ตอนที่ 104 เดชเกราะนกยูง
"สัญชาตญาณแข็งแกร่งมาก"บุรุษร่างสูงใหญ่จู่ๆ ก็พูดออกมาในหมู่ผู้คน
บุรุษไว้หนวดอีกคนที่อยู่ข้างเขาพยักหน้า และประหลาดใจอยู่บ้าง"เป็นครั้งแรกเลยนะที่ข้าได้เห็นเด็กอย่างเขามีสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งขนาดนั้น"
ทั้งสองคนนั้นแข็งแกร่ง และด้วยการดูเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็สามารถระบุได้ว่าฝีมือถังเทียนที่ต่อยอวี่หมิงชิวได้ไม่ได้อาศัยความเร็ว แต่เป็นสัญชาตญาณ ถังเทียนชิงความได้เปรียบไว้ได้นอกจากทำให้เคลื่อนที่ได้ก่อน ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆก็สามารถก้าวหลบและขัดขวางได้แค่ใช้ประโยชน์จากสัญชาตญาณที่กล้าแข็งก็นับว่าฉลาดยอดเยี่ยมแล้ว
คนที่มีสัญชาตญาณแข็งแกร่งแทบไม่เคยเห็นมาก่อน และยังสามารถใช้มันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพระหว่างต่อสู้ก็ยิ่งหาได้ยากขึ้นไปอีก
“อวี่หมิงชิวยังต้องขัดเกลากันอีก” บุรุษตัวสูงพูดอย่างไม่สบายใจ
“เขาถูกกักกันมานานเกินไป”บุรุษมีหนวดพูด “แต่สัญชาตญาณในการต่อสู้ของเขาก็มิได้อ่อนด้อย”
“อืม”นั่นคือสิ่งที่บุรุษตัวสูงเห็นด้วย “น่าเสียดายที่ไม่พบซ่างกวนเชียนฮุ่ย ข้าสงสัยจริงๆว่าแท้จริงแล้วซ่างกวนเชียนฮุ่ยแข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่”
“ความจริงนางจะทรงพลังมากขนาดไหนกันนะ?” บุรุษไว้หนวดดูเหมือนจะคัดค้าน“นางก็อายุเพียงเท่านั้นเอง”
“อย่าดูถูกนาง อย่าลืมว่า สิ่งนั้นยังคงอยู่ในมือนาง” บุรุษตัวสูงเตือน
“อืม..น่าเสียดายที่นางไม่อยู่ที่นี่ หึ หึ” บุรุษไว้หนวดพูดทันที “เราดูกันต่อไปเถอะ อวี่หมิงชิวและเกราะของเขาเข้ากันได้ดีเชียว”
“ข้ายังรู้สึกว่าเจ้าเด็กนั่นดูเหมือนจะโง่ไปนิดแต่ก็ไม่เลว” บุรุษตัวสูงเลิกคิ้วกล่าว
“เขาเป็นคนรักของซ่างกวนเชียนฮุ่ยลืมแล้วหรือ” บุรุษไว้หนวดพูดเย็นชา
“ข้าก็แค่พูดไปตามปกติ”บุรุษตัวสูงยักไหล่
※※※※※※※
ผัวะ ผัวะ ผัวะเกราะหยกบนแขนของอวี่หมิงชิวกระจายตัวลอยอยู่รอบแขนของเขา เกราะหยกแต่ละชิ้นเปลี่ยนเป็นแสงรังสีและซึมเข้าไปในร่างเขา
รังสีเกินกว่าสิบสายซึมเข้าในร่างของอวี่หมิงชิว
ถังเทียนหรี่ตาและจ้องมองดูอวี่หมิงชิว เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังของอวี่หมิงชิวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังไม่เคลื่อนไหว
เขาจ้องเขม็งดูเกราะที่อวี่หมิงชิวสวมอยู่ ลุงปิงบอกเขาว่านี่คือเกราะแห่งหมู่ดาวช่างแกะสลักแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะปะทะกันช่วงสั้นๆ แต่ถังเทียนได้เปรียบกว่าเพราะอวี่หมิงชิวไม่รู้ว่าสัญชาตญาณของถังเทียนแข็งแกร่งขนาดนี้
แต่ในมุมมองของถังเทียน อวี่หมิงชิวยังไม่คุ้นเคยกับเกราะชุดนี้
ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งได้เกราะมาใช้ได้ไม่นาน...
ความคิดฟุ้งซ่านที่ทำให้เสียสมาธิหายไปจากใจถังเทียนทั้งหมด เขามองดูอวี่หมิงชิวอย่างพินิจ และค่อยๆ หยีตาและสงบใจเย็น
ในการต่อสู้ ถังเทียนเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งความคิดของเขาทำงานได้ดีกว่าปกติ แต่ก็ยังคงสงบเย็น สภาพที่ยังไม่ชัดเจนกลายเป็นชัดเจนขึ้นในใจของเขา
เชียนฮุ่ยไม่อยู่ที่นี่....ลุงเฉียนและพวกที่เหลือก็ตกอยู่ในความยุ่งยากทันที...มีใครบางคนต้องแอบวางแผนเรื่องนี้ไว้... ต้องมีจอมบงการอยู่หลังฉากอวี่หมิงชิว....
เบาะแสเจือจางปรากฏชัดในใจของเขา
คนพวกนี้ บังอาจวางแผนต่อเชียนฮุ่ยได้ยังไง....
ความสงบในดวงตาที่หรี่มองของถังเทียนเริ่มจางหายไปช้าๆและสิ่งที่เรียกว่าอันตรายก็เริ่มเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนเมฆครึ้ม
ขณะที่เจ้านี่อยู่ในสภาพแข็งแกร่งที่สุด เขาจะทำลายให้ได้
แทบจะทันทีนั้นเอง ความคิดนี้ก็หลุดไปจากใจของถังเทียน ความคิดที่เยือกเย็นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและแทนที่ด้วยสัญชาตญาณ แต่สัญชาตญาณบอกเขาในสิ่งเดียวกันนั่นคือความคิดที่ไม่เลว
เมื่อเป็นอย่างนั้น ข้าจะให้เจ้าตายอย่างมีเกียรติก็แล้วกัน!
ถังเทียนจับตามองและยืนขึ้นอีกครั้ง ถ้าอวี่หมิงชิวอาศัยวิธีอื่นถังเทียนอาจไม่มั่นใจ แต่ถ้าเขาใช้แต่เพียงเกราะ ถังเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อย
ถังเทียนกางแขนทั้งสองทันที
※※※※※※※※※※※
การกระทำของถังเทียนเรียกความสนใจของผู้คนได้มากมาย
ทุกคนประหลาดใจในความดุดันของอวี่หมิงชิว แต่ยิ่งประหลาดใจกับถังเทียนที่โดดเข้ามาอย่างไม่มีที่มาที่ไป เทียบกับความผ่อนคลาย ง่ายๆ สง่างามแข็งแกร่งและกล้าหาญของอวี่หมิงชิวแล้ว ดูเหมือนจะไม่น่าประทับใจเลย ดังนั้นเมื่อซ่างกวนเฉียนพูดว่าถังเทียนคือคนรักของซ่างกวนเชียนฮุ่ย ทุกคนอ้าปากค้าง
เมื่อเทียบกับอวี่หมิงชิวแล้ว พลังของถังเทียนดูเหมือนจะธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาเคลื่อนไหวและทำร้ายอวี่หมิงชิวบาดเจ็บได้ทุกคนจึงเงยหน้ามองบุรุษหนุ่มที่เหมือนโง่เขลาผู้นี้
ถังเทียนมีดี บางคนก็มองเห็น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เห็น
เมื่อพลังของอวี่หมิงชิวเพิ่มระดับ การกระทำของถังเทียนจะยิ่งสะดุดตามากขึ้น
ทุกคนสงสัย เด็กหนุ่มถังเทียนที่ดูโง่เขลานี้จะสู้กับอวี่หมิงชิวได้ยังไง
"หือ?" บุรุษตัวสูงที่ชมอยู่ด้านนอกปากอ้าค้างทันที เขายืดหลังจ้องดูถังเทียนเขม็ง
"เจ้ารู้สึกอะไรหรือ?" บุรุษไว้หนวดจับตาดูถังเทียนเช่นกันและรีบถามขึ้น
"มีคลื่นพลังสายหนึ่ง!" บุรุษตัวสูงยืดตัวตรง "คลื่นพลังที่แข็งแกร่งมาก!"
"มันคือเกราะ!" บุรุษไว้หนวดอุทาน
ขณะที่บุรุษมีหนวดหลุดคำจากปาก ถังเทียนตะโกนทันที "นกยูง!"
"นกยูง!"
"นกยูง!"
เสียงตะโกนของถังเทียนก้องเข้าหูของผู้ชมเหมือนกับว่ามีคนนับไม่ถ้วนตะโกนพร้อมกัน
ชั้นรัศมีสีฟ้าปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วเริ่มตั้งแต่เท้าของถังเทียนจากนั้นเป็นลำตัว มันขยายจนครอบคลุมแขนที่กางออกของเขา ในพริบตาเดียวเกราะที่มีขนนกสีน้ำเงินก็คลุมไปทั้งตัวของถังเทียน
มันมีสีฟ้าดูแล้วชวนหลงใหล เกราะที่มีขนนกกางออกช้าๆ และคลุมไหล่ของเขาไว้ กลายเป็นนกยูงที่ดูเด่น เยือกเย็นสง่างาม ขนหงอนสีแดงสามเส้นลอยเด่นอยู่เหนือหน้าผากของมัน ขณะที่มันเชิดหัวตาของมันเต็มไปด้วยความหยิ่ง
ปัง!
พลังที่แข็งแกร่งพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนกับภูเขาไฟปะทุ
ถังเทียนหยีตาของเขาเกือบจะเวลาเดียวกันนกยูงบนไหล่ของเขาก็หยีตาด้วยเช่นกันตาของนกยูงก็ปล่อยแสงสีเงินออกมาเป็นชั้นๆ ตาของเหมือนเหมือนกับโลหะเงินแต่เพิ่มลักษณะเฉพาะที่เยือกเย็นให้กับมัน
ถ้าจิ่งหาวเห็นนกยูงนี้ เขาคงจะผงะถอยหลังเป็นแน่ เพราะตอนนี้มันทรงพลังมากยิ่งกว่าเดิม หลังจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับพวกวิญญาณมืด นกยูงได้ช่วยชีวิตถังเทียนไว้เมื่อได้ยินว่าวิชาลับอย่างหนึ่งสามารถหล่อเลี้ยงและเสริมสร้างจิตวิญญาณพลังยุทธให้กับสมบัติดวงดาว ถังเทียนต้องใช้ถึงพันคะแนนเพื่อซื้อวิชาลับนี้มา
วิชานี้เรียกว่า บันทึกบำรุงสมบัติ
นับว่าไม่ใช่เรื่องยากซับซ้อนในการสร้างเสริมจิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติ ทั้งหมดที่ต้องการก็คือการเลี้ยงจิตวิญญาณพลังยุทธด้วยแก่นพลังวิญญาณ จากนั้นใช้จิตวิญญาณพลังยุทธตัวเองที่เป็นเหมือนไฟฝึกฝนกับสมบัติและช่วยขจัดสิ่งตกค้างภายในแก่นพลังวิญญาณ นี่มีข้อดีสองประการคือประการแรกสามารถเสริมพลังให้จิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติเองและในขณะเดียวกันก็ทำความสะอาดมันไปด้วย ข้อดีอีกประการหนึ่งก็คือจะทำให้จิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติใกล้ชิดกับจิตวิญญาณพลังยุทธของผู้เป็นนาย ดังนั้นเองสมบัติและตัวเจ้าของจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากขึ้นจากนั้นเจ้าของสมบัติจะสามารถเพิ่มศักยภาพของสมบัติได้มากยิ่งขึ้น
ตอนนี้ถังเทียนครอบครองคะแนนเกินพันหน่วย คะแนนเหล่านี้มาได้ง่ายๆ และเขาไม่รู้สึกว่าต้องอดออมเมื่อต้องใช้ไปแต่อย่างใด
สิ่งที่สำคัญก็คือว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของเขาแข็งแกร่งอย่างที่สุดด้วยพลังระดับห้ามันกลายเป็นจิตวิญญาณพลังยุทธเงินไปแล้ว และนี่เกินกว่าจินตนาการของทุกคนจิตวิญญาณพลังยุทธเงินจะพิสูจน์พลังความแข็งแกร่งของมันอย่างรวดเร็ว นกยูงในวันนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก กุญแจสำคัญก็คือการสื่อสารระหว่างถังเทียนและนกยูงที่ก่อนหน้านี้เลือนลางในตอนนี้ชัดเจนแล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นเกราะชั้นบรอนซ์ทั้งหมดแต่เกราะนกยูงครามก็ทรงพลังยิ่งกว่าเกราะหยกฤดูใบไม้ร่วงยิ่งนัก
※※※※※※※
"ช่างเป็นเกราะแข็งแกร่งทรงพลังจริงๆ" บุรุษไว้หนวดตะลึงเขาขมวดคิ้ว "เป็นสมบัติจากหมู่ดาวนกยูงหมู่ดาวนกยูงให้กำเนิดนักสู้ผู้แข็งแกร่งด้วยหรือนี่? เป็นไปไม่ได้ที่เกราะอย่างนั้นจะไม่มีผู้อาวุโสเคยใช้มาก่อน"
"ดูเหมือนจะมียอดฝีมือคนหนึ่งในสมาพันธ์ชาวยุทธใช้นะเขาคือผู้อาวุโสกรงเล็บภูตพราย และเขาใช้เกราะแห่งหมู่ดาวนกยูง" บุรุษร่างสูงจ้องมองดูถังเทียนโดยตั้งใจไม่ให้คลาดสายตาขณะที่เขารีบตอบ
"เจ้าหมอนี่มาจากสมาพันธ์ชาวยุทธงั้นหรือ?" บุรุษไว้หนวดขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม ถ้าถังเทียนมีเบื้องหลังเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธแล้ว อย่างนั้นเรื่องนี้จะซับซ้อนยิ่งขึ้น
เพราะถ้าองค์กรขนาดใหญ่อย่างสมาพันธ์ชาวยุทธเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้นมาก
"ข้าก็คิดเช่นนั้น" บุรุษร่างสูงพูด"สมาพันธ์ชาวยุทธเป็นพวกที่เชี่ยวชาญเรื่องสมบัติดวงดาวทั้งหมด และไม่มีใครมีความรู้เทียบกับพวกเขาได้ เจ้ามองดูตาของนกยูงสิ ตาของมันสว่าง มันต้องผ่านการขัดเกลามาแล้ว"
"ช่างน่าเจ็บใจจริงๆดูเหมือนว่าอวี่หมิงชิวจะพบกับศัตรูแข็งแกร่งจริงๆ" บุรุษไว้หนวดไม่ได้มองที่ศักยภาพของอวี่หมิงชิวอย่างชัดเจน
"ใช่แล้ว" บุรุษตัวสูงคาดไม่ถึงเลยว่าหลายอย่างจะกลับกลาย
ทั้งสองคนขมวดคิ้วทั้งคู่
※※※※※※※※
อวี่หมิงชิวจ้องมองถังเทียนที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างว่างเปล่า เจ้าหมอนี่ดูเหมือนคนงี่เง่าใส่เกราะจริงๆ
ความริษยาทำให้หัวใจของเขาเร่าร้อนทันที
และเกราะแข็งแกร่งกว่าสิ่งที่เขามี
สำหรับคนอย่างเขา เขาคู่ควรกับเกราะที่แข็งแกร่งกว่าสิ่งที่เขาครอบครองได้ยังไง?
บัดซบ!
อวี่หมิงชิวตาร้อนด้วยความริษยา ขณะที่เขาจ้องมองถังเทียนความตั้งใจฆ่าของเขาเพิ่มมากขึ้น เสียงดังก้องอยู่ในใจเขา"ตราบใดที่เจ้าสามารถฆ่าเจ้าผู้นี้ได้เจ้าก็จะได้เกราะที่แข็งแกร่งนี้ไว้ครอบครอง ตราบเท่าที่เจ้าฆ่าเจ้านี่ได้ เจ้าจะได้เป็นราชาเมื่อเจ้ากลับไปทุกคนจะจดจำชื่อของเจ้าไว้
เจ้าแค่ต้องฆ่าเจ้าหมอนี่ซะ!
ขอเพียงฆ่าเจ้านี่ได้คนเดียวเท่านั้น!
ดวงตาของอวี่หมิงชิวร้อนแรงด้วยความโกรธ ตลอดหลายปีมานี้ เขามีชีวิตเหมือนสวะ ชีวิตของเขาพลิกผันยิ่งขึ้นและในจุดที่วิกฤติอย่างนั้น เขาต้องการประกาศการกลับมาของเขา ประกาศว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนแต่...
ทุกอย่างพังทลาย เพราะเจ้าผู้นี้
ตาย!
ขอเพียงเขาฆ่าบุรุษผู้นี้ได้!
เขาจะได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ
เผียะ เผียะ เผียะเกราะที่อยู่บนตัวของอวีหมิงชิวกระจายออกและเปลี่ยนเป็นรังสีซึมเข้าไปในร่างเขาต่อเนื่องมองจากหน้าของเขา หน้าของเขาบ่งบอกว่าเขาอยู่ในอาการเจ็บปวดแต่พลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่น่าประหลาด
ถังเทียนจ้องคู่ต่อสู้ของเขาอย่างใจเย็น ในใจของเขา เขาสั่นศีรษะตั้งแต่เขาซื้อวิชาบันทึกบำรุงสมบัติมาในที่สุดเขาก็มีความเข้าใจจิตวิญญาณพลังยุทธในสมบัติดียิ่งขึ้น
ความแตกต่างระหว่างสมบัติและของอื่นๆจะอยู่ในจิตวิญญาณพลังยุทธของมัน จิตวิญญาณพลังยุทธในสมบัติ ยิ่งมีระดับสูงขึ้นยิ่งจิตวิญญาณพลังยุทธสูงขึ้นเท่าใด มันจะมีอารมณ์เป็นของตนเองมากขึ้น ในสมบัตินั้นไม่ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธจะใกล้ชิดหรือห่างท่าน แต่ผลกระทบของมันก็ยังน่ากลัว
จากบันทึกการบำรุงสมบัติ ถังเทียนเรียนรู้คำหนึ่งคือเชื่อมั่น
ท่านต้องเชื่อมั่นสมบัติของท่าน ยิ่งท่านเชื่อมั่นสมบัติท่านมากเพียงไรมันจะยิ่งเปล่งอานุภาพมากเท่านั้น และจะทำให้ท่านมีสัมพันธ์แนบแน่นกับมันด้วย
แต่อวี่หมิงชิวไม่เชื่อมั่นเกราะของเขาอีกต่อไป
น่าเสียดาย ถังเทียนมองดูรังสีที่ร้อนแรงนั้นอย่างเศร้าใจในความร้อนแรงนั้นมีความเศร้าใจเปล่งออกมาจากจิตวิญญาณพลังยุทธของเกราะด้วย
เขาไม่คู่ควรจะครอบครองเกราะ
อย่างนั้น ก็ให้ทุกอย่างจบลง
ถังเทียนยังคงจับตาและย่อตัวลง เขากางแขนและกำหมัดแน่น