ตอนที่ 102 อวี่หมิงชิว
“มีปัญหาอะไร? ก็แค่ใช้ป้ายเกียรติยศติดต่อข้า ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังวุ่นแต่เจ้าไม่ต้องกังวลถึงข้า รีบไปได้แล้ว ไปเสียเถอะ!”
จิ่งหาวรีบไล่ถังเทียนให้ออกไป หลังจากนั้นเขาพานักสู้คนอื่นหลบออกมา
ถังเทียนยืนอยู่บนถนนในดาวสายรุ้งมองดูรอบๆ ตัว ทันใดนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างเหลือเชื่อในที่สุดเขาก็มาถึงดาวสายรุ้ง เขาจะได้พบเชียนฮุ่ยแล้วเมื่อนึกถึงคืนนั้นที่เชียนฮุ่ยจากมา เขายังจดจำด้วยตนเองได้ ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยดวงดาว เขาสัญญากับเชียนฮุ่ยด้วยเสียงที่ดัง
เราทำได้แล้ว!
ถังเทียนกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวหลังจากนั้นช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็คลายหมัดออก เมื่อไปตามที่อยู่ที่เชียนฮุ่ยให้เขาไว้เขาเริ่มมองหาที่ตั้งตระกูลซ่างกวน
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจก็คือตระกูลซ่างกวนมีชื่อเสียงมากในดาวสายรุ้ง และเขาสามารถหาตระกูลซ่างกวนพบในเวลารวดเร็ว
แต่...
ทางเข้าชุมนุมไว้ด้วยคนหลายคน ถังเทียนขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้มักจะหมายถึงความยุ่งยากเสมอ
ยังมีคนมาหาเรื่องเชียนฮุ่ยอีกหรือนี่? ถังเทียนแค่นเสียงเย็นชารังสีฆ่าฟันปรากฏอยู่ที่ใบหน้าของเขา เขาเร่งฝีเท้าทันที
※※※※※※※※※
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บ!
ร่างสองสามร่างลอยออกมา และร่วงลงกับลานบ้าน
"หึ หึ นี่คือวิธีต้อนรับอาคันตุกะของตระกูลซ่างกวนหรือ?" บุรุษหนุ่มชุดขาวสง่างามคนหนึ่งกำลังโบกพัดจีบพัดตนเองและหัวเราะตลอดทั้งร่างของเขาไม่มีฝุ่นแม้แต่น้อย
ต่อหน้าเขา ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเป็นศิษย์อายุเยาว์ของตระกูลซ่างกวนสองสามคน
เสียงฝีเท้ากระจัดกระจายรีบเร่งออกไปจากลานบ้านในช่วงเวลาสั้น ซ่างกวนเฉียนก็พาคนสองสามคนออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
"ปฏิบัติต่ออาคันตุกะหรือ?ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ที่จะมีคุณสมบัติเป็นอาคันตุกะของตระกูลซ่างกวนของเรา!" ลุงเฉียนโกรธอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงของเขาไม่มีความเกรงใจ
บุรุษชุดขาวโบกพัดจีบ หัวเราะอย่างไม่คำนึงมารยาท"ข้าได้ยินว่าซ่างกวนเชียนฮุ่ยงดงามเกินบรรยาย ข้าหมิงชิวมาที่นี่เพราะชื่อเลื่องลือของนางแต่กลับถูกปฏิเสธตั้งแต่หน้าประตู ข้าเสียใจจริงๆ"
"อวี่หมิงชิว!" ดวงตาของลุงเฉียนมีร่องรอยโกรธ แต่หัวใจของเขาตกใจ
อวี่หมิงชิว!
ลุงเฉียนไม่ได้รู้สึกแปลกสำหรับชื่อนั้นอัจฉริยะที่มีชื่อมากที่สุดของตระกูลอวี่หายสาบสูญไปโดยไร้วี่แววถึงสี่ปี! ตระกูลอวี่เป็นคู่ต่อสู้หลักและเป็นไม้เบื่อไม้เมาของตระกูลซ่างกวน และซ่างกวนเฉียนรู้จักพวกเขามากกว่าคนทั่วไป อัจฉริยะตระกูลอวี่ผู้นี้ เมื่อสี่ปีที่แล้ว เข้าสู่สภาวะคลั่งขณะฝึกฝนและปราณเที่ยงแท้ทั้งหมดในร่างกายเขาทรุดโทรม
ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ
และเมื่อเทียบกับสี่ปีที่แล้ว เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
แต่คุณหนูไม่อยู่แถวนี้
หัวใจลุงเฉียนปวดร้าว ตระกูลอวี่และตระกูลซ่างกวนเป็นตระกูลคนชั้นสูงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และพวกเขามีสภาพเหมือนน้ำกับไฟเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาตระกูลซ่างกวนอ่อนกำลังลง เป็นการกระทำที่มาจากตระกูลอวี่โดยตรงถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูดึงดันต่อต้านกระแสที่บ้าคลั่ง ตระกูลซ่างกวนก็คงจะ....
ลุงเฉียนรู้ว่าเขามาไม่ถูกเวลาในตอนนี้ จึงบอกว่า"คุณหนูมีเรื่องสำคัญต้องเดินทางไกล ข้าไม่แน่ใจว่านางจะกลับมาเมื่อใด ท่านช่างโชคไม่ดีเลย"
"จริงหรือ?" อวี่หมิงชิวมีใบหน้าที่หล่อเหลาและเบะปากด้วยท่าที่หยอกล้อ "นั่นก็น่าเสียดายนะ คนใช้ของข้าเห็นคุณหนูเชียนฮุ่ยเมื่อวานนี้จริงๆวันนี้นางไม่อยู่เสียแล้วหรือ? ข้า อวี่หมิงชิวไม่ได้แก่ขนาดนั้น อย่ามาทำกับข้าเหมือนเด็กเล็กและเกลี้ยกล่อมข้าเลยลุงเฉียน"
ซ่างกวนเฉียนรู้ว่าเขาจะมาวันนี้ ตั้งใจจะมาหาเรื่องแต่เขาไม่พูดอะไร "หุบปากเลย คุณหนูไม่อยู่ที่นี่ ต่อให้นางอยู่ที่นี่นางจะไม่ลดตัวลงมาพบเจ้า"
อวี่หมิงชิวเลิกคิ้วประกายความเยือกเย็นยังคงอยู่ในดวงตาของเขา แต่เขาแหกปากหัวเราะทันที "ดูเหมือนว่าจะพบคุณหนูเชียนฮุ่ย ข้าจะต้องมาด้วยตนเองไงเล่า"
หลังจากเขาพูดจบเขาหันหน้ามาทางบ้านตระกูลซ่างกวนและเดินตรงเข้าไปทันที
เงาร่างสองร่างวิ่งตรงออกมาจากด้านหลังซ่างกวนเฉียนและขวางทางอวี่หมิงชิวไว้
ซ่างกวนเว่ย, ซ่างกวนจู้
นอกจากซ่างกวนเชียนฮุ่ยแล้ว ชายหนุ่มสองคนนี้เป็นผู้มีชื่อเสียงจากตระกูลซ่างกวน
พวกเขาสองคนได้รับเลือกจากซ่างกวนเชียนฮุ่ยเองในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดตระกูลซ่างกวนในอนาคต ซ่างกวนเชียนฮุ่ยได้สอนและแนะนำวิทยายุทธให้พวกเขาเอง ในหัวใจของพวกเขา สถานะของเชียนฮุ่ยสำคัญมาก ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าอวี่หมิงชิวเย้ยหยันคุณหนูเชียนฮุ่ย ทั้งสองคนจึงโกรธ
ซ่างกวนเว่ยประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยสีหน้าของเขาสงบและใจเย็น
ซ่างกวนจู้มีรูปร่างสูงใหญ่ และแข็งแรงมาก
ทั้งสองคนยืนเคียงบ่าเคียงไหล่คู่กันด้วยท่าทางก้าวร้าว
"เฮอะ, ตระกูลซ่างกวนตกต่ำจริงๆ ถึงกับปล่อยให้เด็กสองคนออกหน้า"อวี่หมิงชิวจงใจถอนหายใจ "จริงๆ เลยนะทำให้คนไม่สามารถหยุดถอนหายใจได้เลย ด้วยสภาพของตระกูลซ่างกวนในปัจจุบันนี้ เป็นไปได้ยังไงที่จะได้เป็นตัวแทนหมู่ดาวเพอร์ซูสของเราในฐานะตระกูลชั้นสูงที่แข็งแกร่งที่สุด?"
ซ่างกวนเว่ยไม่ได้ขยับ และตอบอย่างใจเย็น"เทียบกับตระกูลอวี่ที่ถนัดในเรื่องปักหมอนตระกูลซ่างกวนของเรายังคงน่าเชื่อถือมาก"
ซ่างกวนจู้ไม่พูดอะไร และยังคงกระตุ้นปราณเที่ยงแท้ของเขา ทั่วตัวเขาปลดปล่อยพลังสีเขียวเข้มข้นจนคลุมไปทั้งตัว
อวี่หมิงชิวหยีตา "อย่างนั้นข้าของดูวิชาหยกเย็นของตระกูลซ่างกวนหน่อยเป็นไร"
เมื่อพูดเช่นนั้น ร่างของเขาก็หายไป
แทบจะขณะเดียวกัน ร่างของซ่างกวนเว่ยก็หายไปด้วย ซ่างกวนจู้ตาเป็นประกาย และปล่อยหมัดออก!
ภาพหมัดสีเขียวเข้มกระแทกใส่อวี่หมิงชิว
อวี่หมิงชิวแค่นเสียง เขาสะกิดปลายเท้าเบาๆและร่างของเขาเริ่มเห็นไม่ชัดทันทีร่างท่อนล่างเลือนลางและเพิ่มไล่ขึ้นมาเบื้องบน แต่สิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นก็คือ ภาพหมัดสีเขียวที่กำลังปลิวว่อนเหมือนกระสุนปืนใหญ่เริ่มเปลี่ยนแปลงในอากาศทันทีเหมือนกับถูกมือที่ไร้รูปบีบจนเป็นบอลสีเขียวลูกหนึ่ง หมัดเขียวแปลงเป็นลำแสงเขียว ม้วนเข้าหาอวี่หมิงชิวอย่างรวดเร็ว
อวี่หมิงชิวหัวเราะเยาะ
ร่างของเขาเหมือนลูกตุ้มที่แกว่งไปมา เขาเตรียมจะพุ่งเฉียดลำแสงสีเขียวไปแต่ทันใดนั้นลำแสงสีเขียวเปลี่ยนแปลงอีกครั้งทันที กลายเป็นกรงสีเขียวพยายามกักอวี่หมิงชิวไว้
ดวงตาของอวี่หมิงชิวเปล่งประกายแปลกใจเล็กน้อยเขามองดูร่างของซ่างกวนจู้และคิดว่าซ่างกวนจู้ใช้แนวพลังแกร่งกร้าวในตอนแรก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าคนรูปร่างใหญ่ขนาดนั้นสามารถใช้วิชาแนวลึกลับได้
น่าสนใจ!
แต่คิดจะใช้วิธีแบบนั้นดักจับเขา นั่นไร้เดียงสาเกินไปแล้ว
พลังปราณเที่ยงแท้ในร่างของอวี่หมิงชิวเพิ่มขึ้น สี่ปีมานี้เขาทนทุกข์ทรมานเจ็บปวด ก่อนจะได้รับความเคารพนับถือจากคนอื่นๆ เขาจำเป็นต้องใช้การต่อสู้เพื่อแสดงพลังบอกให้รู้ว่าเขากลับมาแล้ว
เข้าต้องให้คนของหมู่ดาวเพอร์ซูสรู้ว่า อวี่หมิงชิวกลับมาแล้ว
ด้วยสายตาเยือกเย็นอวี่หมิงชิวกางนิ้วทั้งห้าเหมือนกับทำท่าเล่นพิณ นิ้วของเขาไม่ได้เรืองแสงแต่กลับส่งระลอกรังสีที่เหมือนกับฝนที่กำลังตกลงในบ่อ
รังสีเขียวสั่นสะเทือน ถูกกระแทกจากนั้นก็พังทลายลง
อวี่หมิงชิวยืนตระหง่านมองดูปลอดโปร่งสบายใจเขาตอบโต้ด้วยมือเดียวและมองดูเหมือนยอดฝีมือมาก หญิงสาวหลายๆ คนรอบตัวตื่นเต้น
ทันใดนั้น อวี่หมิงชิวเห็นร่างที่ร้ายกาจจากหางตา หัวใจเขาเยือกเย็นทันที
รังสีหยกเขียวชัดและกว้างเหมือนดาบ
ฟันขวางใส่เอวของอวี่หมิงชิว
คมดาบของรังสีเยียบเย็นชอนไชลึกถึงกระดูกของเขา อวี่หมิงชิวไม่รีรอชักช้าอีกต่อไป เขางอนิ้วทั้งห้าโจมตีใส่เหมือนกับสายฝนกระทบใบตอง
เป๊าะ เป๊าะ เป๊าะ!
เสียงโจมตีดังชัดเจนหนาแน่นเหมือนฝนห่าใหญ่ รังสีดาบหยกเขียวกระแทกลงพื้นกลายเป็นมวลแสงหยกเขียวขนาดใหญ่
เงาร่างซ่างกวนเว่ยมาปรากฏอยู่ด้านของของอวี่หมิงชิว ร่างของเขาคล่องแคล่วอ่อนหยุ่นขาซ้ายของเขาที่ยกขึ้นเปล่งแสงเขียวที่น่องของเขา ขณะที่ยิงรังสีหยกเขียวโค้งออกมา
แสงเขียวโค้งคมเหมือนมีดโกน
กระบวนท่าของซ่างกวนเว่ยว่องไวมาก น่องและฝ่ามือของเขามีแสงหยกเขียวสว่างวาบสามารถสับ คว้า เตะหรือเจาะในแต่ละท่วงท่าของการใช้แสงรังสีเขียวโค้ง
ดาบหยกโค้ง!
ดาบแสงกวาดใส่เข้ามาเหมือนคลื่นพิโรธตรงเข้าหาอวี่หมิงชิว
ใบหน้าที่อ่อนโยนของอวี่หมิงชิวหายไป สีหน้าเขากลายเป็นเคร่งเครียดจริงจัง เขากางแขนกว้างและกางนิ้วทั้งสิบและสะบัดนิ้วต่อเนื่องด้วยเร็วที่มิอาจคำนวณได้
ติง ติง ติง!
เสียงโจมตีดังก้องในหูพวกเขาเหมือนเม็ดฝน
นิ้วของอวี่หมิงชิวแข็งแกร่งเหลือเชื่อ เหมือนกับว่าเขาสะบัดนิ้วในอากาศโดยไม่มีลำดับ ดาบหยกแสงแต่ละเล่มต้องใช้การโจมตีเจ็ดหรือแปดครั้งในช่วงเวลาสั้น
ดาบหยกแสงถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง หน้าของซ่างกวนเว่ยเยือกเย็น
ดาบหยกแสงตรงเข้ามาเหมือนคลื่นด้วยความตั้งใจจะสังหารอีกฝ่ายหนึ่ง
ภายในดาบแสง อวี่หมิงชิวยังใช้ความเร็วได้อย่างมั่นคง เขาเริ่มใช้มันได้อย่างช่ำชองและง่ายดาย "อะไรกัน?พวกเจ้ามีดีแค่นี้เองเหรอ? พวกเจ้ามีคนที่สู้ได้แค่สองคนเองสินะ"
พลังของซ่างกวนเว่ยหมดลงในระดับที่รวดเร็ว เขาดูเหมือนตั้งท่าป้องกัน แต่ในความเป็นจริงเขามีโอกาสเคลื่อนไหวแค่ครั้งแรก คนของตระกูลซ่างกวนทั้งสองคนพ่ายแพ้คนๆ เดียวซ่างกวนเชียนฮุ่ยคงรับไม่ได้แน่
เดี๋ยวก่อน!
สองต่อหนึ่ง!
แล้วอีกคนอยู่ไหน?
อวี่หมิงชิวคิดถึงบางเรื่องขึ้นมาได้
พอถึงตอนนี้เงาดำทะมึนปรากฏอยู่เหนือศีรษะของเขาและล้อมเขาไว้ในกรง
และโดยไม่รู้ตัวปรากฏมีบอลหยกเขียวขนาดพิเศษลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา บอลนี้กว้างเกินกว่าสามเมตรภายในบอลแสงมีเงาร่างเลือนลางร่างหนึ่ง
ซ่างกวนจู้
บอลแสงเริ่มเปลี่ยน
บอลหยกเขียวที่อยู่เหนือศีรษะเขามีแรงกดดันมากที่สำคัญที่สุดคือมันอันตราย
อันตรายที่ไม่สามารถอธิบายได้ทำให้เขาร้องกราดเกรี้ยวเหมือนแมวโกรธ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
บอลแสงหยกเขียวร่วงกระแทกลงมาในระดับความเร็วที่น่าตระหนกในพริบตาเดียวความเร็วของบอลแสงเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ซ่างกวนจู้ที่อยู่ในบอลแสงประกบฝ่ามือเข้าด้วยกันมองดูเคร่งขรึมจริงจัง
บดกระแทก
ปัง
รังสีเขียวหนาและแข็งแกร่งพุ่งลงมาจากฟ้าและกระแทกเข้ากับมีดแสง
ปัง ปัง ปัง!
ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณมีเศษหินปลิวว่อนและร่วงกราวลงกับพื้นเหมือนฝนตกลงมากองรวมกันคนที่ชมอยู่ในตอนนั้นไม่มีเวลาตอบสนอง เหมือนกับว่าพวกเขาถูกผลักจนถอยหลัง ทุกคนถูกแรงกดจนถอยหลังไปสองสามก้าว
คนที่มองจากด้านข้างและยังทรงตัวอยู่ได้ ทุกคนตกใจกันหมด
น่ากลัวมาก!
พลังโจมตีที่น่ากลัว ไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิตได้
ทางเข้าของตระกูลซ่างกวนอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด อยู่ตรงข้ามกับถนนซึ่งกว้างกว่าสามสิบเมตรสร้างจากแผ่นศิลาเขียวทนทาน แต่ฝุ่นฟุ้งกระจายปกคลุมถนนทั้งหมด
ซ่างกวนจู้กระอักเลือดเต็มปากวิชาสังหารนี้ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังมหาศาล ซ่างกวนเว่ยหอบหายใจหนักอยู่ด้านข้าง เขาก็ร่วมใช้พลังที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วย
ในที่สุด ก็สำเร็จจนได้.....
ทั้งสองมองหน้ากันเองผ่อนลมหายใจ ขณะที่พวกเขาผ่อนคลายและลุงเฉียนกำลังมองมาอย่างโล่งใจ
มีเสียงหนึ่งดังออกมาจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอย่างคาดไม่ถึง
"พวกเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจได้บ้าง"
ร่างของซ่างกวนจู้และซ่างกวนเว่ยแข็งค้างทันทีสีหน้าของลุงเฉียนเปลี่ยนไปมาก
ร่างที่เลือนลางค่อยๆ ปรากฏออกมาจากท่ามกลางฝุ่น ทันใดนั้นเขาโบกฝ่ามือ ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายก็ถูกเป่าหายไป
อวี่หมิงชิวยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง สีหน้าเขาเย็นชาเปล่งรังสีฆ่าฟัน หน้าของเขามีรอยแผลเล็กๆ สายหนึ่งซึ่งมีเลือดไหลเล็กน้อย
แต่ภายใต้สายตาของทุกคนสิ่งที่อยู่บนร่างกายของอวี่หมิงชิวกลับดึงดูดสายตาของทุกคน
"นั่นคือ.. นั่นคือ เกราะ..ชุดหนึ่ง"