ตอนที่ 107 แรงบันดาลใจ
ศิษย์ทั้งหมดในตระกูลซ่างกวนยืนตรงอยู่ที่ลานฝึกวิทยายุทธเงียบสงบโดยสิ้นเชิง พวกเขามองดูใบหน้าที่บวมฟกช้ำของบุรุษหนุ่มด้วยความสงสัย เขาคือเขยของตระกูลที่ร่ำรือกันหรือนี่?
ลุงเฉียนตกใจเช่นกันเขารีบวางมือจากงานทุกอย่างแล้ววิ่งมาสมทบ เขารู้ดีกว่าใครๆ ว่าคำแนะนำของถังเทียนมีค่ามากขนาดไหน เมื่อสองปีที่แล้ว ถังเทียนยังเป็นนักเรียนซ้ำชั้นผู้เอาแต่ฝึกฝนวิทยายุทธพื้นฐาน แต่ตอนนี้ ถังเทียนกลายเป็นผู้ที่มีความสามารถเอาชนะนักสู้ผู้แข็งแกร่งอย่างอวี่หมิงชิวได้
ลุงเฉียนกังวลว่าบางคนอาจไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการช่วยเข้มงวด เพื่อเปิดสำนักโรงเรียนตามแนวคิดพวกเขาเอง ตระกูลซ่างกวนจึงแยกออกมาดำเนินการโดยซ่างกวนเชียนฮุ่ยเมื่อสองปีที่แล้ว ตอนนี้แม้ว่าตระกูลซ่างกวนจะอ่อนแอแต่ก็มีแรงบันดาลใจขับเคลื่อนเพื่อโอกาสอยู่รอด
ความจริงลุงเฉียนกังวลอยู่ว่าเขาไม่รู้ว่าศิษย์ในตระกูลซ่างกวนกี่คนที่ได้เห็นเป็นประจักษ์พยานการต่อสู้ที่ถังเทียนเอาชนะอวี่หมิงชิวได้ ภายในคืนเดียว ข่าวการต่อสู้ที่น่ากลัวก็แพร่สะพัดไปทั้งตระกูลซ่างกวน
แทบทุกคนรู้ว่าพลังของเขยของตระกูลนั้นยิ่งใหญ่และลึกซึ้ง
ยังมีหลายคนที่จินตนาการว่าถ้าคุณหนูและเขยตระกูลอยู่พร้อมกันแล้วอย่างนั้นใครจะกล้าเป็นศัตรูของหมู่ดาวเพอร์ซูสกันเล่า?
ดังนั้นเมื่องพวกเขาได้ยินว่าเขยของตระกูลต้องการจะแนะนำการฝึกฝนพวกเขาด้วยตนเอง ศิษย์ทุกคนถึงกับตื่นเต้นพวกเขาทุกคนสู้อย่างมีความสุขและทุกคนกำลังมองไปข้างหน้า
อวี่หมิงชิวผู้มีอารมณ์ดุร้ายถูกต่อต้านโดยอาเว่ยและต้าจู้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขยของตระกูล กลับยังมีฝีมือไม่เพียงพอ
คำสั่งแรกเป็นทางการของถังเทียนก็คือให้ทุกคนแสดงวิทยายุทธของพวกเขาที่พวกเขาคุ้นเคย
"เศษสวะยกชุด!"ปิงกวาดมองและพูดแบบไม่เกรงใจ
ถังเทียนไม่ถือสา"งั้นรอให้ลุงเปลี่ยนเศษสวะเป็นมหาสมบัติก็แล้วกัน ลุงชาวฟ้าไม่มีอะไรรุ่งเรืองเท่ายุคกองทัพเจ้ากรมฝึกทหารแน่อยู่แล้ว"
ความจริงถังเทียนรู้สึกว่าศิษย์เหล่านี้ยังนับว่าไม่เลวพวกเขาทุกคนอย่างน้อยก็เป็นนักสู้ระดับสี่ พื้นฐานของทุกคนแข็งแกร่งมั่นคง และพวกเขายังอายุน้อยทุกคน เห็นได้ว่าเชียนฮุ่ยใช้ความสามารถเลือกพวกเขาไว้
พูดถึงเรื่องระดับมีอยู่หลายคนที่มีระดับเดียวกับถังเทียน แต่ในแง่ความเข้มแข็งในการต่อสู้ เขายังหาคนที่คู่ควรไม่เจอ
"สำหรับกำหนดการฝึกฝนวันนี้ง่ายมากข้าต้องการให้พวกเจ้าแต่ละคนคุ้นเคยกับวิทยายุทธของพวกเจ้าเองด้วยการฝึกวิทยายุทธของพวกเจ้าสามพันครั้ง"
ขณะที่ถังเทียนพูดอยู่บนเวที ผู้ดูที่อยู่บนพื้นปากอ้าค้างเป็นไปได้ยังไงฝึกสามพันรอบภายในวันเดียว? เป็นไปไม่ได้แน่นอน! มาตรฐานของพวกเขาระดับสี่กันทั้งหมด สำหรับวิทยายุทธระดับสี่ ถ้าพวกเขาสามารถฝึกได้เจ็ดถึงแปดร้อยต่อวัน นั่นก็นับว่าดีพอแล้ว แต่สามพันรอบ?
สามพันครั้ง? เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า?
แต่ละคนในหมู่ลูกศิษย์ของตระกูล ทุกคนมองอย่างไม่เชื่อถือ พวกเขาทุกคนแค่รู้สึกว่าถังเทียนก็แค่จอมโวสามพันรอบ เขาก็แค่รู้แต่วิธีโอ้อวดแน่นอน
ถังเทียนไม่สนใจมอง น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไป "ทำไม? ใครข้องใจ?"
ด้วยความที่คิดไวทำไวซ่างกวนเว่ยยืนขึ้นและรีบตะโกน "พวกเจ้ายืนเฉยอะไรอยู่ตรงนั้น? เริ่มฝึกได้แล้ว"
เพียงแค่นั้นถังเทียนขึ้นเสียงทันที "เจ้าทั้งสองคน ห้าพันรอบ"
ซ่างกวนเว่ยเข่าอ่อนขณะที่ซ่างกวนจู้เริ่มต้นทำทันที
ถังเทียนเห็นบางคนพยายามอู้เขาเยาะเย้ยทันที "สามพันครั้ง ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะพอใจหรือไม่ ใครก็ตามที่ทำขาดตกไปสักครั้งเจ้าจะต้องฝึกฝนอยู่ตรงนี้จนกว่าจะครบ ถ้าเจ้าต้องการอู้ ต้องถามหมัดของข้าก่อน"
ทันใดนั้นตาของถังเทียนเย็นชา เขาสังเกตเห็นว่าใครบางคนในกลุ่มพยายามล้อเล่นเขาจะตะโกนในใจอย่างยินดี เขากำลังคิดจะทำให้เป็นตัวอย่าง และถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้เกิดขึ้นต่อหน้าเขา
ด้วยการกระโจนคราวเดียวถังเทียนก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าศิษย์คนหนึ่ง
โดยไม่รอให้ศิษย์ผู้นั้นได้อธิบายถังเทียนคว้าตัวเขาและยิ้มเจ้าเล่ห์ "คิดจะอู้เหรอ? อยากมีชีวิตต่อไปหรือเปล่า?"
โดยไม่มีการพูดคำที่สองเขายกร่างศิษย์ผู้นี้ ปัง ถังเทียนทุ่มเขาใส่กองอิฐ
ศิษย์ผู้นั้นร้องลั่นและสลบทันที
ถังเทียนยกศิษย์ที่หมดสติผู้นั้นโดยไม่สนใจอะไร เขาควบคุมพลังตนเองไว้เป็นอย่างดี มองดูเหมือนทุ่มรุนแรง แต่ความจริงแค่ทำให้เจ็บจนหมดสติแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
"ไปตักน้ำมาราดเขาจากนั้นไปฝึกต่อ"
"น้ำเสียงเย็นชาของถังเทียนทำให้ทุกคนกลัว แม้แต่ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ก็ยังรู้สึกเหนียวคอกลืนน้ำลายลำบาก เขยของตระกูลโหดเหมือนกัน
เดิมทีพวกเขายังคงตื่นเต้น เป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นวิธีที่เขยของตระกูลฝึกฝนมากระมัง?
ทุกคนเริ่มฝึกฝนกันอย่างจริงจัง เนื่องจากต้องทำให้สำเร็จสามพันรอบพวกเขาคงไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ความคิดของพวกเขาง่ายๆ มาก อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องฝึกไปตามวิธีนี้ ถ้าทุกคนทำไม่เสร็จทันเวลา เขยของตระกูลจะทุบตีพวกเขาหรือเปล่า?
ถังเทียนกวาดตาดูเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครพยายามอู้เกียจคร้าน ดังนั้นเขาจึงเริ่มฝึก
เมื่อเขาอยู่ในสภาวะฝึกฝน ถังเทียนจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
วิชาหมัดสะท้านฟ้าของถังเทียนรุนแรงเพียงพอ แต่เขายังไม่เข้าใจเคล็ดสังหาร แม้ว่าจะไม่อาจทำให้เหมือนในอดีตได้ แต่ตราบใดที่ยังฝึกวิชาหมัด เขาจะสามารถเข้าใจเคล็ดสังหารได้ แต่การฝึกฝนของถังเทียนยังคงเหมือนเดิม เขายังคงคิดเหมือนเดิม
แล้วปริมาณจะก่อให้เกิดผลเปลี่ยนแปลง
ถังเทียนเพ่งสมาธิอยู่ที่หมัดแล้วหมัดเล่าโดยไม่มีการผ่อนคลาย
เหล่าศิษย์ในตระกูลเพ่งมองถังเทียนที่จดจ่อกับการฝึก เมื่อพวกเขาเห็นว่าถังเทียนกำลังฝึกฝนกับพวกเขาด้วยพวกเขาก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มแอบมองดูมากขึ้น
หมัดสะท้านฟ้าไม่ใช่วิชาข้างประตู ศิษย์หลายคนรู้จักแต่หมัดสะท้านฟ้าของถังเทียนแตกต่างจากที่พวกเขารู้จัก
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นประจักษ์หมัดสะท้านฟ้าที่สมบูรณ์แบบศิษย์ในสำนักที่เรียนวิชาหมัดสะท้านฟ้าต่างหลงใหลกันหมด
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนเหนื่อยจัด หลายๆ คนล้มลงกับพื้น
ถังเทียนยังอยู่บนแท่นและยังไม่แสดงท่าทีว่าจะหยุด
"ร่างกายของเขยของตระกูลอดทนแข็งแรงดีจริง"
"จะฝึกฝนหมัดสะท้านฟ้าได้ระดับนี้เขาต้องใช้เวลาฝึกฝนมากมายเป็นแน่"
…
ทุกคนปรึกษาขณะที่พวกเขาพักช่วงสั้น
สองชั่วโมงต่อมาถังเทียนก็ยังไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังไปมาก และเขามีเหงื่อไหลพร่างพรู
ตอนนี้เสียงปรึกษาเบาลงแล้ว พวกเขามองดูถังเทียนด้วยความยำเกรงและนับถือ
สามชั่วโมงต่อมาถังเทียนยังมุ่งมั่นอยู่ ใต้เท้าของเขากลายเป็นแอ่งน้ำ ซึ่งเกิดจากเหงื่อของเขาที่หยดลงไปอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ หมัดมั่นคงสายตาของเขามุ่งมั่นไม่ได้มองอย่างอื่นเลย
มาถึงตอนนี้ทุกคนเงียบ
ห้าชั่วโมงต่อมาถังเทียนแทบไม่เหลือแรง เขานั่งลงเดินพลังปราณถังเทียนทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเมื่อตอนเขากำลังฝึกฝน
ศิษย์ทุกคนตะลึงกับภาพที่เห็นนี้
ปกติเมื่อพวกเขาฝึกฝน หลายคนอวดอ้างว่าฝึกฝนหนัก แต่เมื่อพวกเขาเห็นถังเทียนฝึกฝนพวกเขาได้รับผลกระทบใหญ่หลวง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนที่ทุ่มเทกับกันฝึกฝน ใช่แล้วเขาทุ่มเทฝึกฝน เมื่อเทียบกับถังเทียนแล้ว การฝึกฝนของพวกเขา....
ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้รู้สึกผิด
มิน่าเล่าเขยของตระกูลถึงได้แข็งแกร่งทรงพลังยิ่งนัก
ความคิดเช่นนี้ปรากฏอยู่ในใจทุกคน
ไม่มีใครข่มขู่ ทุกคนเริ่มต้นฝึกฝนกันเงียบๆเป็นไปไม่ได้หรือที่จะทำได้ถึงสามพันรอบ? ถ้าพวกเขาฝึกได้อย่างเขยของตระกูล พวกเขาก็สามารถทำได้สำเร็จ
แม้แต่เขยที่แข็งแกร่งทรงพลังก็ยังต้องฝึกฝนหนักใช้แรงขับเคลื่อนมาก เขาทุ่มเทสุดกำลังดังนั้น พวกเขายังจะเกียจคร้านได้หรือ?
ในดวงตาของศิษย์ทุกคนท่วมท้นไปด้วยไฟอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนฟื้นพลังปราณเที่ยงแท้ เขาลืมตาดูฉากภาพการฝึกฝนของศิษย์ในตระกูลที่น่าหลงใหลและมีชีวิตชีวิต เขารู้สึกยินดี แต่ในดวงตา เขาอดถามไม่ได้ว่า "ปิง!อย่างนี้จะใช้ได้จริงๆ หรือ?"
"ถ้าข้าพูดเช่นนั้นแสดงว่าจะต้องใช้ได้" ปิงกล่าว "จดจำไว้ให้ดี พ่อหนุ่ม, เจ้าไม่มีอำนาจตั้งคำถามข้า!"
ถังเทียนละอายทันทีหลังจากสู้กัน ปิงเห็นด้วยและยอมสนับสนุนให้ทุกคนฝึกฝนกันทั้งหมด แต่ถังเทียนต้องฟังปิง
"อย่างนั้นข้าจะฝึกฝนต่อไป" ถังเทียนยังคงฝึกฝนต่อไป เมื่อเขาพูดเช่นนั้น
ปิงสังเกตดูเหล่าศิษย์ตระกูลที่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้องฝึกซ้อม เขาดูมีความภาคภูมิใจมาก
แม้ว่าเจ้าพวกนี้มีพลังที่น่ากลัวแต่ความจริงพวกเขามีความตั้งใจที่ดี ปิงยอมรับเด็กใหม่ที่ไม่มีพลังได้ แต่เขาจะไม่ยอมรับพวกที่ไม่มีความตั้งใจสู้
ทันใดนั้นปิงมีความข้องใจเกี่ยวกับซ่างกวนเชียนฮุ่ย ดูจากศิษย์ในตระกูลข้างล่างแล้ว เขาสามารถมองเห็นมาตรฐานระดับความสำเร็จได้ แม้ว่าซ่างกวนเชียนฮุ่ยจะไม่ได้ฝึกทหาร แต่ถ้านางสามารถบอกได้หนุ่มน้อยเหล่านี้จะยอมรับคำสั่งประมุขวัยเยาว์ของพวกเขา
เมื่อได้เห็นแรงขับเคลื่อนของพวกเด็กหนุ่มเหล่านี้ ปิงเริ่มคิดว่าซ่างกวนเชียนฮุ่ยไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา!
เหตุผลที่ปิงเห็นด้วยกับคำขอร้องของถังเทียน ไม่ใช่เพราะเขาไม่สบายใจแต่ยังมีเหตุผลอื่น เขาต้องการปลดภาระบางอย่างให้ถังเทียน ถังเทียนและซ่างกวนเชียนฮุ่ยจะได้ร่วมเข้าสู่สวรรค์วิถีที่ไม่รู้จักคุ้นเคย ถ้าตระกูลซ่างกวนไม่มีพลังพอปกป้องตนเอง อย่างนั้นทั้งสองคนคงจากไปด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาอาจช่วยแก้ปัญหาได้ก่อนเช่นกัน
ยังนับว่าโชคดีที่เจ้าบ้าอย่างถังเทียนอยู่ที่นี่ คนอื่นๆ จึงมีแรงบันดาลใจฝึกฝน
ทำให้เขาประหยัดคำพูดไปได้บ้าง
※※※※※※※※※
"ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าถังเทียนทำให้เกิดภาพเช่นนั้นได้ทั้งที่เขาเพิ่งมาถึง" เหลียงชิวยกแก้วชาของตนเองขึ้นจิบ "น่าเสียดายที่แม่นางเชียนฮุ่ยไม่อยู่ ช่างบังเอิญเสียจริง"
หานปิงหนิงพูดเย็นชา "นายคนนี้มักทำตัวน่ารังเกียจ"
ซือหม่าเซียงซานล้อเล่น "ซ่างกวนเชียนฮุ่ยไม่อยู่ที่นี่อย่างนั้นข้าจะเล่นกับถังเทียนไปก่อน ข้ากำลังมองหาโอกาสเสียด้วย ไม่คิดเลยว่าถังเทียนจะแข็งแกร่งได้มากขนาดนั้น..."
หลังจากได้ยินเช่นนั้น อาโมรี่มองดูเขาแปลกๆ "อืม..เจ้าไม่เคยคิดเลยสักครั้งจริงๆ เหรอ?"
ซือหม่เซียงซานเงียบ
จากนั้นอาโมรี่ก็พูดด้วยสีหน้าประหลาด "เอ่อ, เจ้าไม่เคยคิดถึงจริงๆ เหรอ? ประหลาด! ถังพื้นฐานคือหนุ่มน้อยชาวฟ้าเป็นธรรมดาที่คนอย่างเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น แต่ข้า อาโมรี่ก็จะต้องแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ข้าต้องการพบกับถังพื้นฐานเร็วๆข้าอยากจะซ้อมมือกับเขาอย่างจริงจัง เพื่อดูว่าใครจะก้าวหน้ามากกว่ากัน"
"ท่านรัฐมนตรีกล่าวว่าเราไม่อาจเคลื่อนไหวตามใจตัวเองได้" ซือหม่าเซียงซานเตือน
"เอ่!" จากนั้นอาโมรี่ดูแปลกๆ อีกครั้ง"ทำไมเจ้าถึงได้ว่าง่ายขึ้นมานักเล่า?"
ซือหม่าเซียงซานเงียบอีกครั้ง
เมื่อเห็นซือหม่าเซียงซานถูกตอกกลับหานปิงหนิงและเหลียงชิวยิ้ม
"ข้าอยากจะไปหาถังพื้นฐาน พวกเจ้าจะมาด้วยไหม?" อาโมรี่ชูมือ
"ข้า!" หานปิงหนิงตอบรวดเร็วและเด็ดขาด
"อืมม ข้าด้วย ข้าตื่นเต้นอยากพบกับถังพื้นฐาน" เหลียงชิวพูดพลางหัวเราะ
จากนั้นทั้งสามคนหันไปมองซือหม่าเซียงซาน...
หน้าซือหม่าเซียงซานบิดเบี้ยวและพูดเสียงรอดไรฟัน "ก็ได้งั้นก็ไปกัน"