ตอนที่ 4-21 นักรบเลือดมังกร
ร่างกายของ ลินลี่ย์ กำลังสั่นด้วยความเจ็บปวดราวกับว่ามีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังทิ่มแทงออกมาจากทั่วทั้งแผ่นหลังและหนึ่งในเข็มนั้นกำลังเติบโตเป็นหนามออกมาอย่างช้าๆจากกลางหลังของเขา
ด้วยความเจ็บปวดอันรุนแรงนี่เองทำให้ ลินลี่ย์ เริ่มส่งเสียงครางออกมาจากลำคอ ร่างของเขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อแต่ในขณะเดียวกันกับที่เหงื่อไหลออกมานั้น เริ่มมีเกล็ดสีดำผุดออกมาซึ่งแต่ละเกล็ดนั่นมีลักษณะคล้ายคลึงกับเกล็ดของมังกรเกราะหนามแตกต่างกันเพียงแค่เกล็ดของ ลินลี่ย์ มีขนาดเล็กกว่าของมังกรเกราะหนาม
ลินลี่ย์ กัดฟันแน่นจนกรามสั่นและเริ่มคำรามด้วยความเจ็บปวด ลินลี่ย์ เริ่มใช้เคล็ดลับตามคัมภีร์ลับนักรบเลือดมังกร
ผลึกมังกรเริ่มถูกกัดกร่อนอย่างต่อเนื่องด้วยเลือดมังกรภายในเส้นเลือดของลินลี่ย์ ในขณะเดียวกันเลือดมังกรภายในเส้นเลือดของ ลินลี่ย์ ก็ค่อยๆดูดกลืนพลังงานธาตุมืดจากผลึกมังกรอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของ ลินลี่ย์ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
"กรรรรร"เลือดมังกรเข้ามาควบคุมสติของ ลินลี่ย์ หางมังกรที่แข็งแรงราวแส้เหล็กก็ค่อยๆงอกออกมา
"อะไรกัน, นี่มันกำลังเกิดอะไรขึ้น?" ลินลี่ย์ รู้สึกงุนงงกับความรู้สึกที่ร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนแปลงไปโดยเฉพาะหางที่กำลังงอกออกมาและเกล็ดสีดำพวกนี้
ตามบันทึกของคัมภีร์ลับเลือดมังกรการเป็นนักรบเลือดมังกรมีสามรูปแบบ
ภายใต้รูปแบบที่สาม 'ร่างมังกร'นั้นทั้งร่างกายของนักรบเลือดมังกรจะถูกปกคลุมด้วยเกล็ดสีฟ้าและเขาจะงอกออกจากหน้าผากของเขานี่คือรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของนักรบเลือดมังกร ...แต่ในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของลินลี่ย์ เป็นสิ่งที่แตกต่างจากข้อความที่อธิบายไว้ในคัมภีร์ลับเลือดมังกร
เกล็ดที่ปกคลุมร่างกาย ลินลี่ย์ ทั้งหมดเป็นสีดำไม่ใช่สีฟ้า หนามที่ยื่นออกมาที่หลังของ ลินลี่ย์ ก็ไม่ควรจะมี ลินลี่ย์ รู้สึกช่วยไม่ได้แต่แล้วก็คิดได้ว่านี่คล้ายกับลักษณะเกราะของมังกรหนามนั่นเอง
รูปแบบที่สอง 'ร่างกึ่งมังกร'ไม่ได้แข็งแกร่งเท่า 'ร่างมังกร' ทั้งหมดที่เปลี่ยนไปแค่ส่วนหนึ่งของร่างกายของเขาเท่านั้น
ส่วนรูปแบบแรกซึ่งเป็นรูปแบบร่างมนุษย์ธรรมดาส่วนใหญ่นักรบเลือดมังกรจะอยู่ในรูปแบบนี้ซึ่งเป็นรูปแบบที่อ่อนแอที่สุดของนักรบเลือดมังกร
คัมภีร์ลับเลือดมังกรกล่าวไว้ว่าครั้งแรกที่นักรบเลือดมังกรประสบความสำเร็จในการฝึกฝนการใช้งานลมปราณเลือดมังกรร่างกายของเขาจะไม่สามารถควบคุมให้เข้าไปสู่รูปแบบที่ 3 ร่างมังกรการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกนี้จะก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแต่หลังจากนั้นการเปลี่ยนร่างจะไม่เจ็บปวดอีก
ภายในร่างกายของ ลินลี่ย์......
ของเหลวสีครามที่กำลังพลุ่งพล่านและหลอมรวมไปกับของเหลวสีดำกระจายไปทั่วร่างกายของเขาทุกๆมัดกล้ามเนื้อทุกๆเส้นเลือดอย่างต่อเนื่องดูดซับพลังงานจากของเหลวเหล่านี้ทำให้ลักษณะร่างกายของ ลินลี่ย์ เปลี่ยนแปลงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วจนน่ากลัวแต่การเปลี่ยนแปลงความแข็งแกร่งอย่างรวดเร็วของร่างกายนี้ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสต่อ ลินลี่ย์ เช่นกัน
"ไอ้มังกรอัปรีย์" ลินลี่ย์ เริ่มต้นสาปแช่งพวกเขาในใจ "มันต้องได้ผลมิฉะนั้นตระกูลของเราจะต้องบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่จะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มเลือดสดๆของมังกรเอาไว้"
ยิ่ง ลินลี่ย์ คิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้น
คัมภีร์ลับเลือดมังกรของตระกูลของเขาเต็มไปด้วยความขัดแย้งอย่างชัดเจนถ้าหากมันเป็นความจริงที่ไม่มีใครเคยใช้เลือดมังกรสดเพื่อปลุกเลือดมังกรในเส้นเลือดของพวกเขาจนประสบความสำเร็จ.อย่างนั้นทำไมผู้บันทึกคัมภีร์เล่มนี้ถึงมั่นใจว่าวิธีการนี้จะประสบความสำเร็จ? นี่คือความขัดแย้งอย่างชัดเจน
แล้ว ลินลี่ย์ จะรู้ได้อย่างไร? สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือเหตุการณ์ในตระกูลเมื่อ4000-5000 ปีก่อน!
"มันต้องเป็นแรงกดดันจากเผ่าพันธุ์มังกรที่บรรพบุรุษของเราถูกบังคับให้ต้องปกปิดรายละเอียดของวิธีการใช้เลือดมังกรสดๆเพื่อปลุกเลือดมังกรในเส้นเลือดของเรา"ตอนนี้ ลินลี่ย์คิดไม่ออกว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี
ร่างมังกรของเขา 'แตกต่างจากของแท้อย่างเห็นได้ชัด'กับร่างมังกร 'ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในคำภีร์ลับเลือดมังกร
"จิตใจของข้าอ่อนแรงจนแทบจะสลบแล้ว" ลินลี่ย์ ได้แต่อดทนไม่ให้ตัวเองสลบลงไปเสียก่อนทันทีที่เขาสลบความเจ็บปวดทั้งหมดจะหายไป
"อ้ากกกกก"
ร่างกายของ ลินลี่ย์ สั่นอีกครั้ง ทั้งนิ้วมือและนิ้วเท้าทั้งสิบจู่ ๆก็รู้สึกทรมานกับอาการปวดกระดูกข้างในเล็บมือและเล็บเท้าก็เริ่มมีกรงเล็บมังกรขนาดเล็กงอกออกมาคมกริบ ความเจ็บปวดจากการที่กรงเล็บแหลมกำลังงอกออกมาจากนิ้วมือและนิ้วเท้าของเขาจริงๆนั้นในที่สุดก็ทำให้ ลินลี่ย์ เริ่มที่จะสูญเสียสติของเขาไปทั้งหมด
ขณะที่หัวของเขารู้สึกเบลอ นัยน์เริ่มปรือลงและสติก็ดับลงทั้งหมด
"ตุบ"
ร่างของลินลี่ย์ล้มลงกับพื้น
"เขาสลบไปแล้ว"เดลิน โคเวิร์ท ยืนอยู่ถัดจาก ลินลี่ย์, คอยเฝ้าดูเขาเขาไม่สามารถช่วยอะไรลินลี่ย์ได้ ทำได้เพียงแต่ถอนหายใจเบาๆ "ช่างเป็นเคล็ดที่ประหลาดยิ่งนัก ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่า บาลุคซึ่งเป็นบรรพบุรุษของลินลี่ย์นั้นจะมีศักยภาพในการพัฒนาความสามารถประหลาดอย่างการแปลงร่างเป็นมังกรขึ้นมาได้"
เดลิน โคเวิร์ทขมวดคิ้วพึมพำกับตัวเอง "พูดตามตรงมันเป็นเรื่องแปลกดูเหมือนว่านอกเหนือจากนักรบเลือดมังกรแล้วยังมีสายเลือดอื่น ๆของสุดยอดนักรบอีกสามสายเลือดแต่เมื่อข้ายังมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีใครเป็นสุดยอดนักรบดังกล่าวหลังจากที่ข้าตายไปไม่นานสี่สายเลือดเหล่านี้จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา"
แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์และภูมิปัญญาซึ่งผ่านเวลามามากกว่าพันปีแต่เดลิน โคเวิร์ทเองก็ไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรและทำไมมันจึงเกิดขึ้นมาได้
"หากว่าเขาก็สามารถที่จะฆ่าจักรพรรดิอสรพิษเก้าหัวได้บรรพบุรุษของ ลินลี่ย์, บาลุคนั้นย่อมแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าข้าแน่และบางทีอาจจะแข็งแกร่งกว่าด้วย" เดลิน โคเวิร์ทย่อมทราบความแข็งแกร่งของจักรพรรดิอสรพิษเก้าหัวดีอสรพิษเก้าหัวนั้นเป็นเผ่าพันธุ์อสูรเวทที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง แล้วสำหรับอสรพิษเก้าหัวที่ได้รับการขนานนามว่า'จักรพรรดิอสรพิษ' นั้นย่อมหมายความว่ามันอยู่ในจุดสูงสุดของ อสูรเวทระดับเซียน
แม้กระทั่งตัวเขาเองก็ไม่อาจพูดอย่างเต็มปากว่าสามารถฆ่าจักรพรรดิอสรพิษเก้าหัวได้
"และเจ้าหนูเงาน้อยนั่นเองก็ไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาทั่วไป"เดลิน โคเวิร์ท หันไปมองที่เจ้าหนูเงาน้อย บีบีซึ่งยังคงพักผ่อนและนอนหลับในช่องว่างภายในร่างซึ่งเขาได้สร้างไว้ก่อนหน้า"มังกรเกราะหนาม เป็นหนึ่งในอสูรสายพันธุ์มังกรระดับเก้าที่ทรงพลังที่สุดและมังกรซาเทียสยังอยู่จุดสูงสุดของระดับเก้าการระเบิดของอสูรเวทระดับเก้าควรที่จะฉีกเนื้อป่นกระดูก ร่างกายมันทั้งหมดอย่างไรก็ตาม เจ้าหนูเงาน้อยก็ยังสามารถรอดตายมาได้"
เดลิน โคเวิร์ทอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
ความจริงเขาก็เริ่มที่จะสงสัยแล้วว่า...
"เป็นไปได้ว่าเจ้าหนูเงาน้อยนี่อาจจะไม่ได้เป็นแค่หนูเงาหรือหนูกินศิลาธรรมดา?"
เดลิน โคเวิร์ทรู้จักอสูรเวทประเภทฟันแทะสองสายพันธุ์ใหญ่ๆ หนูกินศิลาเป็นสายพันธุ์ที่มีประชากรมากกว่าหนูเงา หนูกินศิลาเป็นอสูรเวทระดับ 1 ซึ่งเติบโตได้มากสุดระดับ 7 หรือ 8ส่วนหนูเงานั้น แม้ว่าพวกมันเป็นอสูรเวทระดับ 3แล้วพวกมันก็ยังสามารถเติบโตได้สูงเกินกว่าระดับ 7 หรือ 8
จุดเด่นของหนูเงาคือความเร็วและกรงเล็บอันแหลมคมของมันในขณะที่ความแข็งแกร่งของหนูกินศิลานั้นอยู่ที่พลังป้องกันและกรงเล็บอันคมกริบ
"หนูกินศิลานั้นมีร่างกายขนาดเล็กแต่พลังป้องกันสูงที่สุดในบรรดาอสูรเวทระดับเดียวกัน พลังป้องกันของหนูกินศิลาระดับ8 เทียบได้กับพลังป้องกันของมังกรเกราะหนามเลยทีเดียว" เดลิน โคเวิร์ทรู้ดีว่าหนูกินศิลาน่ากลัวได้ถึงเพียงใด
แม้ว่าร่างกายจะเล็กแต่ขนของมันมีพลังป้องกันที่น่าทึ่งมาก
จากจำนวนเผ่าพันธุ์ของอสูรเวทที่มีอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์มังกรเผ่าพันธุ์หมีเผ่าพันธุ์อสรพิษหรือเผ่าพันธุ์อื่นๆหนูกินศิลามีพลังป้องกันสูงที่สุดในระดับเดียวกัน!
"พลังของ บีบีตอนนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 8 ถ้าเขาเป็นหนูกินศิลาระดับ 8ข้าเชื่อว่ามันเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถรับการโจมตีนี้และรอดมาได้แต่เขาไม่ได้เป็นหนูกินศิลา หนูกินศิลาระดับ 8 ควรมีขนสีทอง"ในใจเดลิน โคเวิร์ท เต็มไปด้วยคำถาม
"ขนสีดำความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวและยังมีพลังป้องกันที่น่าทึ่งอีก? ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ"
ทันใดนั้นดวงตาของ เดลินโคเวิร์ท พลันเป็นประกายขึ้นมา
นามอันน่าสะพรึงกลัวผุดขึ้นมาในใจของเขา!
"หรือว่าเจ้าหนูเงาน้อยนี่ มี... มีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับ 'เจ้านั่น'ที่อยู่ในป่าแห่งเงาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปยูลาน" เดลินโคเวิร์ท เริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว ย้อนกลับเมื่อวันนั้น ขณะที่ เดลิน โคเวิร์ทยังมีชีวิตอยู่ในทวีป ยูลาน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่มีพลังมากพอขนาดที่เขาไม่มีหวังที่จะไปต่อกรกับพวกเขาได้
ในช่วงนั้น เดลินโคเวิร์ท ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน 5 อันดับผู้ที่มีพลังมากที่สุดในทวีปยูลานนอกเหนือจากอันดับ 1 และ อันดับ 2 แล้วมีความแตกต่างด้านพลังไม่มากนัก สำหรับผู้ที่เหลืออยู่ในอันดับ3 ถึง 5
แต่พลังของอันดับ 1 และอันดับ 2 นั้นเป็นสุดยอดของทวีปยูลานอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนใครกันแน่ที่เป็นอันดับหนึ่งนั้นยังไม่มีใครรู้หนึ่งในสองนั้นเป็นเสาหลักและเป็นรากฐานของจักรวรรดิยูลานตราบเท่าที่เขายังมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจักรวรรดิยูลานจะอ่อนแอและอ่อนแรงเพียงใดก็จะไม่ตกต่ำจนล่มสลายไปแน่นอน
ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นอาศัยอยู่ในป่าแห่งเงา
จักรวรรดิยูลานได้รวบรวมทวีปยูลานเป็นหนึ่งและเริ่มใช้ปฏิทินยูลาน หลังจากผ่านไปเกือบหมื่นปีทวีปยูลานได้แตกออกเป็นรัฐต่างๆในปัจจุบันส่งผลให้เกิดสองพันธมิตรและสี่จักรวรรดิ และย้อนกลับไปเมื่อจักรวรรดิยูลานยังปกครองทั้งทวีปชื่อเสียงของมนุษย์ผู้แข็งแกร่งขจรกระจายไปทั่วทั้งโลก
"คนผู้นั้นที่อยู่ในป่าแห่งความมืดซึ่งเป็นที่อยู่ของอสูรเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกข้าได้ยินมาว่าเขาหลงใหลในตัวของสัตว์เวทเผ่าพันธุ์ใช้ฟันแทะเป็นอย่างยิ่งเป็นไปได้ว่า เจ้าหนูเงาน้อยที่แปลกประหลาดนี้ถูกสร้างโดยเขา?" เดลิน โคเวิร์ท ได้แต่สงสัยกับตัวเอง
แต่เดลิน โคเวิร์ทก็รู้ดีว่าข้อมูลที่เขามีเกี่ยวกับผู้แข็งแกร่งของทวีปยูลานนั้นไม่ได้ปรับปรุงมาตั้งห้าพันปีแล้ว
ห้าพันปีก่อน ทวีปยูลานมีสองนักสู้ระดับสุดยอดอยู่แน่นอนหนึ่งเป็นมนุษย์และอีกหนึ่งเป็นอสูรเวทนักสู้อื่นๆที่เหลือที่เป็นเพียงระดับเทพนั้น ได้แต่ชื่นชมพวกเขาอยู่ไกลๆ
แต่ห้าพันปีให้หลังเล่า?
"บางทีอาจจะเกิดการกลายพันธุ์กับอสูรเวทชนิดฟันแทะก็เป็นได้" เดลิน โคเวิร์ทได้แต่ปลอบใจตัวเอง
เดลิน โคเวิร์ทเหลือบมองไปที่ ลินลี่ย์ และ บีบีอีกครั้งแล้วพยักหน้า"ลูกหลานของนักรบเลือดมังกรและหนูเงาที่กลายพันธุ์พวกเขาทั้งสองจะบรรลุเป้าหมายด้วยกันได้หรือไม่?" เดลิน โคเวิร์ท รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้อยู่ข้างๆ ลินลี่ย์และคอยเฝ้าดูพวกเขาบางทีในอนาคตข้างหน้าของเขาคงจะไม่รู้สึกเหงาเกินไป
ในโพรงถ้ำนั้นเงียบกริบ
ลินลี่ย์ในสภาพที่หมดสติก็ยังคงอยู่ในร่างมังกร ลมปราณเลือดมังกรก็ค่อย ๆ รวมอยู่ที่จุดตันเถียนของเขาและตกผลึกเป็นรูปแบบคล้ายกับผลึกมังกร ในทางกลับกันบาดแผลของบีบีก็เริ่มสมานตัวอย่างช้าๆ
….
สามวันให้หลัง
ลินลี่ย์ลืมตาขึ้นมาและจู่ก็ลุกขึ้นยืน
ตอนนี้ ลินลี่ย์เปลือยกายอยู่ เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาฉีกขาดเพราะการแปลงร่างเป็นมังกรครั้งแรกแต่ตอนนี้ลินลี่ย์ได้กลับสู่ร่างมนุษย์ ลินลี่ย์ก็ดูไม่แตกต่างจากมนุษย์คนอื่นๆ
"ในที่สุดข้าก็กลับร่างเดิม"
แม้ว่านี่จะสอดคล้องกับข้อความที่บันทึกในคัมภีร์ลับเลือดมังกรซึ่งนักรบเลือดมังกรสามารถที่จะเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นมนุษย์ได้หลังจากที่มันเกิดขึ้นจริงลินลี่ย์ก็รู้สึกโล่งอก หลังจากที่ 'ร่างมังกร'ของเขาและ 'ร่างมังกร' แท้จริงนั้นต่างจากที่อธิบายไว้ในคัมภีร์ลับ
"เจ้านายตื่นแล้ว"เสียงอันสดใสดังขึ้นในจิตของลินลี่ย์
ด้วยความดีใจผสมกับความแปลกใจลินลี่ย์ หันไปมอง บีบีกระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเขา เขากอดบีบีไว้, ในที่สุดลินลี่ย์ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาสงบลงได้เสียทีตอนที่บีบีได้รับบาดเจ็บจากหนักจากการระเบิดตัวเองของมังกรเกราะหนาม, ลินลี่ย์นั้นกลัวมากจริงๆ
เขากลัวว่าเจ้าหนูเงาตัวน้อยที่เติบโตขึ้นมาด้วยกันกับเขานั้นจะตาย
"บีบีเจ้าสบายดี?"ลินลี่ย์ ตรวจดูร่างกายของบีบีอย่างละเอียด เมื่อทำเช่นนั้น ลินลี่ย์จึงได้เห็นแผลเป็นอยู่บนหน้าอกของบีบีอย่างชัดเจน ... แต่ลินลี่ย์สามารถบอกได้ส่วนใหญ่ของแผลเป็นนี้ไม่ปรากฏชัดก็เป็นเพราะขนบนหน้าอกของบีบีปกคลุมมันเอาไว้
บีบีหัวเราะ"ข้าสบายดี ข้า,บีบี จะกลัวเจ้าหนอนน้อยนั่นได้อย่างไร? "
"เฮ้ เจ้านายร่างกายของท่านไม่มีแผลเป็นแล้ว? หน้าของท่านด้วยแผลเป็นหายไปหมดแล้ว!"จู่ๆ บีบีก็พูดอย่างแปลกใจ
ตอนนี้ ลินลี่ย์เริ่มหันมาให้ความสนใจกับร่างกายของตัวเองบ้างแล้ว
"อ้านี่เป็นสิ่งที่คัมภีร์ลับเลือดมังกรได้อธิบายไว้ว่าครั้งแรกที่เปลี่ยนร่างไปเป็นร่างมังกร ทั่วทั้งร่างกายของคนผู้นั้นจะเปลี่ยนไปแม้กระทั่งผิวกายด้วย"ตอนนี้ไม่มีแผลเป็นแม้แต่แผลเดียวบนร่างกายของลินลี่ย์และมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด
ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่กำลังเดือดพล่านอยู่ในร่างกายลินลี่ย์รู้สึกตื่นเต้นจนทนไม่ไหว
"เป็นพลังกายที่สุดยอดอะไรอย่างนี้"ลินลี่ย์รู้สึกได้ว่าพลังกายในปัจจุบันของเขาสูงขึ้นอย่างน้อยหลายสิบเท่ากว่าก่อนหน้านี้หลังจากปลุกเลือดมังกรให้ตื่นขึ้นในเส้นเลือดของเขาพลังกายของเขาได้เพิ่มสูงขึ้นมากแม้จะอยู่ในร่างมนุษย์ เขาก็แข็งแกร่งกว่าก่อนที่เขาจะปลุกเลือดมังกรให้ตื่นขึ้น
เขากำหมัดและเร่งเร้าพลังลมปราณเลือดมังกรขึ้นมาลินลี่ย์ ปล่อยหมัดไปที่ผนังหินใกล้ๆอย่างรวดเร็ว
"ตูม!!!"ราวกับถูกตอกด้วยพลองเหล็ก เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นจากการต่อยเข้าไปที่ผนังถ้ำเศษหินปลิวกระเด็นไปทุกทิศทาง
"ระดับ 6 ลินลี่ย์ ในร่างมนุษย์ของเจ้า เจ้าได้มีพลังระดับเดียวกับนักรบระดับ 6แล้ว" เดลิน โคเวิร์ท ลอยออกมาจากแหวนมังกรขนดหัวเราะในขณะที่เขาพูดกับลินลี่ย์