ตอนที่ 333 – แม่มดที่น่าสะพรึงกลัว
“น่าสนใจดี....”
เย่เทียนยิ้มออกมา. เขาพบว่าแมงมุม, แมงป่องและแม้แต่งูที่มีพิษเองกำลังค่อยๆเข้ามาล้อมเขาไว้พร้อมกับเสียงใบไม้สั่น.
เขาไม่คิดว่าแม่มดคนนี้จะมีความสามารถจริงๆ และสามารถควบคุมแมลงมีพิษได้.
“อย่าดูถูกสัตว์ที่น่ารักพวกนี้เพียงเพราะพวกมันตัวเล็ก, ถ้าพวกมันลงมือ พวกมันก็อันตรายสุดๆเลยล่ะ.....”
นางแม่มดยิ้มแสยะให้ขณะกล่าว.
“เยี่ยมจริงๆ. ท่านช่วยบอกได้ไหมว่าทำได้อย่างไร?”
เย่เทียนอยากรู้อยากเห็นมากๆ.
“ท่านดูไม่กลัวพวกมันเลยหนา?”
นางแม่มดขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง.
“เหตุใดข้าต้องกลัวด้วย? แมลงพวกนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก. ข้าสามารถฆ่าพวกมันได้ก่อนที่พวกมันจะลงมือด้วยซ้ำ!”
เย่เทียนกล่าวอย่างไม่แยแส “อย่าบอกนะว่าท่านมีพลังเวทย์มนต์น่ะ?”
“ท่านไม่เชื่อรึ?”
นางแม่มดขมวดคิ้ว.
“ข้าไม่เชื่ออยู่แล้วสิ. เวทย์มนต์ของเจ้าน่ะมันก็มีไว้หลอกคนโง่เท่านั้นแหละ! เจ้าวางขวดในมือลงซะไม่งั้นข้าจะจัดการเจ้าเอง!”
เย่เทียนกล่าวอย่างเยือกเย็นพร้อมกับหอกในมือ.
“ท่านนักรบช่างยอดเยี่ยมจริงๆ, ท่านมองออกหมดเลยสินะ...”
นางแม่มดหัวเราะแล้วปิดฝาขวดเล็กๆใต้ผ้าคลุมนางไป. จากนั้นก็เอาอีกขวดออกมา. กลิ่นโชยออกมาเมื่อเธอเปิดมันออก.
มนุษย์ไม่สามารถได้กลิ่นของในขวดนั้นได้แต่พวกแมลงมีพิษกลับรู้ได้ในทันที. พวกมันรีบหนีไปราวกับว่ากำลังกลัว.
“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เย่เทียนถามโดยไม่แยแส, เขายกแขนเสื้อขึ้นมาแล้วดม.
“ตั้งแต่ที่ท่านเข้ามาในป่า พวกหมาป่าได้กลิ่นเลือดจากตัวท่าน...”
นางแม่มดรู้ว่ากลของเธอถูกมองออกแล้วจึงอธิบายให้ฟัง.
“เจ้าสาดน้ำวิเศษนั่นไว้บนใบไม้ตามทางสินะ. ข้าก็นึกว่าเป็นแค่น้ำค้างธรรมดา...”
เย่เทียนเข้าใจในที่สุด. ไม่เช่นนั้นแล้ว สารไร้กลิ่นไร้สีนี้จะติดตัวเขาได้อย่างไร เขาไม่รู้เลยแม้ตัวเองจะก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์แล้วก็ตาม!
“ปัญญาของท่านเยี่ยมที่สุดเท่าที่ข้าเคยพบมาเลย!”
นางแม่มดกล่าวชมเย่เทียน. คนแบบนี้น่ากลัวนัก. ความคิดของเขาช่างหลักแหลม.
“เจ้าเองก็น่ากลัวเช่นกัน! ของเหลวพวกนี้ก็แค่ตัวทำเครื่องหมายสินะ? ขวดในมือของเจ้าตะกี้ก็คงจะมีไว้ส่งสัญญาณให้พวกแมลงเริ่มโจมตีล่ะสิ?”
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถาม.
“ถูกต้อง! ท่านพูดถูก!”
นางแม่มดพยักหน้า.
“ข้ามั่นใจแล้วว่าเจ้าคือคนที่ข้ากำลังตามหา! วันนี้ข้าจะพาเจ้าไปแม้จะต้องลักพาตัวก็ตาม!!”
เย่เทียนดีใจมากๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะที่มองนางแม่มด.
“นักรบผู้ยิ่งใหญ่และองอาจเอ๋ย ข้าเป็นเพียงแค่หญิงชรา ข้าไม่มีประโยชน์อันใดกับท่านหรอก...”
พอเห็นสายตาของเย่เทียน นางก็กระอั่กกระอ่วมในใจก่อนจะกลางออกมาด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น.
“จะให้ข้าเผาทั้งป่าให้วอดพร้อมกับที่อาศัยของเจ้าหรือจะมารับใช้ข้าแต่โดยดี, เจ้าเลือกเอา?”
เย่เทียนโบกมือแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง. การสนทนานี้ไม่มีที่ให้ต่อรองเลย.
“ท่านนักรบ. ข้าเดาว่าท่านคงมีอำนาจอยู่ในมือมากแน่หรือไม่ก็เป็นคนใหญ่จากที่ไหนซักแห่ง แต่ข้าขอเตือนท่านไว้, จงอย่าได้พยายามควบคุมแม่มดเลย, ไม่มีใครควบคุมจอมปีศาจได้...”
นางแม่มดไม่นึกเลยว่าความทะเยอทะยานของเย่เทียนจะมากขนาดนี้. เขาถึงกับจะพาตัวเธอไปให้ได้ ทำให้นางรู้สึกโมโหขึ้นมา. นางเป็นแม่มด จะถูกเด็กอมมือควบคุมได้อย่างไร.
“จอมปีศาจรึ? ฮ่าฮ่า... นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินคนเรียกตัวเองว่าปีศาจต่อหน้าข้าเลย” เย่เทียนตะลึงเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา.
นางแม่มดปลอมผู้นี้อาจทำให้คนหวาดกลัวได้เพราะกลโง่ๆนั่น แต่เขามองนางออกหมดแล้ว มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย.
“ท่านผู้ดี, มีแม่มดอยู่ข้างกายไม่เป็นผลดีแก่ท่านหรอก, ท่านมีแต่จะถูกคนอื่นรังเกียจ, นี่แหละคือเหตุผลที่ข้าอาศัยอยู่ในป่า. พวกเราแม่มดแห่งความมืดไม่สามารถออกไปโลกภายนอกได้...”
พอเห็นสายตาผยองของเย่เทียน นางแม่มดจึงสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเปลี่ยนคำพูดใหม่. นางเลิกขมขู่เขาเพราะถูกมองออกหมดแล้ว.
“อย่าพูดเหมือนเจ้าเป็นคนดีหน่อยเลย. เจ้าอยู่ในเขาลึกและป่าไม้เพียงเพราะแค่อยากจะเลี้ยงสัตว์มีพิษไว้ก็เท่านั้น! เอาเช่นนี้เป็นไร, เจ้าไม่ต้องออกภูเขามารับใช้ข้าก็ได้ แต่เจ้าต้องให้ตำราและแมลงของเจ้า!”
เย่เทียนกล่าว.
“เจ้า...”
พอได้ยินเย่เทียนกล่าว นางแม่มดก็รู้สึกโมโหขึ้นมาหน่อยๆ.
ข้าจะให้ความรู้ที่สั่งสมมาง่ายๆได้ยังไงกัน?
“อย่าทำตัวสูงส่งหน่อยเลย. เจ้าใช้ซาช่าตอนนางยังเล็กก็เพราะว่าไม่อยากใช้ชีวิตที่ลำบากมิใช่รึ? ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปสู่ความยิ่งใหญ่!”
เย่เทียนเย้ยก่อนจะกล่าวอย่างขึงขัง.
“เห้อ...”
พอนางแม่มดพบว่าตัวเองถูกอ่านใจ จึงตัวแข็งไปด้วยความตะลึงก่อนจะหัวเราะออกมา.
“ข้าอยากจะใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะอยู่ใต้ผู้อื่น...”
หลังจากเงียบอยู่นาน นางก็กล่าวออกมาอย่างช้าๆ.
“บางทีเจ้าอาจจะเลิกคิดแบบนั้นซะ หลังข้าตีตราทาสให้เจ้า! ทั้งคาเลสเป็นของข้าแล้ว เจ้าไม่มีสิทธิขัดข้า!”
เย่เทียนส่ายหัว, ท่าทีของเขาเริ่มแข็งขึ้นและน้ำเสียงก็ขึงขังขึ้น.
“ท่านเป็นใครกัน?”
นางแม่มดถามอย่างจริงจัง.
“เจ้าเมืองแห่งคาเลสและคัมโปบัสโซ, นายแห่งเหล่าสปาตั้น. ข้ามีทหารที่เก่งกาจหนึ่งหมื่นนายในกำมือ! เจ้าคิดว่าข้าเป็นใครเล่า?”
เย่เทียนประชด.
“ท่านมีอำนาจที่น่าเกรงขามขนาดนั้นเชียวรึ?”
นางแม่มดดูจะเริ่มสนใจ.
“นายท่านได้บุกและยึดเมืองมาแล้วสองครา แถมแต่ละครั้งก็ใช้เวลาไม่ถึงชั่วยามด้วยค่ะ...”
เสียงเขินอายของซาช่าดังออกมา ทำให้นางแม่มดหันไปหา.นางจึงถาม “ท่านอยากจะทำอะไรล่ะ?”
“ลองเดาสิ?”
เย่เทียนหัวเราะแต่ไม่ตอบ.
“ข้าเข้าใจแล้ว...”
นางแม่มดยิ้มออกมา พร้อมกับความหวังในดวงตา.
“เจ้าแมลงมีพิษพวกนี้ต้องเลี้ยงอย่างไร?”
เย่เทียนถามอย่างสงสัย.
“ด้วยความพยายามและสิ่งที่สืบต่อมารุ่นสู่รุ่น”
นางแม่มดกล่าวด้วยความเศร้า “แต่ละรุ่นเองก็ใช้ความพยายามมากมายเช่นกัน....”
*ขออภัยที่หายไปนานครับ พอดีคอมเพิ่งซ่อมเสร็จ จะกลับมาอัพตามปกติแล้วครับ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่เพจนะครับ*