ตอนที่แล้วตอนที่ 6-2 การตัดสินใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6-4 สนทนายามราตรี

ตอนที่ 6-3 ชุมนุมใหญ่ในเมืองน้อย


กลางดึกคืนนั้น ณ ห้องนอนของลินลี่ย์

เสียงของกล้ามเนื้อและกระดูกดังออกมาอย่างต่อเนื่องจากร่างกายของลินลี่ย์ในขณะที่ผิวหนังของลินลี่ย์ส่วนใหญ่พองออกแล้วยุบลง เหงื่อเป็นเม็ดผุดออกมาจากรูขุมขนทั่วร่างของลินลี่ย์แต่หน้าของลินลี่ย์ยังคงนิ่งและสงบเงียบ

ตอนนี้ ลินลี่ย์กำลังฝึกฝนตามคำภีร์ลับเลือดมังกร

ตอนที่ลินลี่ย์กระตุ้นเลือดมังกรในสายเลือดของเขาครั้งแรกเขากระโดดข้ามขั้นเลื่อนไปเป็นนักรบระดับ 6 ตามบันทึกในคำภีร์ลับเลือดมังกรผู้ที่จะฝึกฝนได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีสายเลือดมังกรเข้มข้นสูงเป็นอย่างแรกนั่นเป็นสาเหตุให้คนผู้นั้นพัฒนาไปได้เร็ว

เส้นทางฝึกฝนนั้นยังต้องมีอีกยาวไกลนัก และจะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาถึงจุดสูงสุดของระดับ 9หากใครก็ตามต้องการทะลวงผ่านไปสู่ระดับเซียนเขาต้องเสียเวลามากกว่าเวลาที่ใช้ในการทะลวงผ่านระดับอื่นๆรวมกัน

"ตอนนี้วิหารเจิดจรัสตีค่าของตัวข้าไว้สูง นอกจากนี้ข้ายังมีฐานะเป็นนักแกะสลักระดับอาจารย์ฐานะส่วนตัวของข้าสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้ข้ากลับไม่มีพลังมากพอแม้ว่าพวกเขาจะเคารพข้า แต่นั่นเพราะตัวข้ามีศักยภาพ หากข้าต้องการจะแก้แค้นตัวข้าในตอนนี้ไม่มีพลังมากพอที่จะแก้แค้นสำเร็จ"

ลินลี่ย์รู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่มีพลังมากเพียงพอ อย่างไรก็ตามเขายังไม่อาจใช้ร่างมังกรแปลงของนักรบเลือดมังกรได้ดั่งใจเมื่อเขาต้องการฆ่าใครสักคน

เว้นแต่เมื่อเป็นสถานการณ์วิกฤตจริงๆ หาไม่แล้วลินลี่ย์ไม่อยากเผยตัวตนนักรบเลือดมังกรของเขาออกไปเพราะว่าเมื่อมีคนรู้ว่าเขาสามารถแปลงร่างเป็นนักรบเลือดมังกรได้เมื่อใด เขาจะตกอยู่ในอันตรายไม่ว่าอย่างไร ชื่อเสียงของนักรบเลือดมังกรนั้นยิ่งใหญ่เกินไป

เมื่อนักรบเลือดมังกรทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนได้ เขาจะกลายเป็นยอดยุทธระดับเซียนอย่างแน่นอน

"นายท่าน ท่านฝึกหนักหนักเกินไปแล้ว" บีบีนอนดูลินลี่ย์ฝึกอยู่บนเตียง

นอกจากบีบี, เดลินโคเวิร์ทเองก็ดูอยู่ข้างๆ เดลิน โคเวิร์ทสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าสภาพจิตใจของลินลี่ย์ตอนนี้เป็นอย่างไรบิดาของเขาเสียชีวิตกะทันหันและเขาก็พบว่ามารดาเขานั้นก็ไม่ได้ตายเพราะการคลอดบุตรนอกจากนั้นยังถูกลักพาตัวไปอีกด้วย ข่าวที่ได้รับทราบมาอย่างกะทันหันทั้งสองข่าวนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับผู้ให้กำเนิดของลินลี่ย์

จิตใจที่แหลกสลายครั้งนี้หนักหนายิ่งกว่าตอนที่อกหักจากอลิซเสียอีก

เดลิน โคเวิร์ทรู้สึกได้ถึงความเกลียดชังและอาฆาตในหัวใจของลินลี่ย์ เดลินโคเวิร์ทรู้ดีว่าหากลินลี่ย์ไม่อาจหาทางระบายความเกลียดชังนี้ออกไปเขาอาจจะกลายเป็นปีศาจอำมหิต

"ข้าหวังว่าลินลี่ย์จะล้างแค้นให้ได้เร็วๆ มิฉะนั้นหากเขายังคงอยู่ในสภาพนี้นานเกินไป จะทำให้หัวใจของเขามีแต่ความเกลียดชังมากขึ้นมากขึ้นและมากขึ้น" เดลิน โคเวิร์ทเริ่มเป็นห่วง

…..

เช้าวันรุ่งขึ้น

ในคฤหาสน์ตระกูลบาลุค บ่าวรับใช้มากมายได้เตรียมอาหารทุกประเภทให้พร้อม เมื่อลินลี่ย์เดินออกมาจากห้องนอนของเขาเขามองเห็นพวกเขากำลังวุ่นวายกันอยู่

"ลินลี่ย์ เป็นไปได้ว่าคนที่กำลังจะมาในวันนี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนสำคัญเจ้าจะต้อนรับพวกเขาอย่างไร?" เดลิน โคเวิร์ทปรากฏตัวขึ้นข้างลินลี่ย์

ทั้งลินลี่ย์และเดลิน โคเวิร์ทคาดเดาได้อย่างแม่นยำ คนสำคัญของเมืองเฟนไลและวิหารเจิดจรัสได้ทราบข่าวของการเสียชีวิตของบิดาของลินลี่ย์อย่างรวดเร็ว 80% ถึง 90%ของพวกเขาจึงได้มาแสดงความเคารพต่อบิดาของลินลี่ย์ ดังนั้นเป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะต้องต้อนรับพวกเขา

วัตถุดิบที่ลินลี่ย์ได้จัดเตรียมไว้อาจจะถือว่าไม่แย่ แต่ฝีมือของคนครัวนั้นอ่อนหัดเกินไปมีพ่อครัวเพียงสองคนทั้งเมืองอู่ซันคนที่มีทักษะการทำอาหารพอจะพิจารณาได้ว่าพอใช้ได้

"เจ้าจะปล่อยให้พ่อครัวสองคนจากเมืองเล็กๆนี้ต้อนรับบุคคลสำคัญเหล่านี้หรือ?" เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะ

"ปล่อยให้พวกเขาได้ลิ้มรสชาติอาหารท้องถิ่นบ้านเกิดของข้าบ้างนี่นับว่ามากพอแล้ว" หลังจากพูดจบ ลินลี่ย์ไปกินอาหารเช้าทันที หลังอาหารเช้าลินลี่ย์ยังคงนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของป้ายวิญญาณคอยมองดูพิธีกรรมไว้ทุกข์แสดงความกตัญญู เจ็ดโมงเช้าได้ยินเสียงกีบเท้าม้าดังมาจากด้านนอกคฤหาสน์ตระกูลบาลุค

รถม้าที่หรูหรามากวิ่งเข้ามาจอดที่ด้านนอกของคฤหาสน์

"น้องสาม!" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

ขณะที่ยังคุกเข่าอยู่ในห้องโถงใหญ่ ลินลี่ย์หันหน้ากลับไปและเห็นเยล,จอร์จและเรย์โนลด์วิ่งเข้ามาข้างในหลังจากหัวใจได้รับความเจ็บปวดสาหัสจากเรื่องหนักๆสองเรื่อง ลินลี่ย์ตอนนี้รู้สึกหดหู่เป็นอย่างยิ่งแต่เมื่อได้เห็นพี่น้องทั้งสามของเขาซึ่งเติบโตขึ้นมาด้วยกันกับเขาที่สถาบันเอินส์ ก็เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนหน้าของลินลี่ย์

เมื่อเข้ามาในห้องโถงใหญ่ เยล, จอร์จ และ เรย์โนลด์ทั้งหมดคุกเข่าลงบนพรมรองเข่าที่อยู่ตรงกลาง

"น้องสาม ข้าเพิ่งได้ข่าวเมื่อคืนก่อนเรื่องบิดาเจ้าเสียชีวิต ตลอดทั้งคืนข้าได้ส่งข่าวเรียกน้องรองและน้องสี่ให้มาสมทบกับข้า ข้าเดาว่าวันนี้น่าจะมีขุนนางมากมายมาที่นี่ดังนั้นข้าจึงได้พาพ่อครัวจากเมืองเฟนไลมาด้วยอีกหลายคน"เยลพูดด้วยเสียงนุ่มนวล

"ขอบคุณ" ลินลี่ย์สามารถจินตนาการได้ว่าพี่น้องทั้งสามของเขานั้นต้องยุ่งวุ่นวายเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

จ้างพ่อครัว, เตรียมขบวนคาราวาน ส่วนเรย์โนลด์และจอร์จก็รีบเดินทางมุ่งหน้ามาที่นี่โดยตรงจากสถาบันเอินส์และนัดเจอกับเยลระหว่างทางตอนกลางคืนและจากนั้นเดินทางมาถึงที่นี่ด้วยกัน

"น้องสาม หักห้ามใจไว้บ้าง" จอร์จตบไหล่ลินลี่ย์เบาๆ

เรย์โนลด์เองก็อยู่ข้างๆลินลี่ย์ "ลินลี่ย์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้ายังมีพวกเราสามพี่น้องอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าปล่อยให้ตัวเจ้าเองหลงทาง เข้มแข็งเข้าไว้"

ลินลี่ย์มองเรย์โนลด์เผยให้เห็นรอยยิ้มบนหน้าเขา

ลินลี่ย์รู้สึกได้หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินที่เรย์โนลด์ผู้ซึ่งปกติแล้วเป็นคนที่ซุกซนที่สุดในกลุ่มพวกเขาทั้งหมด พูดเช่นนี้ออกมา

ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเมื่อใดก็ตาม เขามักจะมีพี่น้องทั้งสามอยู่ด้วยเสมอ

"ขอบคุณพวกท่านทุกคน" ลินลี่ย์มองเยล "พี่ใหญ่เยลข้าขอมอบหน้าที่เจ้าภาพต้อนรับขุนนางทั้งหมดให้ท่านดูแล ข้าไม่มีประสบการณ์มากพอทำหน้าที่นี้"

เยลพยักหน้า "ไม่ต้องห่วง ข้าพาผู้คนมามากพอพวกเขาจะต้อนรับทุกคนและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแน่นอน"

….

ตลอดทั้งวันนี้เมืองเล็กๆค่อนข้างเงียบสงบอย่างอู่ซันกลับคึกคักจอแจ วันแล้ววันเล่าชาวเมืองอู่ซันจับกลุ่มพูดคุยและหารือเกี่ยวขุนนางที่เพิ่งจะผ่านไป

"กลุ่มที่มาตอนเช้านั้นมีม้าอย่างน้อย 4 ตัวและรถม้าคันใหญ่หรูหราทั้งหมดนั้นเป็นอัศวินผู้กล้าว้าว...ข้าไม่เคยเห็นกองทหารอัศวินชั้นยอดแบบนี้มาก่อน" ชายชราคนหนึ่งถอนหายใจอย่างยกย่องขณะที่เขาจ้องมองไปที่กองทหารประจำการนอกคฤหาสน์ของตระกูลบาลุค

ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงพยักหน้าเห็นด้วยกับคำชมนั้น

เมืองเล็กๆธรรมดาเช่นเมืองนี้พวกเขาจะมีโอกาสพบกับขุนนางร่ำรวยเหล่านี้บ่อยได้อย่างไร? กองทหารอัศวินนั่นที่ลินลี่ย์พามากับเขาตอนที่เขากลับมาบ้านด้วยตัวมันเอง ก็เป็นที่มาของการพูดคุยในหมู่ชาวบ้านไม่มีที่สิ้นสุด

"พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร? คุณชายลินลี่ย์เป็นขุนนางทรงอำนาจที่โลกภายนอกหรือเปล่า?" หญิงสาวนางหนึ่งเดา "เมื่อสองวันก่อน ข้าเห็นลินลี่ย์นำกองทหารอัศวินนั่นมาพร้อมกับเขาตอนกลับมาบ้าน"

เมืองอู่ซันเล็กๆตอนนี้เต็มไปด้วยการสนทนาอย่างต่อเนื่องและการคาดเดาไปต่างๆนาๆ

และแล้ว ในช่วงกลางของวันประมาณ 11โมงหรือประมาณนั้น...แผ่นดินเริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง ชาวเมืองอู่ซันเล็กๆทั้งหมดสามารถรู้สึกได้ถึงเสียงควบม้าที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นมีระเบียบเรียบร้อย

เวลานี้เสียงกีบเท้าม้าครั้งนี้หนักแน่นกว่ายิ่งกว่าตอนที่เยลเดินทางมามากมายนัก

กองทหารม้าสวมเกราะเงาแวววับท่าทางทรงพลังมากควบผ่านไปด้านหลังพวกเขาตามมาด้วยรถม้าคันใหญ่หรูหราเทียมด้วยม้าชั้นดี 4 ตัว สารถีเองก็ดูเป็นนักรบที่ทรงพลังมากเช่นกัน

ด้านหลังรถม้าทั้งสองมีขบวนรถลากที่บรรจุด้วยของขวัญ ภายใต้การคุ้มกันของหน่วยอัศวิน

ชาวเมืองอู่ซันทั้งหมดได้แต่ชะเง้อคอมองดู

กองอัศวินชั้นยอดของวิหารเจิดจรัสแผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามออกมาทำให้ชาวเมืองอู่ซันรู้สึกเหมือนถูกภูเขากดทับลงมาใส่พวกเขาชาวเมืองทุกคนรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงหัวใจและความหรูหรางดงามของรถม้าทั้งหมดเป็นประกายจับตามันถึงกับทำให้พวกเขาต้องหยีตามอง

"คนพวกนี้เป็นใครกันแน่?" ชาวเมืองอู่ซันเต็มไปด้วยความตกใจและแปลกใจ

ขบวนรถม้านี้สุดท้ายแล้วก็มาหยุดอยู่หน้าคฤหาสน์ของตระกูลบาลุค

ที่คฤหาสน์ของตระกูลบาลุค มีผู้คนมากมายมาช่วยดูแลม้าและนำรถม้าไปจอดที่คอกม้า

"ใต้เท้าคาร์ดินัลกิลเยโมและแลมป์สันมาถึงแล้ว!"

เสียงแหลมสูงดังออกมาจากในคฤหาสน์ของตระกูลบาลุคสร้างความแตกตื่นอย่างมากให้กับชาวเมืองอู่ซัน

นั่นเป็นคาร์ดินัลทั้งสองจริงๆ!

ในสายตาของชาวเมืองในสังกัดของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ คาร์ดินัลของวิหารเจิดจรัสเป็นบุคคลที่สูงส่งมากในหัวใจของพวกเขาคาร์ดินัลเป็นเหมือนดวงดาวที่ส่องสว่างบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมองดูสวยงาม แต่จับต้องไม่ได้ แต่วันนี้คาร์ดินัลจากวิหารเจิดจรัสถึงสองท่านเดินทางมาที่เมืองอู่ซันจริงๆ

"กุบกับ!" "กุบกับ!" "กุบกับ!"เสียงกีบเท้าม้าดังมาให้ได้ยินอีกครั้งไม่นานนักหลังจากที่กองทหารกับคาร์ดินัลได้เข้ามาในเขตเมือง กองทหารที่คล้ายกันอีกกองหนึ่งก็ตามมาเช่นกันพร้อมกับรถม้าหรูหรายิ่งกว่านั่นรวมถึงข้ารับใช้สาวงามและมหาดเล็กที่มีผิวขาวราวกับผู้หญิง

รถม้านั้นหรูหรามากด้วยมันเป็นทองคำทั้งคัน

กองอัศวินชั้นยอดกำลังแสดงทักษะขี่ม้าชั้นเยี่ยมเสียงกีบเท้าม้ากระทบพื้นพร้อมกันราวกับเสียงตีกลองชั้นยอดใบนึงกำลังเขย่าหัวใจของชาวเมืองเล็กๆอย่างอู่ซัน

ชาวเมืองอู่ซันต่างตกตะลึง

"ผู้คนเหล่านี้เป็น...ใครกันแน่ ?" ชาวเมืองส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นคนเช่นพวกเขามาก่อนในชีวิต

เมื่อกองทหารใหม่นี้มาถึงนอกคฤหาสน์ตระกูลบาลุคเสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งจากภายในคฤหาสน์ "องค์ราชาเคลย์แห่งเฟนไลมาถึงแล้ว!"

"องค์ราชา!"

ชาวเมืองทั้งหมดมองหน้ากันเอง

สำหรับประชาชนของอาณาจักรแล้ว ราชาของอาณาจักรเป็นดั่งดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้าทั้งมีอำนาจกำหนดชีวิตและความตาย แต่กับองค์ราชาผู้ซึ่งควรจะประทับอยู่ในพระราชวัง ตอนนี้ได้เดินทางมาที่เมืองเล็กๆอย่างเมืองอู่ซันแล้วจริงๆ

เสียงกีบเท้าม้าดังอย่างต่อเนื่อง

กองทหารหนึ่งมาถึงขณะที่กองทหารอื่นๆตามมาติดๆ รถม้าคันแล้วคันเล่ามาหยุดที่หน้าคฤหาสน์ตระกูลบาลุค

"ดยุคโบนัลท์แห่งอาณาจักรเฟนไลมาถึงแล้ว!"

"มาร์ควิสเจบส์แห่งอาณาจักรเฟนไลมาถึงแล้ว!"

"เคาท์จูโนแห่งอาณาจักรเฟนไลมาถึงแล้ว!"

"คุณหนูเดเลียจากตระกูลเลโอนแห่งจักรวรรดิยูลานมาถึงแล้ว!"

"ใต้เท้าเบอร์นาร์ดจากตระกูลเด็บส์แห่งอาณาจักรเฟนไลมาถึงแล้ว!"

เสียงที่ดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นเหตุให้ชาวเมืองเล็กๆ อย่างอู่ซันถึงกับพูดไม่ออกเกิดอะไรขึ้น? ทำไมชนชั้นสูงมากมายถึงได้มารวมตัวกันที่เมืองเล็กๆอย่างอู่ซันนี้? แต่ชาวเมืองอู่ซันพอจะคาดเดาเหตุผลได้

มีเรื่องใหญ่เรื่องเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นในเมืองอู่ซันนั่นคือการเสียชีวิตของฮ็อก

แต่ฮ็อกเป็นเพียงขุนนางของเมืองเล็กๆการเสียชีวิตของเขาเป็นเหตุให้องค์ราชาและคาร์ดินัลทั้งของวิหารเจิดจรัสเดินทางมาที่นี่ได้อย่างไร? ชาวเมืองเหล่านี้อดคิดไปถึงภาพความยิ่งใหญ่ของลินลี่ย์เมื่อไม่กี่วันก่อนที่กลับมาพร้อมกับกองทหารอัศวินของเขาไม่ได้

"ทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวข้องกับบางสิ่งที่คุณชายลินลี่ย์ทำไว้เป็นแน่"

แม้ว่าชาวเมืองทั่วไปเหล่านี้จะไม่อาจทราบถึงสถานการณ์พิเศษของลินลี่ย์พวกเขาก็พอจะคาดเดาได้

……

ภายในห้องโถงหลักของตระกูลบาลุค ลินลี่ย์ยังคงคุกเข่าอยู่คนเดียว

คาร์ดินัล, พระราชา, ดยุค, มาร์ควิส และเคาท์ทั้งหมดล้วนแต่คารวะไม่ก็คุกเข่าลงด้วยความจริงใจเพื่อแสดงความเคารพของพวกเขา แม้แต่คนอย่างคาร์ดินัลกิลเยโมยังคารวะโดยไม่มีข้อแม้มีเพียงคนสำคัญไม่กี่คนเท่านั้นที่พวกเขาให้ความเคารพเช่นนี้

แต่วันนี้ พวกเขากำลังคารวะแสดงความเคารพต่อการจากไปของฮ็อก

"ลินลี่ย์อย่าได้โศกเศร้าเกินไป" กิลเยโมพูดเสียงนุ่มด้านข้างลินลี่ย์

"ขอบคุณ" ลินลี่ย์คารวะตอบ

"ลินลี่ย์, เราทุกคนเสียใจกับการจากไปของบิดาเจ้าจริงๆ" ราชาเคลย์ปลอบโยนลินลี่ย์ด้วย

ไม่นานหลังจากนั้น

"ลินลี่ย์, อย่าได้เสียใจมากเกินไป" เสียงดังสดใสดังขึ้น

ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้น และมองเห็นดีเลียอยู่ในชุดเรียบง่ายใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใย

"ขอบคุณ" ลินลี่ย์ตอบด้วยเสียงอ่อนโยน

ดีเลียพยักหน้าตอบรับก่อนที่จะตามบ่าวรับใช้ออกไปเช่นกัน ขุนนางคนแล้วคนเล่าเข้ามาเคารพบิดาของลินลี่ย์แม้แต่เบอร์นาร์ดคนนั้น ผู้นำของตระกูลเด็บส์ยังเข้ามาแสดงความเคารพ

"อาจารย์ลินลี่ย์ อย่าได้โศกเศร้ามากเกินไป"เบอร์นาร์ดกล่าวอย่างสุภาพ

ลินลี่ย์ตอบกลับด้วยความสุภาพเช่นเดียวกัน "ขอบคุณ"

…..

"ดยุคแพตเตอร์สันแห่งอาณาจักรเฟนไลมาถึงแล้ว!" ทันใดนั้นเสียงประกาศดังเข้ามาจากด้านนอก

ลินลี่ย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

การตายของบิดาเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับดยุคแพตเตอร์สัน แต่ลินลี่ย์รู้ดีว่าบิดาของเขาได้ปลอมตัวก่อนที่จะเข้าไปในคฤหาสน์ของดยุคแพตเตอร์สันเป็นไปได้มากว่า ดยุคแพตเตอร์สันไม่ได้คาดคิดว่าบิดาของลินลี่ย์จะเป็นคนที่ทรมานลูกน้องของเขาจนบาดเจ็บหนัก

แพตเตอร์สันดูคล้ายกับเคลย์มากพวกเขาทั้งสองมีผมยาวสีทองกับดวงตาดูคล้ายเหยี่ยวเหมือนกันเอวของเขาตั้งตรงดั่งไม้บรรทัดและเขามีกลิ่นอายของชนชั้นสูง

เมื่อเข้ามาในห้องโถงหลักแพตเตอร์สันโค้งคารวะแสดงความเคารพต่อหน้าป้ายวิญญาณของฮ็อก

"อาจารย์ลินลี่ย์ อย่าได้โศกเศร้ามากเกินไป"แพตเตอร์สันเดินเข้าไปหาลินลี่ย์และกล่าวอย่างจริงใจลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปที่แพตเตอร์สันเห็นความจริงใจบนใบหน้าของแพตเตอร์สัน เขายังคงตอบด้วยสุภาพเช่นเดียวกัน"ขอบคุณ" เบื้องหน้าแล้ว ไม่มีใครบอกได้ว่าลินลี่ย์รับรองแพตเตอร์สันแตกต่างกับรับรองคนอื่นๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด