มชายชุดดำเชิดหัวเล็กๆของมันอย่างภาคภูมิใจ

ลินลี่ย์อดหัวเราะออกมาไม่ได้

บีบีเป็นอสูรเวทที่ไม่ธรรมดานอกจากจะสามารถทนการโจมตีก่อนตายของมังกรแกราะหนามได้แล้ว บีบียังสามารถกัดทะลุเกล็ดขนาดใหญ่ของมังกรลมกรดระดับ8 ได้ด้วย! ไม่ว่าจะเป็นโจมตีหรือป้องกัน บีบีในตอนนี้ล้วนแล้วแต่ทรงพลังสุดยอด

จุดอ่อนเดียวของมันคือ...ตัวของมันเล็กเกินไป

แม้ว่าถ้าบีบีจะสามารถกัดสัตว์เวทตัวใหญ่ยักษ์ได้แต่บีบีไม่อาจเคี้ยวทะลุเกล็ดหนาขนาดใหญ่หรือผิวหนังได้ในคำเดียว

"ไอ้สารเลว"

เหล่าอัศวินของวิหารเจิดจรัสส่งเสียงโหยหวนออกมาด้วยความโกรธแค้นพุ่งเข้ามาอยู่ข้างลินลี่ย์พวกเขาพร้อมจะต่อสู้กับศัตรู...แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นกลับเป็นซากศพนอนเกลื่อนกลาด

“นายท่าน ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่” ผู้นำกลุ่มอัศวินเอ่ยถามทันที

ขณะนี้ รูปลักษณ์ของลินลี่ย์ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ทั้งผมเผ้าหน้าตาและทั่วร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด

"ข้าสบายดี มีแค่บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น" ลินลี่ย์กล่าว "จัดการเก็บกวาดศพทั้งหมดด้วยข้าจะไปพักผ่อน" พูดจบ ลินลี่ย์ก็เดินออกจากอุทยานน้ำพุร้อนทันทีและตอนนี้เมื่อเหล่าอัศวินก้มลงมองศพ พวกเขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

ศพของผู้นำกลุ่มชายชุดดำช่วงเอวขาดรุ่งริ่งราวกับมันได้ถูกอะไรบางอย่างกัดขาดหรืออาจจะถูกตัดด้วยกรงเล็บ

นักฆ่าอีกสี่คน ถูกฟันขาดครึ่งตัวขณะที่คนสุดท้ายดูเหมือนว่าหน้าอกด้านซ้ายถูกระเบิดออก เผยให้เห็นกระดูกของเขา

"อะไรกัน...ได้ยังไง..."

กลุ่มอัศวินมองอย่างเซื่องซึม ปากพวกเขาอ้าค้าง ไม่อาจนึกภาพได้ว่าลินลี่ย์ จอมเวทผู้หนึ่งทำให้ศัตรูตายเยี่ยงนี้ได้ยังไง

………

อารามเจิดจรัสชั้นบนสุด

ร่างผอมสูงของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อคลุมยาวสีเงินขาวเขานั่งบนเก้าอี้ท่าทางสบายๆ กำลังพลิกหนังสือบางอย่างอ่านศีรษะล้านเลี่ยนส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์

"จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์" กิลเยโมในชุดคลุมสีแดงโค้งคารวะด้านหน้าเขา

"หืมมม?" จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กระพริบตาของเขาขึ้นมามองกิลเยโม

การถูกมองโดยจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ให้ความรู้สึกราวกับถูกกดทับด้วยหินหนัก15,000 กิโลกรัมกิลเยโมกล่าวอย่างนอบน้อมว่า "องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ วันนี้พันธมิตรมืดพยายามจะลอบสังหารลินลี่ย์แต่โชคดี ที่ลินลี่ย์เป็นนักรบที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง เขาจัดการฆ่านักฆ่าทั้งหมดทิ้งและมีเพียงบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น"

"ฆ่าพวกมันหมด?"

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มองกิลเยโมด้วยดวงตาหยกสีฟ้าของเขาพร้อมกับหัวเราะเบาๆเขากล่าวว่า "กิลเยโม เป็นไปได้ว่าพันธมิตรมืดรู้ว่าลินลี่ย์เป็นจอมเวทสองธาตุระดับ7 พวกเขาจึงได้ส่งเพียงแค่กลุ่มนักฆ่าอ่อนแอมางั้นรึ?"

"เรียนองค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ นักฆ่ากลุ่มนี้แข็งแกร่งมาก ผู้นำกลุ่มนักฆ่าเป็นยอดฝีมือในการใช้เวทธาตุมืด"กิลเยโมรีบตอบ

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้พูดต่ออีก ยิ้มเล็กน้อยมองกิลเยโม

"กิลเยโม เจ้ากำลังจะบอกอะไร?..."

กิลเเยโม พยักหน้า "ลินลี่ย์เป็นอัจฉริยะที่ต้องได้รับการฝึกฝนอย่างดีโดยวิหารเจิดจรัสสำคัญกว่านั้น ลินลี่ย์ไม่เพียงมีพรสวรรค์สูง เขายังขยันฝึกอย่างหนักข้าเชื่อว่าในอีกห้าสิบปีข้างหน้า มีโอกาสสูงมากที่ลินลี่ย์จะกลายเป็นนักสู้ระดับเซียนและในอีกร้อยปี...ลินลี่ย์จะเป็นหนึ่งในนักสู้ระดับเซียนของทวีปยูลาน"

หากคนผู้หนึ่งไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อมในอนาคต ชีวิตเขาจะเต็มไปด้วยปัญหา

วิหารเจิดจรัสและพันธมิตรมืดดำรงอยู่มานานหลายพันปีแล้วพวกเขาดำรงอยู่มาก่อนกระทั่งย้อนกลับไปเมื่อครั้งจักรวรรดิยูลานยังคงปกครองทวีปยูลานอยู่

เหตุผลที่พวกเขาสามารถอยู่รอดเป็นเวลานานมากเนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจดีถึงความสำคัญของการฝึกฝนเหล่าอัจฉริยะ

ขยายอาณาเขตอย่างต่อเนื่อง เพิ่มจำนวนผู้ศรัทธาอย่างต่อเนื่องฝึกฝนเหล่าอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ลินลี่ย์อาจยังไม่แข็งแกร่ง แต่อีกร้อยปีให้หลังเล่า? ไม่แน่ว่าเขาอาจจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เพื่อบรรลุเป็นนักรบระดับเซียน เวลาแค่ร้อยปีถือว่าไม่นานเลย

"นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องการให้ลินลี่ย์ได้รับการแนะนำที่ดีกว่าเช่นเดียวกับการปกป้องที่ดีกว่า อีกนัยหนึ่ง...ข้าหวังว่าลินลี่ย์จะได้รับการฝึกฝนจากใต้เท้า 'ใบไม้ร่วง' ขอรับ" กิลเยโมกล่าว

“ท่านใบไม้ร่วงงั้นรึ?’'

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สะดุ้ง แต่แล้วเขาได้พยักหน้า "ดี แต่ก่อนอื่นเจ้าต้องไปแจ้งให้เขาทราบและอนุญาตก่อน ข้าไม่อาจตัดสินใจเรื่องนี้แทนท่าน 'ใบไม้ร่วง' ได้"

"ทราบแล้วครับ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์"

กิลเยโม ทำความเคารพและออกไป

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มองตามหลังกิลเยโมที่เดินออกไปด้วยดวงตาหยกสีฟ้าของเขาและเหม่อมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง"เขาฆ่ากลุ่มผู้บุกรุกทั้งหมดเลยงั้นรึ? บาลุค... บาลุค...หืม ดูเหมือนว่าตระกูลบาลุคจะเป็นหนึ่งในตระกูลสี่สุดยอดตระกูลนักรบ, ตระกูลนักรบเลือดมังกรสินะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด