ตอนที่ 27 ทาส(ฟรี)
เช่นเดียวกับที่ เจียงมู่ ตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ฉะ–!
ข้างหน้าที่ห่างไกลออกไป ก็มีเสียงกรีดร้องที่แหบพร่าและหยาบกร้านดังขึ้น
มันยังเจือด้วยรัศมีปีศาจที่ทรงพลังและยุ่งเหยิง
“นั่นคือ..”
“เสียงกรีดร้องของ ชา หวู่เหวิน!”
“เขายังไม่ตาย!”
หัวใจของ เจียงมู่สั่นไหวเมื่อปริศนาที่เขาเผชิญได้รับการแก้ไขโดยเขาไม่ได้ทำอะไร
ในการเกิดใหม่ครั้งก่อนๆ
เขาเคยเห็นเผ่าหนอนทรายกลืนวิญญาณมาก่อน ดังนั้นเขาจึงทราบดีถึงเสียงกรีดร้องที่แหบพร่าและหยาบกร้านของพวกมัน
และพึ่งพาจากรัศมีปีศาจที่ทรงพลังนี้
มันง่ายที่จะบอกได้ว่ามันมาจากผู้ฝึกตนปีศาจขอบเขตแปลงลักษณ์
และผู้ฝึกตนปีศาจขอบเขตแปลงลักษณ์ทีอยู่หุบเขาไร้คนมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ก็คือ ชา หวู่เหวิน!
“โชคดี โชคดี ที่เส้นทางการแก้แค้นไม่ถูกทำลาย”
เจียงมู่เช็ดเหงื่อเย็น ๆ
แต่เขาก็ยังไม่สบายใจ เขาขมวดคิ้วด้วยความกังวลอย่างจริงจัง
“ตอนนี้เส้นเรื่องได้เบี่ยงเบนไปอย่างมาก”
“ดังนั้น ข้ายังต้องเฝ้าดูต่อไป”
“ถ้าโครงเรื่องออกมาผิดพลาด มันก็จะยิ่งเลวร้ายและข้าต้องรีบแก้ไข”
หลังจากที่คิด
เขาวิ่งไปยังทิศทางของเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชชา หวู่เหวิน
เมื่อเข้าใกล้ เฮยสุยชาในระยะสิบกว่าเมตร
เขาชะลอฝีเท้าลง
“โชคดีที่ข้าได้รับรางวัล สุญญาเทพซ่อนเร้น' จากเจ้าระบบอันธพาล”
“มิฉะนั้น หากเฮยสุยชารู้เข้าข้าคงถูกตบกระเด็น”
เจียงมู่ยินดีในใจอย่างลับๆ ก้าวเท้าข้ามเฮยสุยชาอย่างระมัดระวังและเดินไปอย่างเงียบๆ
“ดีมาก ราบรื่น-….”
โดยทันที
เฮยสุยชาที่กำลังทำสมาธิอยู่ ลืมตาขึ้นและหันมองไปทางเขา
รูม่านตาสีทองแทงเข้ากับดวงตาของเขาราวกับคมมีด
“เชี่ย…. ไม่มีทาง!”
“ยายแก่จมูกยาวสัมผัสได้ถึงข้างั้นเหรอ!”
ขนลุกขึ้นทั่วร่างกายของ เจียงมู่
สุญตาเทพซ่อนเร้น ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยกว่าเดิมสองเท่า… มันอาจจะล้มเหลว?
และคำพูดต่อไปของเฮยสุยชาก็เป็นคำตอบให้กับเขา
“เป็นเพียงมดขอบเขตรวบรวมวิญญาณกลับกล้าพยายามใช้วิชาล่องหนเพื่อปกปิดสัมผัสเทพของเทพองค์นี้งั้นหรือ?”
สัมผัสเทพ?
สุญตาเทพซ่อนเร้นไม่สามารถปกปิดสัมผัสเทพได้?
WTF?
จิตใจของเจียงมู่ตอนนี้ ราวกับมีกลุ่มของสัตว์เทพนับร้อยวิ่งวุ่นอยู่ภายใน
(神识 คำนี้มี 2 ความหมาย แปลตรงตัวคือ สัมผัสเทพ อีกความหมายคือ จิตสำนึก )
ทันใดนั้น ระลอกคลื่นมิติก็ปรากฏขึ้นรอบๆ เฮยสุยชา
ในช่วงพริบตา
ร่างของนางก็หายไปจากตรงนั้น
วินาทีถัดมา นางก็ปรากฏตัวด้านหน้าเจียงมู่
นางยกแขนเล็ก ๆ ของนางขึ้นและคว้าคอของ เจียงมู่อย่างแม่นยำ
“ปล่อย! แค่กๆ….”
เจียงมู่ถูกบีบคอจนหายใจไม่ออก สติของเขาะค่อย ๆ อ่อนแอลง และพลังงานวิญญาณในร่างกายของเขาก็เริ่มยุ่งเหยิง
ทำให้ สุญตาเทพซ่อนเร้น ถูกยกเลิกทันที
ในท้ายที่สุด.
ร่างกายของเขาถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ต่อหน้า เฮยสุยชา!
“เป็นเจ้านี่เอง! ไอ้สารเลว!!!”
รูม่านตาของเฮยสุยชาหดลง ทันใดนั้นความโกรธก็พวยพุ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจของนาง
นางจำได้อย่างชัดเจนว่าคนสกุลเจียงเรียกนางว่ายายแก่จมูกยาวในบันทึกประจำวันของเขา
ถ้าเขาไม่เรียกนางว่ายายแก่จมูกยาว
นางจะไม่อารมณ์เสียและระเบิดแรงกดดันวิญญาณจนทำให้ ชา หวู่เหวินหวาดกลัวและซ่อนตัว
และนางก็คงไม่ต้องถูกบังคับให้ใช้กำลังทั้งหมดของนางในการใช้ อสรพิษทมิฬอัสนีศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขุด ชา หวู่เหวิน ออกมา
และนางคงจะไม่อ่อนแอลงขนาดนี้จนพลังลดลงถึงขอบเขตทะเลปราณขั้นแรก!
“คนที่กล้าเรียกเทพองค์นี้ว่ายายแก่จมูกยาวยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ!”
เดิมที เฮยสุยชาต้องการพูดวลีดังกล่าวกับ เจียงมู่
แต่กลับพบว่านางถูกห้ามโดยพลังที่มองไม่เห็นและไม่สามารถพูดออกมาได้!
ก่อนหน้านี้นางได้ลองบอก หลิงอ่าวเทียนถึงข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเนื้อหาในบันทึกประจำวัน
แต่ก็ไม่สามารถพูดได้
สิ่งนี้ทำให้นางยิ่งเชื่ออีกครั้งว่านี่คือโลกนิยายจริงๆ
"ไปลงนรกซะ!"
เฮยสุยชาต่อยท้องเจียงมู่อย่างแรงเพื่อเอาคืนที่เขากล้าเรียกนางว่า ยายแก่จมูกยาว
แม้ปากจะบอกว่า ไปลงนรกซะ.
แต่สุดท้ายนางก็ยังถอนกำลังออกเพื่อไม่ให้เขาถูกต่อยจนตาย
อย่างไรก็ตาม นางยังคงต้องพึ่งพาบันทึกประจำวันของเจียงมู่ในการสอดแนมทิศทางของแผนการ เพื่อที่นางจะได้รู้ชะตากรรมของนางเอง และท้ายที่สุดต้องมั่นใจได้ว่าเป้าหมายของนางกลายเป็นจริง
ปัง!!!
กำปั้นถูกต่อยเข้าที่ท้องของ เจียงมู่
“แค่ก!”
เจียงมู่ถูกต่อยจนสำลักก่อนถูกส่งบินกลับหลัง
"แค่ก!"
ทันใดนั้น เฮยสุยชาก็ไออย่างรุนแรง
ทันทีที่ต่อยเจียงมู่ นางก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ท้องอย่างรุนแรง
ราวกับว่ามีคนชกนางเข้าที่ท้องด้วยกำปั้นเดียวกัน!
“เจ้า… เจ้าโต้กลับเทพองค์นี้ได้อย่างไร?”
เฮยสุยชาจับท้องของนาง ใบหน้าของนางดูเจ็บปวดเล็กน้อย
แม้ว่านางจะเป็นเพียงวิญญาณและครอบครองร่างงูธรรมดา ส่วนพลังของนางตอนนี้ก็อยู่เพียงระดับแรกของขอบเขตทะเลปราณเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นางก็มีฐานการฝึกตนในขอบเขตเทพปีศาจ ะประสบการณ์การต่อสู้ของนางนั้นดีกว่าเจียงมู่ที่เป็นเพียงผู้ฝึกตนรวบรวมวิญญาณแน่นอน
และตอนนี้.
นางมองไม่เห็นว่า เจียงมู่สามารถโต้กลับนางได้อย่างไร!
มันช่าง…. เกินสามัญสำนึกของนาง!
“อย่าเข้ามา!”
เจียงมู่กุมท้องของอดทนตอเจ็บปวดอย่างรุนแรงและบังคับตัวเองให้ลุกขึ้น มองนางราวกับกำลังเผชิญหน้าศัตรูที่น่าสะพรึง
ให้ตายเถอะ ยายแก่จมูกยาวนางนี้ยังโจมตีได้รุนแรงมาก
โชคดีที่ข้ามี 'แกล้งทำเป็นว่าถูกทุบตี' ซึ่งยกเลิกความเสียหาย 50%
ไม่อย่างนั้น ข้าคงถูกนางชกกระเด็นจนสลบด้วยหมัดเดียว และผลที่ตามมาจะน่ากลัว
“ตอบข้ามา! เจ้าโต้กลับได้อย่างไร!”
เฮยสุยชาตะคอกอีกครั้งถามด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร”
เจียงมู่แสร้งทำเป็นสับสน
แน่นอนว่าเขารู้ว่าเขาโต้กลับอย่างไร
เนื่องจากร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นโดย 'กายาบุรุษเหล็ก' เป็นร่างกายที่สามารถสะท้อนความเสียหาย 100% ให้กับคู่ต่อสู้เมื่อเขาถูกโจมตี
ดังนั้น.
ตอนที่นางต่อยเขา นางต้องได้รับความเสียหายสะท้อนกลับ 100%
“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมพูด เทพองค์นี้จะทุบตีเจ้าจนกว่าจะยอมเปิดปากเอง!”
เฮยสุยชาพุ่งเข้าหา เจียงมู่
นางยกกำปั้นเล็ก ๆ ของนางอีกครั้งและชกท้องเจียงมู่อย่างรุนแรง
เวลานี้.
นางปลดปล่อยสัมผัสเทพของนางเพื่อทำการตรวจจับเส้นทางการโต้กลับของเจียงมู่รอบด้าน
ปัง!!!
กำปั้นทุบเข้าที่ท้องของเจียงมู่
"อั๊ก!"
เจียงมู่ถูกต่อยจนกระเด็นอีกครั้ง และหลังจากกระอักเลือดออกมากลางอากาศ เขาก็ร่วงลงพื้นอย่างแรง
"แค่ก!!!"
ทันใดนั้น เฮยสุยชาก็ไออย่างรุนแรง ใบหน้าของนางซีดขาว และร่างงของนางถึงกับผงะถอยหลังไปสองก้าวจนเกือบจะล้มลง
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงบังเกิดที่ช่องท้องของนางในเวลาเดียวกันกับที่นางต่อยเจียงมู่จนกระเด็นอีกครั้ง!
ราวกับว่ามีคนชกนางเข้าที่ท้องด้วยกำปั้นเดียวกัน!
“เจ้า… เจ้าข… เจ้าตอบโต้เทพองค์นี้ได้อย่างไร!”
นางกุมท้องด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
นางใช้สัมผัสเทพแล้วชัดๆ
แต่นางไม่สามารถจับเส้นทางการโต้กลับของ เจียงมู่ได้เลย!
เป็นไปได้ยังไง?!
นางไม่สามารถเข้าใจได้เลย
เจียงมู่เช็ดเลือดรอบปากของเขาและพยายามยืนขึ้นอย่างสิ้นหวัง
ให้ตายเถอะ ข้าต้องหาทางหนีไม่งั้นข้าอาจถูกนางฆ่าตายจริงๆ
ทันใดนั้นเอง
เสียง“ท่านอาจารย์ ช่วยข้าด้วย!” ก็ดังมาจากระยะไกล
นั่นก็คือ …. เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชของหลิงอ่าวเทียน?
เจียงมู่และเฮยสุยชาหันศีรษะมองไปยังทิศทางของแหล่งที่มาของเสียงพร้อมกัน
ทิศทางนั้นเป็นที่ที่ หลิงอ่าวเทียนและ ชา หวู่เหวิน อยู่
หลังจากนั้นก็มีเสียง “อาจารย์ช่วยข้าด้วย!” ดังขึ้นอีกครั้ง
หลิงอ่าวเทียนตกอยู่ในอันตราย!
นี่คือข้อสรุปที่เจียงมู่และเฮยสุยชามาถึงในเวลาเดียวกัน
เฮยสุยชาขมวดคิ้ว
แม้ว่านางจะมีฐานการฝึกตนขอบเขตเทพปีศาจ
อย่างไรก็ตาม อสรพิษทมิฬอัสนีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนหน้านี้กินพลังงานมากเกินไป
ผลก็คือ พลังที่นางสามารถใช้ได้ตอนนี้เทียบได้กับขอบเขตทะเลปราณระดับแรกเท่านั้น หรืออย่างดีที่สุดคือในระดับที่สอง!
ไม่เหมาะสมกับชาหวู่เหวินที่อยู่ในขอบเขตแปลงลักษณ์!
ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนางที่จะใช้วิชาวิญญาณมิติและพาหลิงอ่าวเทียนหลบหนี?
แต่นั่นจะขัดกับเนื้อเรื่อง
ตอนนี้ข้าควรทำอะไรดี.
และในขณะที่เฮยสุยชากำลังกังวลและครุ่นคิด
เจียงมู่ใช้โอกาสนี้ใช้ สุญตาเทพซ่อนเร้น และผสมผสานตัวเองเข้ากับความว่างเปล่า
จากนั้นเขาก็เริ่มออกวิ่งอย่างรวดเร็วด้วยความสิ้นหวัง
ให้ตายเถอะ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ชีวิตน้อยๆ ของข้าสำคัญที่สุด ดังนั้นข้าต้องหนีจากยายแก่จมูกยาวที่ชั่วร้ายนางนี้ให้ได้ก่อน
อย่างไรก็ตาม.
เขาหนีไปไม่ได้กี่เมตร ระลอกคลื่นมิติปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ในชั่วพริบตา โลลิตัวน้อยในชุดกระโปรงสีดำ ผมสีดำ ตาสีทองก็ปรากฏตัวขึ้นจากอากาศตรงหน้าเขา
แขนเล็กจิ๋วของ เฮยสุยชาบีบคอของ เจียงมู่อีกครั้ง
“ปล่อยข้านะ! ไอ ไอ ไอ….”
เวรเอ้ย ทำไมนางชอบบีบคอคนนักหนา!
เจียงมู่รู้สึกหายใจไม่ออกจาก สติของเขาค่อยๆอ่อนแอลง และพลังงานวิญญาณในร่างกายของเขาก็เริ่มยุ่งเหยิง
และผลที่ตามมาก็คือสุญตาเทพซ่อนเร้นถูกยกเลิกอีกครั้ง!
ในท้ายที่สุด.
ร่างของเขาก็ปรากฏตรงหน้าเฮยสุยชาอีกครั้ง
เฮยสุยชาขว้าง เจียงมู่ลงกับพื้นด้วยหลังมือของนาง
จากนั้นคร่อมร่างของเขา นางใช้วิชาวิญญาณมิติกักขังการเคลื่อนไหวของเขาไว้ชั่วคราว
“คิดที่จะหลบหนีจากสายตาของเทพเจ้องค์นี้งั้นเหรอ? ใครให้ความกล้าหาญแก่เจ้า”
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
เจียงมู่ไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียวเนื่องจากร่างกายของเขาถูกผนึกไว้
"ปล่อยเจ้าไป? เจ้าพูดอะไรโง่ๆ เช่นนี้ออกมาได้ยังไง”
เฮยสุยชาตะคอกอย่างเย็นชา รูม่านตาแนวตั้งสีทองของนางจ้องมองไปที่เขาอย่างดุเดือด
“แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าโต้กลับเทพองค์นี้ได้อย่างไร”
“แต่นั่นก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว”
“ตราบใดที่เจ้ากลายเป็นทาสของเทพองค์นี้ เจ้าก็ทำได้แค่ก้มหน้ารับใช้เทพองค์นี้ไปตลอดชีวิต!”
นางเหยียดแขนที่บอบบางของนางออกและกำนิ้วทั้งห้าของนางไว้เป็นกำปั้น
พลังวิญญาณหนาแน่นรวมตัวกันที่กำปั้น
“สลักวิญญาณวารีทมิฬ!”
ฟู่~
กำปั้นกลายเป็นรูปหัวงูไร้ดวงตาแต่มีปากราวกับหุบเหวลึกไร้สิ้นสุด
"เปิดปากของเจ้า."
เปิดปากของเจ้า?
“มมมม”
เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร!?
เจียงมู่เม้มปากแน่นด้วยความหวาดกลัว
เฮยสุยชาหัวเราะเยาะ
“เจ้าเป็นคนแรกที่ทำให้เทพองค์นี้ต้องสละอายุขัยหลายสิบปีเพื่อแสดงวิชาต้องห้าม!”
นางเอนตัวลงและจับแก้มของ เจียงมู่ด้วยมืออีกข้างของนาง บังคับให้เขาเปิดปาก
“จงกลายเป็นทาสผู้ภักดีต่อเทพองค์นี้ซะเถอะ!”
นางผลักกำปั้นราวกับงูของนางเข้าไปในปากของเจียงมู่