ตอนที่ 444 ทำลายล้าง
ตอนที่ 444 ทำลายล้าง
หลังจากชักดาบออกมา มิคาเอล ก็ไม่รอช้า เขาพุ่งเข้าหา ซาตาน พร้อมดาบในมือทันที หลักฐานงั้นเหรอ? หลักฐานบิดามันสิ! หลักฐานมารดามันสิ! ตอนนี้ยังต้องการหลักฐานอะไรอีกล่ะ ในเมื่อพวกที่ฆ่าเผ่าเทพได้มันมีแต่เผ่าปีศาจ ตอนนี้ยังต้องพูดเรื่องหลักฐานกันอีกงั้นเหรอ
ไม่แล้ว!
หลักฐานไม่จำเป็นต้องมีแล้ว! อาแลนด์ตุส ตายก็ถือว่าเป็นหลักฐานแล้ว
ซาตาน ขมวดคิ้วไม่พอใจพร้อมกันนั้นก็หาทางหลบไปด้วย เขาไม่ได้กลัวการปะทะกับ มิคาเอล เพราะพลังของเขากับ มิคาเอล ไม่ได้ต่างกันมากมายนัก อีกอย่าง เพราะสัญญาสงบศึกดำเนินมาหลายปี ซาตาน แทบไม่ได้ต่อสู้กับเผ่าเทพเลยนอกจากงานประลอง
ถ้าเลือกได้เขาก็อยากชักดาบที่เอวออกมา จากนั้นก็ฟัดกับ มิคาเอล มันซะตรงนี้ แต่ว่า ถ้าเขาสู้กับมิคาเอลในเมืองหลวงแบบนี้ล่ะก็ เมืองทั้งเมืองได้หายไปแน่ และภายในเมืองหลวงก็มีเผ่าปีศาจจำนวนมาก หรือก็คือ หากเขาเลือกสู้กับ มิคาเอล ที่นี่เผ่าปีศาจหลายล้านตัวต้องตายนั่นเอง
ฟุบ!
ดาบของ มิคาเอล ฟันพลาดไม่โดน ซาตาน แต่แรงลมของดาบก็พุ่งตรงไปยังเมืองหลวงด้านล่าง
ตูม!!!
แรงลมจากการฟันดาบของ มิคาเอล ปะทะเข้ากับตึกขนาดใหญ่ ด้วยการปะทะเพียงครั้งเดียวตึกขนาดใหญ่ก็พัง เป็นพลังทำลายที่มหาศาลมาก
ฉีก!
ฉีก!
ฉีก!
อากาศเริ่มบิดเบี้ยวอีกครั้ง และประตูมิติก็เริ่มก่อตัวขึ้น มิคาเอล หันมองไปทางประตูมิติด้านหลังแล้วแสยะยิ้มออกมา เขารู้ได้ทันทีว่าใครที่เป็นคนใช้ประตูมิติ เพราะพวกเผ่าปีศาจไม่สามารถใช้ประตูมิติได้ คนที่ใช้มันต้องเป็นเผ่าเทพ ต้องเป็นกำลังเสริมที่จะมาช่วยเขาสู้
หลังจากประตูมิติโดนสร้างขึ้น คนที่ออกมาก่อนคือแม่ทัพใหญ่เผ่าเทพ อาคันเฟล หลังจากที่ อาคันเฟล ออกมาจากประตูมิติเขาก็มองหา มิคาเอล เมื่อเจอกับ มิคาเอล ตัวของ อาคันเฟล ก็รีบบินตรงเข้าไปหาทันที
เมื่อครู่ ระหว่างสั่งรวบรวมกองทัพ อาคันเฟล ได้รับข่าวล่าสุดมา นั่นคือ อาแลนด์ตุส หายตัวไปในการต่อสู้และแกรนด์ดยุก วอเตอร์ ก็หายไปด้วยเช่นกัน ถึงเขาจะไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่า มนุษย์เป็นผู้ฆ่าเผ่าเทพ แต่จากข้อมูลที่ได้รับมาจากสายลับคนอื่น ๆ มันปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ
“ท่านมิคาเอล พวกเราเจอตัวคนที่น่าจะฆ่าอาแลนด์คุสแล้วครับ”
อาคันเฟล พูด
มิคาเอล ถามทันทีว่า
“ใคร!? มันคือปีศาจตัวไหน!?”
“ไม่ใช่เผ่าปีศาจครับ แต่มันคือมนุษย์มนุษย์ที่ชื่อว่า ไคล์ วอเตอร์ เป็นคนฆ่าครับ”
“มนุษย์… เจ้ากำลังจะบอกว่ามนุษย์สามารถฆ่าอาแลนด์ตุสได้”
มิคาเอล ถามยืนยัน เขาเชื่อไม่ลงจริง ๆ
“ครับท่าน ตามรานงานที่เราได้รับล่าสุดมีความเป็นไปได้สูงมาก ถึงเราจะไม่รู้ว่า ไคล์ วอเตอร์ ฆ่าจริงไหม แต่เรื่องที่อาแลนด์ตุสแพ้การต่อสู้แล้วต้องหนี เรื่องนี้ยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง และหลังจากอาแลนด์ตุสเปิดประตูมิติหนี ไคล์ วอเตอร์ ก็หายตัวไป”
อาคันเฟล ตอบตามที่เขาได้รับรายงานมา
“กำลังพูดถึง ไคล์ วอเตอร์ กันอยู่ใช่ไหม?”
คนที่แทรกการคุยระหว่างทั้ง 2 ก็คือ ซาตาน
มิคาเอล และ อาคันเฟล พากันหันมองไปทาง ซาตาน แต่พวกเขาทั้ง 2 ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาพวกเขารอให้ ซาตาน พูดสิ่งที่อยากจะพูดต่อ
จากนั้นไม่นาน ซาตาน ก็พูดขึ้นอีกว่า
“ข้าคิดว่า ไคล์ วอเตอร์ ฝึกเคล็ดวิชาแบบเดียวกับตระกูล โมโนลิธ”
มิคาเอล ขมวดคิ้ว
“เจ้ากำลังจะบอกว่าตระกูล โมโนลิธ ที่อยู่ ๆ ก็โดนฆ่าล้างตระกูลทั้งหมด มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ไคล์ วอเตอร์ งั้นเหรอ ก็จริงอยู่ที่เคล็ดวิชาดูดกลืนลมปราณของ ไคล์ วอเตอร์ มันเหมือน ๆ กับเคล็ดวิชากระชากวิญญาณของตระกูล โมโนลิธ แต่แค่เหมือนกันมันเชื่อมไม่ได้”
มิคาเอล พอรู้เรื่องของตระกูล โมโนลิธ มาอยู่บ้าง ตระกูล โมโนลิธ คือตระกูลที่ผลิตจอมมารออกมาได้เยอะที่สุด และตระกูล โมโนลิธ ยังมีเคล็ดวิชาที่น่ากลัวอย่าง เคล็ดวิชากระชากวิญญาณ มิคาเอล ไม่มีทางลืมตระกูลที่แข็งแกร่งนี้แน่นอน
ทว่า เมื่อประมาณ 2 – 3 ปีก่อน อยู่ ๆ ตระกูล โมโนลิธ ก็หายตัวไปทั้งหมดตระกูล และข้อมูลของเคล็ดวิชากระชากวิญญาณก็หายไปด้วย เพราะการหายตัวไปของตระกูล โมโนลิธ ทำให้เคล็ดวิชากระชากวิญญาณหายสาบสูญไปด้วย
“ข้าไม่ได้บอกว่ามันเกี่ยวกับตระกูล โมโนลิธ แต่มันน่าจะเกี่ยวกับผู้ที่ทำให้ตระกูล โมโนลิธ หายไป ตระกูล โมโนลิธ อยู่ ๆ ก็หายตัวไปเมื่อ 2 ปี 7 เดือนก่อน ใช่ไหม”
ซาตาน ตอบและถาม
มิคาเอล พยักหน้าแล้วตอบว่า
“ใช่ ก็น่าจะประมาณนั้น”
ซาตาน พูดต่อ
“หลังจากข้าตรวจสอบดู ข้าก็พบว่าเมื่อ 2 ปี 7 เดือนก่อน เป็นวันที่ ไคล์ วอเตอร์ เริ่มทำตัวแปลกไปจากเดิม จากคนไม่ได้เรื่อง กลายเป็นคนที่จัดการทุกอย่างได้หมด เจ้าไม่คิดว่าเรื่องนี้มันแปลก ๆ หรือไง เวลามันตรงกันเกินไป ข้าไม่มีหลักฐานว่า ไคล์ วอเตอร์ มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการหายตัวไปของตระกูล โมโนลิธ แต่ข้าคิดว่า การหายตัวไปของปีศาจตระกูล โมโนลิธ ต้องมีความเกี่ยวข้องกับ ไคล์ วอเตอร์ แน่นอน”
ซาตาน คิดว่าเรื่องนี้มันน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่นอน 100% ถ้าเกิดว่าแค่ ไคล์ วอเตอร์ ทำตัวเปลี่ยนกับตระกูล โมโนลิธ หายตัวไปวันเดียวกัน ซาตาน จะยังพอคิดได้ว่ามันคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่เมื่อรู้ว่า ไคล์ วอเตอร์ มีเคล็ดวิชาดูดกลืนลมปราณที่เป็นวิชาที่เหมือน ๆ กับของตระกูล โมโนลิธ ซาตาน ไม่สามารถมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญได้จริง ๆ
“เจ้าแน่ใจใช่ไหมว่า ไคล์ วอเตอร์ มันตาม อาแลนด์ตุส ไปจริง ๆ”
มิคาเอล ถามย้ำ อาคันเฟล
อาคันเฟล พยักหน้า
“ครับท่าน สายลับของเราที่แฝงตัวอยู่รายงานเหมือนกัน 2 คน แล้วพวกนั้นยังบอกอีกว่า เห็นกับตาว่า ไคล์ วอเตอร์ เปิดประตูมิติ”
ซาตาน “….?”
มิคาเอล “…?”
คนที่แปลกใจที่สุดหลังได้ยินว่า ไคล์ วอเตอร์ เปิดประตูมิติได้ก็คือตัวของ ซาตาน นั่นเอง ต้องรู้ก่อนว่าเผ่าปีศาจพยายามมาหลายร้อย หรืออาจจะพันปีแล้วเพื่อเลียนแบบ เคล็ดวิชาประตูมิติของเผ่าเทพ แต่ไม่ว่าจะใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ ใช้เวลามากเท่าไหน เผ่าปีศาจก็ไม่สามารถทำสำเร็จได้เลยสักครั้ง
แต่ตอนนี้ อยู่ ๆ เขามาได้ยินว่าเผ่ามนุษย์ที่เขาดูถูกดูแคลน สามารถใช้ของที่พวกเขาไม่สามารถใช้งานได้ จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง
“ไคล์ วอเตอร์ เป็นลูกครึ่งระหว่างเผ่าเทพและมนุษย์หรือเปล่า”
มิคาเอล ถาม
อาคันเฟล ตอบทันทีว่า
“ตามรายงาน ไคล์ วอเตอร์ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเผ่าเทพของเราเลยครับ”
“มันไม่น่าจะเป็นไปได้สิ เคล็ดวิชาประตูมิติถูกออกแบบมาเพื่อให้เราเผ่าเทพใช้เท่านั้น ถ้าเป็นลูกครึ่งยังพอหาเหตุผลรองรับได้ แต่นี่กลับไม่ใช่…”
มิคาเอล พึมพำคนเดียวเบา ๆ และในระหว่างที่เขากำลังคิดเขาก็มองไปทาง ซาตาน และหลังจากเห็น ซาตาน กำลังมองตัวเองเช่นกัน มิคาเอล จึงพูดว่า
“เรื่องนี้ข้าต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ข้าขอตะ-”
“เจ้าคงไม่ได้ทำผิดสัญญาหรอกใช่ไหม มิคาเอล พวกเราสัญญากันเอาไว้ว่าจะไม่สอนเคล็ดวิชาของพวกเราให้พวกมนุษย์ไม่ใช่หรือไง”
ซาตาน พูดด้วยน้ำเสียงแข็ง
“สอน? ข้าไม่ทำอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว เจ้าเองก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่า ไคล์ วอเตอร์ มันแปลก ๆ มันรู้แม้กระทั่งเคล็ดวิชาที่คล้าย ๆ กับของตระกูล โมโนลิธ”
มิคาเอล ปฏิเสธเสียงแข็ง
ซาตาน ไม่ได้ตอบอะไร เขาคิดว่าสิ่งที่ มิคาเอล พูดออกมามันก็ถูกต้อง ไคล์ วอเตอร์ ชายคนนี้มีเรื่องแปลก ๆ มากเกินไป ก่อนจะกล่าวหา มิคาเอล เขาควรสืบให้แน่ใจก่อนว่า ไคล์ วอเตอร์ สามารถใช้เคล็ดวิชาประตูมิติได้ยังไง
“เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”
มิคาเอล พูดพร้อม ๆ กับเปิดประตูมิติ
“เฮ้ย!!! เดี๋ยวก่อนสินี่แกไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรเลยหรือไง”
ซาตาน พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เหลือเชื่อเลยจริง ๆ อยากมาก็มา อยากไปก็ไป นี่มันคิดว่าอาณาเขตปีศาจเป็นสวนหลังบ้านของตัวเองหรือไง
ถ้าเกิด ซาตาน ไม่ทำอะไรกับเหตุการณ์ที่ มิคาเอล บุกมาครั้งนี้ละก็เผ่าปีศาจต้องมองว่าเขาหวาดกลัว มิคาเอล แน่ ๆ เขายอมไม่ได้
“เจ้าต้องการอะไรอีก เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ขอโทษแล้วกัน ขอโทษแล้วก็ถือว่าจบ ๆ กันไป”
มิคาเอล ตอบแบบไม่ใส่ใจ เขาไม่สนใจหันไปมอง ซาตาน เวลาพูดด้วยซ้ำ
แก๊ก!!!
“ซาตาน!!!”
มิคาเอล ตะโกนใส่ ซาตาน หลังจากได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นข้าง ๆ เสียงที่เกิดขึ้นคือเสียงที่ ซาตาน ใช้พลังจับร่างของ อาคันเฟล เอาไว้
มิคาเอล ต้องการจะบอกให้ปล่อยตัวคนของเขา แต่ทาง ซาตาน ก็ชิงพูดก่อนว่า
“เนื่องจาก 1 ใน 3 แม่ทัพใหญ่เผ่าเทพ อาคันเฟล มีความแค้นกับพวกปีศาจมาก ๆ เขาไม่พอใจสัญญาสงบศึกระหว่าง 2 เผ่า เขาเลยพยายามปลุกปั่นให้ มิคาเอล และ ซาตาน ต่อสู้กัน แต่ผู้นำสูงสุดของทั้ง 2 เผ่า ก็รู้ทันแผนของ อาคันเฟล เลยทำให้ปะทะกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
ซาตาน มองไปทาง อาคันเฟล แล้วพูดต่ออีกว่า
“ข้าจะขอควบคุมตัวของ อาคันเฟล เอาไว้ก่อน โทษของ อาคันเฟล เผ่าปีศาจจะตัดสินโทษกันเอง …เรื่องเป็นแบบนี้เจ้าคิดว่าเป็นยังไง มิคาเอล แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนว่า เรื่องที่เจ้าบุกมาครั้งนี้มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าเรื่องไม่เป็นแบบที่ข้าพูด พวกเราก็มีแต่ต้องทำสงครามกับเท่านั้น คิดดูให้ดีก่อนตอบด้วย มิคาเอล”
มิคาเอล เริ่มช่างน้ำหนัก เรื่องที่ ซาตาน พูดออกมาถูกต้องถ้าไม่หาคนรับผิดชอบ เรื่องที่เขาบุกมาอาณาเขตปีศาจคงได้กลายเป็นต้นเหตุสงครามแน่ ๆ
“ปล่อยข้า แอ๊ก… ไว้ที่นี่เถอะครับ”
อาคันเฟล เสนอตัวเอง ตอนนี้เผ่าเทพต้องเตรียมตัวทำสงครามเพื่อยึดครองทวีปมนุษย์ หากเกิดสงครามขึ้นจะส่งผลกระทบกับแผนเดิมอย่างมาก ถ้าชีวิตของเขาเพียงคนเดียวสามารถหยุดสงครามได้ล่ะก็ อาคันเฟล ก็พร้อมที่จะตาย
“อย่าพูดเหมือนว่าข้าจะฆ่าเจ้าแบบนั้นสิ อาคันเฟล ข้าแค่เอาเจ้ามารับโทษเป็นพิธีเท่านั้น เดี๋ยวตอนที่เผ่าเทพจะบุกโจมตีพวกมนุษย์ ข้าก็จะปล่อยเจ้าเองนั่นแหละ”
ซาตาน ตัดบทซาบซึ้งสละชีวิตของ อาคันเฟล
มิคาเอล พยักหน้า จากนั้นเขาก็หันมอง ซาตาน แล้วพูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า
“หวังว่าเจ้าจะตามที่เจ้าพูดนะซาตาน ถ้าเจ้าผิดคำพูด ข้าจะมาฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าเอง”
[มาสิ ข้าจะฆ่าเจ้าเหมือนกันถ้าบุกมาอีก] ซาตาน อยากสวนกลับแบบนี้อยู่หรอก แต่เพราะเขาต้องการจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเขาเลยไม่พูด เขาทำแค่พยักหน้าขึ้นลง
เมื่อเห็น ซาตาน พยักหน้าให้ตัวเอง มิคาเอล ก็เข้าประตูมิติเพื่อเดินทางกลับ