ตอนที่ 98 แผงเพลิงนกยูง
ถังเทียนพุ่งราวกับลูกกระสุนด้วยพลังเต็มที่ เสียงลมพัดกรอกหูอื้ออึง เพลิงในดวงตาเขาพริ้วไหวนุ่มนวล
รังสีอำมหิตของเขาแผ่ออกขณะพุ่งผ่านท้องฟ้า บุรุษหนุ่มในท้องฟ้าเหยียดตัวออกเหมือนกับว่ารังสีของดวงอาทิตย์แผดเผาจนตัวเขาลุกโชน
เอ้อจู้ที่อยู่ด้านล่างถึงกับแตกตื่น ใบหน้าขาวซีดเมื่อเขาจ้องมองขึ้นไปในดวงตาของร่างข้างบน มันทำให้เขากลัว ความหยิ่งในความแข็งแกร่งที่เขาพึ่งพามาตลอดถูกกดดันจนพ่ายแพ้สิ้นเชิง
ถังเทียนที่อยู่ในอากาศ เพ่งเล็งเอ้อจู้ในฐานะศัตรูที่ถูกจับตาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวซึ่งจะทำให้ถังเทียนกลายเป็นเหมือนนักล่าที่มีประสบการณ์
มีดบินหกเล่ม มีรัศมีสีทองพุ่งฝ่าอากาศมาจนใกล้จะถึงหลังของถังเทียน เมื่อเห็นว่าเอ้อจูตกอยู่ในอันตรายเสี่ยวหลูตัดสินใจเคลื่อนไหว โดยไม่มีการยั้งมือปราณเที่ยงแท้ถ่ายเทเข้าในมีดบินและมีดบินนั้นมีรังสีทองเปล่งประกายวิถีของมีดบินเป็นเหมือนกิ่งหลิวที่ถูกลมพัดจึงทำให้มีดพุ่งเข้ามาเป็นแนวโค้ง
มีดบินสีทองทั้งหกเล่มพุ่งไขว้สลับกันในอากาศเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วและแปลกประหลาด ด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า
ไม่มีผู้ใดสังเกตว่าที่มุมหนึ่ง สตรีชุดดำถือธนูจันทราตั้งท่าเตรียมยิง ใบหน้าที่สวมหน้ากากของนางมีดวงตาที่เปล่งรังสีฆ่าฟันที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับเข็มทิ่มแทง
ธนูขึ้นสายเต็มที่แล้ว ลูกธนูทองแดงหนักถูกเหนี่ยวรั้งมาด้านหลัง
ธนูบรอนซ์หนักนี้แตกต่างจากธนูทองแดงที่นางยิงก่อนหน้านั้นตัวลูกธนูหนาเท่าหัวแม่มือ ขนนกที่หางธนูเป็นสามแฉกแทนที่จะเป็นสองปลายธนูแหลมส่องประกายเยือกเย็นมีประกายไฟที่ทำให้คนหวาดกลัว
นางเป็นคนมีเชาว์ปัญญาไหวพริบ ตอนแรกนางพัวพันหลอกล่อกับจิ่งหาว และเอาแต่หลบต่อเนื่องโดยไม่ทำอะไรแม้แต่จิ่งหาวก็ไม่ได้ตระหนักว่าธนูในมือของนางไม่ใช่ของที่ธรรมดา
มันคือสมบัติดวงดาวชั้นบรอนซ์แห่งหมู่ดาวคนธนู (ซาจิทาเรียส) ธนูเขียว
ธนูนี้มีลูกธนูที่แตกต่างกันสามแบบ ธนูบรอนซ์หนักเป็นหนึ่งในนั้น ธนูบรอนซ์ธรรมดาไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของธนูเขียวได้และมีแต่ลูกศรเฉพาะแบบสามอย่างจึงจะสามารถดึงพลังของสมบัติดวงดาวออกมาได้อย่างครบถ้วน
ปราณเที่ยงแท้ที่ถูกถ่ายเทเข้าในธนูบรอนซ์หนักและสายแห่งรังสีเขียววาบผ่านเหมือนสายฟ้าตั้งท้ายธนูไปจนถึงปลายคมธนู
ขณะที่รังสีแสงเชื่อมโยงถึงปลายลูกธนู ชิ้ง ชิ้งคมธนูหยกเขียวสองด้านก็แยกออกจากปลายลูกธนูเปลี่ยนปลายธนูเป็นสี่มุมทันที
นิ้วมือเรียวยาวขาวดุจหิมะของนางปล่อยลูกธนูจากแล่ง
ฟิ้ว
※※※※※※※※※※※※※
จิ่งหาวผงะเล็กน้อยกับรูปแบบการโจมตีของถังเทียน แม้ว่าเมื่อเขาซ้อมฝีมือกับถังเทียนเขาก็ยังประหลาดใจในการต่อสู้จริงประสิทธิภาพของถังเทียนนับว่ายังชนะเขาได้อีกครั้ง
เจ้าหมอนี่...
ทันใดนั้นรังสีฆ่าฟันรุนแรงผ่านตัวเขาไปทำให้เขารู้สึกใจตก
หน้าจิ่งหาวเปลี่ยนเขาลืมไปจริงๆ เกี่ยวกับสตรีที่อยู่ในตำแหน่งม้าของวิญญาณมืด
แย่แล้ว!
จากมุมสายตาของเขา เขามองเห็นแสงของลูกศรสีเขียวอ่อนจากนั้นก็หายไปในกลางอากาศ เป้าหมายเป็นถังเทียนอย่างมิต้องสงสัย
จิ่งหาวไม่พะวงถึงเรื่องอื่นเขาตะโกนอย่างไม่ลังเลใจ "มงกุฏเหนือ"
มงกุฏที่ด้ามกระบี่เปล่งแสงและขณะเดียวกันกระบี่มงกุฏเหนือของจิ่งหาวก็แทงออกไป!
ลำแสงสีขาวปล่อยออกจากกระบี่และมันหายไปทันที
ติง!
รังสีกระบี่ขาวและแสงธนูเขียวอ่อนปะทะกัน
เหมือนกับเสียงตีฆ้อง ทุกคนรู้สึกเหมือนเลือดลมพลุกพล่าน สตรีชุดดำคราง กระบี่นี้จิ่งหาวใช้ออกอย่างสุดกำลัง เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้รับประโยชน์จากมันแน่ แต่จู่ๆ ดวงตานางสว่างวูบ
จิ่งหาวระบายลมหายใจ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับถังเทียน เขาคงเสียใจแย่และตอนนั้น เมื่อลูกศรกับรังสีกระบี่ปะทะกัน คมลูกศรสองคมแยกออกจากกันทันที มันถูกสร้างจากปราณเที่ยงแท้
คมศรทั้งสองเปลี่ยนเป็นลูกศรแสงเล็กสองดอกกลางอากาศ จากนั้นความเร็วของลูกศรเพิ่มขึ้นและกลมกลืนอยู่ในมีดบินสีทองทั้งหก
ถังเทียนลอยอยู่ในอากาศไม่สามารถจะหลบได้
จิ่งหาวสีหน้าเปลี่ยนอีกครั้งเขาไม่เคยคิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะมีแผนตามหลัง
ถังเทียนตกอยู่ในอันตราย
※※※※※※※※※※※
ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกถึงอันตรายพุ่งเป้ามาที่เขา และความรู้สึกถึงอันตรายของเขานั้นรุนแรง เขาผ่อนลมหายใจ เขาคิดว่าความรู้สึกถึงอันตรายหายไป แต่เขาคาดไม่ถึงว่า จู่ๆมันกลายเป็นรังสีฆ่าฟันที่อ่อนจางและเยือกเย็น
ถังเทียนสั่น
พลังของพี่จิ่งหาว สามารถจัดการได้ แต่ถ้าพี่จิ่งหาวไม่สามารถกันมันเอาไว้ได้ล่ะ...
เขาอยู่กลางอากาศและโดยพื้นฐานไม่สามารถยืมพลังได้
ตั๊กแตนจับจั๊กจั่น นกขมิ้นไล่ตามหลัง
ความมั่นใจในความสำเร็จแต่เดิมพังทลายเพราะศัตรู อารมณ์ของคนปกติจะกลัวและหดหู่อย่างหนัก แต่สำหรับถังเทียนเขาไม่เสียสมาธิแม้แต่น้อย แม้ว่ารังสีฆ่าฟันจะอ่อนมาก แต่ถังเทียนไม่ผ่อนคลายการป้องกัน สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่ารังสีฆ่าฟันซ่อนอันตรายใหญ่หลวงไว้
ทำยังไงดี?
ถังเทียนคิดหนัก ภายใต้อันตรายใหญ่หลวงจิตวิญญาณพลังยุทธเงินในร่างของเขาดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงอันตรายจึงกระตุ้นการทำงานมันอย่างผิดธรรมดา
ความคิดเลือนลางถูกเชื่อมเข้ากับจิตวิญญาณพลังยุทธเงินโดยมิได้คาดฝัน
หือ..อะไรนี่?
ถังเทียนเบิกตากว้าง ขณะที่ใบหน้าเขามีความยินดีอย่างมิอาจควบคุมได้ นี่มัน..
จิตวิญญาณพลังยุทธเงินขยายตัว ความคิดที่พร่าเลือนเริ่มชัดเจนขึ้น
นกยูงครามโผล่ออกมาจากร่างกายเขา มีเกราะขนนกครามเกิดขึ้นและมีเปลวไฟสีเขียวแสงส่องสว่างเป็นคลื่นภายใต้เกราะขนนก
เกราะขนนกที่ด้านหลังถังเทียนปล่อยเปลวเพลิงเขียว เขาลอยตัวจากพื้นช้าๆและอยู่ในอากาศอย่างเงียบสงบ
ทุกคนที่เห็นภาพประจักษ์นี้ต่างก็ปากอ้าตาค้าง
ถังเทียนบินด้วยความเร็วสูงราวกับแสงเกราะนกยูงนี้ราวกับภาพลวงตา มันขัดแย้งกับภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขา
ไม่ทราบว่ามีนกยูงครามปีนขึ้นไปอยู่บนไหล่ของถังเทียนตั้งแต่เมื่อใดมันหันศีรษะมามองด้วยสายตาที่หยิ่งเยือกเย็นพอหน้าผากของมันสั่นสะเทือนก็ปรากฏขนนกสีแดงขึ้น
เปลวเพลิงเขียวที่ลอยอยู่รอบหางของนกยูงขยายขนาดและสีสัน ทันใดนั้นแสงรังสีน้ำเงินสายหนึ่งยิงออกมาจากขนนกยูงของเกราะเข้าหาขนนกยูงชิ้นอื่นๆในพริบตาเดียว ก็กลายเป็นแผงแสงสีน้ำเงินเจิดจ้า บนแผงแสงมีเปลวไฟสีเขียวลุกโชน เหมือนกับว่านกยูงกำลังคลี่ปีกรำแพน
แผงเพลิงนกยูง
ไม่ทราบว่าวลีนี้ปรากฏขึ้นในใจของถังเทียนได้ยังไง
ฉากภาพสวยงามนี้สร้างความตื่นเต้นตื่นตะลึงให้กับทุกคน
"ผู้อาวุโสหนง..." จิ่งหาวพึมพำ เขาใจลอยมองดูแผงเพลิงสีฟ้าและตานกยูงครามบนไหล่ถังเทียนอย่างภูมิใจ ทันใดนั้นเขาคิดถึงคำอธิบายเกี่ยวกับนกยูงคราม ตามรายงานเมื่อผู้อาวุโสหนงได้มันมา นกยูงครามเป็นแค่เพียงสมบัติชั้นบรอนซ์ธรรมดา แต่ผู้อาวุโสหนงทุ่มเทหยาดเหงื่อเลือดเนื้อจัดการเปลี่ยนแปลงมันจากภายในออกมาจนเป็นสมบัติชั้นบรอนซ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ก่อนผู้อาวุโสหนงจะตายได้บรรจุจิตวิญญาณพลังยุทธเข้าในสมบัติที่หายาก ก็คือนกยูงนี้....
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อเห็นนกยูงที่น่าภูมิใจและเยือกเย็นนี้ จู่ๆ จิ่งหาวเหมือนเห็นร่างชายชราร่างงองุ้มตัวผอมแต่ดูหยิ่งภาคภูมิใจ
นามของกรงเล็บภูตพรายเพลิงสร้างความหวาดหวั่นในวันเก่าก่อนเหล่านั้น....
ตอนนั้น นกยูงก็ดูหยิ่งภาคภูมิใจเหมือนตอนนี้
จิ่งหาวเหม่อมอง
นัยน์ตาของสตรีชุดดำเต็มไปด้วยอาการตกใจตื่นตะลึงเมื่อได้เห็นนกยูงที่เยือกเย็นและภาคภูมิบนไหล่ของถังเทียน เหมือนกับว่านางเห็นปีศาจในฝันร้าย
นั่นคือ.... นกยูงคราม!
ชื่อที่ไพเราะความจริงกับเกี่ยวข้องกับชื่อที่อำมหิตโหดร้ายกรงเล็บภูตพราย
คนผู้นั้นตายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ? เว้นแต่บุรุษหนุ่มนี้จะเป็นผู้สืบทอดกรงเล็บภูตพราย... ทำไมเราไม่รู้เรื่องนี้เลย
มือเท้านางเย็นเฉียบเหมือนมีน้ำแข็ง
ปุ ปุ ปุ
เสียงเบาดังต่อเนื่องสามารถได้ยินได้ ขณะที่แสงทองหกสายและธนูเล็กหยกเขียวพุ่งเข้าใส่แผงเพลิงนกยูง
แผงเพลิงนกยูงสามารถพับ หุ้มและม้วนตัวได้จากนั้นก็เข้าไปอยู่ที่หลังของถังเทียนทันที ถังเทียนแค่นเสียงเบื่อหน่ายและร่างของเขาเพิ่มความเร็วขึ้นอีก แผงเพลิงนกยูงสามารถป้องกันประกายแสงพลังงานโจมตีทั้งแปดสายได้สำเร็จ นกยูงครามสามารถป้องกันเจ้านายภายใต้สถานการณ์วิกฤติเท่านั้น แต่พลังที่จะคงมันเอาไว้ของถังเทียนยังไม่เพียงพอ พลังยังห่างไกลจากยุคที่มันรุ่งเรือง
มีเศษพลังอีกสามส่วนที่มารบกวนในร่างของถังเทียนมันคือมีดบินที่คมและรุนแรงเล่มหนึ่งและพลังงานประหลาดอีกสองสายที่เย็นและมืดมน พลังมีดบินถูกเปลี่ยนแปลงโดยร่างกระเรียนในตัวถังเทียนขณะที่พลังที่มืดมนและเยือกเย็นอีกสองสายพลังร่างกระเรียนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หมด
เป็นครั้งแรกที่ร่างกระเรียนไม่สามารถสลายพลังงานได้และเส้นชีพจรเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถังเทียนถึงกับตะลึง นกยูงบนไหล่ของเขาดูหมองลงและเมื่อใช้เกราะขนนกเพื่อป้องกันการโจมตีอีกครา เห็นได้ชัดว่าใช้พลังงานไปมาก
ถังเทียนไม่หยุดและหยิบยืมพลังเพื่อเพิ่มความเร็วของเขายิ่งขึ้นเหมือนกระสุนปืนใหญ่ เขาพุ่งเข้าหาเอ้อจู้
"เพลิงเตาหลอม!"
เสียงคำรามลั่นดังก้องออกมาจากถังเทียนผู้เกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว
เปลวเพลิงเตาหลอมที่ครอบคลุมหมัดเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างรวดเร็ว ปราณเพิ่มขึ้นพรวดพราด
เอ้อจู้ฝืนใจตั้งท่าป้องกันตัวปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ถ่ายเทเข้าไปนพลั่วจันทร์เสี้ยวขณะที่เลือดซึมออกจากปากเขา เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ทุ่มเทพลังทั้งหมด เขาได้ตายแน่ ความกลัวหายไปจากใบหน้าเขาหมดเหลือแต่ความตั้งใจสู้เข้ามาแทน
"ฆ่า!" เอ้อจู้มองอย่างโกรธแค้น กระแทกพลั่วจันทร์ลงพื้นรัศมีสีทองเปล่งออกและฉายไปในอากาศ
ถังเทียนยังอยู่ในอากาศเป็นเหมือนอินทรีที่จับจ้องล่าเหยื่อเขาปล่อยหมัดออกไปข้างหน้าด้วยเสียงที่น่ากลัว
หมัดที่ถูกเปลวเพลิงเขียวสดใสหุ้มไว้ปล่อยระลอกสั่นสะเทือนออกมาไม่หยุดกำปั้นแหวกอากาศก่อให้เกิดคลื่นระเบิดเสียง
พลังสีเขียวกับสีเขียวปะทะกันดังสนั่น
จากนั้นทุกอย่างสลายวับ
เอ้อจู้กระเด็นถอยหลัง ตา จมูกปากของเขามีเลือดไหลออกมา
การตอบโต้แลกชีวิตของฝ่ายตรงข้ามทำให้ถังเทียนไม่สบายใจ ปราณเที่ยงแท้ธาตุดินของฝ่ายตรงข้ามไม่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อกรของร่างกระเรียนซึ่งสลายและแปลงพลังได้ในพริบตา การต่อสู้มาถึงขั้นนี้แล้วทำให้ถังเทียนไม่กลัวอะไร เขากระตุ้นพลังปราณเที่ยงแท้และเข้าประชิดร่างของเอ้อจู้
ฝ่ามือมีดวงเดือนพลิกแพลงและอำมหิต
เอ้อจู้พยายามดิ้นรนต่อสู้ป้องกันฝ่ามือทั้งสองแต่ชายโครงด้านล่างถูกทำร้ายสองแผล เกิดรอยบาดแผลฉีกขาดทันที
รังสีฆ่าฟันปรากฏวูบในดวงตาของถังเทียนเหมือนกับปีศาจเคลื่อนตัวเข้าประชิดด้านข้างเอ้อจู้
ขาทั้งสองระดมเตะใส่อย่างรุนแรงจนเกิดเสียงหวีดหวิวและเอ้อจู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง เขาพยายามพยุงตัวเอง แต่ทันใดนั้นจุดแสงสีแดงขนาดเม็ดฝนสว่างวาบที่ระหว่างขาของเขา
เอ้อจู้ผงะถอยหลัง ในห้วงเวลาที่สิ้นหวังเขาไม่คำนึงถึงอะไรอย่างอื่นอีก และใช้ฝ่ามือบังข้างหน้าไว้
ฝ่ามือของเขาถูกแสงสีแดงเจาะทะลุทันที
ร่างเอ้อจู้ชะงักค้าง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความคับแค้นหลังจากลำแสงแดงทะลุผ่าน คอของเขามีรูกว้างดรรชนีมารพิโรธ!