ตอนที่แล้วตอนที่ 127 – ตอนที่ 124 ทุบตีจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 129 – ตอนที่ 126 ชั้นเรียนมรณะ

ตอนที่ 128 - ตอนที่ 125 เด็กหญิงแพนด้าหนิวหนิว


พื้นที่ของสถาบันฉางชุนเฉิงกว้างใหญ่มาก   อย่างน้อยใหญ่กว่าที่เย่ว์หยางเคยจินตนาการไว้ถึง 10 เท่า

นอกจากมีอาคารที่แตกต่างกันแล้ว  ยังมีแม้กระทั่งเนินเขาเขียวเล็กหรูหราและทะเลสาบธรรมชาติด้วย  เย่คงบอกว่าใต้ทะเลสาบ มีอสูรในตำนานก็คือ เต่าหมื่นปีที่เป็นเหมือนผู้คุ้มครองอาณาจักรต้าเซี่ย  แน่นอนว่าอสูรพิทักษ์แห่งอาณาจักรนี้ไม่รู้วิธีต่อสู้เลย มันต่างจากสัตว์อสูรตามปกติ  มันเป็นเพียงอสูรที่มีอายุยืนยาวและได้รับยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งโชค  ดังนั้นมันจึงเป็นเหมือนอสูรพิทักษ์ของอาณาจักร

นอกจากนี้ยังมีทางเดินยาวและศาลาเหนือผิวทะเลสาบ มีเรือ 2 ลำจอดเทียบอยู่ข้างๆ

เดิมทีมันเคยใช้เป็นสถานที่ให้นักเรียนได้ฝึกเรียกอสูรน้ำ  อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้  สถานที่นี้ถูกยึดไปเป็นที่ฝึกร้องรำทำเพลงโดยนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งกลายเป็นที่ฝึกร้องรำทำเพลงไปโดยปริยาย

บนชายฝั่งเขียวของทะเลสาบ มีศาลาอยู่ไม่กี่หลัง  มีอาคารที่โดดเด่นน่าสนใจสามารถมองเห็นได้จากทุกที่ ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มกอปรเป็นภาพที่สวยงามสร้างความอบอุ่นใจให้กับผู้ที่พบเห็น

มีบ้านพักหลายหลังอยู่ตรงกึ่งกลางภูเขา กระจัดกระจายเหมือนดาวในท้องฟ้า ตรงกลางจะมีอาคารขนาดใหญ่อยู่หลังหนึ่ง

“พวกผู้หญิงจะอาศัยอยู่ในบ้านพักขณะที่พวกเราจะพักกันที่หอพักหลังสูงใหญ่  อาคารมหึมาที่อยู่ตรงกลางจะมีร้านอาหารและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกัน  ทั้งหญิงและชายจะอาบน้ำในบ่อขนาดใหญ่บ่อเดียวกัน แต่มีเขตแบ่งตรงกลาง  สาวๆ สามารถไปอาบน้ำในฝั่งผู้ชายได้ แต่หนุ่มๆ จะไปอาบน้ำในฝั่งเดียวกับสาวๆ ไม่ได้  เว้นแต่หนุ่มๆ ที่เอาชนะ 4 องครักษ์ปีศาจได้  เราต้องจ่ายค่าห้องพักขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น  เงื่อนไขใช้ได้ทีเดียว  มาทางนี้สิ”  เย่คงยังบรรยายสถานการณ์ต่างๆ ของสถาบันให้เย่ว์หยางฟังตลอดทาง

“ข้าคิดว่าหากเราอยู่สูงเกินไป มันคงลำบากอีตอนลงมา  อย่างไรก็ตาม เราสามารถสำรวจความเคลื่อนไหวบ้านพักนักเรียนหญิงได้จากตำแหน่งที่อยู่สูง  ยังนับว่าไม่เลยอยู่นะ” เจ้าอ้วนไห่อธิบายต่อ

“นี่มันหอพักนักเรียนไม่ใช่เหรอ?” เย่ว์หยางถูกดันกระเด็นเมื่อเขาเดินเข้าไปข้างใน   สภาพแวดล้อมในโรงเรียนนี้ดีเกินไปจริงๆ ไม่ใช่เหรอ?

ถ้าเย่คงไม่พูด เย่ว์หยางคงจินตนาการไม่ออกเลยว่า สถานที่ซึ่งตกแต่งภายในไว้อย่างงามสง่า เครื่องประดับสวยงามเหมือนในวังจะกลายเป็นหอพักนักเรียนไปได้  เย่ว์หยางไม่เคยไปราชวังมาก่อน  แต่เขารู้สึกว่าหอพักของสถาบันฉางชุนเฉิงเหมาะสำหรับให้เจ้าชายเจ้าหญิงได้พักอยู่มากกว่า

นักเรียนของสถาบันฉางชุนเฉิงไม่เพียงแต่อยู่ในสถานที่สะดวกสบายเท่านั้น ยังมีสภาพแวดล้อมเหมาะให้ชายหญิงคบหากันอีกด้วย  แล้วพวกเขายังจะมีแรงจูงใจให้เล่าเรียนศึกษาอีกหรือ?  เย่ว์หยางไม่กล้าคิดเกี่ยวกับคำถามนี้… เขาต้องเสียเวลาในการเรียนสถาบันแห่งนี้อยู่แล้ว   มีนักเรียนเพียง 300 กว่าคน พวกเขาก็ยังสร้างส่วนประกอบของโรงเรียนได้ใหญ่โตขนาดนี้  พวกเขาไม่คิดว่ามันฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองเกินไปหรือ? เจ้าอ้วนไห่บอกว่า แม้สถาบันฉางชุนเฉิงจะถูกมองเป็นสวะ  แต่ส่วนประกอบของโรงเรียนแค่เล็กกว่าสถาบันฉางจิงเพียงเล็กน้อย

สถาบันฉางจิงที่ฝั่งตรงข้ามมีนักเรียนเกินหมื่นคน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแออัดเลย

สถาบันฉางชุนเฉิงมีคนเพียง 300 คน มันช่างว่างเปล่าจริงๆ ดูราวกับไม่มีคนเลย

เย่ว์หยางไม่อาจจินตนาการได้ว่า ในฉางจิงที่ซึ่งที่ดินมีราคาสูงลิ่ว พวกเขาจะปล่อยให้สถาบันว่างเปล่าแบบนั้นได้อย่างไร?

โชคดีที่ไม่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ในทวีปมังกรทะยาน  มิฉะนั้น เย่ว์หยางคาดว่าสถาบันฉางชุนเฉิง จะต้องโดนจัดสรรหั่นแบ่งที่ดินและสุดท้ายก็ต้องย้ายไปที่อื่น

เมื่อเย่ว์หยางเขาไปในหอพักนักเรียน  รองอาจารย์ใหญ่ จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ มาปรากฏตัวต่อหน้า  ขณะที่เขายังไม่สามารถให้บทเรียนเย่ว์หยางได้  เขาจัดเสื้อผ้าให้กระชับแน่นและพยายามอย่างหนักที่จะปั้นหน้าที่ถูกเย่ว์หยางซ้อมและฝืนยิ้มออกมา แค่ฝืนยิ้มเท่านั้น จากนั้นเขาผลักประตูเดินเข้าไปข้างใน เขาเดินขึ้นบันไดจนมาถึงห้องพักในชั้นสาม เคาะประตูไม้เบาๆ เขาพูดเสียงนุ่มนวลว่า “ลูกรักของพ่อ! ให้พ่อเข้าไปได้ไหม?”

“ในช่วงเวลาทำงาน ช่วยเรียกข้าว่าอาจารย์ใหญ่เถอะ”  น้ำเสียงไพเราะกังวาลเนิบนาบดังออกมาจากข้างใน

“ก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? เจ้าเป็นอาจารย์ใหญ่ แล้วยังเป็นธิดาข้าด้วย..”  จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ดูเหมือนจะไม่ถือสาน้ำเสียงที่ห่างเหินเย็นชา หัวเราะคิกคักขณะสาวเท้าเข้ามาในห้อง

“ท่านมาที่นี่ทำไม? แล้วทำไมถึงถูกทุบตีหนักขนาดนั้นเล่า?” หญิงงามชุดขาวกำลังคร่ำเคร่งทำงานอยู่ข้างในมองดูเหมือนกล้วยไม้ขาวสะอาด ผมยาวของนางห้อยสยายเหมือนสายน้ำตกปกคลุมไหล่ทั้งสองขับเน้นดูแกร่ง มือของนางขาวราวหิมะ  การณ์กลับกลายว่าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ผู้ปั้นยิ้มตลอด เหมือนกับเป็นอีกคนหนึ่งยามอยู่ต่อหน้านาง ในขณะนั้น เขากลายเป็นพ่อแม่ที่น่ารักที่สุดในโลก  จนถึงเวลานี้หญิงงามชุดขาวทำงานของนางอยู่ในที่สุดนางก็หยุดและเงยหน้าขึ้น เผยให้ประกายตาที่น่ารักของนาง นางมองดูหน้าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ และใบหน้าน้อยๆที่ดูบอบบางงดงามจนล่มได้ทั้งอาณาจักรแสดงความแปลกใจถามว่า “มีอะไรผิดปกติหรือ?”

“ไม่มีอะไรผิดหรอก ข้าแค่โดนนักเรียนใหม่ที่น่าสนใจมันซ้อมเอา…เอ๊ย..ไม่ใช่ ข้าหมายความว่า ข้าแค่ไม่รู้ว่าเขาจะซ้อมข้า จู่ๆ ก็มาซัดข้าไม่ทันตั้งตัวเลย  มิฉะนั้นข้าคงทุบตีกลับไปบ้างแล้ว”  จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์หัวเราะช้าๆ “นักเรียนใหม่คนนี้ น่าสนใจจริงๆ  เขาแข็งแกร่งสุดๆ แต่ความรู้พื้นฐานของเขาก็ห่วยสุดๆ เหมือนกัน  เขาไม่รู้ว่าผู้แข็งแกร่ง คนที่มีทักษะจะใช้มัน ม้วนท้าประลองระดับยาก  พอเห็นเขาโง่อย่างนั้นแล้ว ข้าก็เลยหลอกให้เขากลัว ฮ่าฮ่าฮ่า… เมื่อใดก็ตามที่ข้านึกถึงหน้าโง่ๆ ของเขา ข้าอยากจะหัวเราะดังๆ แต่เขาแข็งแกร่งจริงๆ นะ มังกรบินแม็กม่าที่ข้าบ่มเพาะมาอย่างระมัดระวังโดนเขาฆ่าตายภายใน 10 นาที น่าเสียดายที่ข้าไม่เชี่ยวชาญเรื่องมิติต่างๆ ก็เลยไม่เห็นวิธีต่อสู้ของเขา  มิฉะนั้นข้าคงได้เห็นว่าเจ้าเด็กตัวแสบนี้หาวิธีฆ่ามังกรแม็กม่าของข้าได้อย่างไร”

“เขาใช้วิทยายุทธฆ่ามัน” หญิงงามชุดขาวตอบ จากนั้นก็กลับไปทำงานของนางต่อ นางกำลังเขียนอะไรบางอย่าง

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” จิ้งจอกเฒ่าแปลกใจ

“นักเรียนใหม่คนที่ทุบตีท่านและเพิ่งลงทะเบียนเสร็จไม่นานมานี้ ต้องเป็นคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์แน่นอน  ข้าได้ยินเรื่องของเขาจากเชี่ยนเชี่ยนมาก่อน เพื่อต้องการพาแม่สี่กลับมากู้คืนศักดิ์ศรี  เด็กคนนั้นใช้กำลังป่าเถื่อนบุกลุยผ่านหมู่บ้านตระกูลเย่ว์และฆ่าคนจนมาถึงปราสาทตระกูลเย่ว์ ถ้าไม่ใช่เพราะผู้บัญชาการเย่ว์ไห่ปรากฏตัวมาห้ามเขาทันเวลาล่ะก็  เขาคงจะฆ่าคนในตระกูลเย่ว์จนเลือดนองเป็นสายธารแน่ เนื่องจากท่านค้นคว้าศึกษาเรื่องม้วนมิติมาตลอด  ท่านถึงไม่รู้เรื่องราวของเขา” สตรีงามชุดขาวพูดเหมือนกับว่านางคุ้นเคยเย่ว์หยางเป็นอย่างมาก

“มิน่าเล่า, ข้าคิดว่าเจ้าเด็กนั่นดูคล้ายอยู่บ้าง กลับกลายเป็นว่า เขาคือบุตรของเย่ว์ชิวนั่นเอง”  จิ้งจอกเฒ่าโพล่งออกมา

“เขาแข็งแกร่งมาก เมื่อเร็วๆ นี้ที่หุบเขาอินทรีร้อง  เขากับเชี่ยนเชี่ยนเอาชนะหมอผีปีศาจได้โดยลำพัง.. เชี่ยนเชี่ยนคาดว่าเด็กคนนั้นไม่ยอมศึกษาอะไรเลยเมื่อคราวที่เขาหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน  ความจริงแล้วเขาฝึกแต่วิทยายุทธ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้สามัญสำนึกของเขาแย่และจะยากที่จะเอาตัวรอดได้  ถ้ามีคนในโลกนี้ที่ไม่มีความสามารถพอจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างต้นใบผีเสื้อและต้นถั่ว  ก็คงจะเป็นเขานั่นแหละ ท่านอย่าเพิ่งวุ่นวายจับเขาไปฝึกในแดนอเวจีเชียวนะ ท่านควรจะยัดความรู้พื้นฐานใส่สมองเขาก่อน  รองอาจารย์ใหญ่!  ถ้าท่านไม่มีปัญหาอื่นจะพูดต่อ  เชิญไปได้แล้ว”  หญิงงามชุดขาวยังคงเย็นชากับบิดาของนาง  นางปฏิบัติต่อเขาอย่างห่างเหินขณะที่เขาเดินจากไป

“เจ้านึกหรือว่า เจ้าตัวลามกน้อยนั่นจะยอมฟังคำสอนของตาแก่กระดูกผุคนนี้? ข้าโดนมันทุบตีตั้งแต่วันแรก ถ้าขืนข้าต้องสอนเขาในอนาคต ข้าคงโดนตีตายเร็วๆ นี้ หรือไม่ก็หลังจากนั้นก็ได้” จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ส่ายศีรษะขณะหัวเราะลั่นเดินจากไป

“ตอนนี้ข้ายังคงคิดเรื่องผนึกอยู่ ดังนั้นข้าไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้  ไปตามพี่(หญิง)เย่ก็แล้วกัน” สตรีงามชุดขาวหันไปเขียนหนังสือลงกระดาษที่อยู่หน้านาง ไม่สนใจจิ้งจอกเฒ่าต่อไป

“ถ้าเจ้าขอให้นางผู้นั้นสอนนักเรียนคนหนึ่ง อย่างนั้นโลกคงปั่นป่วนแน่..” จิ้งจอกเฒ่าถอนหายใจ

เย่คงกับพี่น้องตระกูลหลี่วุ่นวายกับการซื้อของไม่กี่ชิ้นให้เย่ว์หยางขณะที่เจ้าอ้วนไห่กำลังหาพ่อครัวที่ว่ากันว่ามาจากครัววังหลวงมาทำอาหารจานพิเศษฉลอง วัตถุประสงค์ไม่ใช่แค่เฉลิมฉลองต้อนรับเย่ว์หยางเท่านั้น แต่ยังเป็นการต้อนรับเย่ว์ปิงที่ย้ายเข้ามาเรียนด้วย มิฉะนั้นเขาคงไม่สุภาพและยอมฟุ่มเฟือยขนาดนั้นแน่

เย่ว์หยางไม่มีอะไรทำในช่วงที่รอ  เขาเห็นว่าเย่คงและคนอื่นๆ จะยังไม่กลับมาในช่วงเวลาสั้นๆ จึงตัดสินใจเดินสูดอากาศบริสุทธิ์

สถาบันแห่งนี้ก็ไม่เลว จุดด้อยประการเดียวคือคนน้อยไปหน่อย

ไม่ค่อยมีเสียงมนุษย์ มีแต่เสียงนกและแมลง  มันก็เงียบสงบดีอยู่เหมือนกัน  แต่มันขาดความศิวิไลที่จะพึงมี

“แล้วไปเถอะ ยังไงเสีย เรามาที่นี่เพื่อเป็นนักเรียนที่ดีและตั้งใจเรียนต่างหาก” เย่ว์หยางคิดว่า อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ด้วยความเงียบสงบ เขาสามารถสงบใจเรียนรู้ความรู้พื้นฐานทั้งหมดที่เขาต้องการรู้โดยเร็ว จากนั้นค่อยไปฝึกหาประสบการณ์ต่อที่หอทงเทียน

ขณะที่เขาเตรียมตัวเป็นนักเรียนที่ดี  ทันใดนั้นเขาพบสตรีกำลังมึนเมานางหนึ่งสวมชุดแดงรัดรูปกำลังเดินตรงมาหาเขา รูปร่างนางเซ็กซี่ยั่วยวนเดินเซขณะเข้ามาหาเขา  ก้าวย่างของนางเหมือนแมวมึนชาเล็กน้อย ดูเหมือนจะล้มได้ทุกเมื่อ เย่ว์หยางตะลึง เป็นไปได้ว่าพี่สาวคนนี้คงเป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันฉางชุนเฉิงแห่งนี้กระมัง?

เหมือนแมวขี้เมา  เย่ว์หยางคาดว่า นางคงไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ ถ้าหากเขาพานางกลับไปที่หอพักแล้วมีอะไรๆ กันเกินร้อยครั้ง

ถ้าไม่ใช่เพราะมีทักษะญาณทิพย์ระดับ 3 มองเห็นอสูรที่ทรงพลังนอนหลับอยู่ในตัว “พี่แมวขี้เมา” ผู้นี้ คอยปกป้องนางอย่างเงียบๆ แล้ว  เย่ว์หยางคงมีแรงกระตุ้นให้ก่อเรื่องลามกเป็นแน่

“อ๊า.. มีเด็กหนุ่มรูปหล่อเสียด้วย” นางแมวขี้เมาเห็นเย่ว์หยางโดยบังเอิญ

ไม่รอให้เย่ว์หยางได้โต้ตอบ นางเคลื่อนตัวเข้าหาเย่ว์หยางราวสายฟ้า ร่างของนางเบลอไปในชั่วพริบตาแล้วนางก็มาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง ทำให้เย่ว์หยางที่มั่นใจในความว่องไวของตัวเองถึงกับตกตะลึงได้  เย่ว์หยางตะลึงจ้องมอง  เขาไม่เชื่อจริงๆ ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา นางแมวขี้เมามีกลิ่นเหล้าคละคลุ้งทั้งตัว  ขณะที่นางเดินมาอย่างน่ารัก นางยื่นหน้าสีอมชมพูเข้ามาใกล้เย่ว์หยาง  ตากลมโตของนางจ้องมองเย่ว์หยางอย่างตั้งใจ  “เจ้าก็ดูหล่อดีนะ เสียแต่ว่ายังเด็กเกินไป เจ้ายังเป็นเด็กคนหนึ่ง..นี่..เจ้าหนู.. เจ้าจูบเป็นหรือเปล่า? เจ๊จะสอนให้เอาไหม?”

เย่ว์หยางพยักหน้าทันที เมื่อเขาได้ยินนางกล่าว

เจ๊แมวขี้เมาเผยอยิ้ม “เด็กดี, แม้ว่าเจ้ายังเป็นเด็กน้อย เจ้าก็ยังหล่อ  ดังนั้นข้าไม่ปล่อยเจ้า  หลับตาซะ เจ๊จะสอนวิธีจูบให้”

นางจะจูบเขาจริงๆ เหรอนี่?

เย่ว์หยางตัดสินใจใช้ชีวิตรอแม่เสือสาว ไม่สิ หมายถึงนางแมวยั่วยวน  เขาจะยอมให้เจ๊แมวขี้เมาผู้นี้ทำมิดีมิร้ายกับเขาก็ได้

ขณะที่นางแมวขี้เมากำลังจะจูบเขา ทันใดนั้นแสงสีทองเปล่งออกมาจากตัวของนาง อสูรสีขาวดำกระโดดออกมาและต่อยเย่ว์หยางที่กำลังจะถูกผลักให้นอนลงกระเด็นออกไป ขณะที่สัตว์อสูรออกมาจากร่างนาง นางแมวขี้เมาก็ฝืนอาการเมาของนางต่อไปไม่ไหวล้มลงนอนกับพื้น

“โอว..พระเจ้า เด็กหญิงแพนด้า อสูรทองระดับ 5” เมื่อเย่ว์หยางพลิกตัวขณะที่ร่วงลงพื้น เขามองเห็นอสูรที่เห็นแล้วรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดให้ได้

อสูรร่างมนุษย์ที่ต่อยเย่ว์หยางนี้เป็นอสูรที่ทรงพลังที่หลับอยู่ในตัวพี่สาวขี้เมานางนี้ ร่างมนุษย์ของเธอท้วมเล็กน้อย  และน่ารักมีกลิ่นอายความเคร่งครัดเจ้าระเบียบอยู่ในตัว  บนหัวของนางประดับไปด้วยผมเปียเล็กๆ  มีลักยิ้มน่ารัก 2 ข้างประดับบนใบหน้าเธอ  เธอมีนัยน์ตาโต จมูกเล็ก ปากน้อยๆ ดูอิ่ม มีฟันขาว หมัดของเธอตั้งอยู่ในท่าพร้อมสู้ คล้ายจะบอกว่า “พร้อมจะทุบตีเจ้าอีก ถ้าเจ้ายังมองต่อไป”  กำลังจ้องมองเย่ว์หยาง

เธอสวมชุดแปลกสีขาวดำ

หน้าผากของเธอมีการลงตัวอักษร “ราชา” เอาไว้  เป็นที่ชัดเจนว่าเธอคือ สาวแพนด้า แต่เธอกลับแสดงท่าทางเหมือนเสือ เย่ว์หยางเกือบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อมองเธอ

“เดี๋ยวเจ็บตัวกว่านี้แน่  เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้หัวเราะ ไม่อย่างนั้นข้าจะโกรธจริงๆ นะ และข้าจะทุบตีเจ้า หากว่าข้าโกรธขึ้นมา” เด็กหญิงแพนด้านี้พูดได้ด้วย

“มานี่เถอะ, ข้าจะเลี้ยงขนมเจ้า” เย่ว์หยางพยายามใช้วิธีนี้ มันช่วยกลบเกลื่อนได้

“มันหวานเกิน” สาวแพนด้านี้รับมือง่ายกว่าเย่ว์ชวงจอมซนเสียอีก นางไม่ต่อต้านลูกอม  อย่างไรก็ตาม เมื่อนางเห็นเย่ว์หยางยิ้ม นางคายลูกอมหวานออกจากปากและคืนให้เย่ว์หยางอย่างไม่เต็มใจ  “อย่าคิดว่าจะติดสินบนให้ข้าได้นะ หนิวหนิวไม่มีทางถูกศัตรูล่อลวงแน่”  พอพูดอย่างนี้แล้ว เด็กหญิงแพนด้าผู้น่ารักดูเหมือนจะมีน้ำตาคลอเบ้า

เย่ว์หยางไม่เคยเห็นอสูรโต้เถียงมาก่อนในชีวิตเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอคงอยากกินลูกอม  แต่ยืนยันที่จะคืนให้เขา  น้ำตาเอ่อขึ้นมาเต็มเบ้าตาเธอ ดูเหมือนพร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ

เป็นครั้งแรกในชีวิตเขาที่เย่ว์หยางรู้สึกผิด

การรังแกเด็กน้อยเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง  เย่ว์หยางเผยยิ้มจริงใจ เนื่องจากเขาไม่ใช่คนที่รังแกเด็ก เขารังแกพี่สาวคนนั้นแทนดีกว่า เขาเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กหญิงแพนด้าเบาๆ  จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มอ่อนโยน “หนิวหนิวเป็นเด็กดีนะ พี่ชายไม่ใช่คนเลว พี่เป็นเพื่อนที่ดีกับพี่สาวที่นอนอยู่ตรงนั้น พี่สาวเมาหนัก และพี่ชายแค่จะพานางกลับไปจับกด..เอ๊ย..พี่หมายถึงพาไปสงบอารมณ์”

“จริงเหรอ?” เมื่อสาวแพนด้าหนิวหนิวได้ยินแบบนั้น นางจึงรับลูกอมกลับมาใส่ปากต่อ และอมมันอย่างตื่นเต้น  อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วินาทีต่อมา นางก็เริ่มสงสัยอีก “แล้วพี่ชายเป็นเพื่อนของแม่จริงๆ เหรอ? ทำไมหนิวหนิวจำไม่ได้เลย? ไม่ถูกแน่ ท่านเป็นคนไม่ดี ข้าจะคืนลูกอมท่านทั้งหมด..”

นางคายลูกอมที่กินไปครึ่งหนึ่งแล้วออกมาจากปากใส่ในมือน้อยๆ ของนางอีก และคืนให้เย่ว์หยางอีกครั้ง

ใบหน้าที่น่ารักของเธอดูเหมือนกำลังจะร้องไห้อีกครั้ง

********************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด