ตอนที่แล้วตอนที่ 107 แรงบันดาลใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 109 ความเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 108 สะท้านสุญญากาศ


ถังเทียนไม่เข้าใจถึงความเมื่อยล้าขณะฝึกฝน

เขาลืมเพ่งดูการฝึกฝนของคนอื่นๆและลืมไปว่านี่คือบ้านของเชียนฮุ่ย เขามีแต่เพียงวิทยายุทธของเขาอยู่ในสายตาตนเอง  นั่นคือหมัดของเขาเอง

ปราณเที่ยงแท้ระดับห้ากับวิชาหมัดระดับสี่  เขาอยู่ในระดับที่ไม่เคยประสบเจอมาก่อนความแตกต่างในรายละเอียดนี้ ถังเทียนเพิ่งพบเจอวันนี้

ปราณเที่ยงแท้ระดับห้าเพิ่มขึ้นและไม่ว่าจะเป็นพลังมังกรฟ้าหรือพลังงานกระเรียน เป็นเหมือนกับว่าทำให้ความปรารถนาของถังเทียนกลายเป็นจริง   พลังงานที่สะสมอยู่ภายในพลังปราณเที่ยงแท้เกิดความปั่นป่วนและระเบิดพลังออกมาได้อย่างน่าทึ่ง

เมื่อเข้าถึงปราณเที่ยงแท้ระดับห้าพลังที่เพิ่มขึ้นจะครอบคลุมไม่ว่าในเรื่องระดับความแข็งแกร่ง หรือความรุนแรง เมื่อเทียบกับปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ความก้าวหน้าเป็นแบบก้าวกระโดดรายละเอียดและความรู้สึกเล็กน้อยของพลังหมัดสะท้านฟ้าภายใต้พลังของปราณเที่ยงแท้ระดับห้า มีความโดดเด่นและชัดเจน

ถังเทียนมีสัญชาตญาณคมชัดเป็นพิเศษขณะที่เขายังคงฝึกฝนวิชาหมัดของเขาต่อไป รายละเอียดที่ยากจะเข้าใจทั้งหมดก็ค่อยๆ โผล่ออกมา

หมัดสะท้านฟ้าในมือของถังเทียนเริ่มจะกลายสภาพเป็นช้าลง

ลมที่แผ่ออกจากหมัดค่อยๆหายไป

ในอดีตเมื่อใดก็ตามที่ถังเทียนใช้หมัดสะท้านฟ้าจะทำให้เกิดระลอกคลื่นกระจัดกระจายนับไม่ถ้วน ระลอกทั้งหมดเหล่านี้คือปราณเที่ยงแท้ของเขาที่ทำให้อากาศรอบหมัดของเขาสั่นสะเทือนและระลอกเหล่านี้มีพลังรุนแรงขนาดทำลายหินได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้พลังสั่นสะเทือนของระลอกหมัดสะท้านฟ้าน้อยลงทุกที ขณะที่ลมจากหมัดของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว หมัดสะท้านฟ้าของถังเทียน ยิ่งแตกต่างจากที่ได้ใช้งานในครั้งก่อนที่ยังแสดงให้เห็นถึงพลังทำลายล้างและตอนนี้มันดูเหมือนหมัดมวยธรรมดา แต่ในความเป็นจริงหมายความว่าพลังงานของถังเทียนถูกควบคุมสงวนไว้เป็นอย่างดีพลังงานไม่ได้รั่วไหลออกมาแม้แต่น้อย

คนที่เป็นพยานเห็นการเปลี่ยนแปลงกับตาตนเองอย่างซ่างกวนจู้และคนที่เหลือรู้สึกใจสั่นสะท้าน แม้ว่าตระกูลซ่างกวนจะตกต่ำเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  แต่ธรรมเนียมพวกเขายังคงมีอยู่และแม้ว่าศิษย์ในตระกูลจะมีพลังอ่อนแอก็ตาม แต่พวกเขายังคงมีสายตาที่ดีเฉียบแหลม

พลังงานของหมัดกลายเป็นว่าถูกเก็บกักและเข้มข้นมากขึ้นและพลังก็แข็งแกร่งมากขึ้น

ทุกคนสามารถเข้าใจได้ถึงเหตุผล  แต่มีน้อยคนนักที่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้จริง  วิทยายุทธในยุคปัจจุบันได้รับโดยผ่านการ์ดวิญญาณทั้งหมด เรียนรู้ง่ายแต่ยากจะบรรลุถึงแก่น การ์ดทองมีราคาแพงมาก และไม่ใช่ว่าทุกคนจะหาซื้อได้ขณะที่การ์ดเงินและการ์ดบรอนซ์ มีประสบการณ์ที่ยังไม่สมบูรณ์  นอกจากนี้ประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาจเหมาะสำหรับเขา แต่ไม่เหมาะสำหรับท่าน อย่างเช่นนักสู้และขุนพลวิญญาณที่เข้ากันไม่ได้ ก็มีเกิดขึ้นบ่อย

การอธิบายสิ่งที่ฝึกก็ทำได้ชัดเจน และลึกซึ้ง ระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น

ปัจจุบันแนวคิดทั่วไปเมื่อเทียบกับชั้นและระดับ ระดับที่สูงจะชนะระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายของทุกคนคือรีบเร่งบรรลุเข้าสู่เป้าหมายระดับสูง  เกี่ยวกับวิทยายุทธต่อสู้มีน้อยคนที่จะฝึกฝนขัดเกลาตนเองอย่างต่อเนื่องฝึกเพื่อให้ตนเองสมบูรณ์แบบ เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าไม่ว่าวิทยายุทธระดับต่ำจะสมบูรณ์มากแค่ไหนก็ตามต่อให้พวกเขาฝึกไปก็ไม่สามารถเอาชนะวิทยายุทธที่มีพลังระดับสูงได้

การจัดระดับคือทุกอย่างที่ทุกคนคิดกันและก่อนหน้านี้ ซ่างกวนเว่ยและพวกที่เหลือก็คิดแบบนี้

จนกระทั่งถังเทียนปรากฏตัว  เขาเป็นนักสู้ระดับห้าอย่างเห็นได้ชัด แต่เขาสามารถใช้พลังต่อสู้และความแข็งแกร่งได้เกินกว่าระดับห้า  อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะถึงวันนี้ หลายคนเชื่อว่าเหตุผลที่เขยของตระกูลแข็งแกร่งมาก เนื่องจากเขายืมพลังมาจากเกราะของเขา  แต่พวกเขาก็ตระหนักได้ในไม่ช้า เนื่องจากพวกเขามองเห็นเขาแสดงหมัดสะท้านฟ้าที่สมบูรณ์แบบซึ่งเขยของตระกูลใช้เวลาฝึกฝนอย่างหนักและต่อเนื่อง

เมื่อมีเวลาเมื่อฝึกปราณเที่ยงแท้มากขึ้นวิชายุทธระดับที่สูงขึ้นถูกมองว่าเป็นหนทางแห่งการเป็นราชา

เมื่อลมที่ออกมาจากหมัดของถังเทียนหายไปทุกคนตกตะลึงอย่างหนัก ทุกหมัดที่เขาปล่อยออกมา ไม่เหลือร่องรอยระลอกคลื่นเลยแม้แต่นิดเดียวแต่เต็มไปด้วยอันตรายที่ยากอธิบายได้มากขึ้นทุกทีและความรู้สึกของทุกคนถูกหมัดของถังเทียนดึงดูดไปพวกเขาไม่สามารถละสายตาได้ เหมือนกับว่าหมัดนั้นมีพลังที่มีเสน่ห์บางอย่าง

พวกเขาทุกคนยืนมองดูอยู่กับที่จนลืมการฝึกฝนของตนเอง  ทั่วทั้งสนามฝึกไม่รู้ว่าตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่เมื่อใด

มีแต่เพียงถังเทียนที่ยังปล่อยหมัดออกไปหมัดแล้วหมัดเล่าลืมสิ้นทุกอย่าง

เหมือนกับพลังปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขากำลังเดือด  ถังเทียนรู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขมาก เขาปล่อยหมัดออกไปหมัดแล้วหมัดเล่าด้วยความยินดีทุกความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนเป็นเหมือนสายน้ำที่ไหลรินอยู่ในใจเขาช่างงดงามเสียจริง

นี่คือแรงสั่นสะเทือน...

ดูเหมือนจะมีความเสียใจเงียบๆลอยอยู่ในหัวใจเขาเงียบๆ

เป็นเหมือนผ้านวมที่หน้าต่างค่อยๆเปิดออกและแสงงดงามนอกประตูและสายลมด้านนอกหน้าต่างสาดส่องพร่างพรูเข้ามาทั่วห้องทันที

ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเบ่งบานขึ้นในใจของถังเทียน

จู่ๆ เขาก็ร้องฮึขึ้นมา ปราณเที่ยงแท้ของเขาปะทุออกมา กระเรียนส่งเสียงร้องอยู่ภายในใจของเขาตามมาด้วยเสียงมังกรคำราม  ปราณเที่ยงแท้ของเขาปะทุออกมาดังปังถังเทียนไม่ได้คิดอะไร แค่ปล่อยหมัดออกไปเท่านั้น

หมัดที่ไร้เสียงไร้ลักษณ์และว่างเปล่า

บนหมัดของเขา มีบอลแสงขาวขนาดเท่าผลมะพร้าวโปร่งใสปรากฏขึ้นมาทันที

บอลแสงคงอยู่เพียงหนึ่งวินาทีและจากนั้นก็เริ่มสั่นสะเทือนระเบิดคลื่นเสียงกึกก้องไปทั่วพื้นที่

อากาศในพื้นที่ฝึกฝีมือเป็นเหมือนกับถูกควบคุมโดยมือไร้รูปขนาดใหญ่ จู่ๆ บอลแสงก็พุ่งขึ้นและระเบิดออกมา

พลังงานไร้ขีดจำกัดระเบิดออกจากร่างถังเทียนที่เป็นเหมือนภูเขามิได้ขยับออกไปแม้แต่น้อย

ตาของเขามีแววครุ่นคิด

※※※※※※※※※※

อาโมรี่เดินทางตรงเข้ามา และเมื่อหาตระกูลซ่างกวนพบเขาแสดงสถานะตัวเอง โชคดีที่คนที่ออกมารับเขาคือลุงเฉียน และเมื่อเขาได้ยินว่ามีเด็กหนุ่มสาวสองสามคนที่มาจากเมืองซิงฟงมาตามหาคุณชายอาเทียน เขาจึงนำพวกเขาเข้ามาทันที

ขณะที่พวกเขาวิ่งเข้ามาที่สนามฝึก พวกเขาเข้ามาทันเวลาเห็นบอลแสงโปร่งใสระเบิดออกมาด้วยฝีมือถังเทียน

ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน พวกเขาชะงักเท้า เหมือนกับว่าเหมือนกับว่าถูกบังคับให้หยุดอยู่ตรงนั้น

นั่น.. นั่นคือ...สุญญากาศ!

มันเป็นไปได้ยังไง...

ความจริงหมัดนั้นสั่นสะเทือนอากาศกระทั่งมันหายไปเองทันทีและสร้างเป็นบอลสุญญากาศขึ้น...

หมัดสะท้านฟ้าเห็นได้ชัดว่าเป็นวิทยายุทธระดับสี่...ชัดเจนว่ามันคือวิทยายุทธระดับสี่!

ถังพื้นฐาน....

พวกเขาเคยได้ยินมาก่อน เมื่อหมัดสะท้านฟ้า ถูกฝึกฝนจนถึงระดับสุดยอดก็อาจสลายอากาศและสร้างสุญญากาศขึ้นได้ นี่ก็คือหมัดสะท้านสุญญากาศที่ขึ้นชื่อนั่นเอง

หมัดสะท้านสุญญากาศเป็นแค่เพียงตำนาน  พวกเขาไม่เคยเห็นใครเชี่ยวชาญวิชานี้เลย  แต่วันนี้ ต่อหน้าต่อตาพวกเขา  การจู่โจมที่แข็งแกร่งขนาดนั้นและพลังสั่นสะเทือนรุนแรง  แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะแข็งแกร่งและมาดมั่น  แต่ในช่วงเวลาอย่างนี้  จิตใจของพวกเขาทุกคนว่างเปล่า

ไม่มีใครคิดว่า อาโมรี่จะเป็นคนแรกที่รู้สึกตัวและเขาส่ายหัวพูดว่า "ข้าไม่สู้แล้ว,ข้าไม่สู้ด้วย! จะมีอะไรจากการต่อสู้ครั้งนี้เล่า?เจ้าโรคจิตถังบ้าเกินไปแล้ว! เขาจะตายไหมนี่ถ้าไม่รู้แจ้งเคล็ดสังหาร.."

คนที่เหลือ เมื่อได้ยินเสียงนี้ ก็รู้สึกตัวทันที

ขณะที่ถังเทียนเพิ่งตื่นจากสภาวะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง  เขาได้ยินเสียงอาโมรี่เมื่อเขาเหม่อมองหันมาดูและเห็นเป็นอาโมรี่และพวก เขาปลาบปลื้มยินดี

"เจ้าวัวแมงวัน!"

ถังเทียนตะโกนลั่น ด้วยการก้าวย่างเพียงสองก้าวเขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน

พวกเขาเห็นเพียงภาพเลือนลางและถังเทียนก็วิ่งมาอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้ว หานปิงหนิงและคนอื่นถึงกับใจสั่นสะท้าน

ไวมาก!

ทุกคนตกใจอย่างเห็นได้ชัด และมีเพียงอาโมรี่ที่กำลังหัวเราะเขาเดินเข้าไปหาและกอดถังเทียนส่งเสียงดังลั่น "ถังพื้นฐาน, ไม่ได้เจอกันนานเลย!อว๋า.. ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าทึ่งและตกใจ เจ้ายิ่งแข็งแกร่งทรงพลังมากขึ้นทุกที ตอนแรกข้ากะจะมาซ้อมมือกับเจ้า แต่พอเห็นหมัดของเจ้าแล้วข้าไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว  บุรุษหนุ่ม,ตอนนี้การช่วยเหลือโลกอยู่ในมือของเจ้าแล้ว..."

เมื่อได้ยินการสนทนาของอาโมรี่หัวใจถังเทียนอบอุ่นอย่างประหลาด นิสัยของอาโมรี่อดทน, ง่ายๆ ซื่อสัตย์และคุยค่อนข้างสนุก

"เจ้าวัวแมงวัน,เจ้าน่ะช่างพูดนักนะ"

ทั้งสองผละออกจากกัน ถังเทียนยิ้มเต็มหน้าทันที

"โอว, ถังพื้นฐานเจ้าคงต้องเข้าใจว่าตัวเองอัดอั้นตันใจเป็นนักสู้รอบนอกอยู่นานสินะพวกเขาทุกคนไม่มีความหมายอะไรเลย คนหนึ่งเป็นภูเขาน้ำแข็งหมื่นปี, อีกคนก็เจ้าเล่ห์ร้ายกาจ และอีกคนก็ดันเป็นนักมังสวิรัติตัวยงเสียอย่างนั้น  เจ้าต้องเข้าใจโลกเป็นไปได้ยังไงที่สิ่งมีชีวิตจะมัวเอาแต่กินผัก?  และสิ่งมีชีวิตนี้ก็คือพี่เหลียงชิว,โอวพระเจ้า, ต้นแบบตัวอย่างของข้าเป็นอย่างนั้นเสียแล้วส่วนเจ้าสบายๆ แน่นอน ดูทั้งหมดนี่สิบุรุษหนุ่มที่เอาแต่บ้าฝึกวิทยายุทธไม่หยุดหย่อน  เขาได้สร้างมรรคาวิชาบู๊เป็นของตนเองและมีหัวใจที่แข็งแกร่งมั่นคงนัก"

อาโมรี่ยังพูดพล่ามต่อไปเรื่อยๆจนทำให้สหายที่เหลือชักจะหงุดหงิด

หานปิงหนิงแตะด้ามกระบี่ ขมวดคิ้วบรรยากาศกลายเป็นเยือกเย็นขณะนางถาม"เจ้าหาว่าข้าเป็นภูเขาน้ำแข็งหมื่นปีหรือ?"

อาโมรี่หุบปากตนเองทันที

เหลียงชิวยิ้ม ขณะที่เขาถามอย่างครุ่นคิด "ถังเทียนท่าที่เจ้าเพิ่งใช้ออกไปคือหมัดสะท้านสุญญากาศหรือเปล่า?"

ถังเทียนพยักหน้า "ใช่,ข้าเพิ่งจะฝึกฝนได้สำเร็จนี่เอง"

แววชื่นชมปรากฏอยู่ดวงตาของเหลียงชิวขณะที่เขากล่าว"เป็นไปตามคาดเลยนะ ถังพื้นฐาน! หมัดสะท้านสุญญากาศเป็นเคล็ดสังหารของหมัดสะท้านฟ้ามีพลังโจมตีที่แข็งแกร่งรุนแรงมาก เจ้าจะฝึกสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเข้าถึงระดับหกได้ และเมื่อฝึกหมัดสุญญากาศจะทุ่นความพยายามไปครึ่งหนึ่ง แต่ได้ผลเป็นสองเท่า"

ถังเทียนรู้ว่าเหลียงชิวกำลังสอน  เขาจึงชื่นชมและขอบคุณ"ขอบคุณพี่เหลียงชิว!"

"ฮืม.. แต่มันเป็นแค่เพียงหมัดสะท้านสุญญากาศเอง, พ่อหนุ่มถัง เจ้าก็เข้าสู่ระดับที่ห้าาแล้วทำไมยังฝึกฝนวิชาหมัดมวยระดับห้าเล่า?"  ซือหม่าเซียงซานนัยน์ตาสามเหลี่ยมเหมือนตางูของกระพริบเป็นประกายวูบวาบ

ถังเทียนพูดเป็นจริงเป็นจัง "ข้าตั้งใจจะฝึกวิทยายุทธทั้งหมดที่ข้ารู้จัก  ฝึกให้สมบูรณ์แบบจะให้ดีที่สุดต้องฝึกจนได้รับเคล็ดสังหารทั้งหมด"

ทุกคนตะลึง

ถ้าเป็นคนอื่นพูดคำพูดเหล่านี้ พวกเขาคงคว้าก้อนอิฐมาทุบกบาลเจ้าผู้นี้เพื่อดูว่าในสมองของเขายัดอะไรเอาไว้ข้างใน  แต่เมื่อหลุดออกจากปากของถังเทียนพวกเขากลับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

นอกจากเป็นโรคจิตแล้ว เจ้านี่ยังมีนิสัยที่ผิดปกติอีกด้วย

"สมกับเป็นถังพื้นฐานจริงๆ!" อาโมรี่ปรบมือตาของเขาเป็นประกายลุกโชน เขาพูดอย่างตื่นต้น "มีแต่หนุ่มน้อยชาวฟ้าที่กล้าจะทำเช่นนี้ จอมยุทธหนุ่มน้อยผู้ฮึกเหิมอยากเรียนรู้จากหนุ่มน้อยชาวฟ้าเสียจริง โอวๆๆพอคิดแล้ว ช่างทำให้ตื่นเต้นเสียจริง!คำพูดแบบนี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้มาก..."

ถังเทียนมองดูสับสนและถามว่า "จอมยุทธหนุ่มผู้ฮึกเหิมเจ้าตั้งฉายานั้นให้ตัวเองเหรอ?"

อาโมรี่ดูภาคภูมิใจมาก "ฮ่าฮ่า ก็แน่อยู่แล้วชื่อมีเสน่ห์ออกอย่างนั้น มีแต่จอมยุทธหนุ่มน้อยผู้ฮึกเหิมเต็มไปด้วยอารมณ์สุนทรีจึงจะคิดชื่ออย่างนั้นได้...."

ถังเทียนดึงสายตาเขากลับมา ขณะที่เขามองพวกที่เหลือด้วยความเห็นอกเห็นใจ"เจ้าเด็กนี่ติดตามพวกเจ้าไปตลอด พวกเจ้าทุกคนอดใจไม่ฆ่าเขานับว่าพวกเจ้าทุกคนใจดีมากแล้ว"

"ถังเทียน,เจ้าอยู่ที่ค่ายทหารชั้นนอกเป็นยังไงบ้าง?" จู่ๆหานปิงหนิงก็เชิดหน้าถาม

ถังเทียนฝืนยิ้มขมขื่นและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาให้พวกเขาฟังทุกอย่าง  นอกจากเรื่องสังหารข่งโหย่วหลินแล้วเขาบอกพวกเขาว่าได้เข้าร่วมกลุ่มของจิ่งหาวแล้ว มิฉะนั้น เขาก็ไม่ได้ซ่อนอะไร

ทุกคนประหลาดใจ เดิมทีพวกเขาคิดว่าถังเทียนคงเป็นที่ต้องตาของข่งโหย่วหลิน  พวกเขาคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะถูกเขี่ยออกไป

"ข้า, อาโมรี่ต้องการจะเข้าร่วมกลุ่มของเจ้า!"อาโมรี่ชูมือข้างหนึ่ง

น่าประหลาดใจที่หานปิงหนิงพูดเสียงเย็นชาทันที"ข้าก็จะร่วมด้วย"

อาโมรี่เป็นคนดื้อรั้นคนหนึ่ง ถังเทียนรู้เรื่องนั้นมาโดยตลอดแต่สำหรับหานปิงหนิงจะเข้าร่วมกลุ่มด้วย  ถังเทียนประหลาดใจจริงๆ

เหลียงชิวพูดอย่างลึกซึ้ง "เนื่องจากพวกเราทุกคนมาจากเมืองซิงฟง  เป็นกลุ่มพลังเดียวกัน  เราจะต้องดูแลกันและกัน”

ทั้งสามคนหันไปมองซือหม่าเซียงซาน

ซือหม่าเซียงซานยื่นมือออกมา "ข้า..ยังไงก็ได้"ถังเทียนรู้สึกอบอุ่นใจแต่เขารู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เขาขบคิดแล้วจึงพูด "พวกเจ้าทุกคนไม่ต้องเร่งรีบอย่าเพิ่งปล่อยข่าวนี้ออกไป ให้ข้าไปขอพี่จิ่งหาวก่อน"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด