ตอนที่ 99 กดดัน
หลังจากเอ้อจู้ล้มลงกับพื้น คนอื่นๆ จึงค่อยรู้สึกตัว
บุรุษในชุดดำและต้าอวี๋ คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนอยู่ทางขวารุกขนาบค่อยๆคืบใกล้เข้ามาหาถังเทียน เสี่ยวหลูมีมีดบินอยู่ในมือไม่กล้าโจมตีทันที ได้แต่อดทนรอโอกาสครั้งต่อไป
สตรีชุดดำดึงธนูออกมาอีกดอกหนึ่งแต่ทันใดนั้นนางได้ยินเสียงคำรามของจิ่งหาวเคลื่อนเข้ามาห่างอยู่เพียงไม่กี่ก้าว เขาอยู่คั่นกลางระหว่างสตรีชุดดำและถังเทียน
สายตาของจิ่งหาวจ้องมองศัตรูที่เพิ่่งยิงธนูออกไป เป็นความผิดพลาดของเขาเขาจดจ่ออยู่กับเส้นทางหลบหนีของสตรีนางนี้แต่ไม่เคยคิดเลยว่านางจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ นางสามารถทำอันตรายถังเทียนได้ ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้จิ่่งหาวรู้สึกอับอายมาก ถ้าเขาต้องยอมให้เกิดความผิดพลาดซ้ำสอง อย่างนั้นเขาก็คงไม่ใช่จิ่งหาวแล้ว
สตรีชุดดำใจตกวูบ วิชากระบี่ของจิ่งหาวแข็งแกร่ง และสามารถป้องกันธนูได้อย่างง่ายได้ถ้ามิใช่วิชาตัวเบาของนางเหนือกว่าจิ่งหาวเล็กน้อย นางคงพลาดท่าไปแล้วลูกศรที่เหลืออยู่สองดอก นางเกรงว่าคงหาโอกาสเหมาะไม่ได้อีกแล้ว
ขณะที่อีกสามคน...
ใจนางลอบปฏิเสธด้วยความหวั่นไหว นางไม่ใช่คนมองโลกในแง่ดี
มรดกของผู้อาวุโสหนง เขาโชคดีขนาดไหนกันถึงได้รับมันมาได้? และเมื่อเห็นทักษะต่อสู้ของถังเทียน เขาน่ากลัวและแม้แต่สตรีชุดดำก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะได้ แต่สิ่งที่ประทับใจนางที่สุดก็คือรูปแบบต่อสู้ที่ดุดันเหี้ยมหาญของถังเทียน ในลักษณะนี้ แม้แต่จิ่งหาวก็ยังห่างชั้นจากเขา
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้านี้มีพื้นฐานบ้าการต่อสู้ คนประเภทนี้เกิดมาเพื่อต่อสู้ เพียงแต่ว่าเจ้าผู้นี้มาจากที่แห่งใดกันแน่?
นางเชื่อใจแหล่งข้อมูลของนางเสมอ แต่นางไม่เคยได้ยินว่ามีคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นจากสมาพันธ์ชาวยุทธ
วันนี้พวกเขาพบความยุ่งยากเสียแล้ว
แน่นอนว่าพัฒนการต่อสู้เกินไปกว่าที่นางคาดการณ์ทำนายไว้ แม้จะถูกสามคนรุมล้อมไว้ แต่ทุกคนก็ถูกถังเทียนข่มเอาไว้
วิธีการต่อสู้ที่เหี้ยมหาญของถังเทียนนั้นหมดจดและเด็ดขาดเขาจู่โจมได้ในระดับที่น่าทึ่ง ปฏิกิริยาความรวดเร็วยิ่งน่าตระหนกมากกว่า แม้ว่าวิทยายุทธที่เขาใช้ จะไม่ใช่วิทยายุทธระดับสูง แต่เมื่อเขาผสานวิชาต่อสู้ทั้งหมดเขากลับได้เปรียบอย่างคาดไม่ถึง
เมื่อเห็นเขาแล้วทำให้สตรีชุดดำตัวสั่นด้วยความกลัวพร้อมกับตื่นตัวในใจ
สตรีชุดดำไม่รู้ว่าไม่ใช่นางคนเดียวเท่านั้นที่ตื่นตัวในใจ แม้แต่จิ่งหาวที่อยู่ใกล้ๆ นางก็ตกใจจนตะลึง
ดูเหมือนว่าครั้งต่อไปเราซ้อมมือกับเจ้าเด็กนี่ คงต้องระวังแล้ว เราต้องไม่ปล่อยให้เขาทุบตีเราจนแทบบ้าแน่
ถังเทียนลืมตัวอย่างสิ้นเชิง และภาพพลองและภาพฝ่ามือที่อยู่ต่อหน้าเขาไม่ได้ทำให้เขากลัวเลยแม้แต่น้อย อาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เขาได้รับก่อนหน้านั้นแทบไม่ได้สร้างเสียหายใดๆ ให้กับเขาถังเทียนตระหนักว่าตราบใดที่เขากระตุ้นพลังปราณเที่ยงแท้มากเกินไป เส้นชีพจรของเขาจะรู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดเฉือนและสองคนที่อยู่ข้างหน้าเขาก็ระมัดระวังป้องกันตำแหน่งไว้เป็นอย่างดี ยิ่งเพิ่มมีดบินที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้ช่วงเวลาสั้นๆ ต่อมาถังเทียนไม่สามารถบุกพิชิตศัตรูได้
นี่ยิ่งทำให้ถังเทียนโกรธ
ความเจ็บปวดและความขมขื่นที่ได้รับจากห้องสิบแปดมนุษย์มนุษย์ทองแดงทำให้เขายับยั้งความโกรธในใจ ความตายของเจ้าโล้นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจและเดิมทีถังเทียนก็ไม่ใช่คนอารมณ์ดีอยู่แล้วใช้เวลามากก็ยังไม่สามารถทำอะไรกับเต่าที่หดหัวในกระดองได้ ก็ยิ่งทำให้เขาโกรธมาก
จากนั้นแม้ว่าเขาจะบอกวิญญาณของเจ้าโล้นในสวรรค์ว่าเขาจะหาทางล้างแค้นให้เขา
ถังเทียนโกรธจัด นี่จะยิ่งไม่ทำให้เปลืองพลังหรือ? เราจะได้เห็นกันว่าใครจะยืนระยะได้นานที่สุด
เขาเริ่มควบคุมการใช้พลังปราณเที่ยงแท้และหันมาใช้พลังกายภายนอกของตนเองมากขึ้น ถังเทียนมีร่างกายที่แข็งแรง และนั่นคือเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขาสามารถต่อสู้ได้เป็นเวลานาน เขายังคงเก็บพลังปราณเที่ยงแท้ไว้ไม่ได้ใช้ และการสิ้นเปลืองพลังปราณของเขาก็ลดลง ขณะที่ปราณเที่ยงแท้ของศัตรูไม่สามารถทะลุแนวป้องกันของเขาและรุกล้ำเข้ามาในเส้นชีพจรของเขาได้
การป้องกันของถังเทียนไม่ได้ช้า แต่ความจริงยังเร็วขึ้น
ผัวะ ผัวะ ผัวะ
ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีเสียงปะทะทึบๆ และชัดเจนมากขึ้น
นัยน์ตาของสตรีชุดดำเป็นประกายขึ้น นางสามารถบอกได้เลยว่าปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนจะหมดไปในไม่ใช้ นางเป็นคนฉลาดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หลังจากคิดเพียงเล็กน้อยนางก็ได้ทฤษฎีว่าแอ่งตันเถียนชั้นที่สี่เมื่อเทียบกับแอ่งตันเถียนชั้นที่ห้า จะเล็กกว่ามาก และหลังจากสู้มาเป็นเวลานาน จุดอ่อนพลังปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนจะเผยออกมาในไม่ช้า
จากนั้น นั่นคือโอกาสที่จะได้ชัยชนะที่แท้จริง
ก็เพียงแค่....
นางจ้องดูจิ่งหาว เพียงแต่เห็นเขาหัวเราะอย่างเยือกเย็น
เว้นแต่เจ้าเด็กนี่ยังคงมีวิชาสังหารอยู่อีก? หัวใจนางเต้นแรง แต่หลังจากนั้นถังเทียนไม่ได้ใช้วิชาสังหารของตนเอง ความสงสัยของนางเพิ่มขึ้น นางไม่เชื่อว่าจิ่งหาวไม่สามารถเห็นถังเทียนตกอยู่ในอันตราย?
ทำไมจิ่งหาวใจเย็นนัก?
เวลาจะเป็นตัวบอก แต่สตรีชุดดำก็ยังคอยระวังวิชาสังหารซึ่งยังไม่ปรากฏให้เห็น
อืม.. เดี๋ยวก่อน?
ม่านตาของสตรีชุดดำขยายกว้าง ทำไมเจ้าผู้นี้ถึงยังไม่ล้มลงเล่า?
นางมองดูอย่างระมัดระวังและต้องตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ฝ่ามือขยี้ใจของบุรุษชุดดำและพลองของต้าอวี๋ไม่เปล่งอานุภาพเลย นางสามารถเห็นได้ว่าพวกเขาจนปัญญา ประกายมีดบินของเสี่ยวหลูก็จางหายไปเช่นกันทุกคนหมดพลังแล้ว
ในทางตรงกันข้าม ถังเทียนยังคงมีพลังและการโจมตีของเขารุนแรงเหมือนพายุ ออกหมัดแต่ละครั้งก็เสียงดังหวีดหวิว เมื่อเป็นไปในลักษณะนี้ถังเทียนจึงได้เปรียบเป็นธรรมดา ขณะที่อีกสองคนไม่เพียงแต่ไม่สามารถป้องกันตัวได้เท่านั้นพวกเขายังตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง
ปะ..เป็นไปได้ยังไง...
สตรีชุดดำจ้องมองภาพข้างหน้าด้วยความงุนงง ไม่มีวี่แววของความเหนื่อยล้าสักนิดผ่านไปถึงยี่สิบนาทีแล้ว เขายังรักษาระดับการโจมตีขนาดนั้นไว้ได้ยังไง?
เขาไม่เหนื่อยบ้างหรือ?
เจ้าเด็กนั่นไม่รู้ว่าความเหนื่อยเป็นยังไงบ้างหรือ?
ภาพที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าเป็นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดที่นางเคยเห็นมา ต่อให้พลังของถังเทียนยกระดับและเข้าสู่ระดับที่ห้าด้วยวัยขนาดนั้นก็ตาม ไม่ ต่อให้เขาเข้าสู่ระดับที่หกนางก็คงไม่ประหลาดใจสิ่งที่นางเห็นก็คือเจ้าเด็กนี่เป็นร่างที่มีชีวิตเอาชนะศัตรูของเขาได้ คนหนึ่งมีระดับที่สูงกว่าเขา และอีกสองคนมีระดับเดียวกับเขา...
นี่เป็นร่างกายแบบไหนกันแน่.....
แม้แต่สัตว์ป่าเห็นก็คงต้องอายจนตาย..
เดี๋ยวก่อน!
ทันใดนั้นมีประกายสว่างวูบในใจของสตรีชุดดำ มีสองคำผุดขึ้นมาในใจนาง "สายเลือด"
มีแต่พวกที่มีสายเลือดแข็งแกร่งจึงจะสามารถทำให้ใครบางคนแข็งแกร่งและอดทนได้
แนวทางที่นางจับตามองถังเทียนเริ่มเปลี่ยนไปทันที ใช่แล้ว ทำไมเราคิดไม่ถึง? ร่างกายที่ไม่ธรรมดานั้น นอกจากพลังของสายเลือดแล้วจะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง?
สายเลือด!
สายตาของนางเปลี่ยนเป็นโลภและหลงใหลทันที ในองค์การวิญญาณมืดสายเลือดที่แข็งแกร่งมีค่ามากเมื่อเทียบกับสมบัติอื่นๆ ตราบใดที่นางสามารถได้รับเลือดเช่นนั้นนางเชื่อว่านางสามารถทำอะไรที่นางต้องการก็ได้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ชาวยุทธเราจะต้องมองหาอุบายดีๆ
สตรีชุดดำคิดอย่างรวดเร็ว
การต่อสู้ไม่ได้สร้างความกังขาอะไรมากสำหรับถังเทียนผู้ที่พยายามต่อสู้ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงมาแล้ว ระดับความเข้มข้นในการต่อสู้นี้ก็แค่ระดับอุ่นเครื่อง ถ้าว่ากันถึงเรื่องพลังความจริงถังเทียนแข็งแกร่งกว่าบุรุษชุดดำเล็กน้อยแต่เมื่อเพิ่มต้าอวี๋และเสี่ยวหลู ต่อให้ถังเทียนต้องการชัยชนะ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก
ขณะที่เส้นชีพจรของถังเทียนได้รับบาดบาดเจ็บเขาไม่มีทางเลือก ได้แต่ลากถ่วงเวลายาวเขาทำได้สำเร็จด้วยโชคช่วย ความอดทนที่แข็งแกร่งคือจุดแข็งของเขาทำให้เขาได้สำแดงพลังได้อย่างเต็มที่
บุรุษชุดดำและต้าอวี๋เหนื่อยจัดจนหอบหายใจ ฝีเท้าของพวกเขาช้าลงเหมือนคนแก่จนกระทั่งเมื่อถังเทียนเตรียมเผด็จศึกขั้นสุดท้ายสีหน้าของพวกเขาแสดงอาการยอมรับชะตากรรมกันแล้ว
เสี่ยวหลูตื่นเต้น เขารวบความพลังที่ยังเหลือและเริ่มหนีไปทางสตรีชุดดำ ขณะที่เขาหันร่างมา ธนูดอกหนึ่งเสียบเข้าร่างของเขา เสี่ยวหลูมองดูตำแหน่งที่เขาถูกยิงอย่างไม่อยากจะเชื่อและล้มลงกับพื้น
สีหน้าของสตรีชุดดำปกติขณะที่นางลดธนูของนางลง
ถังเทียนและจิ่งหาวตกใจกลัวความอำมหิตของสตรีชุดดำ พวกเขาคาดไม่ถึงว่าสตรีชุดดำจะลงมือกับบริวารของนางเอง
"ข้าคิดว่าเราน่าจะตกลงกันได้" สตรีชุดดำเปิดปากพูดทันที
เสียงที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากนั้นเย็นชายิ่งนัก
"ไม่มีอะไรต้องคุย!"จิ่งหาวแค่นเสียง เขาหยุดอยู่ตรงทางเข้าที่ใกล้สตรีชุดดำมากที่สุด แม้ว่าโดยนิสัยของเขาจะค่อนข้างเย็นชา แต่ภายในจิตใจเขาอ่อนโยน เขาเป็นคนสัตย์ซื่อถือมั่นเมื่อเห็นสตรีชุดดำทำร้ายเพื่อนร่วมงานของตนเอง เขาอดเกลียดนางไม่ได้
ไม่จำเป็นต้องพูดถึงถังเทียน เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตะโกนลั่น "เจ้า,,,, นังโหด! อย่านึกว่าจะรอดชีวิตไปจากที่นี่ได้นะ"
สตรีชุดดำดูเหมือนจะคาดการณ์ท่าทีโต้ตอบของทั้งสองคนได้จึงพูดอย่างไว้ตัว "เจ้าทั้งสองคนจะปล่อยเขาไปหรือเปล่า? ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเขาก็ตายอยู่ดี จะแตกต่างอะไรกันเล่าที่ตายในเงื้อมมือของพวกเจ้าหรือของข้า?"
"เหลวไหล!ไปตายซะ ไป!" ถังเทียนโกรธขณะโถมตัวเข้าหาสตรีชุดดำ
แววขบขันปรากฏอยู่ในดวงตาของสตรีชุดดำ วิชาตัวเบาของนางแข็งแกร่งกว่าจิ่งหาวและแน่นอนว่าย่อมแข็งแกร่งกว่าถังเทียน เพียงพริบตาเดียวนางก็หายไปทันทีและทันใดนั้นหางตานางกระตุก แทบจะขณะเดียวกัน เงาร่างเลือนลางร่างหนึ่งมาปรากฏอยู่ข้างๆนางโดยไม่มีวี่แววเตือนเหมือนสายฟ้า
เขา, เขามาปรากฏตรงนี้ได้ยังไง...
สตรีชุดดำกลัวและขยับเท้าเบาๆ ขณะที่นางหันมา นางรู้สึกเหมือนมีภาพเงาน่ากลัวติดตามนาง
แคว่ก!
มือข้างหนึ่งคว้าชุดของนางและได้ยินเสียงผ้าขาดจากกัน
สตรีชุดดำตกใจ ขณะที่นางขยับเท้าอย่างต่อเนื่องก็เหมือนมีเงาร่างที่่น่ากลัวติดตามนางจนกระทั่งนางดึงตัวเองออกมาได้ก่อนที่นางจะสงบจิตใจตนเองได้อีกครั้ง นางมองดูที่เอวเห็นชายผ้าที่ขาดออกไป
เขา... เขาทำได้ยังไง?
เรื่องเช่นนี้ไม่น่าเป็นไปได้...
ใบหน้าใต้หน้ากากของนางซีดขาว ขณะที่สายตาของสตรีชุดดำสับสน
ถังเทียนแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ โยนชายผ้าขาดในมือทิ้งใจของเขาไม่ยอมรับเป็นอย่างมาก ว่าเขาช้ากว่านาง
จิ่งหาวสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนเกือบทั้งหมด แม้ว่าถังเทียนจะเคลื่อนที่ไล่หลังสตรีชุดดำแต่ความจริงถังเทียนอาศัยเพียงวิชาตัวเบาและในเสี้ยววินาทีก็กำหนดจุดที่สตรีชุดดำจะพุ่งไปและนั่นคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด
สัญชาตญาณที่น่าหวาดหวั่น!
จิ่งหาวตกใจกลัวจริงๆทันทีที่สตรีชุดดำขยับเท้า แม้แต่เขาก็เห็นไม่ชัด แต่ถังเทียนสามารถคำนวณจุดที่นางจะไปได้
เขามองดูตัวถังเทียนด้วยความตกใจ
ถังเทียนย่อเอวต่ำอีกครั้งนัยน์ตาส่อความรู้สึกว่า “ข้าไม่ยอมแพ้”ความพยายามที่ล้มเหลวที่ผ่านมามิได้ทำให้ถังเทียนรู้สึกท้อแท้แค่ทำให้เขาไม่ยอมแพ้และมีกำลังใจมากขึ้น
เจ้าผู้นี้...ยังจะมีความก้าวหน้าได้อีกขนาดไหนกันแน่?
ความตื่นตระหนกครอบงำสตรีชุดดำทันใดนั้น นางรู้สึกว่าตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนางไม่เคยคิดเลยว่าคนที่ทำให้นางเกิดความเครียดกดดันดังกล่าว ไม่ใช่จิ่งหาวแต่กลับเป็นเด็กหนุ่มไร้ชื่อเสียง
ความไม่พอใจความไม่ท้อแท้และการตั้งใจต่อสู้ของคู่ต่อสู้ ทั้งหมดนี้ทำให้นางสั่น
แย่จริง เรามาพบกับบุคคลที่คาดไม่ถึงจริงๆตอนนี้นางไม่สนใจอะไรอื่นอีกแล้ว นางรีบใช้ไม้เด็ดของนางทันที“อย่าบอกนะว่าแม้แต่สมบัติหมู่ดาวพิณจะไม่ทำให้เราทั้งสองฝ่ายนั่งลงคุยกัน?”