ตอนที่ 93 ปณิธานของซ่างกวนเชียนฮุ่ย
จิ่งหาวนั่งพับอยู่บนพื้นราวกับดินเหลว สองตาของเขาเหลือกขึ้นด้านบนเหมือนปลากำลังขาดอากาศ เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะมีวันอยู่ในสภาพเช่นนี้กองอยู่กับพื้นอย่างน่าขายหน้า
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาก็ปลอดโปร่ง......
สายตาจิ่งหาวพร่าเลือน เขาถอนหายใจยาวจากก้นบึ้งหัวใจ ยี่สิบสี่ชั่วโมง รวมแล้วยี่สิบสี่ชั่วโมงรวดเดียว!
แม้ว่าจิ่งหาวจะเป็นคนที่มุ่งมั่นแข็งแกร่ง แต่เมื่อต้องเผชิญกับสภาพร่างกายเช่นนี้ ฝึกซ้อมกันเป็นบ้าเป็นหลัง เขาก็รู้สึกทรมานจนแทบอาเจียนอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยซ้อมมือกับคนอื่น แต่เขาไม่เคยซ้อมอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น นอกจากนั่งสมาธิเดินปราณ ไม่มีเวลาได้พักแต่อย่างใด ถังเทียนน่ารำคาญเหมือนแมลงสาบ เมื่อใดก็ตามที่เขาเริ่มผ่อนคลายแล้ว ถังเทียนจะกระโดดร่ำร้องขอซ้อมฝีมือต่อเรื่อย
นี่ไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว....
ตอนนี้จิ่งหาวเสียใจลึกๆ ที่ตัดสินใจเช่นนี้ ทำไมเขาต้องรีบร้อนเห็นด้วยกับคำขอของเจ้าเด็กนี่?
ถังเทียนนั่งลงข้างๆ เขาและพูดด้วยสีหน้าท่าทางน่ารำคาญ “ข้าขอบอกเลยนะพี่จิ่งหาว, ท่านมีความอดทนน้อยไปหน่อยใช่ไหมนี่? เราแค่เพิ่งเริ่มซ้อมมือกันเท่านั้น ข้ายังเอาชนะไม่ได้เลยสักรอบเดียว ทำไมท่านถึงหยุดเสียเล่า? มีวาระแอบแฝงหรือเปล่า? หรือกลัวว่าจะแพ้ข้า?ว้า... ท่านไม่ต้องเป็นอย่างนั้นก็ได้ เราสองคนต่างก็เป็นลูกผู้ชาย ท่านทำอย่างนี้ได้ยังไง?”
ปล่อยข้าไว้เถอะ ได้โปรด...
จิ่งหาวเกือบจะน้ำตาร่วงอยู่แล้ว
ถังเทียนรบเร้าจิ่งหาว แต่จิ่งหาวไม่แสดงท่าทีตอบสนองแต่อย่างใด ดังนั้นเขาได้แต่ลุกขึ้นจากออกมาอย่างผิดหวังด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เพราะการฝึกซ้อมกับพี่จิ่งหาวให้ผลที่โดดเด่น ยังมากกว่าการฝึกฝนอย่างหนักด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิทยายุทธอะไรมากแค่ไหน หรือไม่ว่าทั้งสัญชาตญาณ ผลที่ได้รับน่าทึ่งมาก แต่สาเหตุจริงๆที่ทำให้ถังเทียนเสียใจก็คือลมปราณมังกรฟ้า เขาเพิ่งจะได้ใช้ลมปราณมังกรฟ้า ซึ่งยังห่างจากความสำเร็จอีกไกล และมันเป็นเรื่องสุดยอดความตื่นเต้นของเขา แต่พี่จิ่งหาวจู่ๆ ก็เลิกซ้อมเสียอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินเสียงกรนจากพี่จิ่งหาว เขาต้องข่มใจไม่ให้ตัวเองไปฉุดเขาขึ้นมา
เขาแค่สงสัย พี่จิ่งหาวมีความอดทนน้อยจนน่าสงสารได้ยังไง?
ปิงที่อยู่ด้านหลังถังเทียนมองดูจิ่งหาวนอนหลับสนิทอย่างเงียบสงบ
ถังเทียนไม่มีความคิดว่าหลังจากฝึกฝนหนักมาเป็นเวลานาน เขาคุ้นเคยกับการฝึกฝนระดับสูงแล้ว ในรอบการฝึกฝนนานสิบวันระดับความเข้มข้นในการฝึกอบรมสูงมากขนาดนี้ นอกจากเขาแล้วไม่มีใครทำอย่างนั้นได้
แค่เพียงยี่สิบสี่ชั่วโมงเอง....
ถังเทียนไม่ได้คาดหวังอะไร เนื่องจากเขามองแต่ตนเองเป็นหลัก จึงไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ฝึกฝนอะไรหรือฝึกยังไง
เมื่อไม่มีใครฝึกซ้อมด้วยถังเทียนกลับไปประจำที่เดิมของตนเองและเริ่มการฝึกฝนของตนเอง
เขาวางแผนจะกลับไปในไม่กี่วัน
ถ้าจิ่งหาวที่กำลังหลับฝันหวานรู้ความคิดของถังเทียนแล้ว เขาคงกระโดดผางแตกตื่นด้วยความตกใจ แต่ตอนนี้ เขากำลังมีความสุขกับฝันหวานอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
※※※※※※※※
เด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะและมองดูกองหนังสือเหลืองเก่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ผมสีดำเหมือนไหมยาวประบ่าวงหน้าที่งดงามเหมือนภาพฝัน นัยน์ตาดำขลับเป็นประกายของนางดูสงบแต่น่ารัก นางสวมชุดเครื่องแบบทหารสีเขียวเข้มประจำตระกูลซ่างกวน รองเท้าบูทหนังสีดำริบบินเหลือง ถุงมือสีขาวหิมะ ดูรูปลักษณ์แล้วห้าวหาญโดดเด่นและสงบ
ตระกูลซ่างกวนมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ความคงอยู่ของตระกูลสามารถสืบสาวไปได้ถึงยุคบุกเบิกหมู่ดาวเพอร์ซูสตอนนั้นตระกูลซ่างกวนมีชื่อซึ่งมีความหมายพ้องกับชื่อดวงดาวและบรรพบุรุษของนางได้ใช้ความพยายามนับไม่ถ้วน
แต่แม้ว่าจะเป็นตระกูลมั่งคั่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานอยู่ในหมู่ดาวเพอร์ซูส แต่ตระกูลก็แทบจะถูกล้มล้างออกไปเมื่อไม่กี่ปีย้อนหลังไปจากนั้น แม้แต่ซ่างกวนเชียนฮุ่ยก็ยังถูกส่งไปยังดาวอู่อันที่ไกลโพ้นเพื่อความปลอดภัยของนางเมื่อเกิดสันติภาพขึ้นตามเวลา อันตรายที่ตระกูลซ่างกวนเผชิญได้หายไปเงียบๆ แต่ตระกูลซ่างกวนที่ล่มสลายก็ยังเผชิญหน้ากับความเสื่อมโทรมในสายตาของคนอื่น
ไม่มีผู้ใดคาดเลยว่า ห้าปีที่แล้วการมาถึงของเด็กสาวจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้
นางคือซ่างกวนเชียนฮุ่ย อัจฉริยะหญิงผู้เปล่งประกายเจิดจ้าบาดตาคนอื่นคนที่ใช้พลังที่แท้จริงฟื้นฟูตระกูลซ่างกวนในบัดนี้
นางกลับมายังตระกูลซ่างกวนอย่างลับๆ และใช้เวลาสั้นๆ ห้าปี ตระกูลซ่างกวนก็เติบโตกล้าแข็งอย่างน่าชื่นชม ไม่มีใครเห็นว่านางเป็นเพียงเด็กสาวอีกต่อไป นางได้รับความนับถือยกย่องจากทุกคน ตระกูลซ่างกวนที่โค่นล้มไปแล้วรุ่งเรืองขึ้นใหม่ในเงื้อมมือของนางเนื่องจากนางกอบกู้ตระกูลอันดับหนึ่งในหมู่ดาวเพอร์ซูสกับมาได้อย่างน่าทึ่งความรุ่งเรืองที่สูญหายไปนานหลายปีจึงกลับมาสู่ตระกูลอีกครั้ง
สำหรับพวกศัตรูนางยังคงสงบและจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างเด็ดขาด นางไม่เคยลากเท้าตนเองออกไปหาเรื่อง แต่สำหรับผู้ตกยากอนาถา นางเป็นที่รู้จักกันดีถึงความอ่อนโยนและมีเมตตา
นางเป็นสตรีที่สมบูรณ์เพียบพร้อมที่สุดในหมู่ดาวเพอร์ซูส!
“ลุงเฉียน! เมื่อเร็วๆนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านใช่ไหม?” จู่ๆเชียนฮุ่ยก็เงยหน้าถาม
“ทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง” ซ่างกวนเฉียนรีบตอบ เขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้ที่สุดของเชียนฮุ่ย เหมือนกับเป็นลุงของนาง เขามองดูเชียนฮุ่ยเติบโตและเมื่อเชียนฮุ่ยลี้ภัยหนีวิกฤติไปที่เมืองซิงฟงเมื่อตอนนั้น เขาติดตามดูแลนางด้วยความซื่อสัตย์เช่นกัน
“ท่านทราบข่าวพี่เทียนบ้างหรือเปล่า?” เชียนฮุ่ยถาม เมื่อพูดถึงถังเทียนใบหน้าที่เย็นชาเป็นน้ำแข็งของนางก็อ่อนโยนทันที
“ข้าได้สืบมาแน่ชัดแล้ว คุณชายเทียนถูกพาตัวมาที่หมู่ดาวเพอร์ซูสโดยสมาพันธ์ชาวยุทธจากเมืองซิงฟง” ซ่างกวนเฉียนอยู่กับเชียนฮุ่ยในเมืองซิงฟงมาห้าปี เมื่อพูดถึงถังเทียนเขาก็อดยิ้มด้วยไม่ได้“เขาถูกข่งโหย่วหลินแห่งสมาพันธ์ชาวยุทธเลือกตัวไว้ดูเหมือนว่าคุณชายเทียนจะมีคุณค่าสูงเสียด้วย เมื่อคุณชายเทียนต้องการมาถึงหมู่ดาวเพอร์ซูส คนอื่นๆ ก็ต้องทำตามเขาเช่นกัน ในฐานะที่น้องสาวของข่งโหย่วหลินเป็นผู้นำของหน่วยย่อยที่หมู่ดาวเพอร์ซูสของสมาพันธ์ชาวยุทธ เขาจึงพาทุกคนมาพร้อมกัน คุณชายเทียนต้องวางแผนสร้างความประหลาดใจให้คุณหนูเป็นแน่”
เชียนฮุ่ยยิ้มทั้งดวงตายิ้มของนางงดงาม “เขาชอบเล่นเกมอะไรอย่างนี้เรื่อย”
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มของเชียนฮุ่ยค่อยๆ จางหายไป นางยืนขึ้นและไตร่ตรอง “นี่ก็หมายความว่า พี่เทียนจะมาถึงที่นี่ในเวลาไม่นาน ดูเหมือนว่าเรื่องที่ต้องสืบสาวก่อนนั้นว่ากันตามนิสัยของพี่เทียนแล้ว เขาคงไม่ยอมแพ้”
ซ่างกวนเฉียนตกใจ“คุณหนู, ท่านต้องไม่ทำเช่นนั้น! เรื่องเกี่ยวกับป้ายความเพียรแห่งดาวกางเขนใต้เกี่ยวข้องในวงกว้าง สามารถสืบสาวไปจนถึงยุคสามกองทัพใหญ่ นี่ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่ บิดาของคุณชายเทียน, ข้าเกรงว่า...”
“ข้าทราบ” เชียนฮุ่ยผงกศีรษะ “แต่สำหรับพี่เทียน, เขาจะยังคงตามตรวจสอบเรื่องนี้อีกต่อไปแม้ว่าต้องทุ่มชีวิตก็ตาม ข้ารู้จักเขาดี”
“แต่คุณหนู! เรื่องของคุณชายเทียน, เราน่าจะลองคิดหาวิธีอื่นดู!” ซ่างกวนเฉียนละล่ำละลัก “ถ้าคุณหนู....ตระกูลซ่างกวน....”
เชียนฮุ่ยไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ผมยาวเหมือนไหมพลิ้วไสวเผยให้เห็นวงหน้าที่น่ารัก ดวงตาดำขลับเยือกเย็นเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น เสียงของนางก้องสะท้อน“สำหรับตระกูลซ่างกวน ข้าได้ปฏิบัติรับผิดชอบให้อย่างเต็มที่แล้ว ตอนนี้ตระกูลมั่นคงดีแล้วสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ แม้จะไม่มีข้าก็ตาม”
“แต่....” ซ่างกวนเฉียนเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ
“แม้ว่าตามปกติ, พี่เทียนจะทำเหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่ข้ารู้ว่าในความเป็นจริง เขาใส่ใจมากตอนนั้น เมื่อข้าคบหากับเขาข้าได้สาบานไว้ในใจแล้ว่าข้าจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา ต่อให้เป็นศัตรูกับคนอื่นก็ตามที” เสียงของเชียนฮุ่ยเบาเต็มไปด้วยความระลึกถึงแต่มั่นคง “ข้ารู้หน้าที่ๆ ข้าต้องรับผิดชอบดี ข้าไม่เคยคิดจะหนี ห้าปีที่แล้ว ข้าจากพี่เทียนมาหลังจากใช้เวลาห้าปีกอบกู้ความรุ่งเรืองที่ตระกูลเสียไปกลับคืนมานับว่าข้าได้รับผิดชอบต่อตระกูลอย่างเต็มที่แล้ว อำนาจและสถานะไม่มีความหมายต่อข้า ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้ามีสายเลือดตระกูลซ่างกวนอยู่ภายในตัว ข้าคงไม่มีทางจากพี่เทียนมาแน่ ตอนนี้ ภารกิจของข้าสำเร็จแล้วและทั้งหมดที่ข้าต้องดูตอนนี้ก็คือพี่เทียน”
“แต่ท่านต้องไม่ทำเช่นนั้น....” ซ่างกวนเฉียนละล่ำละลักพูด
เชียนฮุ่ยยิ้มเล็กน้อย นัยน์ตาของนางสงบและเต็มไปด้วยความรู้สึก “ท่านไม่เข้าใจเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบต้องระเห็จออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย เป็นช่วงเวลาที่มืดมนและหนาวเหน็บเพียงไหน ข้ากลัวจนไม่กล้าที่จะหลับตอนกลางคืน การถูกรังแกที่โรงเรียนทำให้ข้ารู้สึกว่าโลกนี้เป็นสถานที่น่ากลัวและอยู่ได้ยาก ท่านคงไม่เข้าใจ เมื่อจู่ๆเขาปรากฏตัวขึ้นมาและไล่ตามพวกที่รังแกข้า เขาร่าเริงและอบอุ่นเหมือนดวงตะวัน ตอนอยู่ข้างๆ เขาข้ารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายในช่วงหลายปีนั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของข้า”
ซ่างกวนเฉียนถอนหายใจเขาก็เช่นกัน เมื่อนึกถึงหลายปีก่อนต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัวแล้วคุณหนูจะกลัวมากขนาดไหนเมื่อนึกย้อนไปตอนนั้น ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าอาจเป็นเรื่องสมควรแล้วสำหรับเธอที่จะได้ทำตามสิ่งที่เธอปรารถนา
“เขาโง่มาก แต่ท่านจะรู้สึกว่าเป็นเช่นนั้น เมื่อได้ทำเรื่องโง่ๆ ร่วมกับเขากลับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต”
เมื่อระลึกถึงเรื่องโง่ๆที่นางทำกับถังเทียน จู่ๆ เชียนฮุ่ยก็เขินจนต้องหัวเราะออกมาและทั่วทั้งห้องดูเหมือนบรรยากาศเปลี่ยนไปเป็นสดชื่นทันที
“ข้าไม่เคยสงสัยเลยว่าพี่เทียนของข้าจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถที่น่ากลัวเขาจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถที่น่ากลัวได้แน่นอน เพราะเขามีหัวใจที่กล้าหาญแท้จริง” ดวงตาของเชียนฮุ่ยกลับคืนสู่ความสุขสงบ “เขาแค่ต้องการเวลา และก่อนหน้านี้ข้าก็แค่ตามตรวจสอบในนามเขาเท่านั้น”
จู่ๆนางก็หัวเราะอย่างซุกซน“ข้าตั้งใจจะตรวจสอบร่องรอยทั้งหมดนี้ก่อนที่พี่เทียนจะมาถึง ถ้าไม่อย่างนั้น เมื่อข้าพบเขาข้าไม่อาจโกหกเขาได้ แต่ถ้าข้าบอกความจริงเขา เขาจะต้องการไปแน่นอน เขายังไม่มีพลังเพียงพอเต็มที่ ดังนั้นสำหรับตอนนี้เป็นเวลาที่เชียนฮุ่ยจะแสดงฝีมือ หึหึ ศัตรูของพี่เทียนจะต้องถูกกำจัดด้วยฝีมือเชียนฮุ่ย!”
ซ่างกวนเฉียนรู้ว่าโชคชะตาถูกลิขิตไว้แล้ว คุณหนูมักจะมีมุมมองเป็นของตนเอง เมื่อนางตัดสินใจทำสิ่งใด ไม่มีใครจะหยุดนางได้
“อย่างนั้นก็พาอาเว่ยกับต้าจู้ไปกับคุณหนูด้วย”
อาเว่ยและต้าจู้ทั้งสองคนเป็นยอดฝีมือระดับต่ำกว่าเชียนฮุ่ยในตระกูลซ่างกวน
“พวกเขายังช่วยไม่ได้” เชียนฮุ่ยสั่นศีรษะ “ข้าจะไปจัดการด้วยตนเอง ลุงเฉียนอย่าห่วงเลย, ข้าจะปลอดภัย”
“อย่างนั้นถ้าคุณชายเทียนมาหาคุณหนูจะให้ข้าบอกเขาว่ายังไง?” ลุงเฉียนถาม
“ช่วงเวลาเกือบสามเดือนนี้” เชียนฮุ่ยพูดไตร่ตรอง“ให้พี่เทียนรอข้าอยู่ที่นี่ ถ้าหลังจากผ่านสามเดือนไปแล้ว ข้ายังไม่กลับ พาเขาไปที่ที่เรียนของข้า”
“ที่เรียนคุณหนู?” ซ่างกวนเฉียนตะลึง
“ใช่” เชียนฮุ่ยพยักหน้า
“ข้าเข้าใจแล้ว” ซ่างกวนเฉียนพูดต่อ“ข้าจะไปเตรียมสัมภาระให้คุณหนู”
“ได้เลยจ้ะ”
ในการเรียนเชียนฮุ่ยจะถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง ดวงตานางมีน้ำตาคลอ และลังเล
นางยังพูดไม่หมด เหตุผลที่นางต้องรีบร้อนเป็นเพราะรอยแยกที่เต็มไปด้วยฝุ่นของหมู่ดาวกางเขนใต้ใกล้จะเปิดแล้ว......