ตอนที่ 89 เพลิงเงิน
อุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณสว่างขึ้นสลับกับสลัวพลังงานที่พุ่งออกมาจากรอยแยกถูกดูดเข้าไปในเครื่องฝึกพลังจิตวิญญาณ
ถังเทียนมองซอกแซกด้วยความอยากรู้ขณะที่แสงรังสียังคงลอยเข้าหาอุปกรณ์ที่ใต้เท้าเขา
พลังงานถูกอุปกรณ์ดูดซับอย่างต่อเนื่องและแสงจากอุปกรณ์มีประกายแพรวพราวและร้อนแรงมากขึ้น ทันใดนั้นเปลวไฟลุกพรึ่บจากอุปกรณ์ ถังเทียนตกใจที่เปลวไฟปรากฏอยู่ใต้เท้าของเขาแต่ในไม่ช้าเขาก็สงบลงได้ เพราะเปลวไฟไม่ได้เผาไหม้อย่างคาดไม่ถึง
ถังเทียนก้มหัวและจ้องดูไฟเย็นที่เท้าซึ่งปรากฏออกมาจากอุปกรณ์ด้วยความสงสัย
“หน้าที่หลักที่สุดของอุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณก็คือแปลงพลังงานเป็นเปลวไฟที่สามารถใช้ฝึกวิญญาณพลังยุทธได้และเพลิงเหล่านี้รู้จักในนามว่า เพลิงฝึกจิต” ปิงพูดต่อเบาๆ“จิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้าเข้มข้นแล้ว ดังนั้นเจ้าลองใช้จิตวิญญาณพลังยุทธต่อต้านเพลิงฝึกจิตดู”
“ต่อต้านเพลิงฝึกจิตเหรอ?” ถังเทียนตะลึง “ทำยังไงล่ะ?”
“พุ่งความสนใจของเจ้าไปที่จิตวิญญาณพลังยุทธและจินตนาการว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้าเป็นเหมือนฝ่ามือใช้ต่อสู้กับเพลิงฝึกจิต”เสียงของปิงจริงจังมาก “สัมผัสที่เปลวเพลิงครั้งแรกจะเจ็บปวดมาก แต่จำเอาไว้ว่า ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงใดเจ้าต้องไม่โยนเพลิงทิ้ง ทันทีที่เจ้าโยนมันออกไปก็ถือว่าเจ้าล้มเหลวสิ้นเชิง”
สีหน้าของถังเทียนก็จริงจังเช่นกัน“ล้มเหลวทันทีที่มันถูกโยนทิ้งน่ะหรือ?”
“ถูกแล้ว” ปิงจ้องมองถังเทียน “มาเริ่มกันเถอะ”
ถังเทียนหลับตาและเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่จิตวิญญาณพลังยุทธ นี่เป็นครั้งแรกที่ถังเทียนเพ่งสมาธิไปกับจิตวิญญาณพลังยุทธหนักมาก จิตวิญญาณพลังยุทธของเขาก็คือเปลวเพลิงที่บางเบาราวกับจะดับได้ทุกเวลาถังเทียนเริ่มจินตนาการรูปฝ่ามือ ตามวิธีการของปิงอย่างช่วยไม่ได้
พอมั่นใจต่อการเปลี่ยนแปลงในความคิดของเขาแล้วจิตวิญญาณพลังยุทธที่เป็นเหมือนเปลวไฟก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปไป
ในไม่ช้าฝ่ามือที่เกือบโปร่งแสงปรากฏอยู่เหนือศีรษะถังเทียน
ฝ่ามือค่อยๆลอยลงมาที่เท้าของถังเทียนและเพลิงฝึกจิตที่อยู่บนเครื่องฝึกพลังจิตวิญญาณก็ลอยเข้าหาฝ่ามือโปร่งแสงเหมือนกับว่าเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดเข้าหากัน
ทันทีที่เปลวเพลิงฝึกจิตลอยลงมาที่ฝ่ามือโปร่งแสง ความเจ็บปวดที่ชอนไชได้จู่โจมเข้าถึงสมองของถังเทียนจนเขาครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้ฝ่ามือที่ถือเพลิงฝึกจิตสั่นจนเกือบทำเปลวเพลิงร่วง ถังเทียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วเขารีบสูดลมหายใจเพื่อให้เปลวเพลิงที่มีความเข้มข้นสูงมีความเสถียร
หน้าของถังเทียนบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดที่ชอนไชนี้แทบจะทำให้จิตใจของเขาสูญเสียความคิด เขารู้สึกได้ชัดว่าฝ่ามือไหม้เกรียมจากการที่จิตวิญญาณพลังยุทธถูกความร้อนของเพลิงฝึกจิตเผาผลาญ จิตวิญญาณพลังยุทธเชื่อมต่อกับใจและความเจ็บปวดทุกข์ระทมนี้กินลึกถึงกระดูกจนไม่มีทางหลบหนีได้ เขาทั้งไม่หลบหนีทั้งไม่เบี่ยงเบนความสนใจแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่เขาไม่ฟุ้งซ่านเท่านั้น เขายังต้องเพ่งสมาธิจิตเต็มที่ดังนั้นความเจ็บปวดจากการฝึกฝนจิตวิญญาณพลังยุทธจึงยิ่งเหลือทนมากขึ้น
“เอาละนะ, เจ้าจะปรับตัวให้เข้ากับทุกข์ทรมานเหล่านี้ เจ้าคงไม่คิดว่ามันจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้เจ้ามากขนาดนี้ใช่ไหม? นี่เป็นเพราะส่วนที่สกปรกแปดเปื้อนในจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้าถูกสลายกระจายไป”
คำแนะนำที่น่าเชื่อถือของลุงปิงกรอกเข้าไปในหูของถังเทียน แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าเกิดจากการสะกดจิตของลุงปิงหรือไม่หรือว่ามลทินแปดเปื้อนกระจายออกไปจริงๆแต่ถังเทียนรู้สึกว่าความเจ็บปวดลดน้อยลงแน่
“ดีมาก เจ้าทำได้ดีมาก และข้ามอุปสรรคที่สำคัญที่สุดมาได้ ต่อไปเจ้าต้องควบคุมจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้าให้ดึงดูดส่วนอื่นของเพลิงฝึกจิตเข้ามาไม่ต้องคิดมากไป และเราจะดำเนินการไปเป็นขั้นตอน” เสียงที่สงบของปิงทำให้เขารู้สึกปลอดภัย และถังเทียนสงบลงทันที
ตามคำแนะนำของปิง ถังเทียนลากเปลวเพลิงในมืออย่างระมัดระวัง ถังเทียนสั่นความเจ็บปวดทุกข์ทรมานที่ไม่ชัดเจนดูเหมือนคล้ายค้อนที่ทุบอยู่ในหัว
จิตวิญญาณพลังยุทธของถังเทียนสั่นอีกครา
“รักษาความเสถียรเอาไว้, รักษาความเสถียรเอาไว้ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม”
“ดีแล้ว, ไม่เลย, เจ้าเริ่มปรับตัวได้แล้ว และจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้าก็บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น”
“ทันทีที่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วเราจะเริ่มการฝึกรอบอื่น สำหรับเจ้านี่ไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย ดีล่ะ ดูเหมือนเจ้าเพิ่งจะทำเสร็จดึงดูดเปลวเพลิงฝึกจิตส่วนอื่นเข้ามา
… …
ปิงเริ่มควบคุมความเร็วในการพูด เขาพยายามพูดช้าๆ ให้มากเท่าที่เป็นไปได้ดังนั้นถังเทียนจึงไม่รู้สึกถึงเวลาที่ผ่านไป
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ความสนใจของปิงมั่นคงตลอดเวลาและสายตาของเขาไม่เคยคลาดจากถังเทียน
เขายังคงพูดอยู่ตลอดทั้งชั่วโมง
สมองของถังเทียนเริ่มเลอะเลือนเนื่องจากทุกคนต่างก็มีขีดจำกัด เขาทำตามคำแนะนำของปิงโดยดูดเปลวไฟอย่างต่อเนื่องรอบแล้วรอบเล่า เขาไม่มีความคิดแม้แต่นิดเดียวเลยว่าเขาจะฝึกฝนไปนานเพียงไหน
เพลิงฝึกจิตที่ลุกโชนมีขนาดเท่าโต๊ะและจิตวิญญาณพลังยุทธของถังเทียนได้ห่อหุ้มล้อมมันไว้ทั้งหมด
ปิงจับตาดูจิตวิญญาณพลังยุทธในท่ามกลางเปลวไฟ เมื่อเขาเห็นจิตวิญญาณพลังยุทธค่อยๆ โปร่งแสงมีประกายแสงเกิดขึ้นในดวงตาเขาทันที
ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
พลังงานภายในรัศมีสามสิบสามเมตรคล้ายกับฉลามได้กลิ่นเลือดและว่ายตรงเข้าหาลูกไฟที่เหนือศีรษะของถังเทียน เพลิงฝึกจิตยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
มือของปิงตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดแก่นพลังวิญญาณซึ่งสะสมรวบรวมไว้ให้ถังเทียนและแก่นพลังวิญญาณก็เอาจากที่ฐานนั่นเอง ปิงขยับนิ้วมือแก่นพลังวิญญาณก็หายไปอยู่ในเพลิงฝึกจิต
สิ่งแปดเปื้อนถูกชำระอย่างรวดเร็วและปล่อยจิตวิญญาณพลังยุทธที่สะอาดออกมา
จิตวิญญาณพลังยุทธของถังเทียนรู้สึกได้ทันทีถึงจิตวิญญาณที่ได้ขัดเกลามาแล้วและกลืนมันไว้โดยไม่รู้ตัว
“ถูกแล้ว นั่นคือวิธีที่มันควรเป็นไป เอาล่ะเจ้าสามารถรู้สึกได้ว่าจิตวิญญาณพลังยุทธของเจ้ากำลังแข็งกล้าขึ้นจงดึงดูดเปลวเพลิงต่อไป”
ปิงคอยสนับสนุนถังเทียนขณะที่เขาดีดนิ้วเติมเม็ดแก่นพลังจิตวิญญาณลงไปในเปลวไฟอย่างต่อเนื่อง จิตวิญญาณพลังยุทธของถังเทียนเสริมพลังให้เข้มแข็งอย่างรวดเร็ว และตอนนี้จิตวิญญาณพลังยุทธยิ่งแข็งแกร่งก็มีแรงดึงดูดที่แข็งแกร่งขึ้น พลังงานที่ล้อมรอบตัวถังเทียนเริ่มทะลักเข้ามารุนแรงเหมือนกระแสน้ำ
เพลิงฝึกจิตลุกโหมรุนแรง
ปิงเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นทุกที เหลืออีกสิบนาทีจะครบสองชั่วโมง สถิติของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่ปิงสร้างไว้ก็คือสองชั่วโมง
ด้วยประสบการณ์ที่ได้รับมาส่วนตัว ปิงรู้มากกว่าคนอื่น ในสภาพเช่นนี้ เปลวเพลิงฝึกจิตจะไม่เสถียรและจะค่อยๆ มอดไปในระหว่าง พลังงานที่พุ่งออกมาจากรอยแยกพลังงานอาจจะไม่ใช่ระดับสูง แต่จะลดลงอย่างต่อเนื่องและจะทำลายพลังป้องกันระดับสี่
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือนี่หมายความว่าลูกไฟของเพลิงฝึกจิตจะทะลุเข้าสู่ระดับที่สี่
ยิ่งระดับของเปลวไฟสูงขึ้น ก็จะยิ่งฝึกจิตวิญญาณพลังยุทธได้มากขึ้น
เปลวเพลิงเริ่มเปลี่ยนสี จากตอนแรกมีรัศมีน้ำเงินจางตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีเขียว
ความเจ็บปวดทรมานยังคงโถมซัดใส่ถังเทียนศีรษะของเขาเหมือนกับถูกย่างอยู่ในกองเพลิง ความเจ็บปวดทรมานทวีความรุนแรงขึ้น เขาก็ยิ่งใช้ความตั้งใจมากขึ้นพลังของเขาหมดแล้ว เหลือแต่ความมุ่งมั่น
เสียงของปิงลอยเข้าหูของเขาเดี๋ยวหาย เดี๋ยวคลุมเครือ บางครั้งใกล้ บางครั้งไกล ถังเทียนไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะฟังปิงต่อไปแล้ว
เขาจวนเจียนจะล้มเต็มที คลื่นพลังโจมตีทำให้แนวป้องกันของเขาแตกสลาย
สองชั่วโมง!
เปลวเพลิงเปลี่ยนเป็นสีเขียวโดยสิ้นเชิง
สีหน้าของปิงสงบ แต่ภายในใจเขาปั่นป่วน สองชั่วโมง!ถังเทียนอดทนได้ถึงสองชั่วโมง เจ้าเด็กดื้อดึงอวดดีนี่...
เขาอดทนมาได้สองชั่วโมงเต็มจริงๆ
สองชั่วโมงในกองทัพเมื่อตอนนั้น ไม่เคยมีใครประสบความสำเร็จนอกจากเขา
แต่ตอนนี้ ถังเทียนอดทนได้จนถึงที่สุดร่างของเขาสั่นสะเทือนและเริ่มแข็งแกร่งขึ้น สีหน้าเจ็บปวดของเขาชัดเจนมากขึ้นทุกที หน้าของเขาเริ่มซีด
ปิงลนลานแต่เขาไม่มีเวลาคิดอย่างอื่น เขารู้ว่าทันทีที่สองชั่วโมงผ่านไป ทุกวินาทีที่ตามมามีค่ามาก ทุกวินาทีในตอนนี้จะพิสูจน์คุณค่าของมันในอนาคต
เขาสูดหายใจลึกและคำรามลั่นทันที“ถังเทียน”
ร่างของถังเทียนชะงักนิ่งอยู่ในบอลเพลิง
“เจ้าลืมปณิธานตัวเองแล้วหรือ?เจ้าลืมคำสาบานของตัวเองแล้วหรือ?เจ้าลืมไปว่าเจ้าต้องการแข็งแกร่งที่สุดใช่หรือเปล่า?”
“ถังเทียน!เจ้าลืมรสชาติของความล้มเหลวแล้วหรือ?”
“ถังเทียน! เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าหลายปีมานี้เจ้าถูกล้อเลียนถากถางมายังไง?
“ถังเทียน!เจ้าลืมช่วงเวลาที่เจ้าไม่มีพลังพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรไปแล้วหรือ?”
“เจ้ายอมแพ้แล้วใช่ไหม?”
“ถังเทียน, เจ้ายินดีจะยอมแพ้อย่างนี้ใช่ไหม?”
“ยอมหรือเปล่า?”
ด้วยคำพูดสุดท้ายไม่กี่คำปิงถึงกับหมดพลังจะตะโกนต่อไป
ร่างของถังเทียนชะงักค้างและจากนั้นก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรงใบหน้าเริ่มมีสีหน้าปรากฏ ขณะที่หมัดของเขาที่กำแน่นเริ่มมีความรู้สึก
“ถังเทียน” ปิงชะงักแล้วตะโกน “อีกสิบนาที! ทนแค่อีกสิบนาที, สิบนาทีสุดท้าย!”
“เจ้าจะได้สัมผัสถึงความฝันของเจ้า!”
“เจ้าจะสามารถกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด!”
“เจ้าจะสามารถดำเนินการตามคำสาบานของเจ้าได้!”
“ถังเทียน!”
“สิบนาที! แค่เพียงสิบนาทีเท่านั้น!”
“เจ้าทำได้แน่นอน!”
ปิงกัดฟันและคำรามจนแทบหมดแรงเขากำหมัดแน่นในทำนองเดียวกัน สายตาจับจ้องดูถังเทียน ปิงเพิ่งจะตะโกนเสร็จก็รู้สึกทันทีว่าเขาแทบจะปล่อยพลังไปจนหมด เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างน่าประหลาดใจ
ทนอยู่ตรงนั้นอีกนิด หนุ่มน้อยชาวฟ้า...
ปิงกระซิบด้วยเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน
ร่างของถังเทียนสั่นรุนแรงขึ้นทุกทีจวนเจียนจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
ปิงกระวนกระวายมากขึ้น สองชั่วโมงสามนาที!
สีของเพลิงฝึกจิตเปลี่ยนเป็นสีเขียวหมดแล้ว สีเขียวเข้มคล้ายโลหะสัมริด ดูเหมือนความเย็นในอากาศจะหายไปกลายเป็นความหนาวสะท้านเข้ามาแทนที่ พลังงานทั้งหมดในรัศมีหกสิบหกเมตรถูกดึงดูดเข้ามาและถูกดึงดูดเข้าเปลวไฟอย่างบ้าคลั่งเหมือนเกล็ดหิมะในพายุ
สีเขียวของเปลวเพลิงยังคงเข้มข้นขึ้น
ร่างของถังเทียนยังคงสั่นต่อเนื่อง ความเจ็บปวดระทมทุกข์ถาโถมเข้ามาใส่อย่างรุนแรงมากกว่าแต่ก่อนมากมายและถี่ยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม
แต่ใจของถังเทียนมีคำอยู่เพียงไม่กี่ค้างอยู่ในใจ
เจ้ายินดีหรือเปล่า?
ยินดีจะยอมแพ้อย่างนั้นหรือเปล่า?
ยอมแพ้?
ยอมแพ้... ไม่มีทาง,ข้าไม่ต้องการ... ข้าจะยอมแพ้ได้ยังไง... ได้ยังยังไงเล่า... ไม่มีทาง, ต่อให้ตายก็ไม่มีทางยอมแพ้....
พลังที่รุนแรงไม่ทราบถาโถมมาจากที่ใดเข้าสู่วิญญาณความรู้สึกของถังเทียน ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดจนใบหน้าบิดเบี้ยว เขาพยายามฝืนยิ้มอย่างยากลำบากและเป็นยิ้มที่ดูน่ากลัวมาก
ข้าคือหนุ่มน้อยชาวฟ้า!
ข้าจะยอมแพ้ได้ยังไง?
ข้าจะต้องเป็นบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุด!
ข้าจะยอมแพ้ได้ยังไง?
เป็นไปได้ยังไง
ท่ามกลางเสียงแตกเผียะผะเปลวเพลิงสีเขียวเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มกระทั่งกลายเป็นสีดำสนิท ตอนนี้บอลเพลิงมีขนาดหดเล็กลงเท่าตะกร้าไม้ไผ่ ทันใดนั้นมีจุดแสงสีเงินกระจายอยู่ภายในเปลวเพลิง
ในชั่วพริบตาจุดแสงสีเงินก็กระจายไปทั่วทุกที่ เปลวเพลิงสีเงินให้ความรู้สึกและแรงบันดาลใจที่เย็น
พลังงานในรอยแยกถูกกวนทำให้จิ่งหาวแตกตื่น สายตาที่แสดงความตกใจของเขาจ้องมองดูพลังงานในท้องฟ้า ซึ่งเปลี่ยนเป็นรัศมีสีน้ำเงินทั้งหมดบรรจบอยู่ในทิศเดียวกัน
เดี๋ยวก่อน...นั่นเป็นจุดที่ถังเทียนกำลังฝึกอยู่!
จิ่งหาวตกตะลึงหนักและทะยานไปยังจุดนั้นทันทีและแทบทรุดลงกับพื้นเมื่อเขาได้เห็นภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาภายใต้เปลวเพลิงเงินที่เข้มข้น มีร่างเจ้าเด็กดื้ออยู่ในนั้น