ตอนที่ 100 จิ่งหาวออกตัว
“สมบัติดาวพิณ?” จิ่งหาวหรี่ตา
เมื่อได้ยินคำถามของจิ่งหาว ถังเทียนแค่นเสียงและรั้งหมัดกลับมา
แรงกดดันที่มีต่อสตรีชุดดำลดลงนางลอบคลายใจเงียบๆ เมื่อได้ยินน้ำเสียงจากจิ่งหาวนางสามารถบอกได้เลยว่าจิ่งหาวสนใจสมบัติหมู่ดาวพิณอย่างชัดเจนนางรีบคิดในใจแล้วรีบพูด “ข้าคาดว่าท่านจิ่งหาวคงจะเคยได้ยินชื่อของสมบัติหมู่ดาวพิณมาก่อนเช่นกัน เมื่อสามพันปีที่แล้วหมู่ดาวพิณมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่หลังจากนั้นเพียงสี่สิบปีพวกเขาก็ถูกทำลายสูญสลายไปและสมบัติใหม่ของหมู่ดาวพิณก็ไม่มีใครได้เห็นอีกเลย”
“เจ้ากำลังบอกว่าสมบัติหมู่ดาวพิณอยู่ข้างล่างตรงนี้อย่างนั้นหรือ?” จิ่งหาวยังคงรักษาความสงบและถามโดยตรง
“ถูกแล้ว” สตรีชุดดำพยักหน้ารับตามตรง “และมีแต่เพียงข้าที่รู้ตำแหน่ง”
จิ่งหาวหัวเราะเย็นชา “ข้าอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วและข้าไม่เคยพบร่องรอยใดๆที่จะนำไปสู่การค้นพบสมบัติที่นี่”
สตรีชุดดำแค่นเสียงเยาะเย้ยกล่าวว่า “อย่างนั้นทำไมสมาพันธ์ชาวยุทธถึงได้เลือกสถานที่นี้สร้างค่ายทหารชั้นนอก?”
จิ่งหาวซึมเซา เขาจำเหตุผลที่สร้างค่ายรอบนอกที่สุสานใหญ่ได้ ผู้อาวุโสที่พบสถานที่นี้ในตอนนั้นเป็นเพราะความผันผวนของสมบัติดวงดาว แต่เขาไม่สามารถหามันเจอได้และแน่นอนจึงมีการก่อตั้งค่ายทหารอยู่ที่ภายใต้เทือกเขาที่เหมือนรังผึ้งนี้
สมบัติหมู่ดาวพิณ เป็นครั้งแรกที่จิ่งหาวได้ยินชื่อ หมู่ดาวพิณเมื่อก่อนนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองมาก และหมู่ดาวพิณในตอนนั้นมียอดฝีมือในสังกัดอยู่มากมายเป็นแดนอุดมไปด้วยยอดฝีมือผู้กล้ามากมายราวกับเม็ดฝน พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่ดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคเวลาของเขา แต่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนว่าหมู่ดาวที่แข็งแกร่งจริงๆอย่างนั้น ในระยะเวลาสั้นๆ สี่สิบปีกลับถูกทำลายสลายหายไป
เหตุผลสำหรับการทำลายล้างหมู่ดาวพิณกลายเป็นเรื่องลึกลับตลอดมาจนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดรู้ จักรพรรดิแห่งดวงพิณหายสาบสูญไปพร้อมกับการถูกทำลาย สิ่งที่ล้ำค่าทั้งหมด สมบัติดวงดาวที่สำคัญที่สุดเพียงไม่กี่ชิ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมบัติดวงดาวระดับทอง โดยเฉพาะพิณทิพย์ทองสูญหายไป
ดังนั้นจากประวัติศาสตร์มีการตกทอดกันมาว่ามีคลังสมบัติหมู่ดาวพิณจัดเป็นสมบัติที่ยิ่งใหญ่แห่งหมู่ดาวพิณ
“เจ้าไปทราบเรื่องนี้มาจากไหน?” จิ่งหาวถาม
“ตามธรรมดาข้าก็มีวิธีรับทราบข้อมูลอยู่แล้ว” สตรีชุดดำพูดอย่างใจเย็น “ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมข้าต้องใช้ความพยายาม ใช้พลังตั้งมากมายเพื่อมาที่นี่ด้วยเล่า”
“ก็ได้” จิ่งหาวพยักหน้า “บอกตำแหน่งสมบัติมาแล้วข้าจะปล่อยเจ้าไป”
สตรีชุดดำแค่นเสียงเย็นชา “ข้าจะเชื่อใจสิ่งที่เจ้าพูดได้ยังไง?”
จิ่งหาวขมวดคิ้ว “หรือว่าเจ้ายังมีสิทธิ์ที่จะต่อรอง?”
“สมบัติแห่งหมู่ดาวพิณอยู่ที่ไหน? เจ้าจะเข้าไปได้อย่างไร?นอกจากข้าแล้วไม่มีผู้อื่นรู้ ถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าก็ไม่มีทางเข้าไปได้” สตรีชุดดำหัวเราะ “เว้นแต่เราทำข้อตกลงกัน”
จิ่งหาวต้องการพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้นถังเทียนพูดแทรกสตรีชุดดำ “เฮ้,เจ้าฆ่าเจ้าโล้นใช่ไหม?”
สตรีชุดดำตะลึง นางสั่นศีรษะ “ไม่ใช่”
“โอว, โชคดีที่เจ้าไม่ได้ทำ ถ้าเจ้าทำ เจ้าตายแล้ว” ถังเทียนแค่นเสียงเย็นชาเขาหมุนตัวเตรียมเดินจากไป “พี่จิ่งหาว ข้าจะไปก่อนนะ”
“เดี๋ยวก่อน!เจ้าไม่ต้องการรู้หรือว่าสมบัติอยู่ที่ไหน? เจ้าไม่ต้องการสมบัติหรือไง?” สตรีชุดดำรีบกล่าวขณะที่นางเห็นถังเทียนต้องการเดินจากไป
“ใช่, ข้าต้องการมัน”ถังเทียนหยุดฝีเท้า แต่เขามองดูสตรีชุดดำ “แต่ข้าไม่ชอบเจ้า เจ้าเป็นผู้หญิงไร้หัวใจและข้ารังเกียจจะอยู่ใกล้เจ้า”
สตรีชุดดำใจตกวูบ นางอุตส่าห์นึกหาข้ออ้างมาทั้งหมดกับถังเทียนเท่าที่สามารถทำได้ แต่นางไม่เคยคาดว่าถังเทียนจะพูดเช่นนั้นกับนาง
โอว.. ที่แท้ก็เป็นเจ้าโง่คนหนึ่ง
ดวงตานางกลอกกลิ้งและพยายามล่อลวงเขา “สมบัติหมู่ดาวพิณประกอบด้วยสมบัติชั้นทองมากกว่าหนึ่งชิ้น เราสามคนแบ่งกันได้ เจ้าไม่ชอบข้า แต่เจ้าไม่อาจยกเลิกสมบัติทั้งหมดนี้เพียงเพราะข้าสมบัติเหล่านี้จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้น และจากนั้นเจ้าจะทำอะไรก็ได้ที่เจ้าต้องการ”
เจ้าเด็กโง่นี่ควรไตร่ตรองเรื่องนี้ดีกว่า
ถังเทียนมองดูสตรีชุดดำด้วยความเห็นใจและกล่าวตามตรง “คนอย่างเจ้าไม่เคยเข้าใจความทะเยอทะยานของหนุ่มน้อยชาวฟ้า ข้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นด้วยเองไม่ใช่ได้รับอะไรอย่างนั้น และเพราะความปรารถนาของข้า ข้าต้องการปกป้องเชียนฮุ่ยข้าต้องการไปสวรรค์วิถี ถ้าเจ้ามัวแต่สนใจไล่ตามสมบัติ อย่างนั้นก็หมายความเจ้าเป็นแค่ตัวขี้เกียจที่ต้องการจะหาแต่ทางลัด ข้าไม่ใช่คนฉลาดมากพอ ข้าไม่รู้การใช้วิธีลัด ไม่ว่าจะเป็นสมบัติแข็งแกร่งขนาดไหนจะแทนที่หยาดเหงื่อความเพียรที่ข้าได้ทุ่มเทลงไปได้ยังไง? ข้าเชื่อว่าหยาดเหงื่อจะสร้างข้าให้แข็งแกร่งได้ ความจริงที่ยิ่งใหญ่ เจ้ารู้ไหมว่าทำไม?”
สตรีชุดดำตะลึง
สีหน้าถังเทียนจริงจัง “เพราะหยาดเหงื่อไม่เคยโกหก”
จิ่งหาวดูเหมือนละอายใจ เขาคิดถึงแต่ความคาดหวังและความตื่นเต้น หลังจากได้ฟังคำพูดของถังเทียน เขาจำได้ว่าถังเทียนก้าวหน้าได้อย่างน่าทึ่งและสิ่งเหล่านั้นมากจากไหนกัน”
เขาสูดหายใจลึกและมองดูถังเทียนและโค้งให้อย่างจริงจัง “คำพูดของน้องถังทำให้ข้าตื่นจากภวังค์”
หลังจากพูดจบแล้วเขาหันไปพูดกับสตรีชุดดำ “เจ้าไปได้แล้ว,หลังจากได้ยินคำพูดของน้องถังแล้ว ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า”
สตรีชุดดำมองดูบุรุษทั้งสองอย่างงงงวย ขณะที่พวกเขาเตรียมเดินออกมา ทันใดนั้นนางคิดว่า “โลกนี้เป็นบ้าอะไรไปแล้ว?”จากมุมมองของนาง สิ่งที่ถังเทียนพูดเป็นเรื่องตลก ทุกคนในโลกนี้ต่างก็ไล่ล่าหาสมบัติทั้งนั้น เขาจะพยายามวางก้ามทำไม?
ลวงโลก, ลวงโลกทั้งนั้น พวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องหันกลับมาแน่นอน...
เอาเลยสิ เดินไปเลย ทั้งสองคนจะต้องหันกลับมาแน่นอน...
แต่ไม่ว่านางจะไม่เห็นด้วยยังไงก็ตาม แต่เงาร่างทั้งสองมีแต่จะเดินห่างออกไปเรื่อยๆ
เป็นครั้งแรกที่สตรีชุดดำที่มักจะใจเย็นและเจ้าปัญญาอยู่เสมอรู้สึกว่าอยากจะแช่งชักหักกระดูก นางได้พบเจ้าตัวบัดซบจอมโกหกสองคนเข้าให้แล้ว
เจ้าเด็กร้ายกาจพูดจาไร้สาระเป็นกระบุงโกยยังพอทำเนาแค่จากที่เห็นนางสามารถบอกได้ว่าเขายังเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนประสบการณ์นัก
แต่จิ่งหาวกลับโอนอ่อนผ่อนตาม เป็นไปได้ยังไงที่จิ่งหาวจะไม่รู้อะไร?เป็นไปได้ยังไงที่เขาไม่รู้จักเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ทุกคนที่ยังอายุเยาว์และเป็นยอดฝีมือที่พวกเขาใช้ทรัพยากรนับไม่ถ้วนสร้างขึ้นมา?กระบี่ดาวมงกุฎเหนือของเจ้าเป็นแค่เพียงสากกะเบือหรือไง?
แต่...เจ้าบัดซบสองคนนั่นเดินจากไปจริงๆด้วย....
สตรีชุดดำตกใจ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้วสายเลือดที่ลึกลับแต่แข็งแกร่งก็พลอยเดินจากนางไปด้วยด้วยปฏิกิริยารวดเร็วเหมือนกับว่านางเพิ่งตื่นจากฝัน นางรีบวิ่งตามไปตรงตำแหน่งที่สองคนเดินหายไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“พี่จิ่งหาว, ทำไมท่านไม่ฆ่านางล่ะ?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัยขณะที่เขาเดิน
“น้องถัง, เมื่อได้ยินเจ้าพูดวันนี้พี่ผู้โง่เขลารู้สึกมีไฟขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่มีความตั้งใจจะฆ่าอยู่แล้วดังนั้นก็เลยไว้ชีวิตนาง” จิ่งหาวพูดเคร่งขรึมจริงจัง “ก่อนหน้านี้วิชากระบี่ของข้ายังมีอาการติดคอขวดอยู่ ข้าไม่สามารถก้าวหน้าได้ จนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้ยินเจ้าพูดเช่นนั้น ในที่สุดข้าก็เข้าใจ เราไล่ตามพลังเพื่อสร้างให้เรามีพลังแข็งแกร่งเพื่อให้บรรลุขอบเขตชั้นสูงขึ้นไป เรามัวแต่ไล่ไขว่คว้าพลังอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าต้องยืมพลังจากแหล่งพลังภายนอกและนั่นคือจุดเปลี่ยนทำให้เราตกต่ำ”
“ว้า..., พี่จิ่งหาว ท่านนี่โง่จัง”ถังเทียนมองดูจิ่งหาวอย่างรำคาญ “ข้าแค่พูดอย่างนั้นก็เพื่ออำนางเท่านั้น”
สีหน้าที่คลั่งไคล้ของจิ่งหาวเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที
“ข้าแค่คิดว่านางต้องกล่าวเหลวไหล เรื่องสมบัติกลุ่มดาวพิณนั้น โกหกทั้งเพ” ถังเทียนยังไม่รู้สึกถึงความอึดอัดของจิ่งหาวขณะที่เขาพูดออกมาดังๆ “แค่มองหน้าที่หยิ่งยโสของนางแล้วทำปั้นเรื่องราวกับว่าเป็นจริง ถ้ามีสมบัติเช่นนั้นจริง เราคงจะพบไปนานแล้ว เมื่อไหร่จึงจะถึงตานางได้เล่? ฮะฮะตอนนี้นางต้องเศร้ามากแน่นอน เมื่อคิดว่านางสามารถหลอกเราได้ แน่นอนว่าอยู่ต่อหน้าหนุ่มน้อยชาวฟ้าแล้วก็ไม่มีอะไรเลย”
หางตาของจิ่งหาวกระตุก เขากัดฟันกล่าวว่า “เรื่องอะไรบ้างที่เจ้าบอกว่าโกหก?”
“แน่นอน” ถังเทียนพูดด้วยความภูมิใจ “ถ้ามีสมบัติจริงๆข้าจะต้องเป็นคนแรกที่วิ่งไปหา ท่านนึกว่าข้าโง่เหรอ? ข้าจะบอกไว้เลยนะ ข้าฉลาดมากไม่ว่าจะเป็นสมบัติชั้นทองหรือไม่ ต่อให้ไม่มีประโยชน์อะไรกับข้ามันก็ต้องเป็นของดีพอขายแลกเงินได้ โอกาสอย่างนี้หาได้ไม่ง่ายนักหรอก ข้าก็ต้องแสดงฝีมือ แต่พี่จิ่งหาวน่าจะฆ่านางนะ”
จิ่งหาว “....”
“อว๋า.. นางไล่ตามมาแล้ว” จู่ๆถังเทียนก็ยื่นหน้าเข้าไปหาจิ่งหาวและกระซิบว่า “เชื่อข้าสิ..”
จิ่งหาว “......”
※※※※※※※※※※※
สตรีชุดดำตามมาทัน นางพยายามคิดหาทางขอเพียงเมื่อถังเทียนเริ่มสำรวจหาสมบัติอย่างนั้นนางจะมีโอกาสเข้าใกล้เขาและรับเอาสายเลือดของถังเทียน
ถ้านางกระทำตรงๆอาจจะกระตุ้นถังเทียนให้ระวังตัวได้
นางจะทำยังไงดี...
“นี่, ข้าอยากเข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธด้วย”
สตรีชุดดำโพล่งออกมาจากด้านหลัง
ถังเทียนและจิ่งหาวชะงักเมื่อได้ยินประโยคนี้
เข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธ
สตรีชุดดำพูดจริงจัง “ข้ารู้สึกว่าสมาพันธ์ชาวยุทธดูมีอนาคต และข้ารู้สึกว่าสมาพันธ์ชาวยุทธเหมาะกับการพัฒนาฝีมือข้ามากกว่าดังนั้นข้าตัดสินใจทิ้งหนทางผิดเลือกเส้นทางที่ดีกว่าโดยเข้าร่วมกับสมาพันธ์ชาวยุทธ”
จิ่งหาวรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังจะบ้า เขาเหมือนถูกคนบ้าสองคนทรมานสีหน้าเขาเย็นชาและโดยไม่ลังเลเขาส่ายหน้ากล่าว “ไม่มีทาง สมาพันธ์ชาวยุทธไม่มีทางให้คนอย่างเจ้าเข้าร่วมข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งนาที หนีไปซะ มิฉะนั้นอย่าโทษว่ากระบี่ข้าไร้น้ำใจ”
จิ่งหาวหน้าบึ้ง ยังให้อภัยกันได้ที่เขาโดนถังเทียนหยอกล้อ เจ้าก็ยังจะล้อเล่นกับข้ากระนั้นหรือ?
หลังจากพูดจบเขาชี้กระบี่มงกุฎเหนือมาที่สตรีชุดดำ แสดงให้เห็นสิ่งที่เขาตั้งใจ
สตรีชุดดำสะดุ้งรังสีฆ่าฟันของจิ่งหาวเป็นของจริง นางรู้ว่าถ้านางยังพัวพันจิ่งหาวต่อไปนางคงไม่รอดชีวิตแน่
นางมองถังเทียนอย่างลึกซึ้งและหมุนตัวจากไปโดยไม่พูดอะไร
ข้าจะต้องรู้ตื้นลึกหนาบางพวกเจ้าทุกคนให้ได้
“พี่จิ่งหาวไล่นางไปจริงๆ ด้วย...” ถังเทียนลูบคางและบ่นพึมพำ“สงสัยว่าพี่จิ่งหาวคงมีความรู้สึกต่อนางเข้าให้แล้ว”
อกจิ่งหาวแทบระเบิดด้วยความโกรธ เขาหันมายิ้มอย่างมีเลศนัย“มาเถอะ, พ่อหนุ่ม มาซ้อมมือกัน”
ถังเทียนยินดียิ่งนักเขาตั้งท่ารอโดยไม่รู้สึกกลัว “มาเลย”
แทบจะทันทีจิ่งหาวรู้สึกเสียใจที่เชื้อเชิญให้ถังเทียนซ้อมมือ
เพราะถังเทียนทำให้เขาลืมตัวอีกครั้ง จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มนั่งเดินกำลัง จากนั้นหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงถังเทียนก็โดดขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นท้าทายอีกฝ่ายให้ซ้อมมืออีกยกหนึ่ง...
มันเป็นวงจรอุบาทว์ที่ชักจะคุ้นเคยเสียแล้ว...
โธ่เว้ย, ทำไมเขาต้องมาคิดจริงจังกับเจ้าเด็กตัวแสบนี่ด้วย....จิ่งหาวสำนึกผิดในใจ