ตอนที่ 5-15 ราคาสูงเสียดฟ้า
ผู้ที่กำลังยืนอยู่กลางเวที คือบุรุษวัยกลางคนผมทองยังคงพล่ามไม่หยุด"เมื่อพูดถึงผลงานชิ้นเอกทั้งสิบ ในยุคปัจจุบันนี้ราคาประเมินต่ำสุดของผลงานชิ้นเอก1 ชิ้น ราคา 5,280,000 เหรียญทองในขณะที่ ชิ้นที่มีราคาสูงสุดคือ 'แผงคอสิงโตตาโลหิต' ซึ่งเพิ่งจะถูกประมูลออกไปจากหอศิลป์พรูกซ์สาขาจักรวรรดิยูลานด้วยราคา 13ล้านเหรียญทอง!"
ขุนนางและพ่อค้าระดับเศรษฐีทุกคนด้านล่างล้วนเงียบเสียงลงในทันใด
ราคาที่กล่าวมานี้สูงจนน่ากลัวทีเดียว
"วัสดุที่ใช้สร้างรูปแกะสลัก 'แผงคอสิงโตตาโลหิต' ได้มาจากการเก็บรวบรวม 'แผงคอสิงโตตาโลหิต' ระดับเซียนจริงๆส่วนนักแกะสลักก็เป็นปรมาจารย์ฮูเวอร์ที่มีชีวิตอยู่เมื่อแสนกว่าปีก่อนหมื่นปีที่ผ่านมาทวีปยูลานของเราให้กำเนิดนักแกะสลักระดับปรมาจารย์เพียงสองท่านนั่นคือท่านอาจารย์พรูกซ์ และ ท่านอาจารย์โฮป เจนเซ่นทั้งสองท่านนี้ได้บรรลุถึงระดับปรมาจารย์ของเหล่านักแกะสลัก"
บุรุษผมทองปล่อยเสียงหัวเราะออกมาทันที
"อย่างไรก็ตามเท่าที่ข้ารู้มานักแกะสลักระดับปรมาจารย์ทุกคนในประวัติศาสตร์...ไม่สิ...ไม่ต้องถึงระดับปรมาจารย์หรอก...แม้กระทั่งนักแกะสลักระดับอาจารย์ส่วนใหญ่จะเปล่งประกายความสามารถระดับ'อาจารย์' ก็ต่อเมื่อมีอายุผ่าน 100 ปีแรกไปแล้วแม้พวกเขาจะอายุไม่ถึง 100 ปีก็ตาม แต่อายุของพวกเขาอย่างน้อยๆก็ปาเข้าไป 70 หรือ80 ปีแล้ว เคยมีใครสักคนที่เป็นนักแกะสลักระดับอาจารย์ก่อนอายุ 30 อยู่หรือไม่?"
บุรุษผมทองมองไปที่เหล่าผู้ฟังของเขา "ในอดีตที่ผ่านมา แน่นอนว่าไม่มีแต่ปัจจุบันนี้ละ? นั่นคือ"
"ท่านอาจารย์ลินลี่ย์อัจฉริยะผู้น่าทึ่ง เขามีอายุ 17 ปี! เขาเป็นจอมเวทสองสายธาตุระดับ7 อายุ 17 ปี ในด้านเวทมนต์ เขาเป็นอัจฉริยะอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของทวีปยูลานแต่ในด้านงานแกะสลัก แม้จะมีอายุเพียง 17 ปี แต่เขาก็เป็นที่รู้จักของทุกท่านเป็นอย่างดี"
ในขณะที่เขาพูด บุรุษผมทองหันไปมองที่รูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน'
พนักงานหญิงทั้งสองก้าวออกมาข้างหน้าและดึงผ้าคลุมออกเผยให้เห็นรูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' ของจริง
"นี่คือรูปแกะสลักที่ถูกแกะโดยท่านอาจารย์ลินลี่ย์ จากข้อมูลที่หอศิลป์ของเราได้ทำการสืบค้นมารูปแกะสลักนี้แกะสลักเสร็จเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในช่วงเวลาที่มีพายุหิมะตกลงมาอย่างหนัก พูดอีกอย่างก็คือมันถูกแกะสลักเสร็จสิ้นในตอนที่ลินลี่ย์ยังมีอายุเพียง 16 ปี" บุรุษผมทองหัวเราะ"ในขณะที่ข้ามัวแต่ประหลาดใจกับพายุหิมะที่รุนแรงผิดปรกติแต่ตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไป ข้าจินตนาการว่ามันต้องเป็นสัญญาณถึงการกำเนิดของรูปแกะสลักของท่านอาจารย์ลินลี่ย์รูปนี้เป็นแน่"
ขุนนางและมหาเศรษฐีทุกคนด้านล่างล้วนหัวเราะออกมาทันที
"เอาล่ะ เรามาหยุดการทักทายกันไว้เท่านี้" พลางชี้ไปที่รูปสลัก 'ตื่นจากฝัน' บุรุษผมทองพูดออกมาว่า"รูปแกะสลักนี้นั้นเป็นรูปแกะสลักระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน ที่สำคัญกว่านั้นรูปแกะสลักนี้มีขนาดใหญ่มาก ด้วยความสัตย์จริง เราอยากจะตัดแยกรูปแกะสลักนี้ออกเป็น5 ชิ้นและประมูลแต่ละชิ้นแยกกันจริงๆ"
ขุนนางผู้มั่งคั่งทั้งหมดด้านล่างหัวเราะดังลั่นขณะที่พวกเขาก็เริ่มที่จะพูดคุยเสียงดังขึ้น
"แน่นอน ว่าข้าแค่ล้อเล่นในแต่ละร่างของรูปแกะสลักนี้มีเสน่ห์และกลิ่นอายเป็นของตัวเอง เมื่อจับมารวมกันพวกมันก่อให้เกิดเรื่องราวความรักอันมหัศจรรย์ข้าเชื่อว่าผู้ชื่นชอบงานแกะสลักหินทั้งหลาย ไม่ว่าใครก็ก็สามารถสัมผัสได้ถึงเรื่องราวความรักอันแสนเศร้าแต่ก็งดงามเบื้องหลังรูปแกะสลักนี้"
บุรุษผมทองถอนหายใจ"รูปแกะสลักทั้งห้ารูปล้วนถูกแกะสลักด้วยฝีมือระดับปรมาจารย์เมื่อถูกนำไว้ด้วยกันทำให้ผู้ชมเกิดความรู้สึกที่พิเศษมากจากความมีเอกลักษณ์ของพวกมันข้าแน่ใจว่าไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่ารูปแกะสลักนี้จะมีราคาสูงเพียงใด"
"และที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด อาจารย์ลินลี่ย์แกะสลักรูปแกะสลักนี้สำเร็จเมื่อเขามีอายุเพียง 16 ปี! แค่ 16 ปีเท่านั้น!" เสียงของบุรุษผมทองเริ่มดังขึ้น"ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าข้าจะไม่สามารถหาคำพูดใดๆมาแสดงความยกย่องชื่นชมคนผู้หนึ่งข้าได้แต่พูดออกมาจากความรู้สึกว่าสำหรับท่านอาจารย์ลินลี่ย์เขาเป็น...อัจฉริยะตัวจริง!"
คำพูดเหล่านี้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ขุนนางที่กำลังเฝ้าดูอยู่
การแกะสลักรูปแกะสลักระดับออกมาได้สำเร็จด้วยอายุเพียง 16ปีเพียงแค่ปาฏิหารย์อย่างเดียวไม่พอ
แต่ที่โต๊ะส่วนตัวของตระกูลเด็บส์ พวกเขาได้แต่นั่งเงียบๆ
"ไอ้สารเลวนั่นชั่วช้านัก"คาลันเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชังต่อผู้ดำเนินงานประมูลผมทองคนนี้หลังจากคำบรรยายเล็กๆน้อยๆของเขาการแข่งขันในการประมูลรูปแกะสลักนี้ย่อมสูงขึ้นมากกว่าเดิม
"ข้าไม่อาจจินตนาการได้ว่าอนาคตของอาจารย์ลินลี่ย์นั้นจะประสบความสำเร็จขนาดไหนและนั่นเป็นเหตุให้รูปแกะสลักนี้ พูดให้ถูกก็คือรูปแกะสลักที่แกะโดยอาจารย์ลินลี่ย์รูปแรกที่สร้างความแตกตื่นให้กับโลกจึงเป็นของมีค่า!โธ่เอ๋ย...ข้าช่างโชคร้ายที่ไม่มีเงินมากพอแม้ว่าข้าจะต้องขายสมบัติของตระกูลข้าทั้งหมด ข้าก็ยังต้องการซื้อรูปแกะสลักนี้ให้ได้"บุรุษผมทองพูดติดตลก "เอาล่ะ เรามาเริ่มการประมูลกันดีกว่าราคาประมูลเริ่มต้นที่ 1,000,000 เหรียญทองมีใครคัดค้านราคานี้หรือไม่?"
หนึ่งล้านเหรียญทอง!
นั่นเป็นราคาเริ่มต้นของการประมูลนี้?
ขุนนางเล็กๆที่หวังว่าจะโชคดี พวกเขาพลันได้สติหากพวกเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลมั่งคั่ง, ทรงอิทธิพล พวกเขาจะพยายามต่อสู้เพื่อให้ได้รูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' โดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย
"การเสนอราคาประมูลแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 100,000 เหรียญทอง เสนอราคาสูงกว่าได้" บุรุษผมทองกล่าวต่อ"เอาล่ะ เริ่มเสนอราคาประมูลสำหรับรูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' ของอาจารย์ลินลี่ย์ได้!"
ห้องประมูลตกอยู่ในความเงียบทันที
"1.5 ล้าน!" ขุนนางที่นั่งอยู่ในแถวด้านล่างเสนอราคาทันที
ลินลี่ย์กำลังมองดูการเสนอราคาที่กำลังเกิดขึ้นด้านล่างจากชั้นสาม เสื้อผ้าของลินลี่ย์ขยับเจ้าหนูเงาน้อยบีบี โผล่หัวเล็กๆของมันออกมาดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
"เจ้านายต่อไปข้างหน้าข้าก็สามารถกินทั้งไก่ย่างและเป็ดย่างได้มากเท่าที่ข้าอยากจะกินและดื่มไวน์ทั้งหมดที่ข้าอยากดื่มด้วยแล้วสินะ" เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
"แน่นอน" ลินลี่ย์ลูบหัวเล็กๆของบีบี
ในความคิดของเขา, บีบีเป็นเหมือนน้องชายอีกคนของเขา
"เย้! ชีวิตต่อจากนี้สบายแล้ว"บีบีตื่นเต้นมากที่ดวงตาของมันเปล่งประกายวิบวับ ยืดคอของมัน และโน้มไปข้างหน้ามองลงไป"โว้ว สองล้านทองแล้ว ขึ้นไปอีก ขึ้นไปมากกว่านี้อีกได้โปรด"บีบีส่งเสียงกระตุ้นให้ราคาสูงขึ้นไปอีก มองดูบีบี ลินลี่ย์อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ราชาเคลย์ กษัตริย์แห่งอาณาจักรเฟนไลตบหลังของลินลี่ย์อย่างอบอุ่น "ลินลี่ย์ให้ข้าช่วยสนับสนุนเจ้าซักนิด!"
"ออสโทนี่, ห้าล้านเหรียญทอง!" เคลย์สั่งออสโทนี่
ออสโทนี่เดินไปที่แท่นสำหรับพูด แล้วพูดด้วยเสียงสดใส"องค์ราชาเคลย์เสนอราคาห้าล้านเหรียญทอง!"
"ขอบพระทัย, ฝ่าบาท" ลินลี่ย์พูดขอบคุณทันที
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไร" ราชาเคลย์กอดคอลินลี่ย์อย่างสนิทสนม" ลินลี่ย์ไม่ต้องคิดมากไม่ว่าเจ้าจะเลือกรับใช้ข้าหรือไม่ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทกับข้าทำตัวตามสบายเถอะ"ราชาเคลย์พูดอย่างสบายอารมณ์และสบายใจ
ลินลี่ย์เริ่มมีความรู้สึกดีกับเคลย์แล้ว
เขามีเสน่ห์ดึงดูดซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้นำจริงๆ
"ฝ่าบาทได้โปรดอภัยให้กับข้าด้วยแต่ข้าอยากจะกลับไปบ้านและปรึกษากับบิดาของข้าก่อนหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ข้าตั้งใจจะอยู่ในอาณาจักรเฟนไลต่อไป" ลินลี่ย์พูดด้วยรอยยิ้ม
"ใช่แล้วเจ้าสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะไปพูดคุยเรื่องนี้กับบิดาของเจ้า"เคลย์ขมวดคิ้วเล็กน้อย "แต่ลินลี่ย์ ข้าได้ข่าวมาว่าบิดาของเจ้าไม่อยู่อู่ซันข้าลองให้คนไปสืบดูแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าบิดาของเจ้าเดินทางไปที่ใดราวกับว่า...เขาหายตัวไปเสียอย่างนั้น”
เมื่อชื่อเสียงของลินลี่ย์เลื่องลือไปทั่ว นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการดึงตัวลินลี่ย์มาอยู่ฝั่งของเขาเคลย์ส่งคนไปพบครอบครัวของลินลี่ย์
แต่ฮ็อกก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองอู่ซันแล้ว
"ตอนนี้บิดาของข้าไม่ได้อยู่ที่เมืองอู่ซันงั้นหรือ?" ลินลี่ย์รู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็หัวเราะ"บิดาของข้าอาจจะออกไปทำธุระที่ไหนสักแห่งชั่วครู่ บิดาไม่เคยทิ้งเมืองอู่ซันไปไหนนานๆ"
"อาจจะ" เคลย์ไม่คุยเรื่องนี่ต่อ
ฮ็อกกำลังหลบซ่อนตัว มิฉะนั้นแล้ว หากผู้ครองอาณาจักรต้องการจะหาใครสักคนเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาหาไม่เจอ?
…..
ณ โต๊ะส่วนตัวบนที่นั่งชั้นที่สอง
"ห้าล้านเหรียญทอง?! ไอ้ลูกหมาเอ้ย!" คาลันก่นด่า เขาไม่ค่อยทำแบบนี้บ่อยนัก
เบอร์นาร์ด ผู้นำตระกูลเด็บส์มี ใบหน้าของเขาหม่นหมอง เขากล่าวด้วยเสียงต่ำว่า"คาลัน, เจ้าควรรู้ว่าตระกูลของเราตอนนี้กำลังเผชิญอยู่กับสถานการณ์แบบไหนตอนนี้อนาคตของตระกูลไม่มั่นคงเราไม่อาจสูญเสียเงินทองไปอย่างไร้ประโยชน์กับเรื่องนี้จากพื้นฐานของตระกูลเราตอนนี้ต้องคิดให้ดีเพื่อเจ้าแล้วตระกูลเราจ่ายได้มากสุดที่แปดล้านเหรียญทอง นี่คืองบสุดท้ายที่เรามี"
คาลันพยักหน้ารับ
คาลันรู้ดีว่าตระกูลของเขามีทรัพย์สินรวมทั้งหมดประมาณหนึ่งร้อยล้านเหรียญทองและทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์สภาพคล่องต่ำ เงินสำรองของพวกเขามีอยู่ประมาณยี่สิบล้านเหรียญทองดังนั้นตระกูลเขาไม่อาจจ่ายเงินสำรองทั้งหมดของพวกเขาเพียงเพื่อซื้อรูปแกะสลักรูปเดียว
ตระกูลของเขายังนับว่าปราณีมากแล้วที่ไม่บังคับให้คาลันกับอลิซเลิกกัน
"5 ล้าน3 แสนเหรียญทอง!"ใครบางคนในนั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนตัวชั้นสองเสนอราคาประมูลขึ้นมา
บุรุษผมทองเริ่มแสดงความตื่นเต้นมากขึ้น "5 ล้าน3 แสนเหรียญทอง!ราคาประเมินต่ำสุดของหนึ่งในผลงานชิ้นเอกทั้งสิบราคา 5,280,000 เหรียญทอง แต่บัดนี้รายนามของผลงานชิ้นเอกทั้งสิบได้มีการเปลี่ยนแปลงแล้วข้าสามารถประกาศอย่างเป็นทางการว่ารูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' ถูกนับรวมเป็นอันดับ 10 ของผลงานชิ้นเอกทั้งสิบแล้ว!"
"คุณชายเยลจากหอการค้าดอว์สันเสนอราคาหกล้านเหรียญทอง!" ออสโทนี่ประกาศอีกครั้งจากห้องชั้นสาม
เมื่อได้ยินราคานี้สีหน้าของคาลันเริ่มเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำแล้ว
ราคาได้พุ่งขึ้นไปถึงหกล้านเหรียญทองอย่างรวดเร็ว นี่นับว่าเกินกว่าที่คาลันได้คาดเอาไว้มากจากการคาดการณ์ของคาลันคิดว่าราคาที่ถูกที่สุดของผลงานชิ้นเอกทั้งสิบคือ 5,280,000 เหรียญทอง เงินแปดล้านเหรียญทองที่เขาเตรียมเอาไว้นับว่ามากจนเกินพอ
แต่ทว่า.......
คาลันนั้นไม่ได้เป็นนักสะสมตัวจริงเขาไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้งในด้านงานแกะสลักหินด้วยซ้ำ
ผู้มีความรู้ด้านนี้จะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของจิตวิญญาณเฉพาะตัวของรูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองทั้งห้ารูปรวมกัน นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในประวัติศาสตร์ของทวีปยูลานทั้งหมด, ไม่เคยมีรูปแกะสลักห้ารูปถูกแกะสลักรวมกันอยู่ในรูปแกะสลักเดียวกันมาก่อนอย่างเช่นรูปที่มีลักษณะแสดงอาการเศร้า ให้ความรู้สึกที่งดงามต่อคนดู
ยิ่งกว่านั้น ลินลี่ย์แกะรูปแกะสลักนี้เสร็จสมบูรณ์เมื่อมีอายุได้เพียง 16ปีเท่านั้น และเขายังเป็นจอมเวทอัจฉริยะอีก!
"ข้าไม่อาจปล่อยให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างนี้ต่อไปได้" คาลันขมวดคิ้ว
เขารู้ดีว่า หากราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆโอกาสที่เขาจะชนะการประมูลนี้มีแต่น้อยลงเรื่อยๆ
"แปดล้านเหรียญทอง!" คาลันตะโกนส่งเสียงเสนอราคาประมูลของเขา
จากราคาหกล้านเหรียญทองไปถึงราคาแปดล้านเหรียญทองการที่ราคาเพิ่มขึ้นมาสองล้านเหรียญทองในทันทีนั้นราคาที่พุ่งพรวดขึ้นนี้มากพอจะทำให้ทุกคนตกตะลึง จริงๆแล้วแม้ว่าผลงานชิ้นเอกทั้งสิบนั้นจะมีคุณค่ามากยิ่งกว่านั้นรูปแกะสลักของปรมาจารย์พรูกซ์ทั้งสามรูปเองก็มีราคาประมาณเจ็ดล้านเหรียญทองต่อรูปเท่านั้น
นักสะสมตัวจริงไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อเก็บสะสมเท่านั้นพวกเขานั้นมีสายตาอันแหลมคมจนสามารถมองเห็นมูลค่าที่แท้จริงของมัน
อีกอย่างหนึ่ง หากพวกเขาเพียงแค่หว่านเงินของพวกเขาไปทั่วอย่างเมามัน ตระกูลของพวกเขาคงล้มละลายไปแล้ว
บุรุษผมทองตะโกนเสียงดังทันทีว่า "ตระกูลเด็บส์เสนอราคาแปดล้านเหรียญทอง!เป็นเรื่องที่ดี ราคาได้พุ่งขึ้นไปที่แปดล้านเหรียญทองแล้ว นับตั้งแต่นี้ใครก็สามารถบอกได้ว่าพวกเขาตัดสินใจที่จะชนะในการประมูลรูปแกะสลักนี้!ตอนนี้ข้าได้จินตนาการไปแล้วว่าในอนาคตเมื่ออาจารย์ลินลี่ย์ได้กลายเป็นนักสู้ระดับเซียนแล้วราคาของรูปแกะสลักนี้จะไม่ใช่แค่แปดล้านเหรียญทองอีกต่อไปมีแนวโน้มว่ามูลค่าของมันจะพุ่งขึ้นไปเป็นสิบหกล้านเหรียญทองเลยทีเดียว!"
ความเก่งกาจในการขายสินค้าของบุรุษผมทองคนนี้น่ากลัวจริงๆ
แต่ที่นี่ไม่มีใครถูกหลอกได้โดยง่าย พวกเขาทั้งหมดกำลังคิด ...จริงๆแล้วแม้ว่าพวกเขาจะมีเงินพอๆกัน มันย่อมถูกใช้จ่ายออกไปอย่างมีความหมาย
….
บนชั้นที่สามของห้องประมูล ลินลี่ย์, เยล, ราชาเคลย์ คาร์ดินัลกิลเยโม, และคาร์ดินัลแลมป์สันกำลังใช้เวลาว่างร่วมสนทนากันอย่างสนุกสนานขณะที่พวกเขาคอยเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้านล่าง
"น้องสาม เจ้าคาลันนั่น ก็เสนอราคาประมูลด้วย" เยลกระซิบ
ลินลี่ย์อดที่จะหันไปมองโต๊ะส่วนตัวของคาลันไม่ได้เขาได้เห็นคาลันจับมือกับอลิซที่โต๊ะของพวกเขาอย่างชัดเจนจากการแสดงออกของคาลันทำให้เห็นว่า เขากำลังกระวนกระวายมาก
"น้องสาม ให้ข้ากดดันเขาสักเล็กน้อย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราไม่อาจให้รูปแกะสลักของเจ้าตกไปอยู่ในมือเขา" เยลพูดอย่างนุ่มนวล
"ไม่จำเป็น" ลินลี่ย์ส่ายหน้าช้าๆ
ลินลี่ย์จ้องมองไปที่อลิซ เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอลิซดูเหมือนสาวน้อยน่าเวทนาที่ได้รับบาดเจ็บที่ไม่มีใครดูแลสมาชิกของตระกูลเด็บส์ทุกคนล้วนมองมาที่อลิซด้วยความขัดเคืองใจ ที่สุดแล้วการที่ตระกูลของพวกเขาต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลล้วนเพื่อประโยชน์ของอลิซคนเดียว
"หากพวกเขาต้องการมันจริงๆ ก็ปล่อยให้พวกเขาได้มันไป" ลินลี่ย์พูดอย่างไม่สนใจ
กิลเยโมกับแลมป์สันที่นั่งข้างๆเขาสบตากันแล้วหัวเราะหึๆ
…..
ที่โต๊ะส่วนตัว
สมาชิกของตระกูลเด็บส์ทุกคนล้วนเต็มไปด้วยความเครียดแต่แน่นอนว่าอลิซกับคาลันย่อมเครียดมากกว่าคนอื่นๆ
"วางใจเถอะ, อลิซแปดล้านเหรียญทองนี่นับเป็นราคาที่สูงมากแล้วมันไม่มีทางสูงไปกว่านี้แล้ว" คาลันปลอบอลิซ...แต่ใครละที่จะปลอบใจเขา? เพราะเขาได้รับอนุญาตจากตระกูลให้เสนอราคาได้สูงสุดเพียงแปดล้านเหรียญทองเท่านั้น
บุรุษผมทองยกค้อนขนาดเล็กขึ้น “ตระกูลเด็บส์เสนอราคาที่แปดล้านเหรียญทองมีใครจะให้ราคาสูงกว่านี้อีกไหม? หากว่าไม่มี...ข้าจะเริ่มนับถอยหลังละนะ”
"สิบล้านเหรียญทอง"
น้ำเสียงเฉื่อยชาดังออกมาจากที่นั่งตรงกึ่งกลางของชั้นหนึ่งจนถึงตอนนี้การเสนอราคาประมูลเกือบทั้งหมดสำหรับรูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' นี้มาจากบรรดาตระกูลมีอิทธิพลที่นั่งอยู่บนชั้นสองพวกเขาเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการประมูลครั้งนี้เหล่าขุนนางที่นั่งอยู่ชั้นหนึ่งนั้นล้วนมาเพื่อชมดูความสนุกสนานเท่านั้นการที่มีหนึ่งในพวกเขาเสนอราคาประมูลนั้นนับว่าเหนือความคาดหมาย
"พวกเจ้าไม่มีใครเข้าใจถึงความยอดเยี่ยมของรูปแกะสลักนี้สักคนเอาละข้าจะบอกให้ว่าคืออะไร รูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' นี้เปิดโลกใหม่ให้กับวงการแกะสลักด้วยวิธีการแกะสลักหินที่แตกต่างจากรูปแกะสลักอื่นๆและยิ่งไปกว่านั้นรูปแกะสลักนี้มีห้ารูปลักษณ์ที่แผ่กลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ที่เชื่อมต่อกันมันย่อมมีมูลค่าไม่น้อยไปกว่าสิบล้านเหรียญทองแน่นอน" บุรุษคนที่เสนอราคาสิบล้านเหรียญทองเป็นผู้กล่าวออกมาอย่างสบายๆ
บุรุษคนนี้มีอายุราว 30-40 ปีสวมเสื้อยาวหลวมทุกคนรู้สึกได้ถึงความเกียจคร้านโดยธรรมชาติจากตัวเขา
"สิบล้านเหรียญทอง?"ทั้งคาลันและอลิซพากันตกตะลึงอยู่ที่โต๊ะส่วนตัวของพวกเขา