ตอนที่ 106 หา! หัวหน้าครูฝึกทหาร?
“โอ้โฮ้! ห้องนี้ เบ้อเริ่มเลย!”
“โห, ว้าว! ข้าชอบ ลานฝึกวิทยายุทธอย่างดีเลยนะนี่!”
…
ซ่างกวนเฉียนยิ้มให้ถังเทียน ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ติดตามอยู่ด้านหลังได้ยินเสียงถอนหายใจของเขาเป็นระยะๆและยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความยินดี พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าสนิทสนมมากยิ่งขึ้น
เขยของตระกูลเป็นคนสันโดษ...เขยของตระกูลเป็นคนจริงใจ... เขยของตระกูลเป็นคนรักความก้าวหน้า...
ไม่ว่าทั้งสองคนจะมองยังไง พวกเขาก็รู้สึกว่าถังเทียนยิ่งใหญ่
บนถนนมีศิษย์ของตระกูลซ่างกวนทุกคนมองเขาด้วยความยำเกรงและนับถือถังเทียนแสดงความแข็งแกร่งและห้าวหาญระหว่างต่อสู้ที่น่าตกตะลึงและมีผลกระทบต่อพวกเขา หลังภายใต้การนำของซ่างกวนเชียนฮุ่ยสองปี ตระกูลซ่างกวนเป็นปึกแผ่นผิดธรรมดา
ลุงเฉียนพาถังเทียนวนไปรอบหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะพบที่นั่งคุยกัน
"ลุงเฉียน, เกิดอะไรขึ้นกันแน่?" ถังเทียนตัดสินใจถามหลังจากนั่งลง
ลุงเฉียนถอนหายใจเบาๆ"เรื่องมันยาว เราต้องเริ่มกันตั้งแต่ก่อตั้งหมู่ดาวเพอร์ซูสกันก่อน"
ถังเทียนตกใจเขายังคงเงียบและฟังอย่างอดทน ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ที่อยู่ข้างๆคนทั้งสองประหลาดใจและสงสัยใคร่รู้ พวกเขารู้เรื่องบรรพบุรุษและศัตรูของตระกูลอยู่เพียงไม่กี่เรื่อง แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาสามารถสาวรอยประวัติศาสตร์ไปจนถึงตอนนั้นได้
"ราชินีอิงเซียนรุ่นแรกได้พบหมู่ดาวเพอร์ซูสและทำให้รุ่งเรืองช่วงเวลานั้นประมุขตระกูลซ่างกวน ซ่างกวนหงเป็นบริวารที่น่าเชื่อถือของราชินี บรรพบุรุษได้สร้างหมู่ดาวเพอร์ซูสไปพร้อมกับราชินีในช่วงเวลานั้นประมุขตระกูลอวี่เป็นมุขมนตรีคนสำคัญของราชินี ขณะนั้นแม้ว่าหมู่ดาวเพอร์ซูสจะไม่ใช่หมู่ดาวที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ทรงพลัง คนนอกไม่กล้าดูแคลนเรา อำนาจของราชินีลึกล้ำและมิอาจคาดเดาได้สมบัติดวงดาวที่แข็งแกร่งที่สุดของหมู่ดาวเพอร์ซูสก็คือมงกุฏอมตะซึ่งอยู่ในเงื้อมมือของราชินี"
"หลังจากราชินีสวรรคตแล้วหมู่ดาวเพอร์ซูสเริ่มตกต่ำ ทุกคนคิดว่ากษัตริย์ผู้สืบสายเลือดไม่มีดีเพียงพอและย่ำแย่หนักลงในแต่ละรุ่น แต่มีคนไม่กี่คนรู้ว่าจะต้องทำอะไรกับมงกุฏอมตะ หลังจากราชินีสวรรคตแล้วมงกุฏอมตะและจิตวิญญาณพลังยุทธของมันอ่อนแอลงโดยไม่รู้กระทั่งเมื่อสองสามร้อยปีที่แล้ว มงกุฏอมตะกลายเป็นสมบัติระดับเงินและเมื่อสามสิบปีที่แล้ว มงกุฏอมตะที่เคยรุ่งเรืองกลายเป็นสมบัติทองแดง"
ถังเทียนตะลึงงันนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่าระดับสมบัติดวงดาวตกต่ำลงได้ ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ทั้งสองคนรู้สึกเหลือเชื่อเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเรื่องราวแต่หนหลัง
"ความเสื่อมโทรมของมงกุฏอมตะคือภัยพิบัติสำหรับหมู่ดาวเพอร์ซูสสมบัติดวงดาวของหมู่ดาวเพอร์ซูสก็เริ่มขยับระดับสมบัติตกทอดของตระกูลซ่างกวนของเรา เข็มหยกอมตะระดับของมันก็เริ่มตก พลังทั่วทั้งหมู่ดาวเพอร์ซูสตกลงอย่างรวดเร็วและทุกคนตกอยู่ในความกลัว เมื่อห้าปีที่แล้วกลุ่มที่ทรงพลังบุกเข้าไปในวังหลวงอย่างคาดไม่ถึงพยายามจะขโมยมงกุฏอมตะ พวกเขาลักพาตัวราชาอมตะ แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าไม่สามารถหามงกุฏอมตะเจอ ตระกูลซ่างกวนช่วยกษัตริย์ออกมาได้ แต่เขาไดัรับบาดเจ็บ ยอดฝีมือเสียชีวิตเกือบหมด ราชตระกูลสูญเสียหนักและถูกสังหาร ศัตรูเจ้าเล่ห์มาก ประมุขตระกูลเป็นห่วงว่าคุณหนูจะได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นเมื่อห้าปีที่แล้ว คุณหนูและข้าจึงถูกส่งไปยังเมืองซิงฟงเพื่อลี้ภัย"
ถังเทียนเห็นเค้ารำไร มิน่าเล่าเชียนฮุ่ยถึงได้มาเยือนเมืองซิงฟง
"ราชาอมตะหายสาบสูญ หมู่ดาวเพอร์ซูสตกอยู่ในความวุ่นวาย ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลของเราและตระกูลอวี่กลายเป็นตึงเครียดและขณะที่พลังของสมบัติดวงดาวลดลงต่อเนื่อง คนหนุ่มสาวชาวหมู่ดาวเพอร์ซูสผู้มีอนาคต พากันเดินทางไปยังกลุ่มดาวที่รุ่งโรจน์และมีชีวิตชีวามากขึ้นทุกที ตอนนี้พลังของหมู่ดาวเพอร์ซูสลดน้อยลงจนอ่อนแอมาก"
ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้พากันเงียบ พวกเขาอ่อนไหวในเรื่องเกี่ยวกับความอ่อนแอของหมู่ดาวเพอร์ซูส
"เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้วมันเปลี่ยนแปลงกระทันหัน" ลุงเฉียนมองดูตื่นเต้น
"สองปีที่แล้ว?" ถังเทียนประหลาดใจถามด้วยความสงสัย"เมื่อตอนที่เชียนฮุ่ยกลับมาน่ะหรือ?"
"ถูกแล้ว!" ลุงเฉียนมีความสุข "สองปีที่แล้วจิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติหมู่ดาวเพอร์ซูสเริ่มแข็งแกร่งขึ้นถึงจะเปลี่ยนไม่มากแต่ก็เป็นความจริง"
"เว้นแต่...."ถังเทียนมีความคิดอื่น
"ทุกคนคาดว่ามีบางคนพบมงกุฏอมตะและว่ามันกำลังฟื้นตัว" ลุงเฉียนหงุดหงิดเล็กน้อย"และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณหนูไปยังซากปรักพังของวังหลวง ดังนั้นจึงมีข่าวลือพูดกันว่าคุณหนูได้รับมงกุฏอมตะแล้ว"
"เชียนฮุ่ยได้มงกุฏอมตะด้วยหรือ?"ถังเทียนกระตือรือร้น "เยี่ยมเลย"
ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ตื่นเต้นเช่นกัน มงกุฏอมตะเป็นสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ดาวเพอร์ซูส ถ้าคุณหนูได้ไปจริงๆ
"ข้าไม่แน่ใจว่าคุณหนูมีหรือไม่" ลุงเฉียนยิ้มขมขื่น"แต่คุณหนูปฏิบัติการอย่างดีด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ ข่าวลือยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้น ขยายไปจนหลายคนคิดว่าคุณหนูจะเป็นคนฟื้นฟูหมู่ดาวเพอร์ซูส ดังนั้นตระกูลต่างๆ จึงมาหาเรา ตระกูลอวี่ต้องการรู้ความจริง ดังนั้นพวกเขาจึงได้เตรียมแผนการมาโดยตลอดเป็นแต่เพียงว่าคุณหนูยังแข็งแกร่งเกินไป ถ้าพวกเขาท้าทายคุณหนู พวกเขาจะต้องจบลงด้วยความตาย ช่วงสองปีมานี้คุณหนูช่วยตระกูลซ่างกวนไว้มาก"
ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้มองดูรู้สึกผิด ถ้าไม่ใช่เพราะเขยตระกูลมาในวันนี้ การต่อสู้นี้จะทำให้ตระกูลซ่างกวนเสียหายหนัก ลุงเฉียนพูดความจริง
เชียนฮุ่ยแบกภาระของตระกูลซ่างกวนทั้งหมดไว้บนบ่า
หัวใจของถังเทียนหดหู่ ในจดหมายที่เชียนฮุ่ยเขียนถึงเขา เธอไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย เธอเพียงแต่บอกว่าสบายดีและบอกเรื่องที่น่าสนใจที่นางเห็นทั้งหมดกับเขานางไม่เคยคาดมาก่อน
เขากำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว
"เป็นไปได้ว่าคนพวกนี้เป็นตัวร้ายเมื่อห้าปีก่อน"ลุงเฉียนมองดูจริงจัง "คุณหนูสงสัยว่าตระกูลอวี่วางแผนทำร้ายพวกเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว ถ้าข้าเดาได้ถูกอย่างนั้นเจ้าพวกนั้นต้องไล่ตามหามงกุฏอมตะอย่างแน่นอน"
ถังเทียนสูดลมหายใจลึกและคลายหมัดช้าๆเขาเงยหน้าขึ้นและยังยิ้มอย่างร่าเริง แต่นัยน์ตาเขาร้อนแรงดังไฟ"อย่าห่วงลุงเฉียน ถ้ากลุ่มเจ้าพวกบัดซบนี่กล้ามาอีกครั้ง ข้าจะทุบพวกมันให้เละ"
คำพูดที่ดุดันเช่นนั้นออกมาจากปากของคุณชายเทียน ลุงเฉียนอึ้งไปชั่วขณะ คุณชายเทียนไม่เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
ในทางตรงกันข้าม ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้มีนัยน์ตาเป็นประกายทันทีที่พวกเขาได้ยิน พวกเขามองดูถังเทียนด้วยความยำเกรง
เขยของตระกูลแกร่งกร้าวยิ่งนัก...
※※※※※※※
เมื่อกลับมาในห้องเขาถังเทียนจมอยู่ในความคิด หากปราศจากเชียนฮุ่ย, ตระกูลซ่างกวนดูเหมือนว่าพวกเขาจะตกอยู่ในความลำบาก เขาต้องคิดหาวิธีบางอย่าง
ทันใดนั้น สีหน้าเขาประหลาดใจ ขณะที่กำลังคิด มีเจ้าตัวน้อยคนหนึ่งกระโดดออกมาจากตู้อาวุธอควาเรียส
หยาหยากระโดดลงบนโต๊ะ มือน้อยๆเท้าสะเอว กัดฟันและเชิดหน้าเธอจ้องหน้าถังเทียนอย่างไม่สบายใจทำท่ายกธนูในมือและเล็งมาที่ถังเทียน ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ดื้อไม่เชื่อฟังปากส่งเสียงไม่ได้ศัพท์ด้วยความโกรธ
ถังเทียนยกมือแสดงว่ายอมแพ้เขายอมรับผิด "ข้าไม่ดีเอง,ข้าลืมเจ้าเสียสนิทเลย..."
ตอนนี้หยาหยายิ่งโกรธกว่าเดิม หน้าแดงจนควันออก เธอเล็งธนูมาที่ถังเทียนทำท่าเหมือนกับจะโจมตีใส่เขา
ถังเทียนมองดูโดยไม่พูดอะไรสักคำเขาหยิบแก่นพลังวิญญาณมาถือในมือเม็ดหนึ่ง
หยาหยาชะงักและนัยน์ตาเป็นประกายทันทีหน้าที่แดงด้วยความโกรธจนควันออกหูก็หายไป ถังเทียนดีดเม็ดแก่นพลังพุ่งเป็นแนวโค้ง"ไปเล่นเองเถอะไป.."
หยาหยาพุ่งเข้ามาบนโต็ะและคว้าแก่นพลังวิญญาณที่ลอยกลางอากาศไว้เธอวิ่งไปรอบๆ อาคารอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นหยาหยาถังเทียนตบหลังศีรษะตนเอง เขาลืมปิงไปได้ยังไง เรื่องเช่นนี้ลุงปิงน่าจะมีหนทาง
ลุงปิงได้ยินสิ่งที่ถังเทียนพูดก็ส่ายศีรษะ"เรื่องนี้ซับซ้อนเกินไป ข้าไม่สามารถช่วยได้ ช่วงระหว่างปีนั้น แผนของกองทัพถูกจัดการโดยท่านผู้นำ อาเจ๋อและพวกที่เหลือก็จะใช้ไหวพริบชำระจัดการเรื่องราว"
ถังเทียนผิดหวังอย่างมาก ฟังดูไม่ได้ความอะไร เขากล่าว"เรื่องนี้ก็ไม่รู้ เรื่องนั้นก็ไม่รู้ แล้วลุงรู้เรื่องอะไรบ้าง?"
"ฝึกทหาร"ลุงปิงแบมือทั้งสองและพูดลอยๆ "ข้าเป็นเจ้ากรมศึกษาของกองทัพ ข้ารู้แต่เพียงวิธีฝึกฝนทหาร"
"ฝึกทหาร?" ถังเทียนตกใจดวงตาเขาเป็นประกายวูบวาบ "อย่างนั้นเราสามารถช่วยเชียนฮุ่ยฝึกทหาร, ได้ไหม? ฮ่าฮ่า!ข้านี่ฉลาดจริงๆ! ใช่แล้วเป็นเรื่องที่ดีที่จะฝึกซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ขึ้นมาเป็นกำลังของตระกูลซ่างกวนเมื่อเชียนฮุ่ยกลับมานางจะได้ประหลาดใจ!"
ปิงเย้ย "อย่าฝันกลางวัน ด้วยมาตรฐานอย่างตระกูลซ่างกวน ต่อให้พวกเขาฝึกสุดท้ายก็เป็นแค่อาหารสัตว์กองหนึ่ง"
หลังจากได้ยินเช่นนั้นถังเทียนย้อนเขาคืน "ลุงปิง,แล้วลุงล่ะ? ข้าถามท่านตั้งเยอะแยะแต่ท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลย พอตอนนี้ มีเรื่องขอให้ลุงช่วย แต่ลุงกลับมาคอยจิกกัด ถ้าลุงทำไม่ได้ก็บอกมาเถอะเจ้ากรมฝึกฝนทหารอะไรกัน ฮะฮะ"
เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายปิงผมตั้งชัน รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าที่เยือกเย็นของเขา "เจ้าเด็กร้ายกาจถอนคำพูดของเจ้าซะดีกว่า"
ถังเทียนไม่ลดราวาศอกเขาจ้องกลับและพูดแดกดันมากขึ้น "เฮ้, ลุง อย่ามาขู่ให้กลัวเลย ลุงเป็นเจ้ากรมศึกษาของกองทัพไม่ใช่หรือ?อย่าบอกข้านะว่าลุงอุปโลกน์ตำแหน่งนั้นขึ้นมาเอง"
ทั้งสองคนจ้องหน้ากันด้วยความโกรธราวกับว่าเป็นไก่ชน ไม่มีใครยอมใคร
"อย่าคิดว่าเจ้าสามารถใช้วิธีน่าเกลียดอย่างนี้เพื่อมาหลอกล่อข้านะ"ปิงกัดฟันกล่าว
"เฮ้อ!เจ้ากรมศึกษาของกองทัพ!" ถังเทียนทำตาโตขณะพูด
คิ้วหนาของปิงเต้นระริก เขาตอบอย่างเย็นชา "อย่ายั่วโมโหข้า!"
ถังเทียนยังคงย้อนคำและล้อเลียนเขา"โอว, เจ้ากรมศึกษาฯ ของกองทัพ!"
ปิงโมโหขึ้นทุกที ในที่สุดเขาก็หน้ามืดคำรามและพุ่งเข้าใส่ถังเทียน
ถังเทียนก็ไม่ถอยพุ่งเข้าใส่ด้วยเช่นกัน
ทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน
ตาหยาหยาเป็นประกายเธอพึมพำอยู่ข้างๆ อย่างตื่นเต้น ใบหน้าน้อยๆ มีความสุข บางครั้งเธอก็หลับหูหลับเชียร์ทั้งสองฝ่าย
※※※※※※※
เช้าวันต่อมา
เมื่อถังเทียนออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่ฟกช้ำ ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้เห็นแล้วถึงกับตกใจ
"คุณชาย.. นี่มัน..."ซ่างกวนจู้อดถามไม่ได้
ถังเทียนกัดฟันตอบเสียงอู้อี้"ข้าพลั้งเผลอไปหน่อย ได้รับบาดเจ็บเองตอนฝึกฝนเมื่อวานนี้..."
ซ่างกวนเว่ยและซ่างกวนจู้ยิ่งนับถือกว่าเดิม
เขาคือคนรักของเชียนฮุ่ยอย่างแท้จริงขนาดเป็นแค่การฝึกฝนก็ยังทำตามปกติ ทุ่มเทเต็มที่มิน่าเล่าเขยของตระกูลถึงได้ทรงพลังมากนัก
เมื่อเห็นทั้งสองคนมองกลับมาอย่างคึกคัก ถังเทียนกระแอมเบาๆ และพูดจริงจังว่า "เมื่อวานนี้ข้าไตร่ตรองดูแล้ว ตระกูลซ่างกวนไม่อาจอาศัยแต่เพียงเชียนฮุ่ยคนเดียวได้ ศิษย์และคนในตระกูลจำเป็นต้องใช้การได้มากกว่านี้"
ทั้งสองคนรู้สึกผิดทันที เขยของตระกูลพูดถูก!
"ดังนั้นเพื่อเพิ่มพลังให้พวกเจ้า ข้าตัดสินใจสอนวิธีที่ข้าได้ฝึกฝนมาให้กับพวกเจ้า" ถังเทียนพูดจริงจัง
ทั้งสองคนเงยหน้าอย่างไม่ใคร่เชื่อนัก
ซ่างกวนเว่ยไม่คัดค้าน "คุณชาย, เรื่องนี้...."
ถังเทียนโบกมือเหมือนกับว่าเขากำลังอุทิศตัวเพื่อความชอบธรรม"เอาล่ะ, อย่าพูดอะไรอีกต่อไปเลย! ข้าจะทำอย่างนี้ เพื่อให้เชียนฮุ่ยคลายใจ! พวกเจ้าทั้งสองคนไปเรียกศิษย์และคนในตระกูลมารวมตัวกันที่ลานฝึกฝนวิทยายุทธ ข้าขอประกาศอย่างชัดเจน ตามกระบวนการฝึกทั้งหมดนี้ ทุกคนต้องรับคำสั่งข้า"
ซ่างกวนเว่ยตื่นเต้นมากจนปากสั่นชั่วครู่ต่อมาเขาสงบใจได้และพูดด้วยเสียงมุ่งมั่น "คุณชายไม่ต้องเป็นห่วงถ้ามีผู้ใดกล้าขัดคำสั่งคุณชาย ข้าจะไม่ยอมยกโทษให้แน่นอน"
ซ่างกวนจู้หน้าเข้ม"ข้าจะเล่นงานมันให้ตาย ถ้าใครไม่เชื่อฟังคุณชาย"
เมื่อเห็นเงาร่างทั้งสองเดินจากไปแล้ว ถังเทียนคลำหน้าที่บวมช้ำของตนเองทันใดนั้นเขารีบชักมือกลับทันที อู๊ยยยย, เจ็บเป็นบ้า
เจ้าบ้านั่นคงมั่นใจวิธีการของเขาเป็นแน่!